ความเห็นส่วนตัว จขกท
ธรรมชาติของนิพพานเป็นความว่างไม่มีประมาณ ไร้ขอบเขต หาที่สุดมิได้ ธรรมชาติของใจเป็นธรรมชาติสว่างไสว
พระนิพพานว่างไร้ขอบเขตไม่มีประมาณ ธรรมชาติของใจก็สว่างไร้ขอบเขตไม่มีประมาณ เป็นธรรมชาติที่เป็นที่พึ่งซึ่งกันและกัน
ว่าง+สว่าง พระนิพพานเป็นธรรมชาติว่าง แล้วความสว่างคืออะไร ความสว่างที่มันสว่างออกมาจากใจ ก็คือจิตวิญญาณ
จิตวิญญาณเป็นธรรมชาติสว่างใสยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น เมื่อไม่มีกิเลสความมัวหมอง กิเลสความมัวหมองคืออะไร คืออารมณ์ความรู้สึกที่จรมา
คราวนี้ถ้าจิตวิญญาณเหล่าใดยึดในอารมณ์ความรู้สึกที่สัญจรมา ว่าเป็นตน เป็นของๆตน จิตวิญญาณนั้นก็มัวหมอง ไม่สามารถสว่างแผ่รัศมีออกมาได้
จะถูกอารมรณ์ความรู้สึก โลภะ โทสะ โมหะ หุ้มห่อใว้จิตวิญญาณจึงมัวหมองหมดรัศมี เมื่อถึงที่สุดแห่งทุกข์จิตวิญญาณจะไม่หวั่นไหวในอารมณ์ความรู้สึก
โลภะ โทสะ โมหะ ที่สัญจรมา อุปมาเหมือนน้ำกลิ้งบนใบบัว อารมณ์ความรู้สึกจะไม่สามารถเข้าไปปรุงแต่งจิตวิญญาณให้มัวหมองหมดรัศมีได้ เมื่อกระทำพระนิพพานให้แจ้งในใจ ถึงที่สุดแห่งทุกข์ จะมีแต่ความว่าง+สว่าง จะไม่มีสิ่งใดเกิด หรือ ผุด ขึ้นมาในใจ แต่ถ้ายังไม่ถึงที่สุดแห่งทุกข์ ถึงแม้ว่าจิตจะสะอาดสว่างถึงขั้นพระอนาคามี ในความว่าง+สว่างก็ยังมีภพ คือยังมีตัวเกิดมาได้อีก 1 ครั้ง เมื่อร่างกายแตกดับ ก็เข้าถึงความเป็นภพ คือความว่าง+ความสว่างแห่งภพ ที่ใจได้ปรุงแต่งขึ้นมา เมื่อวิญญาณของพระอนาคามี จะนิพพาน ตัวภพที่สว่างเป็นตัวตนที่ใจได้ปรุงแต่งสร้างขึ้น ก็เข้าถึงความ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไปรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับพระนิพพาน คือความว่าง+สว่าง
แต่ผู้ที่ปฏิบัติมาแนวทางพระอรหันต์สุขวิปัสสโก ท่านจะไม่รู้ไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ แต่ท่านจะเห็นธรรมภายในใจ ว่างทั้งภายนอกและภายใน ไม่มีความรู้สึกใดปรุงแต่งใจให้หวั่นไหวได้ เพราะเป็นผู้หมดตัณหาเช่นกัน เมื่อกายแตกดับ ก็เข้าสู่ความว่าง+สว่าง นิพพานเช่นเดียวกัน
คำสอนพ่อแม่ครูบาอาจารย์
มุตโตทัย โอวาทธรรมของพระอาจารย์มั่น

มุตโตทัย (ฉบับรวม)
พระนิพพาน+จิตวิญญาณ เป็นธรรมชาติว่าง+สว่าง
ธรรมชาติของนิพพานเป็นความว่างไม่มีประมาณ ไร้ขอบเขต หาที่สุดมิได้ ธรรมชาติของใจเป็นธรรมชาติสว่างไสว
พระนิพพานว่างไร้ขอบเขตไม่มีประมาณ ธรรมชาติของใจก็สว่างไร้ขอบเขตไม่มีประมาณ เป็นธรรมชาติที่เป็นที่พึ่งซึ่งกันและกัน
ว่าง+สว่าง พระนิพพานเป็นธรรมชาติว่าง แล้วความสว่างคืออะไร ความสว่างที่มันสว่างออกมาจากใจ ก็คือจิตวิญญาณ
จิตวิญญาณเป็นธรรมชาติสว่างใสยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น เมื่อไม่มีกิเลสความมัวหมอง กิเลสความมัวหมองคืออะไร คืออารมณ์ความรู้สึกที่จรมา
คราวนี้ถ้าจิตวิญญาณเหล่าใดยึดในอารมณ์ความรู้สึกที่สัญจรมา ว่าเป็นตน เป็นของๆตน จิตวิญญาณนั้นก็มัวหมอง ไม่สามารถสว่างแผ่รัศมีออกมาได้
จะถูกอารมรณ์ความรู้สึก โลภะ โทสะ โมหะ หุ้มห่อใว้จิตวิญญาณจึงมัวหมองหมดรัศมี เมื่อถึงที่สุดแห่งทุกข์จิตวิญญาณจะไม่หวั่นไหวในอารมณ์ความรู้สึก
โลภะ โทสะ โมหะ ที่สัญจรมา อุปมาเหมือนน้ำกลิ้งบนใบบัว อารมณ์ความรู้สึกจะไม่สามารถเข้าไปปรุงแต่งจิตวิญญาณให้มัวหมองหมดรัศมีได้ เมื่อกระทำพระนิพพานให้แจ้งในใจ ถึงที่สุดแห่งทุกข์ จะมีแต่ความว่าง+สว่าง จะไม่มีสิ่งใดเกิด หรือ ผุด ขึ้นมาในใจ แต่ถ้ายังไม่ถึงที่สุดแห่งทุกข์ ถึงแม้ว่าจิตจะสะอาดสว่างถึงขั้นพระอนาคามี ในความว่าง+สว่างก็ยังมีภพ คือยังมีตัวเกิดมาได้อีก 1 ครั้ง เมื่อร่างกายแตกดับ ก็เข้าถึงความเป็นภพ คือความว่าง+ความสว่างแห่งภพ ที่ใจได้ปรุงแต่งขึ้นมา เมื่อวิญญาณของพระอนาคามี จะนิพพาน ตัวภพที่สว่างเป็นตัวตนที่ใจได้ปรุงแต่งสร้างขึ้น ก็เข้าถึงความ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไปรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับพระนิพพาน คือความว่าง+สว่าง
แต่ผู้ที่ปฏิบัติมาแนวทางพระอรหันต์สุขวิปัสสโก ท่านจะไม่รู้ไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ แต่ท่านจะเห็นธรรมภายในใจ ว่างทั้งภายนอกและภายใน ไม่มีความรู้สึกใดปรุงแต่งใจให้หวั่นไหวได้ เพราะเป็นผู้หมดตัณหาเช่นกัน เมื่อกายแตกดับ ก็เข้าสู่ความว่าง+สว่าง นิพพานเช่นเดียวกัน
คำสอนพ่อแม่ครูบาอาจารย์
มุตโตทัย โอวาทธรรมของพระอาจารย์มั่น
มุตโตทัย (ฉบับรวม)