ปลูกรักในรั้วใจ โดย อิสวารายา (ตอนที่ 7,8)

ตอนที่ 7 ฝันร้าย


      เทียมภพขับรถกลับที่พักอย่างหัวเสียสุดขีดเมื่อไม่พบน้องสาว เกิดความเป็นห่วงใจจะขาดปนกับความโกรธแค้นสะสมจนถึงขั้นระเบิดทำให้คนนั่งข้างๆถูกพายุเทียมภพเลเวลห้าโหมกระหน่ำใส่มาตลอดทาง ฝ่ายนั้นก็เอาแต่ก่นด่าคาดโทษคนพาตัวน้องสาวไป รมณ์นลินเองก็โกรธพี่ชายหน่อยๆที่ทำอะไรลงไปโดยพลการ ดูสิ...เลยต้องพลอยโดนหางเลขไปด้วย
    “ไอ้นรก! เจอตัวเมื่อไหร่กูยิงหัวแบะ”  เขาสบถวนไปวนมาอย่างนี้นับครั้งไม่ถ้วน
    จะเป็นเพราะบุญพาวาสนาส่งหรือบุพเพสันนิวาสอย่างไรก็ไม่ทราบได้ที่ดลให้รถปิกอัพแบบโฟร์วีลสองคันเลี้ยวเข้ามาจอดเทียบที่หน้ารีสอร์ทพร้อมกัน คันแรกเหยียบเบรกสนั่นหวั่นไหวจนคนที่อยู่บริเวณรอบๆพากันแตกตื่น รมณ์นลินก้าวลงมาพร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่รถไม่คว่ำตายกลางทางเสียก่อนแต่พอเห็นภาพตรงหน้าแล้วก็คิดว่าน่าจะรถคว่ำหรือหัวใจวายตายตรงนี้เสียเลยดีกว่า
    เหมือนกับเวลาได้หยุดเดินไปชั่วขณะเมื่อคนที่อยู่ในรถอีกคันก้าวลงมา ชลธีในสภาพเปลือยท่อนบนอุ้มหญิงสาวสวมชุดว่ายน้ำที่มีผ้าผูกเอวอยู่หมิ่นเหม่ ท่อนบนมีเสื้อเชิ้ตสีฟ้าห่มคลุมมิชิด หน้าตาก็บวมแดงอย่างคนเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก แก้มเนียนๆของหญิงสาวเปรอะไปด้วยคราบดำขะมุกขะมอมผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงอีกทั้งเท้าข้างหนึ่งมีผ้าพันแผล เทียมภพจ้องภาพตรงหน้าตาค้าง พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เหมือนใครเอาไม้มาตีหัวจนน็อกสลบไป แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นได้คงจะดีกว่ามาก
    “พี่หมาก!” แทนดาวอุทานออกมาได้แค่นั้นแล้วทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วชนิดที่ไม่มีใครจะหยุดยั้งได้...
    ท่ามกลางสายตาหลายคู่ เทียมภพตรงเข้ามากระชากน้องสาวออกไปจากอ้อมแขนของชลธีแล้วก็ประเคนหมัดใส่หน้าอีกฝ่ายเต็มๆโดยไม่ให้ตั้งตัวเพราะถือคติที่ว่าเปิดก่อนได้เปรียบ ชลธีมัวแต่ระวังคนที่โอบอุ้มอยู่จนลืมปกป้องตัวเอง มารับรู้ตัวอีกทีตอนที่มีเลือดข้นๆไหลออกมาจากจมูก เท่านั้นเองโทสะที่ข่มไว้แต่แรกก็ถึงคราวระเบิด ร่างกำยำปรี่เข้าไปล็อกคอคนเปิดเกมแล้วสวนหมัดกลับอย่างหนักหน่วงไม่แพ้กัน จากนั้นก็ซัดกันนัวเนีย แทนดาวนึกว่าตัวเองอยู่ในสนามรบผิดแต่ว่ามีทหารสู้กันแค่สองคนคือเทียมภพกับชลธี  กว่าที่สงครามมวยไทยศึกวันทรงชัยครั้งนี้จะยุติลงได้ต้องให้พนักงานชายฉกรรจ์สามคนมาแยกคู่กรณีทั้งสองออกจากกันแต่ก็ไม่วายข่มกันว่าจะยำอีกฝ่ายให้เละให้ได้
    “ไหนเจ้าพลูเล่าเรื่องทั้งหมดให้ย่าฟังสิลูก” คุณลำเภาลูบผมหลานสาวคนเล็กที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างเสียขวัญหลังจากผ่านเหตุการณ์รุนแรงเมื่อครู่ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นฉากต่อสู้กันจะจะตาก็เลยตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ยิ่งเห็นสภาพของสองนักรบที่ยืนกันอยู่คนละมุมด้วยแล้วทำให้รู้สึกขนพองสยองเกล้ากว่าเดิม เทียมภพปากแตก คิ้วแตก รอยเลือดยังเปรอะอยู่ที่ปกเสื้อ ชลธีปากแตกยืนเอามือกดเลือดกำเดาที่ยังไม่หยุดไหล ไม่นับรวมรอยแผลถลอกปอกเปิกและจุดฟกช้ำดำเขียวที่ทั้งคู่ได้ไปคนละเท่าๆกัน กว่าจะละล่ำละลักเล่าเรื่องทั้งหมดได้ก็ต้องตั้งสติอยู่นาน หล่อนทำตามที่ชลธีแนะนำว่าให้ข้ามเรื่องเวทิวุฒิไปจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงมาก
          แทนดาวชำเลืองมองชลธีสลับกับพี่ชายอย่างหวาดๆ ทั้งคู่ดูจะไม่สะทกสะท้านกับร่องรอยการต่อสู้แม้แต่น้อย กลับกันต่างฝ่ายต่างยังขบฟันจ้องตากันเขม็งเรียกว่าพร้อมต่อรอบสองตลอดเวลา คุณวารีตกอกตกใจอยู่มากที่ลูกชายตนกับลูกชายบ้านโน้นมีเรื่องกันถึงเลือดถึงเนื้อแต่ก็เกิดความยินดีเกิดขึ้นในใจแวบหนึ่งไม่นึกว่าเด็กสาวที่วิ่งมาชนนางและช่วยไว้ไม่ให้ล้มนั้นเป็นบุตรสาวคนเล็กของคุณเที่ยงธรรมผู้มีความสำคัญต่อครอบครัวมากมาย
    “น้องพลูขอโทษทุกคนค่ะที่เป็นต้นเหตุเรื่องยุ่งๆนี่” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันสั่นเครือ ประนมมือไหว้ทุกคน
    “ไม่มีใครกล่าวโทษหนูหรอกนะคะ มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน แต่ทีหลังจะไปไหนหรือทำอะไรก็ต้องบอกผู้ใหญ่เสียก่อนนะลูก” คุณวารีพูดอย่างอ่อนโยน แทนดาวยิ้มออกมาได้ใน ใจก็กังวลว่างานนี้คงไม่พ้นถูกตีไม่เลี้ยงแน่นอน
    “น้องพลูไปพักเถอะครับ เดี๋ยวก็ต้องกินยาก่อนอาหารแล้วนี่” ชลธีบอกสาวน้อยด้วยน้ำเสียงเจือความอาทรชัดเจน
    “ไม่ต้องยิ้มเลย!” เทียมภพขึ้นเสียง แม้จะรู้ตัวว่าเข้าใจผิดไปเองแต่ก็ไม่ยอมให้คู่อริมาให้ความสนใจน้องสาวของตน นึกภาพที่อีกฝ่ายโอบอุ้มน้องแนบชิดขึ้นมาทีไรก็จี๊ดขึ้นมาอีก เขาเลี้ยงน้องมาตั้งแต่ตัวแดงๆจนเป็นสาวสะพรั่งยังไม่เคยให้ใครได้เฉียดเข้าใกล้ แต่ไอ้แก่หัวงูนี่มันถึงขนาดกอดแนบตัวขนาดนั้น
          “ไม่ได้อยากจะยิ้ม แต่ถ้ามีตาก็ดูสภาพน้องตัวเองบ้าง!” อีกฝ่ายตวาดกลับอย่างข่มอารมณ์เต็มที่
          “นี่ไอ้...” คนฟังตวัดตามองอย่างไม่พอใจ
    “เอาเป็นว่าเราแยกกันไปพักดีกว่าค่ะ ดิฉันจะไปดูเขาเตรียมอาหารเย็นวันนี้” คุณวารีเห็นท่าไม่ดีเลยต้องรีบห้ามศึกที่อาจเกิดขึ้นอีก
    “เจ้าผึ้งพาน้องกลับไปอาบน้ำอาบท่าเถอะ ตอนเย็นจะได้มากินข้าวกัน” คุณลำเภาพยักพเยิดบอกหลานสาวคนโตเป็นการช่วยห้ามทัพอีกแรงเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มทั้งสองทำท่าฮึดฮัดใส่กันอีก
    “น้องพลูเดินไหวมั้ยคะ?” คุณวารีถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อมองหน้าซีดๆนั้น ปลายเดือนที่นั่งฟังอยู่นานสบโอกาสแสดงบทบาทเสียที
    “ผึ้งจะพาน้องไปเองค่ะ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น...ความผิดส่วนหนึ่งก็เป็นของผึ้งเอง ปรกติแล้วผึ้งจะคอยดูแลแกไม่เคยให้ห่าง มาเถอะจ้ะ...เดี๋ยวพี่จะพาไปล้างเนื้อล้างตัว” หล่อนประคองน้องสาวให้เดินมาด้วยกัน แทนดาวแทบจะขย้อนของเก่าออกมาเมื่อได้ฟังบทนิยายที่พี่สาวแต่งขึ้นสดๆ ไอ้ครั้นจะฝืนก็ไม่มีเรี่ยวแรงพอจึงต้องยอมให้ถูกประคับประคองไปอย่างหวั่นๆ
    “ถ้าเป็นไปได้ผมอาจพาน้องกลับกรุงเทพคืนนี้เลย” เทียมภพโพล่งขึ้น
    “แกจะบ้าเรอะเจ้าหมาก!” คุณเที่ยงธรรมท้วงแต่ลูกชายไม่สนใจ    
    “หมากอาจจะยังอารมณ์เสียอยู่ อย่าถือสาหาความเลยนะคะ” คุณดวงทิพย์แก้ตัวให้ลูกชาย
    “ผมว่าเรื่องนี้ควรให้ใบพลูเป็นคนตัดสินใจว่าอยากจะอยู่หรือกลับ ไม่ใช่มัดมือชกกันแบบนี้” ชลธีขัดขึ้น เริ่มรู้สึกหัวเสียขึ้นมาอีกจนอยากจะเข้าไปกระหน่ำคนพูดให้เละเป็นโจ๊กโทษฐานที่ทำตัวไร้เหตุผลสิ้นดี
    “อยู่ให้ลากไปกระทำชำเราจนสำเร็จรึไงวะ!”  เทียมภพแผดเสียง รมณ์นลินถึงกับยกมือทาบอกที่ได้ยินคำพูดหยาบคายที่สุดออกมาจากปากชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ลูกผู้ดี’    
    “ใจเย็นก่อนนะหลาน ถามน้องมันก่อนเถอะ...อย่าเพิ่งทำอะไรด้วยอารมณ์” คุณลำเภาค้านไว้ เทียมภพไม่พูดอะไรอีกแล้วก็เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกมา ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไรก็ตามเขาก็ต้องพาน้องกลับให้ได้ ใครจะมาเข้าใจหัวอกคนเป็นพี่ที่เลี้ยงดูน้องสาวมาเองกับมือ เป็นห่วงความปลอดภัยของหล่อนยิ่งกว่าอะไร มันไม่คุ้มกันหรอกถ้าแทนดาวจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้

           ปลายเดือนปล่อยมือน้องสาวทันทีที่พ้นสายตาทุกคน ไม่พอใจเอามากๆที่ลูกผู้น้องคนนี้ออกไปกับชลธีสองต่อสอง แทนดาวต้องค่อยๆเดินกะโผลกกะเผลกกลับบ้านพัก พอเข้าห้องได้ก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรงโดยมีปลายเดือนส่งสายตามองมาอย่างอาฆาต
    “เธอไปสำออยอะไรกับเค้า? วางแผนมาดีนี่” ลูกผู้พี่หาเรื่องทันทีที่อยู่กันสองคน
    “พี่ผึ้งคิดว่าพลูจะลงทุนขนาดนี้เลยเหรอ? ยอมเจ็บตัวขนาดนี้เพื่อเขาเหรอไง สิ้นคิดที่สุด!” น้องสาวว่าโกรธๆ
    “นี่แก! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกพยายามจะทำอะไร ชิ...ไหนดูซิว่าแผลนี่มันจะลึกสักแค่ไหน” ปลายเดือนย่างสามขุมเข้ามา แทนดาวนึกกลัวพี่สาวขึ้นมาก็ครั้งนี้นี่เอง หล่อนเจ็บตัวจนไม่มีแรงที่จะต่อกรได้ในตอนนี้
    “โอ๊ย!” คนบาดเจ็บร้องดังลั่นเพราะถูกพี่สาวใช้มือกดไปที่แผลอย่างแรง
    “เปิดประตูให้พี่หน่อย” ปลายเดือนรีบปล่อยมือเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู รีบปรับสีหน้าให้เป็นพี่สาวใจดีคนเดิมก่อน
    “เมื่อกี้น้องพลูร้องเสียงดังเชียว เป็นอะไรไปล่ะ?” เทียมภพถามด้วยความเป็นห่วง แทนดาวเอาแต่นั่งน้ำตาไหลเปิดโอกาสให้พี่สาวชิงตอบก่อน
    “ก็น้องพลูน่ะสิคะ ผึ้งบอกให้นั่งเฉยๆก็ไม่เชื่อ จะเดินไปนั่นไปนี่ก็เลยเจ็บแผลน่ะสิ พี่หมากมาก็ดีเลย ผึ้งว่าจะไปสั่งข้าวต้มให้น้องกินตอนเย็นน่ะค่ะ ยังไงก็ดูแลแกไปก่อนนะคะ” ปลายเดือนแสร้งพูดพลางลูบผมลูกผู้น้องอย่างอ่อนโยน แทนดาวได้แต่คิดคับแค้นใจ
        ‘‘ปั้นเรื่องได้เก่งจริงๆนะ”
    “ขอบใจจ้ะสีผึ้ง” เทียมภพบีบบ่าน้องสาวคนรองเป็นเชิงขอบใจก่อนจะหันมาดูอาการน้องสาวในไส้ด้วยความกังวล
    “เรานี่นะ...ซนจนได้เรื่อง” เทียมภพนั่งลงข้างๆน้องสาว พอสำรวจความเสียหายของอีกฝ่ายจนพอใจก็เทศนาสั่งสอนตามแบบฉบับของตนเอง
     “ทีหลังห้ามออกไหนคนเดียวอีกนะ รู้มั้ยว่าพี่เป็นห่วงแทบแย่ ถ้าเราเป็นอะไรไปพี่จะทำยังไง? แล้วพี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปเข้าใกล้ไอ้ชลมัน ครั้งนี้มันปล่อยเรารอดมาได้เพราะบาดเจ็บน่ะสิ หึ...ไม่งั้นพี่คงจะได้น้องเขยเป็นไอ้ตุ๊กตาปูนปั้นแน่” พี่ชายว่าพลางใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดหน้าตาให้ คนเป็นน้องได้แต่นั่งนิ่งตั้งใจฟัง พี่หมากย้ำเป็นครั้งที่ร้อยกว่าๆแล้วกระมังว่าไม่ให้ไปยุ่งกับเขาเนี่ย
    “พี่หมาก! พูดอะไรน่ะ? เค้าช่วยน้องพลูไว้แท้ๆนะ ไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่พี่หมากว่าซักหน่อย” หล่อนพยายามแก้ตัวแทนแต่ก็รู้สึกผิดมากเหมือนกันที่ทำให้คนเกิดก่อนมีสภาพเป็นแบบนี้ ดูสิ...หน้าตาดูไม่ได้เลย บวมช้ำไปหมด
    “มันหาโอกาสอยู่ใกล้เราน่ะสิ แล้วพอได้โอกาสเหมาะๆนะ ฮึ่ย...คิดแล้วของขึ้นโว้ย!” เทียมภพโยนให้คู่อริเป็นฝ่ายผิดเต็มๆอย่างเดียว  
    “อาบน้ำให้เรียบร้อยแล้วเตรียมตัวให้พร้อม คืนนี้จะได้เดินทางกัน” แทนดาวตกใจตาโต
    “พี่จะให้คุณเกดหาตั๋วรอบสี่ทุ่ม เราจะกลับกรุงเทพฯคืนนี้เลย บอกตรงๆพี่ไม่ไว้ใจไอ้นั่น อีกอย่าง...เราเท้าเจ็บเป็นแผลใหญ่ขนาดนี้คงเล่นน้ำไม่ได้แล้ว เอาไว้ค่อยมากันใหม่แล้วกัน” แทนดาวลุกพรวดขึ้นทันที
    “ไม่เอานะ...เพิ่งมาถึงจะกลับได้ไง น้องพลูยังไม่ได้เล่นน้ำเลย ฮือๆ” แล้วก็ปล่อยโฮเป็นเด็กๆแล้ววิ่งเขยกไปหาคุณพ่อที่บ้านพักอีกหลัง พอมาถึงก็พบว่าพวกผู้ใหญ่อยู่กันพร้อมหน้าและดูเหมือนกำลังปรึกษาหารืออะไรกันอยู่
    “คุณพ่อขา...ฮือ” หล่อนโผเข้าหาบิดาที่ยืนอยู่ใกล้สุดแล้วร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร
    “อะไรกันน้องพลู ใครทำอะไรอีก?” คุณเที่ยงธรรมกอดลูกสาวแน่นพยายามปลุกปลอบให้สงบ
    “พี่หมากจะพาพลูกลับกรุงเทพคืนนี้จริงๆด้วย ฮือ...พลูยังไม่ได้เล่นน้ำเลย” ลูกสาวบีบน้ำตาไหลพรากๆแต่เทียมภพที่ตามมาติดๆไม่สนใจ
    “นี่ตกลงหมากเอาจริงเหรอเนี่ย?” คุณเที่ยงธรรมถามบุตรชายให้แน่ใจ
    “จริงครับพ่อ กำลังให้คุณเกดหาตั๋วกลับอยู่ คงได้ไฟลท์สุดท้ายของคืนนี้พอดี ใครจะกลับกับผมก็ได้นะครับ” เทียมภพบอกเสียงเครียดแต่พอเห็นสีหน้าไม่สบายใจของคุณวารีก็ลดความแข็งกร้าวลง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่