ถ้าในแต่ละวันเรามีแต่ความสุขสลับกับความทุกข์อยู่ตลอดทั้งวันจะเป็นอย่างไร?

ถ้าในแต่ละวันเรามีแต่ความสุขสลับกับความทุกข์อยู่ตลอดทั้งวันจะเป็นอย่างไร?

เราคงหัวเราะสลับกับร้องไห้อยู่ตลอดทั้งวันจนเป็นบ้าตายกันไปหมดแล้ว เพระาถูกกิเลสแผดเผาอยู่ตลอดทั้งวัน

แต่ดีที่ธรรมชาติได้มีนิพพานตามธรรมชาติ คือความสงบเย็นของจิตขณะที่จิตไม่มีกิเลสมาให้ เราจึงได้มีโอกาสพักผ่อน แต่ถ้าเราจะได้มีจิตที่สงบเย็นมากๆในแต่ละวัน นั่นคือสิ่งที่จะเป็นประโยชน์แก่เราเป็นอย่างยิ่ง

คำสอนของพระพุทธเจ้าจะต้องเป็นประโยชน์แก่มนุษย์ในปัจจุบัน ไม่ใช่สอนให้เชื่อว่าจะได้ประโยชน์เมื่อไรก็ไม่รู้ ดังนั้นนิพพานของพระพุทธเจ้าก็ต้องมีประโยชน์ในปัจจุบัน ซึ่งการปฏิบัติเพื่อให้จิตนิพพานตามหลักของพระพุทธเจ้าก็ทำได้โดยการปล่อยวางความยึดถือว่ามีตัวตนของเราและของคนอื่นลง โดยใช้ปัญญา (ความเข้าใจว่าแท้จริงมันไม่มีตัวเราอยู่จิง) ศีล (ความปกติของจิต) และสมาธิ (จิตที่ตั้งมั่น) มาทำงานร่วมกัน ก็จะสามารถทำให้จิตนิพพาน (สงยเย็น) ได้แม้เพียงชั่วคราว

ดังนั้นเราจึงควรรู้จักนิพพานให้ถูกต้อง จะได้ไม่หลงเกลียดกลัวนิพพาน และพยายามแสวงหานิพพานที่สูงขึ้นต่อไป รวมทั้งจะได้ไม่ไปหลงผิดคิดว่านิพพานเป็นบ้านเป็นเมือง หรือคิดว่านิพพานต้องสิ้นกิเลสถาวร หรือต้องตายไปแล้วไม่กลับมาเกิดอีก ตามความเชื่อของคนไม่รู้จักนิพพานถูกต้อง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่