เมนูแนะนำ แกงเผ็ดเป็ดย่างมะยม

สวัสดีค่ะ ติดตามห้องก้นครัวมานาน แล้วก็ได้เมนูเด็ดๆ จากห้องก้นครัวไปทำอาหารให้พ่อกับแม่ทานบ่อยๆ ตอนนี้ เลยอยากมาแบ่งปันเมนูอาหารที่ได้รับการถ่ายทอดจากแม่มาให้เพื่อนๆ ได้ลองกันบ้างค่ะ ที่แนะนำวันนี้คือเมนู แกงเผ็ดเป็ดย่างมะยม ค่ะ พอดีว่าที่บ้านอยู่เมืองนนท์ โซนชนบทนิดๆ เลยทำให้มีผลหมากรากไม้ได้พอกินเล่นๆ บ้าง แล้วบ้านของคุณน้าใกล้ๆ บ้าน ปลูกต้นมะยมไว้ค่ะ ปกติเป็นคนไม่ชอบทานของเปรี้ยวเท่าไร แต่พอเห็นมันออกลูกเยอะๆ แล้วก็เลยถามแม่ว่า มะยมนอกจากกินสดกับเชื่อมแล้ว ทำอย่างอื่นอีกได้ไม๊แม่ แม่ก็บอกว่า แม่เคยเอามาแกงเป็ดนะ เพราะแม่จะไม่ชอบแกงเผ็ดเป็ดย่างแบบที่ใส่มะเขือเทศกับสับปรด แม่ว่ามันไม่อร่อย แม่บอกว่า เอามะยมมาทุบๆ พอบุบใส่ไปในแกง อร่อยดี เพราะมะยมจะออกเปรี้ยวนิดๆ ตัดกับความมันของเป็ดย่าง มันจะกลมกล่อมพอดี ว่าแล้วแม่ก็เลยให้พี่ชายไปหาเครื่องโขลกน้ำพริกแกงเผ็ด ส่วนตัวเราเองรับหน้าที่ไปซื้อเป็ดย่างกับกะทิจ้า นี่คือหน้าตาของแกงเผ็ดเป็ดย่างมะยมจ้า น่ากินใช่ไม๊ล่ะ   ขั้นตอนการทำน้ำพริกแกงเผ็ด เดี๋ยวจะลองถามพี่ชายกับแม่ให้อีกที สำหรับเราเป็นมือทำ ก็ขอสาธยายเลยแล้วกันนะคะ  อ้อ อีกอย่าง บ้านเราเป็นครอบครัวที่เคยใหญ่ คือ พ่อ แม่ ลูกๆ อีก 8 คน ฉะนั้น เวลาทำอาหาร จึงทำไซส์ใหญ่ ถึงแม้ตอนนี้พี่ๆ จะแยกครอบครัวกันไป เหลือกันอยู่ 4 คน พ่อ แม่ พี่ชาย และเรา แต่ก็ยังคงไซส์เดิม เพราะพอทำเสร็จ ก็จะต้องโพสต์ลงไลน์กรุ๊ปให้พี่ๆ เห็น แล้วก็จะมีเสียงโทรมาว่า วันนี้เดี๋ยวฉันเข้าไปกินข้าวที่บ้านนะ นี่คงเป็นกลยุทธ์เรียกลูกมากินข้าวบ้านของพ่อกะแม่นั่นเอง สำหรับส่วนผสม ที่บ้านจะใช้วิธีกะเอาค่ะ ไม่มีตายตัว แต่ต่อไปจะพยายามจดเป็นสูตรแบบมาตรฐานมาให้นะคะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก เอาแบบนี้ไปก่อนแระกันค่ะ เอาล่ะ เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
เครื่องปรุง
1. น้ำพริกแกงเผ็ด ประมาณ 2 ทัพพี (สูตรน้ำพริกแกงเผ็ดจะติดตามมาให้อีกทีนะคะ) แต่ถ้าเป็นน้ำพริกที่ซื้อสำเร็จรูป ก็ประมาณครึ่งกิโลค่ะ
2. เป็ดย่างไซส์ใหญ่ 1 ตัว แล่เอาเนื้อ ส่วนกระดูกให้สับเป็นชิ้นพอประมาณเก็บไว้
3. กะทิ 1 กก. (ซื้อกะทิแบบเค้าคั้นสำเร็จ ไปที่ร้านบอกว่าเอามะพร้าว 1 กก. คั้นให้ด้วย จะได้กะทิมาแบบพอดีค่ะ มีหัวกะทิกับหางกะทิแยกมาให้)
4. มะยม 0.5 กก. นำไปล้างให้สะอาดแล้วนำไปบุบเล็กน้อย
5. มะเขือพวง  0.5 กก.
6. ใบโหระพา ตามชอบเลยค่ะ
7. พริกชี้ฟ้า สีเขียว สีแดง ประมาณ 6-7 เม็ด
8. น้ำปลา, น้ำตาลปีบ, น้ำมันหอย เล็กน้อย
9. ใบมะกรูดฉีก ประมาณ 7-8 ใบ
10. น้ำมัน ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. นำกะทิตั้งไฟ ให้แตกมัน จากนั้นปล่อยทิ้งไว้สักครู่ นำกระดูกเป็ดที่สับเป็นชิ้นไว้ไปเคี่ยวในน้ำกะทิ ทำแบบนี้ แม่บอกว่ามันทำให้น้ำหวานจากกระดูกเป็ดออกมา มันจะยิ่งอร่อยมากขึ้นค่ะ
2. นำกะทะขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไป แล้วเอาน้ำพริกลงไปผัดให้หอม
3. พอน้ำพริกเริ่มหอม ก็คือ ถ้าเริ่มจามก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ ให้เอาน้ำปลาเหยาะไปรอบๆ ขอบกะทะ ให้น้ำปลามันไหลลงไป แล้วผัดให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำตาลปีบ ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ลงไปผัดให้เข้ากัน พอน้ำตาลละลายใส่น้ำมันหอยลงไป ผัดต่ออีก จากนั้น ตักกะทิตรงมันๆ ค่ะ หยอดลงไปในน้ำพริก ประมาณ 1 ทัพพี แล้วผัดให้เข้ากัน
4. พอกะทิกับน้ำพริกเข้ากัน ก็เตรียมใส่เนื้อเป็ดที่เราหั่นไว้ลงไปค่ะ พอใส่เนื้อเป็ดลงไปแล้วผัดให้เข้ากัน ตักกะทิราดลงไปแล้วก็ผัดต่อค่ะ กะทิอย่าเพิ่งใส่รวดเดียวหมดนะคะ ค่อยๆ ใส่ เสร็จแล้ว ตักใส่ลงไปในหม้อกะทิค่ะ สำหรับตรงนี้ ถ้าใครไม่ชอบกระดูกเป็ด ก็ให้ตักกระดูกเป็ดออกจากกะทิก่อนค่ะ แต่ที่บ้านชอบก็เลยเอาไว้มันอย่างนั้นเลยค่ะ
5. พอตักเครื่องที่เราปรุงใส่หม้อกะทิ ก็นำไปตั้งไฟให้เดือดจากนั้นชิมรสดู ซึ่งตรงนี้ ถ้ารสชาดอ่อนไปให้เติมเครื่องปรุงรสเพิ่มค่ะ แต่อย่าเพิ่งใส่รสจัดนะคะ เพราะเดี๋ยวต้องเติมมะยมลงไปอีก
6. พอชิมรสได้ที่แล้ว นำมะยมที่บุบแล้วใส่ลงไปในหม้อค่ะ ปล่อยให้เดือดสักพัก ตักชิมดูรสค่ะ
7. พอชิมรสได้ที่แล้ว ใส่มะเขือพวงลงไป ทิ้งไว้สักพัก ใส่ใบมะกรูดฉีก พริกชี้ฟ้าหั่น (พอดีวันนั้นลืมซื้อพริกชี้ฟ้ามาค่ะเลยไม่ได้ใส่) ใส่ใบโหระพาโรยแล้วปิดไฟเป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ จากนั้นกินกะข้าวสวยร้อนๆ หรือขนมจีน รับรองว่าฟินแน่ๆ ค่ะ

สุดท้าย ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ เป็นกระทู้แรกค่ะ ติชมกันได้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่