โรตีอาบัง กับความทรงจำในวัยเด็ก

กระทู้สนทนา


สวัสดียามค่ำๆมืด มาดึกเลยวันนี้ อิอิ
กลับไปเปิดดูรูปเก่าๆ แล้วหวนคิดถึงตอนยังเป็นเด็กเอ๊าะๆ
วิ่งเล่นกับเพื่อนแถวบ้าน อย่างไม่รู้จักเหนื่อย
พอตกเย็นก็จะมีอาบังเข็น"โรตี"มาขายแถวๆละแวกบ้าน
กลิ่นหอมๆของแป้งโรตีเวลาทอด กับกลิ่นเนยที่ใส่ในกระทะร้อนๆ
มันช่างยั่วใจเด็กๆที่กำลังเล่นสนุกให้พร้อมใจกันหยุดเล่น
เพื่อไปมุงร้านรถเข็นของอาบัง

ซึ่งในเวลานั้นอาบัง เป็นอาบังแท้ๆมาจากอินตะระเดีย
บางคนก็มาจากปากีสถาน บังคลาเทศ
ถามว่ารู้ได้ยังไง ว่าเค้ามาจากไหน ก็อาศัยบรรดาแม่ๆที่มารอจ่ายเงินถามเค้า
ที่สำคัญ คือ จะเป็นผู้ชายทั้งนั้น
บางทีก็สงสัยนะว่าสมัยก่อนทำไม่มีผู้หญิงขายโรตี
แล้วถ้ามี เราจะเรียกเค้าว่าอะไรดี? นั่นสินะ....

โรตีอาบัง"ในเวลานั้น" มีแค่ 2 แบบ คือ
แป้งเปล่าโรยนม น้ำตาล ราคา 4 บาท
กับโรตีใส่ไข่ ราคา 7 บาท
มีให้เลือกแค่นี้แต่ก็เป็นความสุขในตอนนั้นอย่างไม่น่าเชื่อ

บนรถเข็นเล็กๆ มีอุปกรณ์ไม่มากมายเหมือนปัจจุบัน
รถเข็นแบบไม่มีโครงหลังคา บางเจ้าดีหน่อยมีร่มใหญ๋ไว้คอยกางบังแดด ฝน
อุปกรณ์หลักๆก็คงจะหนีไม่พ้น กระทะ ตะหลิว น้ำมัน สำหรับทอด
เนยเทียมสีส้ม (ที่ตอนเด็กเราไม่เคยรู้เลยว่ามันเป็นเนยเทียมและชอบใส่เยอะๆ)
น้ำตาล ที่ต้องใส่ในกระป๋องพลาสติกแล้วเจาะรูเพื่อไว้โรย
นมข้นหวานที่มีจุดพีคคือ อาบังจะชอบมีตะปู 1 อันไว้เจาะเปิดให้เป็นรูๆ

ความพิเศษคือ อาบังจะใช้มือตบตะปูที่ทิ่มลงบนปากกระป๋องนมข้นหวาน
เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ การแสดงสด คืนกำไรให้คนซื้อจริงๆ

ขาดไม่ได้ก็ต้องมีแผงไข่ ตั้งไว้ด้านหน้ากระทะที่ไว้ทอด
ถัดจากแผงไข่จะเป็นกระติกไว้ใส่แป้งโรตีดิบ
ซึ่งทุกครั้งที่อาบังแกเปิดหยิบแป้งออกมา เด็กๆแบบเราอดที่จะชะโงกหน้าไปดูไม่ได้
ขอให้ได้เห็นว่าข้างในมันคืออะไร แค่นั้นก็ไปคุยอวดกันได้แล้ว

การแสดงต่อมาที่เรียกว่าเป็นจุดพีค ห้ามพลาดเลยก็คือ "การทอด"
ก่อนทอดอาบังก็โชว์ลีลาก่อน 2 สเต็ป
สเต็ปแรก การเหวี่ยงแป้ง แผ่ให้บางๆ สวิงข้อมือ สะบัดให้แป้งกางออก
สเต็ปต่อมา การรวบแป้งแล้วหมุนๆบนมือให้เป็นกลมๆ แล้ววางลงกดๆๆให้เป็นทรง
ได้ที่แล้วก็วางลงทอดในกระทะ ก้มไปปรับไฟนิดหน่อย
พอเริ่มเหลืองตักเนย เอาตะหลิวเขี่ยเนยลงไป
เอาตะหลิวหมุนๆๆ

ถ้าเป็นแบบใส่ไข่ ก็จะแผ่แป้งลงไปในกระทะตอกไข่ลงไป
ใช้ตะหลิวตบๆๆๆไข่ให้แตกทั่วแผ่นแป้งโรตี
ปล่อยให้แป้งและไข่สุกดี จึงตักขึ้นมา

มาถึงขั้นตอนสำคัญ!!! การตบแป้งหลังจากทอดเสร็จ
ทอดเสร็จร้อนๆ วางบนรถเข็น เอามือสองข้าง ตบดัง"ป๊าบ!!"
2-4 ที ตามอารมณ์อาบังเค้าอยากจะทำ
โรยเนย โรยน้ำตาล ก็ว่ากันไป วางบนกระดาษ ม้วนห่อ เก็บปลาย
เด็กๆก็กินอย่างอร่อย หวาน มัน ชอบนักแหละ

ปัจจุบันโรตีมีความหลากหลายมากขึ้น
รวมไปถึงรูปแบบการนำเสนอ การตลาด ปัจจัยหลายๆอย่างที่เปลี่ยนไปตามสมัย
กับกระแสข่าวต่างๆ ที่ทำให้คนนิยมโรตีแบบรถเข็นน้อยลง
พร้อมกับการกำเนิดใหม่ของโรตีในอีกหลายๆมิติ
ไม่ว่าจะเป็นโรตีแบบฟิวชั่น ทานคู่กับแกงต่างๆสไตล์อินเดีย
หรือการเพิ่มความหลากหลายในการขายด้วยการนำผลไม้มาผสานเข้าด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็น กล้วยหอม สตรอเบอรี่ มะม่วง
ต่อยอดกันไปจนถึงการทำแป้งให้มีรสชาติต่างๆ แต่งสี ให้สวยงาม
เพิ่มมูลค่าด้วยการสรรหาท็อปปิ้งมาเพิ่มความน่ากิน
ไม่ว่าจะเป็นแยมต่างๆ ขนมขบเคี้ยว เกล็ดน้ำตาล เยลลี่ เป็นต้น





จากโรตีชิ้นละ 5 บาทในวัยเด็ก
วันเวลาผ่านไปได้ก้าวเข้าสู่ร้านอาหาร ร้านของหวานต่างๆทั่วประเทศ
จากแค่โรยนม น้ำตาล สู่การพัฒนาต่อยอดความคิด
จัดลงจาน เพิ่มวัตถุดิบ โรยส่วนผสมที่แตกต่าง ประดับด้วยของโก้หรู
เพิ่มมูลค่าสินค้าได้แบบไม่น่าเชื่อ

มาถึงตรงนี้ตัวเราเองดีใจ ที่ได้เห็นของกินในสมัยเด็กๆ ยังโลดแล่น
ได้รับความนิยมจากผู้คน ไม่ว่าจะอายุมากน้อยแค่ไหน
เวลาจะเปลี่ยน รสนิยมจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนก็ตาม
แต่สิ่งๆนี้ "โรตี" ที่ไม่ได้ถูกขายแค่อาบังอีกต่อไป
ก็ยังคงอยู่ เป็นความทรงจำ ความสุข ความอร่อย เมื่อได้ลิ้มลอง


สุดท้ายนี้ก็ขอให้ผู้อ่านมีความสุขกับความทรงจำในทุกๆช่วงเวลา
และยินดีหากนำมาเล่าสู่กันฟังบ้าง

หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เขียนมาจากความรู้สึก จากใจ
อาจจะกลั่นกรองออกมาไม่สละสลวย แต่คิดว่าคงจะเข้าใจง่าย
และ "อยากทานโรตียามดึก" ไปด้วยกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่