ิวิปัส

กระทู้สนทนา
ขันธ์







"เพราะเธอ หรือเปล่า เธอคือความเหงา เพราะเธอหรือเปล่า ...




ญาณสัมปยุตต์ไหมฮะ












เขาว่าคนก้าวหน้าทางจิตวิญญาณจริงๆจะไม่มาแบ่งนิพพาน มรรค ทุกข์ สมุทัยฮะ


คือจะไม่แบ่งแยกอะไรเลยฮะ

แต่เราก็คิดว่าแบบนั้นเปรียบเหมือนคนอยู่บนภูเขาสูง



แต่ว่าจริงๆถ้าเราเข้าถึงอนัตตาเราก็คล้ายๆจะอยู่นิพพานแล้วไหมฮะ


เพราะเห็นขันธ์5อนัตตาหมดฮะ

เลยสำรอกออกได้ เพราะถ้ายังไม่เห็น


ก็จะยังอยากมีขันธ์5ฮะ แต่ขนาดเห็นแล้ว

พระโสดาบัน


เขาว่ากันว่า ก็ยังอยากในขันธ์5 โดยได้ยินว่า


ขั้นต่อไปจะเจอด่านของสัญญาเจตสิกฮะ พอขั้นสุดท้าย ขั้นพระอรหันต์จะเจอด่านเวทนาฮะ



เราก็ยังเข้าใจได้ไม่ชัดมากฮะ

คล้ายๆพลิกสังขารกับอสังขาร แยกก่อน เลยพ้นสักกายทิฐิไหมฮะ  


แต่พอมาเจอเวทนา สัญญา


เพราะว่าช่วงที่เราละสังขารระดับหยาบสุดของพระอริยะนั้นคือเรา

เห็นขันธ์5แบบสังขาร


จนหลุดจากการยึดสังขารที่หมายรวมขันธ์ทั้ง5

ถ้าว่าอีกนัยยะคงหมายถึงดับอุปาทานเกลี้ยงสนิทไหมฮะ

เลยพ้นจากภพได้ในระดับโสดาบันไหมฮะ

แต่ว่า

ก็จะเจอกับด่านของสัญญาในอายตนะต่างๆไหมฮะ







เราก็ไม่ค่อยแน่ใจจุดนี้เท่าไรฮะ ใครแนะนำได้เราก็พร้อมรับฟังฮะ  เผื่อเราเข้าใจผิดฮะ

หลายๆคนติดในสุตตมยปัญญาไหมฮะ เราก็น่าจะหนึ่งในนั้นฮะ


ต้องอาศัยรู้เห็นจำคิดรู้สึกไปเรื่อยๆ

อายตนะจะได้กระเจิงออกจากผัสสะไหมฮะ



จะได้ไม่เข้มข้นจนเวทนาเข้มข้นมากๆฮะ



แต่จะใช้ผัสสะในการเสพธรรมารมณ์ล่อไปก่อนไหมฮะ


ขันธ์5จะทำงานได้เต็มที่ขึ้นก่อนจะใช้วิสังขารระงับสังขาร


รู้หนึ่งก็มีอวิชชาในหนึ่งได้ไหมฮะ คราวนี้แหละปลาเน่าแล้วไหมฮะ  


เพราะจะอาศัยรู้หนึ่งหน่วยไปแยกย่อยไปหาอะตอมอื่นๆต่อไหมฮะ


เราเอาสังขารมาระงับกันเองก่อนดีไหมฮะ ละเอียดระงับหยาบฮะ

ความแตกต่างระหว่างธาตุ 18 และอายตนะ 12
ในทางพระพุทธศาสนา ทั้งธาตุ 18 และอายตนะ 12 เป็นหลักธรรมที่สำคัญที่ใช้อธิบายการทำงานของจิตและร่างกาย รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับโลกภายนอก แต่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดดังนี้
อายตนะ 12
* ความหมาย: อายตนะ แปลว่า "ที่เชื่อมต่อ" หมายถึงสิ่งที่เชื่อมต่อระหว่างโลกภายใน (อินทรีย์) กับโลกภายนอก (อารมณ์) ทำให้เกิดการรับรู้
* องค์ประกอบ: แบ่งออกเป็น 12 อย่าง ได้แก่
   * อายตนะภายใน 6: ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
   * อายตนะภายนอก 6: รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์
* หน้าที่: เป็นสื่อกลางในการรับรู้และสัมผัสกับโลกภายนอก เช่น ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น เป็นต้น
ธาตุ 18
* ความหมาย: ธาตุ แปลว่า "สิ่งที่ทรงไว้ซึ่งสภาพของตน" หมายถึงองค์ประกอบพื้นฐานที่ทำให้เกิดการรับรู้และประสบการณ์
* องค์ประกอบ: แบ่งออกเป็น 18 อย่าง ได้แก่
   * อายตนะภายใน 6: ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
   * อายตนะภายนอก 6: รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์
   * วิญญาณ 6: จักขุวิญญาณ (การเห็น) โสตวิญญาณ (การได้ยิน) ฆานวิญญาณ (การได้กลิ่น) ชิวหาวิญญาณ (การรับรส) กายวิญญาณ (การสัมผัส) มโนวิญญาณ (การรับรู้ทางใจ)
* หน้าที่: เป็นองค์ประกอบที่ทำให้เกิดการรับรู้และประสบการณ์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยมีวิญญาณเป็นตัวเชื่อมระหว่างอายตนะภายในและภายนอก เช่น ตาเห็นรูปแล้วเกิดจักขุวิญญาณ (การเห็น) เป็นต้น
สรุป
| ประเด็น | อายตนะ 12 | ธาตุ 18 |
|---|---|---|
| ความหมาย | ที่เชื่อมต่อ | สิ่งที่ทรงไว้ซึ่งสภาพของตน |
| องค์ประกอบ | อายตนะภายใน 6 + อายตนะภายนอก 6 | อายตนะภายใน 6 + อายตนะภายนอก 6 + วิญญาณ 6 |
| หน้าที่ | เป็นสื่อกลางในการรับรู้ | เป็นองค์ประกอบที่ทำให้เกิดการรับรู้และประสบการณ์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น |
ความสัมพันธ์
ธาตุ 18 มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับอายตนะ 12 โดยอายตนะ 12 เป็นส่วนหนึ่งของธาตุ 18 แต่ธาตุ 18 มีองค์ประกอบที่เพิ่มเข้ามาคือวิญญาณ 6 ซึ่งเป็นตัวเชื่อมสำคัญในการรับรู้และสร้างประสบการณ์
ความสำคัญ
การเข้าใจทั้งอายตนะ 12 และธาตุ 18 มีความสำคัญในการปฏิบัติธรรม เพราะช่วยให้เราเข้าใจการทำงานของจิตและร่างกาย รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเรากับโลกภายนอก เมื่อเราเข้าใจกลไกเหล่านี้ เราจะสามารถเจริญสติเพื่อสังเกตและควบคุมจิตใจของเราได้ดียิ่งขึ้น


ดูไปดูมา พระไตรปิฎก นี่คล้ายๆกับคลังข้อมูล database มีระบบแห่งความสอดรับกัน คล้ายๆโครงข่ายข้อมูลอยู่ฮะ  เขียนด้วยนักเขียนโปรแกรมควอนตัมคอมพิวเตอร์(ปิฎกจารย์)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่