Ride Along 2 คว้าอันดับ 1 หนังทำเงินสัปดาห์นี้, Revenant มาที่ 2 และ Star Wars ฟันรายได้ข้ามพันล้านนอกอเมริกา

US Box Office January 15-17, 2016



Ride Along 2 อาจจะทำรายได้ไม่เหนือกว่าหนังภาคแรก แต่กับตัวเลข 34 ล้านเหรียญก็มากพอที่จะครองอันดับ 1 หนังทำเงินในอเมริกาสัปดาห์นี้ โดยมี The Revenant ตามมาติดๆ ด้วยรายได้ที่ตกลงแค่ 26% จากการฉายวงกว้างเป็นสัปดาห์ที่สอง หนังทั้งสองเรื่องสามารถทำรายได้เหนือแชมป์หลายสมัย Star Wars: The Force Awakens ทำให้หนังสงครามอวกาศตกมาอยู่ที่สาม ในสัปดาห์ที่ห้าของการฉาย แต่ในตลาดต่างประเทศ หนังทำรายได้ข้ามพันล้านเหรียญแล้ว

ขณะที่หนังของไมเคิล เบย์ 13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi ออกตัวได้ต่ำกว่าความคาดหมาย ต่างจากแอนิเมชัน Norm of the North ที่เปิดตัวได้ดีกว่าที่ใครๆ คิดเอาไว้ ขณะที่หนังที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ ที่ประกาศกันเมื่อวันพฤหัสฯ ก็ทยอยเพิ่มโรงส่งให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีขึ้น

เริ่มกันที่อันดับ 1 เมื่อปี 2014 หนัง Ride Along เปิดตัวได้มหาศาล 41.5 ล้านเหรียญจาก 3 วันแรก และหากคิดรายได้ 4 วันจะเป็น 48.6 ล้านเหรียญ ทำสถิติใหม่ในสุดสัปดาห์ของวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง กับภาคต่อที่ได้เควิน ฮาร์ท และไอซ์ คิวบ์ กลับมารับบทเดิม หนังเปิดตัวแค่ 34 ล้านเหรียญ และเก็บรายได้ 4 วันแค่ราวๆ 39 ล้านเหรียญ ซึ่งน้อยกว่าภาคแรก แต่ก็มากพอที่จะทำให้ติดท็อปไฟว์หนังรายได้เปิดตัวในสุดสัปดาห์วันมาร์ติน ลูเธอร์ คิงที่มากที่สุดตลอดกาล ทีมการตลาดคงต้องทำงานเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย หากต้องการให้หนังทำรายได้ถึงร้อยล้านในอเมริกา เพราะเสียงบอกปากต่อปากนั้น ไม่น่าจะแข็งแรงนัก เพราะได้แค่ B+ จากซีนีมาสกอร์ ส่วนภาคแรกได้ถึง A”

ซึ่งหากมองบรรดาหนังตลกภาคต่อทั้งหลาย จะพบว่าหนังมักจะเก็บเงินได้น้อยกว่าภาคแรก รวมไปถึงรายได้เปิดตัว นอกจาก Ride Along 2 แล้วหนังในกลุ่มนี้ก็ยังมี Think Like a Man Too, Horrible Bosses 2, Anchorman 2 และ Ted 2 ที่รายได้เปิดตัวน้อยกว่าภาคแรก

หนังเปิดตัวในตลาดต่างประเทศพร้อมๆ อเมริกาแค่ 11 พื้นที่ และทำรายได้ 2.7 ล้านเหรียญ  

อันดับ 2 เป็น The Revenant ที่เข้าชิงออสการ์ปีล่าสุดถึง 12 รางวัล และสัปดาห์ที่สองของการฉายในวงกว้าง ก็ทำรายได้อย่างงดงาม 9.5 ล้านเหรียญ ตกจากสัปดาห์แรกแค่ 25.9% ซึ่งทำได้ดีกว่า American Sniper's impressive ที่ว่าทำได้อย่างน่าประทับใจแล้ว เมื่อรายได้ในสัปดาห์ที่สองตกแค่ 27.6% ฟ็อกซ์หวังว่าหนังน่าจะเก็บรายได้ 4 วันสัก 35 ล้านเหรียญ เพื่อที่จะติดท็อปเทนหนังทำรายได้ในสุดสัปดาห์มาร์ติน ลูเธอร์ คิงสูงสุดตลอดกาล ขณะที่ในต่างประเทศหนังทำเงินไปอีก 31.5 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมขยับเป็น 151 ล้านเหรียญ

ส่วน Star Wars: The Force Awakens ตกจากอันดับ 1 เป็นครั้งแรกหลังยึดเก้าอี้แน่นมาตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 18 ธันวาคม หนังทำเงินอีก 25.1 ล้านเหรียญจากสามวัน และ 31 ล้านเหรียญจากสี่วัน รายได้ในอเมริกาตอนนั้นเพิ่มไปถึง 856.9 ล้านเหรียญแล้ว ตอนนี้หนังกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในต่างประเทศอันดับ 5 และเป็นหนังเรื่องที่ห้า ที่ทำเงินเกินพันล้านเหรียญนอกอเมริกา โดยทำเงินไปแล้ว 1.012 พันล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมทั่วโลกเท่ากับ 1.8 พันล้านเหรียญ หนังขาดอีกแค่ 4.1 ล้านเหรียญก็จะทาบรายได้นอกอเมริกาของ Jurassic World และอีกไม่กี่วันก็น่าจะแซง Furious 7 ที่ทำรายได้ไว้ 1.16 พันล้านเหรียญไปอยู่อันดับสาม ในลิสท์ได้สำเร็จ และจะเป็นรองแค่ Titanic (2.18 พันล้านเหรียญ) กับ Avatar (2.78 พันล้านเหรียญ)

สำหรับการทำรายได้นอกอเมริกาผ่านพันล้าน ทำให้ Star Wars: The Force Awakens กลายเป็นหนังดิสนีย์เรื่องแรกที่ทำรายได้นอกอเมริกามากกว่าพันล้านเหรียญ หลังเก็บเงินในสัปดาห์นี้ 47.3 ล้านเหรียญ หนังสามารถปักธงที่จีนได้สำเร็จ แต่ด้วยเสียงบอกปากต่อปากที่ไม่ดี ทำให้รายได้ตกถึง 70% จากสุดสัปดาห์เปิดตัว

อันดับที่ 4 เป็นอีกหนึ่งหนังใหม่ที่เปิดตัวในวงกว้าง 13 Hours ของไมเคิล เบย์ ซึ่งทำรายได้แค่ 16 ล้านเหรียญ จากการฉาก 3 วัน โดยพาราเมาท์ประเมินว่าหนังน่าจะเก็บเงินได้ 19 ล้านเหรียญจากการฉาย 4 วัน หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังเรื่องแรกของเบย์ ที่เปิดตัวต่ำกว่า 20 ล้านเหรียญจากการฉาย 3 วัน นับตั้งแต่ The Island ในปี 2005 หนังใช้ทุนสร้างถึง 150 ล้านเหรียญ เมื่อดูจากรายได้เปิดหนังน่าจะเก็บเงินได้ราวๆ 45-50 ล้านเหรียญเฉพาะในอเมริกา และน่าจะต่ำกว่า 49.8 ล้านเหรียญที่ Pain and Gain ทำไว้ในปี 2013.

หนัง Norm of the North ออกตัวได้ดีกว่าที่คาด ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับสตูดิโอ ซึ่งหวังเพียงรายได้ในระดับเท่าทุน หนังทำรายได้สามวันที่ราวๆ 6.6 ล้านเหรียญ และที่ 4 วันตัวเลขน่าจะอยู่ที่ 8.8 ล้านเหรียญ

ในกลุ่มหนังชิงออสการ์  The Big Short อยู่ในท็อปเทน โดยถือว่ายืนระยะได้ดีมาก เมื่อรายได้ตกแค่ 15.8% ทั้งๆ ที่ลดโรงไป 764 โรง กับโรงฉาย 1,765 โรง หนังที่เข้าชิงออสการ์ห้าสาขาอยู๋ในอันดับ 8 ทำเงินไปประมาณ 5.2 ล้านเหรียญจากการฉาย 3 วัน ขณะที่ Brooklyn เพิ่มโรงอีก 393 โรง และทำเงินไป 1.66 ล้านเหรียญ แต่รายได้ตกถึง 57.3% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ตามมาก็คือ Spotlight ที่ได้เข้าชิงหนังเยี่ยม หนังเพิ่มโรงฉายอีก 617 โรง แต่ทำรายได้เฉลี่ยราวๆ พันกว่าเหรียญต่อโรง ทำให้เก็บรายได้มาแค่ 1.5 ล้านเหรียญ ส่วน Room ทำรายได้ 700,000 เหรียญจาก 293 โรง แต่ทำรายได้พุ่งขึ้นมาถึง 504% กลายเป็นหนังที่รายได้เพิ่มมากที่สุดในสัปดาห์นี้ หนังสต็อป-โมชันของชาร์ลี คอฟแมน Anomalisa เพิ่มโรงอีก 20 โรง รวมเป็น 37 โรง หนังทำรายได้มาอีก 290,000 เหรียญ

แต่หนังที่รายได้เฉลี่ยต่อโรงมากที่สุดในสัปดาห์นี้คือ The Lady in the Van ที่ฉายแค่สองโรงในสถานศึกษาเมื่อเดือนธันวาคม ตอนนี้หนังเปิดฉายอย่างเป็นทางการ และเก็บเงินได้ 72,264 เหรียญจาก 4 โรงฉาย คิดเป็น 18,066 เหรียญต่อโรง  

อ่านแล้วถูกใจ คลิกไลค์ได้ที่ www.facebook.com/Sadaos
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่