โดยปกติเดือนมกราคมจะเป็นเดือนที่ค่ายหนังพร้อมใจกันปล่อยหนังที่ตัวเองไม่ค่อยมั่นใจว่าจะทำเงินได้เยอะ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นที่ปล่อยฉายในวงกว้างของหนังชิงรางวัลหลายเรื่อง ที่ฉายแบบจำกัดโรงในช่วงปลายปี (เพื่อสิทธิ์ในการเข้าชิงออสการ์ในปีนั้น) รวมถึง
American Sniper แต่ที่แตกต่างคือหนังเรื่องนี้ทำเงินในช่วงสุดสัปดาห์ไปถึง 90.2 ล้านเหรียญ
ถ้าสงสัยว่ารายรับขนาดนี้เยอะแค่ไหน ผมบอกได้เลยว่าเป็นรายรับเดียวกับหนังซุปเปอร์ฮีโร่น้ำดีที่เข้าฉายกันในช่วงซัมเมอร์ (ย้ำนะครับว่าน้ำดี ผมไม่นับหนังอย่าง
Amazing Spider-Man 2 อยู่ในเครือนี้นะ) และสร้างสถิติใหม่อีกหลายอย่าง

เป็นหนังที่เปิดตัวในเดือนมกราคมสูงสุดตลอดกาล และทำเงินเป็น 2 เท่าของเจ้าของสถิติเก่าอย่าง
Ride Along ที่ทำไว้ที่ 41 ล้านเหรียญเมื่อปีที่แล้ว

เป็นหนังเรท R ที่ทำเงินในสัปดาห์แรกสูงสุดเป็นอับดับที่ 2 เฉียดอับดับ 1 อย่าง
The Matrix: Reloaded ไปเพียง 1 ล้านเหรียญ (91.2 ล้านเหรียญ)

เป็นหนังที่เปิดตัวสูงสุดเป็นอันดับที่ 40

เป็นหนังเรท R ที่เปิดตัวสูงตลอดกาลบน IMAX (11.5 ล้านเหรียญ)

เป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดในหนังที่เข้าชิงออสการ์ปีนี้

ทำเงินมากกว่า
Birdman,
The Theory of Everything,
Boyhood และ
Whiplash รวมกันซะอีก
โดยผู้ชม 57% เป็นผู้ชาย และ 63% อายุมากกว่า 25 ปี ได้เกรด
A+ จาก Cinemascore หนังถูกคาดกาลว่าหนังอาจทำเงินตลอดการฉายไปได้มากกว่า 250 ล้านเหรียญ จากต้นทุน 58 ล้านเหรียญ
ปัจจัยที่ทำให้หนังทำเงินมากขนาดนี้คงหนีไม่พ้นการที่หนังตั้งเป้าหมายไปที่กลุ่มคนดูผู้ใหญ่ ที่ยังคงออกมาดูหนังตามโรงภาพยนตร์ การเข้าชิงหนังยอดเยี่ยมออสการ์ และแน่นอนครับตัวอย่างที่ทั้งกดดัน ลุ้นระทึก มากกว่าหนังยาวบางเรื่องซะอีก
หนังเรื่องอื่นที่เปิดตัวในสัปดาห์นี้ ก็ทำเงินได้ไม่เลวร้ายนัก The Wedding Ringer 21 ล้านเหรียญ Paddington 19.3 ล้านเหรียญ ทำให้สัปดาห์นี้หนังทำเงินมากขึ้นกว่าสัปดาห์เดียวกันในปีที่แล้วถึง 19%
มีข่าวดีสำหรับบางคนย่อมข่าวร้ายสำหรับบางคนครับ
Blackhat เปิดตัวในสัปดาห์เดียวกัน ทำเงินไปเพียง 4 ล้านเหรียญ นอกจากจะเป็นหนังทำเงินต่ำสุดของผู้กำกับ Michael Mann ตั้งแต่ Manhunter ในปี 1986 ยังทุบสถิติหนังเปิดตัวต่ำสุด ที่ฉายในโรงภาพยนตร์มากกว่า 2500 โรง!! หนังยังได้รับเกรด C- จาก Cinemascore
American Sniper มีกำหนดเข้าฉายบ้านเรา 22 มกราคม พร้อมกับหนังรสประหลาดอย่าง
Maps to the Stars และหนังเจ้าของราวัลลูกโลกทองคำสาขาดารานำหญิงสาขาตลกและเพลง
Big Eyes
ที่มา
https://basicbaldguy.wordpress.com/2015/01/19/weekend-box-office-american-sniper-grossed-a-historic-90-million-blackhat-bombed/
‘American Sniper’ บทพิสูจน์เดือนมกราไม่ใช่หายนะบนตาราง Box office อเมริกา
โดยปกติเดือนมกราคมจะเป็นเดือนที่ค่ายหนังพร้อมใจกันปล่อยหนังที่ตัวเองไม่ค่อยมั่นใจว่าจะทำเงินได้เยอะ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นที่ปล่อยฉายในวงกว้างของหนังชิงรางวัลหลายเรื่อง ที่ฉายแบบจำกัดโรงในช่วงปลายปี (เพื่อสิทธิ์ในการเข้าชิงออสการ์ในปีนั้น) รวมถึง American Sniper แต่ที่แตกต่างคือหนังเรื่องนี้ทำเงินในช่วงสุดสัปดาห์ไปถึง 90.2 ล้านเหรียญ
ถ้าสงสัยว่ารายรับขนาดนี้เยอะแค่ไหน ผมบอกได้เลยว่าเป็นรายรับเดียวกับหนังซุปเปอร์ฮีโร่น้ำดีที่เข้าฉายกันในช่วงซัมเมอร์ (ย้ำนะครับว่าน้ำดี ผมไม่นับหนังอย่าง Amazing Spider-Man 2 อยู่ในเครือนี้นะ) และสร้างสถิติใหม่อีกหลายอย่าง
โดยผู้ชม 57% เป็นผู้ชาย และ 63% อายุมากกว่า 25 ปี ได้เกรด A+ จาก Cinemascore หนังถูกคาดกาลว่าหนังอาจทำเงินตลอดการฉายไปได้มากกว่า 250 ล้านเหรียญ จากต้นทุน 58 ล้านเหรียญ
ปัจจัยที่ทำให้หนังทำเงินมากขนาดนี้คงหนีไม่พ้นการที่หนังตั้งเป้าหมายไปที่กลุ่มคนดูผู้ใหญ่ ที่ยังคงออกมาดูหนังตามโรงภาพยนตร์ การเข้าชิงหนังยอดเยี่ยมออสการ์ และแน่นอนครับตัวอย่างที่ทั้งกดดัน ลุ้นระทึก มากกว่าหนังยาวบางเรื่องซะอีก
หนังเรื่องอื่นที่เปิดตัวในสัปดาห์นี้ ก็ทำเงินได้ไม่เลวร้ายนัก The Wedding Ringer 21 ล้านเหรียญ Paddington 19.3 ล้านเหรียญ ทำให้สัปดาห์นี้หนังทำเงินมากขึ้นกว่าสัปดาห์เดียวกันในปีที่แล้วถึง 19%
มีข่าวดีสำหรับบางคนย่อมข่าวร้ายสำหรับบางคนครับ Blackhat เปิดตัวในสัปดาห์เดียวกัน ทำเงินไปเพียง 4 ล้านเหรียญ นอกจากจะเป็นหนังทำเงินต่ำสุดของผู้กำกับ Michael Mann ตั้งแต่ Manhunter ในปี 1986 ยังทุบสถิติหนังเปิดตัวต่ำสุด ที่ฉายในโรงภาพยนตร์มากกว่า 2500 โรง!! หนังยังได้รับเกรด C- จาก Cinemascore
American Sniper มีกำหนดเข้าฉายบ้านเรา 22 มกราคม พร้อมกับหนังรสประหลาดอย่าง Maps to the Stars และหนังเจ้าของราวัลลูกโลกทองคำสาขาดารานำหญิงสาขาตลกและเพลง Big Eyes
ที่มา https://basicbaldguy.wordpress.com/2015/01/19/weekend-box-office-american-sniper-grossed-a-historic-90-million-blackhat-bombed/