ปลูกรักในรั้วใจ โดย อิสวารายา (ตอนที่ 25,26)



ตอนที่ 25 รักแล้วหรือยัง?


แทนดาวตัวเกร็งด้วยความกลัวผสมตื่นเต้นเมื่อต้องตัดสินใจว่าจะ ‘ยอม’ หรือ ‘หยุด’  ใจหนึ่งก็อยากรู้อยากลองว่าจุมพิตแรกจะให้ความรู้สึกเหมือนที่นางเอกบรรยายไว้ในนิยายหรือไม่ แต่ในนาทีสุดท้ายคนตัวเล็กก็ตัดสินใจหยิบช็อคโกแลตชิ้นหนึ่งมาคั่นระหว่างปากตนเองกับปากหยักที่กดลงมาพอดี จุมพิตนี้จึงไม่สมบูรณ์ได้ดังใจเจ้าของใบหน้าคมคาย
“ถ้าอยากกินอะไรหวานๆ...ก็ช็อคโกแลตนี่ไงคะ” แทนดาวบอกเสียงเบา
“ว้า...ก็พี่บอกแล้วไงคะว่าไม่ชอบขนมหวาน” เขาแกล้งทำเสียงดุ
“ไม่ชอบอะไรหวานๆแล้วทำไมถึงบอกว่าอยากได้จูบหวานๆล่ะ” คนตัวเล็กย้อนถามอายๆ
“ช่างยอกย้อนนักนะ เด็กอะไรปากก็ร้าย ช่างเถียงก็ที่หนึ่ง” เขาเอ็ดคนตัวเล็กที่มัวแต่เขินจนไม่รู้ตัวเลยว่าคนนั่งข้างๆแอบดึงกิ๊บที่ยึดมวยผมออกจนหมดปล่อยให้ผมยาวทิ้งตัวเป็นอิสระแล้วแทรกนิ้วเล่นอยู่ในกลุ่มผมสวย
“ขนาดน้องพลูเป็นแบบนี้พี่ชลยังคอยหาโอกาสรังแกกันอยู่เรื่อย” ใบหน้าหวานสะบัดหนีปลายนิ้วที่กำลังจะเขี่ยแก้มเล่น
“ฟังดูเหมือนพี่เป็นเป็นไอ้แก่ตัณหากลับเลยนะ”
“แล้วเป็นจริงมั้ยล่ะ”
“ไม่รู้สิ...กับคนอื่นไม่เป็น เป็นแต่กับน้องพลูคนเดียว” เขาพูดเสียงนุ่มแล้วกดจมูกกับเส้นผมที่จับรวบไว้ในอุ้งมือ แทนดาวทำเสียงฮึดฮัดแล้วดึงผมกลับคืนมา
“วันนี้ยังไม่ได้หอมแก้มเลย...” เขาทวงถามคนตัวเล็กที่พยามจับผมม้วนกลับทรงเดิม
“แล้วทำไมต้องทำแบบนั้นทุกครั้งที่เจอกันด้วยล่ะคะ? มันจะเยอะไปมั้ย?”
“เยอะตรงไหน? คนเป็นแฟนกันเค้าก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ” คนเจ้าเล่ห์ยังคงรบเร้าอยู่อย่างนั้น มือแข็งแรงจับข้อมือเล็กให้หยุดขมวดผม “ปล่อยมัน...พี่ไม่ชอบให้น้องพลูมัดผม” เจ้าของผมยาวมองหน้าคนเกเรด้วยความไม่พอใจที่ชอบเจ้ากี้เจ้าการแต่ก็ยอมทำตาม ฝ่ามือหน้าแทรกนิ้วทั้งห้าสางผมยาวที่พันกันให้เข้าที่เข้าทาง
“น้องพลูอยากกลับแล้วค่ะ ป่านนี้พี่หมากคงหาตัวไปทั่วแล้ว” คนตัวเล็กบอกเมื่ออีกฝ่ายยังทำท่าอ้อยอิ่งเพราะยังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
“พี่ไม่มีแรงเดินแล้ว เมื่อเช้าก็ตื่นแต่มืดมาช่วยเค้าแห่ขันหมาก ข้าวปลาก็กินไปนิดๆหน่อยๆ ตอนเย็นก็เดินไปเดินมาขาขวิด” เขาบ่นให้คนในอ้อมแขนฟัง
“ช่วยไม่ได้นี่คะ ไม่ยอมทานข้าวเองแล้วจะมาบ่น เห็นถือแต่แก้วเหล้า” แทนดาวย้อน ชลธีหัวเราะในลำคอที่อีกฝ่ายยังไม่ยอมจนมุมง่ายๆ
“นะคะ...ถ้าได้หอมแก้มคนสวยแล้วเรี่ยวแรงมันก็จะกลับมาโดยอัตโนมัติ” เสียงออดอ้อนอ่อนโยนขัดกับใบหน้าคมเข้มยังคงรอคอยการอนุญาตอย่างมีความหวัง จนผ่านไปพักหนึ่งเจ้าของพวงแก้มก็ยังก้มหน้านิ่ง เขาจึงจับคางเล็กให้เงยหน้าขึ้นมาสบตาแล้วก็พบว่าที่หล่อนเอาแต่ก้มหลบก็เพราะซ่อนหน้าแดงปลั่งราวลูกเชอรี่
“พี่จะถือว่าการเงียบคือการอนุญาต” แล้วโดยที่ไม่รั้งรอให้คนตัวเล็กประท้วงอะไรอีก จมูกโด่งก็ประทับลงบนแกมข้างขวาอย่างแม่นยำตามด้วยข้างซ้ายแบบไม่ทันให้หลบหลีก
“อื้อ...” เจ้าของแก้มร้องแค่นั้นแล้วก็ก้มหน้าต่อ
“รู้สึกสดชื่นมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาทันที ป่ะ...ได้เวลาพาน้องสาวไปคืนพี่ชายเสียที ลักพาตัวมานานแล้ว” ชลธียิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้ทุกอย่างสมใจแล้ว แทนดาวหยิบช็อคโกแลตที่วางเรียงในจานกลับใส่กล่องอย่างเดิมและกำลังจะปลดเสื้อนอกจากไหล่เปลือยคืนเจ้าของไปแต่ชลธีร้องห้าม
"ใส่ไว้แบบนี้แหละ พี่หวง...ไม่อยากให้ใครมอง” น้ำเสียงของเขาจริงจังจนแทนดาวไม่กล้าขัด ชลธีช่วยถือกล่องช็อคโกแลตส่วนอีกมือก็จับจูงมือเล็กพาเดินไปด้วยกัน แทนดาวรู้สึกอบอุ่นในหัวใจจนไม่สามารถอธิบายได้ว่าตัวเองเป็นอะไร มืออุ่นที่กุมอยู่นี้สร้างความหวั่นไหวประหลาดที่เพิ่งจะเคยรู้สึกเอาวันนี้เอง

เทียมภพไม่ได้ร้อนรนกับการหายตัวไปของน้องสาวอย่างที่คิดแต่กำลังกินดื่มกับกลุ่มเพื่อนเก่าอย่างสนุกสนาน รมณ์นลินที่กำลังยืนคุยกับอชิตะและเพื่อนอีกสองสามคนมองเห็นพี่ชายกับลูกศิษย์สาวเดินมาก็รีบสาวเท้ามาหา
“น้องพลูอยากกลับหรือยังคะ? พี่ว่าจะให้พี่ชลไปส่งเพราะตอนนี้พี่ชายน้องพลูไม่ไหวแล้วล่ะ” รมณ์นลินพยักหน้าไปทางเทียมภพที่กำลังเมาได้ที่
“ตายแล้ว...นี่หมดสภาพเลยนะเนี่ย” แทนดาวอุทานเมือเห็นพี่ชายนั่งคอพับคออ่อนแต่ก็ยังกระดกเหล้าที่เพื่อนส่งให้เข้าปากบ้างหกบ้างอย่างเอร็ดอร่อย
“ก็เต็มคราบเลยค่ะ ไม่ได้มีใครบังคับเลยล่ะ มอมตัวเองแท้ๆ” รมณ์นลินบ่น
“ถ้าอย่างนั้นแฟงขับรถพี่กลับบ้านไปนะ พี่จะขับรถเจ้าหมากมันเอง” ชลธีบอกแล้วเดินไปหิ้วปีกเทียมภพออกมาจากกลุ่ม
“ไอ้ชล! จะพากูไปไหน ไม่ไปโว้ย!” เทียมภพพยายามสะบัดตัวเมื่อเห็นว่าใครกำลังพยุงอยู่ พอกลุ่มเพื่อนเห็นชลธีอยู่ตรงนั้นก็กลายเป็นเขาอีกคนที่ถูกดึงตัวไว้
“เฮ้ยไอ้ชล! หายไปไหนมาวะ? กูหาอยู่ตั้งนาน นั่งก่อนสิ…จะรีบกลับไปไหน” เพื่อนคนหนึ่งกดบ่าเขาให้นั่งลงแล้วยัดเครื่องดื่มใส่มือ
“เอ้า...ชนแก้วฉลองให้วันสิ้นอิสรภาพของไอ้อิศหน่อยพวกเรา!” เพื่อนคนเดิมตะโกนบอก ที่เหลือทำตามอย่างว่าง่ายรวมทั้งเจ้าบ่าวหมาดๆด้วย จากนั้นเสียงเฮฮาก็ดังลั่น
“เต็มที่เลยนะ กูเปิดห้องไว้สามห้องถ้าใครเมาก็ค้างที่นี่ได้เลย ห้ามขับนะโว้ย!” เจ้าบ่าวบอกเพื่อนๆแล้วกลับไปยืนช่วยเจ้าสาวส่งแขกที่เริ่มทยอยกลับ
“ชลดื่มได้เลยนะเดี๋ยวปรางพากลับเอง” เปรมยุตานั่งลงข้างๆ หล่อนไม่ได้ดื่มแต่อย่างใด
“พอแล้วล่ะ ผมต้องพาไอ้หมากไปส่งบ้าน ไหนจะน้องพลูอีก...” ชลธีบอกก่อนจะเดินไปหาเทียมภพที่ยังกรอกเหล้าเข้าปากไม่หยุด เปรมยุตาหน้าสลดลง
“น้องพลูไปไหนแล้วล่ะแฟง?” ชลธีหิ้วปีกคนเมาเดินโซซัดโซเซกลับมาแต่ก็เห็นเพียงน้องสาวยืนรออยู่คนเดียวก็แปลกใจ
“คือ...คุณอชิบอกว่าจะพาน้องพลูกับคุณหมากกลับเอง ก็เลยเอากุญแจรถคุณหมากที่แกฝากไว้กับแฟง...ให้เค้าไป ตอนนี้รอน้องพลูไปเข้าห้องน้ำค่ะ” รมณ์นลินตอบ สีหน้าของชลธีเปลี่ยนไปทันที มือที่พยุงเพื่อนอยู่ก็สะบัดออกอย่างลืมตัวทำให้คนเมาล้มกลิ้งลงไปนั่งแหมะบนพื้น
“ตายแล้วคุณหมาก! เจ็บมั้ยคะนั่น” รมณ์นลินรีบถลาเข้าไปหา
“แฟงจ๋า...ไอ้พี่คุณมันแกล้งผม” เทียมภพพูดอ้อแอ้ รมณ์นลินไม่มีแรงพอที่จะฉุดคนตัวโตให้ลุกขึ้นก็เลยต้องปล่อยให้นั่งอยู่อย่างนั้น สักพักแทนดาวก็เดินกลับมาโดยมีอชิตะตามมาใกล้ๆ
“ป่ะน้องพลู...พี่จะไปส่งเรากับพี่ชายเอง ขอกุญแจรถด้วย” เขาบอกคนตรงหน้าโดยไม่ได้หันไปมองหมอหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้ๆแม้แต่น้อย
“อย่าดีกว่า คุณชลเองก็ดื่มไปหลายแก้วแล้ว ผมจะพาพวกเค้าไปส่งเอง” อชิตะก้าวขึ้นมายืนข้างๆแทนดาวทำให้ชลธีไม่พอใจอย่างมาก
“ผมไม่ได้เมา สติทุกอย่างยังอยู่ครบ เอากุญแจมาให้ผม” เขาบอกเกือบจะเป็นคำสั่ง
“ถึงคุณไม่เมาแต่ผมเชื่อว่าคุณไม่รอดด่านตรวจตรงหัวถนนแน่นอน แถวนี้เค้าเข้มงวดเรื่องตรวจแอลกอฮอล์นะ” หมอหนุ่มพูดอย่างเป็นต่อ แทนดาวได้แต่ยืนฟังเงียบๆ
“พี่ชลเชื่อคุณหมอเถอะค่ะ มาช่วยกันพยุงคุณหมากดีกว่า” รมณ์นลินเตือนพี่ชาย แทนดาวรีบวิ่งเข้ามาช่วยคุณครู แต่จังหวะที่ก้มลงไปทำให้เสื้อนอกที่คลุมไหล่หลุดออกและตกลงไปบนพื้น พอจะก้มลงไปหยิบก็มีมือขาวสะอาดของอชิตะเก็บมันขึ้นมาแล้วรีบยื่นให้เจ้าของ จากนั้นก็ถอดเสื้อสูทสีเทาเข้มของตนคลุมไหล่ให้แทน
“ไปกันเถอะน้องพลู มาครับคุณแฟง...ผมจัดการเอง” อชิตะสอดแขนข้างหนึ่งที่เอวของเทียมภพแล้วฉุดขึ้นมาอย่างง่ายดาย แทนดาวรีบไปหยิบช่อทิวลิปกับกล่องช็อคโกแลตที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆกัน ดวงตาทรงอัลมอนด์มองมาที่เขาอย่างขอโทษแล้วรีบเดินตามไป
“เราไปกันเถอะพี่ชล เดี๋ยวแฟงขับรถเองนะ” รมณ์นลินบีบแขนพี่ชาย หล่อนเห็นเขากำหมัดทั้งสองข้างแน่น กรามขบกันจนเป็นสันนูน ริมฝีปากเม้มเข้าหากันอย่างสะกดอารมณ์
“จับพี่ไว้แฟง จับไว้แน่นๆ ไม่งั้นพี่จะวิ่งไปกระทืบมันเดี๋ยวนี้!”

แทนดาวเหลือบมองพี่ชายที่นอนหลับหมดสติอยู่ตรงเบาะหลัง อชิตะทำหน้าที่สารถีอย่างตั้งใจ สายตาหลังกรอบแว่นชำเลืองมองกระจกอยู่เป็นระยะและมีบางจังหวะที่เหลือบมองร่างเล็กที่นั่งข้างๆ พอเห็นคนตัวเล็กกระชับเสื้อที่คลุมไหล่อยู่ก็เอื้อมมือไปปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ
“หนาวมั้ยครับ?”  แทนดาวสะดุ้งนิดๆกับคำถาม เมื่อชั่วโมงก่อนก็มีคนถามคำถามเดียวกันนี้แต่ความรู้สึกนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง
“ไม่หรอกค่ะ วันนี้เลยต้องรบกวนพี่อชิ เหนื่อยแย่เลยนะคะ...ต้องวกกลับไปเอารถอีก” แทนดาวบอกอย่างเกรงใจ
“ไม่ลำบากอะไรหรอก สบายใจด้วยซ้ำที่ได้มาส่งน้องพลู อย่างน้อยก็มั่นใจว่าถึงบ้านอย่างปลอดภัย” หมอหนุ่มหันมายิ้มบางๆให้แล้วกลับไปมองถนนเบื้องหน้าต่อ ไม่นานนักพาหนะคันงามของเทียมภพที่มีหมออชิตะเป็นสารถีก็เลี้ยวเข้ามาจอดเทียบในบ้านทวีกิจไพศาล แทนดาวถือสิ่งของต่างๆเข้าบ้านส่วนอชิตะประคองคนเมาตามมา
“ให้นอนตรงนี้แหละค่ะ เดี๋ยวที่เหลือน้องพลูจัดการเอง รถจอดไว้ตรงนั้นก็ได้ เดี๋ยวน้าตาลก็เอาไปเก็บเองค่ะ พี่อชิรอก่อนนะคะ” แทนดาวบอกอชิตะที่ค่อยๆหย่อนร่างหนาหนักของพี่ชายบนโซฟาในห้องนั่งเล่น
“แต๊งกิ้วนะ...ไอ้แว่นโคนัน” เสียงอ้อแอ้ดังมาจากคนที่นอนสะลึมสะลือ เจ้าของฉายาที่ถูกตั้งสดๆหน้าตึงไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ถือสาขณะที่อีกคนหันหน้าไปอีกทางเพื่อซ่อนรอยยิ้มขำขัน
แทนดาวกลับมาพร้อมแก้วน้ำเย็นและผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นหมาดๆ อชิตะมองร่างเล็กในชุดสวยที่แม้หน้าตาจะดูยุ่งๆแต่ก็ยังคงความน่ารักสดใสชวนให้มองเพลิน
“น้องพลูโทรเรียกแท็กซี่ให้แล้วนะคะ ดื่มน้ำเย็นๆกับเช็ดหน้าเช็ดตาก่อนจะได้สดชื่นขึ้น” แทนดาวเลื่อนแก้วน้ำกับผ้าขนหนูให้
“ขอบใจจ้ะ”  หมอหนุ่มถอดแว่นวางไว้บนโต๊ะแล้วหยิบผ้าเย็นมาเช็ดหน้า จังหวะนั้นเทียมภพที่นอนดิ้นไปมาก็กลิ้งหล่นผลั่กลงมานอนบนพื้น
“โอ๊ย! แกล้งกูอีกแล้วนะไอ้ชล” คนตกโซฟาสบถ
“อะไรกันนักหนานะ ดูซิ...แล้วพรุ่งนี้จะไปทำงานไหวมั้ยล่ะเนี่ย” แทนดาวอ่อนใจกับพี่ชายเต็มทน อชิตะจะเข้ามายกตัวกลับขึ้นไปนอนอย่างเดิม
“ปล่อยให้นอนบนพื้นนี่แหละค่ะ นอนข้างบนเดี๋ยวก็ตกลงมาอีก” แทนดาวหยิบหมอนอิงมารองศีรษะพี่ชาย จังหวะที่ก้มๆเงยๆอยู่นั้นมือขาวสะอาดของอชิตะก็เอื้อมมาจับผมยาวไปทัดเก็บไว้หลังใบหูข้างหนึ่ง แทนดาวสะดุ้งโหยง
“พี่อชิจะทำอะไรคะ?” สาวน้อยร้องถามด้วยความตกใจ
“พี่ขอโทษ...” เขารีบดึงมือกลับและส่งสายตาขอโทษให้คนตรงหน้า อึดใจหนึ่งแทนดาวก็นึกโกรธและรู้สึกว่า ‘หวง’ เส้นผมของตัวเอง ไม่อยากให้ใครจับต้องสัมผัสนอกจากพี่ชายกับ...ชลธี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่