สวัสดีครับ ก่อนอื่นเลยนะ ...
ผมเป็นคนหนึงที่อ้วนมากๆ และอ้วนสะสมมานาน ต้นขาใหญ่ พุงยื่นๆ ตอนนี้จะปาเข้าหลัก อายุ 30 อยู่แล้ว
ซึ่งสมัยก่อนผมก็อ้วนถึง 150 เลยนะช่วงอายุ 18-19 แต่มาลดเพราะผมชอบออกกำลังกาย
โดยการเล่นเกมส์เต้น ตู้ตามห้าง คือติดมากๆเล่นแบบเหยียบหนักๆได้สบายๆ เพราะชอบฟังเพลงด้วย
ซึ่งตอนนั้นผมใช้เวลาเล่น 1 ปี ผมน้ำหนักลงมา เหลือ แค่ 90 เอง (เหงื่อออกกลับบ้านทุกวัน เพราะไปห้างเล่นนี่หล่ะ)
จนกระทั่งผมมีแฟน ตอนนั้นผมน้ำหนักเหลือ 70 เองนะ และมีอยู่วันหนังผมก็ถูกบอกเลิก โดยที่ผมไม่ได้ทำผิดต่อเขาเลย นะหล่ะ!
ตั้งแต่นั้นผมก็ใช้ชีวิตโดยคิดว่า... ''มีอะไรก็กินได้กินเข้าไป ดีกว่าไม่มีกิน จะได้ลืมๆ'' ผมก็กินทุกอย่างเลยนะครับ ชอบอะไรกินหมด
ทั้ง อาหารต่างๆ ของทอด ของมัน ขนม น้ำอัดลม ชาเขียว กินมันทุกอย่างครับที่ซื้อได้
กินข้าวทีก็จานใหญ่ๆ ก๋วยเตี๋ยวสั่งพิเศษ เพิ่มของตลอด
รวมทั้งบุพเฟ่ไม่ต้องบอกผมไปบ่อยมากคือเน้นกินคุ้มกับเพื่อนๆอะไปหมดเลย เป็นแบบนี้ตั้งแต่สมัยเรียนมาแล้ว
การออกกำลังกาย ก็ทำมั่งไม่ทำมั่ง จนน้ำหนักผมทุกวันนี้ปาเข้าไป 135 กิโล แล้ว
มาถึงวันนี้... วันที่ผมรู้สึกแย่ คือผม หลังๆมาช่วงนี้รู้สึกเหมือนจะเวียนหัวบ่อยๆ บางทีก็ง่วงไม่มีสาเหตุ
ผมก็เลยไปหาหมอที่โรงพยาบาล (จริงๆไม่อยากไปแม่บังคับ ไม่ชอบไปโรงบาล) ปรากฏว่าผมไปตรวจความดัน
ก่อนหาหมอ พยาบาลต้องเช็คถึงสองครั้ง ครั้งแรก ผมได้ 145 ซึ่งสูงมากจนน่าตกใจ เค้าก็เลยให้ผมนั่งพักแปบ
ซักพัก เค้าก็วัดใหม่ คราวนี้ลงมาเหลือ 138 ซึ่งพยาบาลก็บอกว่าน่าห่วงอยู่ดี เค้าเลยให้ผมเจาะเลือดเลย
เพื่อเช็ค ไขมัน และ เบาหวาน (ถึงผมอ้วนแต่ผมเคยเช็คเบาหวานมาเรื่อยๆ แบบห่างๆ ผมไม่เคยเป็น)
ผลปรากฏว่า ''ไขมัน'' ผมอยู่ที่ 224 ซึ่งสูงมาก (เค้าบอกคนธรรมห้ามเกิน 90)
และ ''เบาหวาน'' เค้าก็ตรวจให้ผม แต่ต้องตรวจสองครั้ง ปรากฏว่าครั้งนี้ ผมมีเบาหวานครั้งแรกในชีวิต
เหมือนเริ่มเป็น อยู่ที่ 133 (เบาหวาน หมอบอกว่า น้ำตาลต้องไม่เกิน 129) แต่หมอว่านี้ครั้งแรก
เพราะเบาหวานต้องตรวจถึงสองครั้ง ถึงจะรู้ว่าเป็นเบาหวาน จริงไหม พอผมรู้แบบนี้ผมแทบเครียดเลย
เพราะ ''เบาหวาน'' เป็นโรคที่ผมเกลียดมากที่สุด ไม่อยากเป็นเลย เพราะรักษาไม่หาย
หมอ เลยบอกให้ผมตั้งแต่วันนี้ ต้องเปลี่ยนการกินใหม่หมดหมดทุกอย่าง และนัดผมอีก 1 เดือนมาตรวจเลือดอีกครั้ง
เค้า เน้นให้ผม กินของ ต้ม นึ่ง ย่าง ห้าม!! กินไขมัน กับ น้ำตาล (เลี่ยงเลยจะดีมาก) และ ออกกำลังกายให้เหงื่อเยอะที่สุด
แต่เอ.... ยังไงหล่ะ! จากคนกินได้ทุกอย่างมาถูกบังคับแบบนี้ก็แย่สิ แถมออกกำลังกายเหงื่อออกเยอะ (คนอ้วนจะไหวเรอะ!)
แต่การที่หมอ บังคับผมครั้งนี้มันเหมือน เปลี่ยนผมเลยนะครับ มันทำให้ผมกลับมาคิดว่า... ที่ผ่านมาเราเคยดูแลตัวเองไหม
ซึ่งหลังจากหาหมอ ผมก็รู้สึกอยากจะลองลดดูซักที แม้จะรู้ว่าทรมาณที่ไม่ได้กินอยากที่กินแค่ไหน ผมก็ต้องอดทน
เพราะผมคิดอยู่ในหัวเป็นกำลังใจว่า ''ถ้าไม่อยาก เป็นเบาหวาน ก็ต้องทำ''
*ซึ่งหลักจากหาหมอมาแล้วผมก็ทำดังนี้ ....
1.เช้า - เย็น ออกกำลังกาย เต้นแอโรบิค ให้เหงื่อออก 30 นาที ทุกวัน (แต่ใจอยากวิ่ง แต่หมอบอกอย่า เพราะเราอ้วน ข้อเสื่อมได้)
2.อาหารมื้อเช้า - ข้าวกล้อง 2 ช้อนโตะ + ปลาทูนิ่งตัวเล็ก ครึ่งตัว + น้ำพริกกะปิ + ผักต้ม (กระหล่ำ ผักกาดขาว ผักกระเฉด)
3.อาหารกลางวัน - แบบมื้อเช้า ห่อไปกินทำงาน
4.อาหารเย็น - งดครับไม่กินมานานแล้ว แต่ถ้าอยากกินก็กินแบบมื้อเช้า (อดอาหาร ลดความอ้วนไม่ถูกเหรอ)
5. ผลไม้ - ผมจะกินแทนอาหารมื้อๆนั้นเช่น ถ้าเช้าผมกินผลไม้ ผมก็ไม่กินข้าวเลย
6.น้ำเปล่า กินวันหล่ะ สองขวดใหญ่ (ผมเป็นคนชอบกินน้ำเปล่ามากๆมานานแล้ว ยอมรับว่าเมื่อก่อนติด ชาเขียว น้ำอัดลม ขวดใหญ่ๆเมือนกัน แต่หลังๆกินนานๆทีและ)
7.อาหารแนวลดน้ำหนัก - ที่ผมคิดว่าจะกินตลอดเดือนนี้ คือ แกงส้มผักรวม (ใส่ผักเยอะๆ เนื้อปลาน้อยๆ) กับ น้ำยาป่า
โดยที่เน้นแต่ผักล้วนๆไม่เอาแป้งเลย เพราะส่วนตัวผมกินผัดแหลกอยู่แล้ว (ผมกินเส้นแก้วแทนขนมจีน ได้ไหมหว่า)
8.เลิกนอนบ่อยๆ นอนเป็นเวลา ไม่กินแล้วนอนแบบเดิมแล้ว
9.เลิกทุกอย่าง ที่มี ไขมัน น้ำตาล เด็ดขาด!!! ไม่ว่าจะอาหาร ผลไม้ หรือ ของกิน (ผมไม่ได้เวอร์นะ แต่ผมอยากให้มันมีน้อยที่สุดอ่ะ กลัวตรวจเลือดไม่ผ่าน)
ซึ่งจากที่ผมทำแบบนี้มาได้สองวัน คนรอบๆตัวผมก็ถามผมว่า... ''ไหวเหรอ อดใจได้เหรอ มันยากนะ จะทรมานตัวเองได้เหรอ''
ความรู้สึกที่ทำมาผมบอกเลยว่า ทรมาณมากครับ ผมเพ่งจะรู้ว่าร่างกายเราเนี่ยเหมือนมันดื้อ ถ้าไม่ได้รับสิ่งที่มันเคยได้รับมา
มันจะเจ็บปวดในใจมากๆเหมือนหิวๆ และสมองก็บอกให้อยากกินตลอดเวลาด้วย แต่ผมก็มีกำลังใจจากคนในครอบครัวดี
ผมก็เลยสู้ๆตอนนี้ผมเริ่มคุมมันได้บ้างแล้วครับ และผมจะพยามทำแบบนี้ให้ได้ทั้งเดือน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
*เลยอยากจะถามเพื่อนๆที่กำลัง ''ลดความอ้วน'' หรือ ''ลดน้ำหนัก'' อยู่ หรือเคยลดมาได้จนผอมดั่งใจแล้วว่า..
มีวิธีอะไรพอจะแนะนำเพิ่มเติมผมอีกบ้างครับ เหมือนผมเป็นมือใหม่ ในการลดอยู่ ผมควรเดินไปทางไหนให้ได้ผลที่สุดดีครับ
ยังไงช่วยแนะนำผมเพิ่มเติมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
เมื่อวันนี้! ผมถูกบังคับให้ ''ลดความอ้วน'' มีวิธีอะไรแนะนำได้บ้างครับ
ผมเป็นคนหนึงที่อ้วนมากๆ และอ้วนสะสมมานาน ต้นขาใหญ่ พุงยื่นๆ ตอนนี้จะปาเข้าหลัก อายุ 30 อยู่แล้ว
ซึ่งสมัยก่อนผมก็อ้วนถึง 150 เลยนะช่วงอายุ 18-19 แต่มาลดเพราะผมชอบออกกำลังกาย
โดยการเล่นเกมส์เต้น ตู้ตามห้าง คือติดมากๆเล่นแบบเหยียบหนักๆได้สบายๆ เพราะชอบฟังเพลงด้วย
ซึ่งตอนนั้นผมใช้เวลาเล่น 1 ปี ผมน้ำหนักลงมา เหลือ แค่ 90 เอง (เหงื่อออกกลับบ้านทุกวัน เพราะไปห้างเล่นนี่หล่ะ)
จนกระทั่งผมมีแฟน ตอนนั้นผมน้ำหนักเหลือ 70 เองนะ และมีอยู่วันหนังผมก็ถูกบอกเลิก โดยที่ผมไม่ได้ทำผิดต่อเขาเลย นะหล่ะ!
ตั้งแต่นั้นผมก็ใช้ชีวิตโดยคิดว่า... ''มีอะไรก็กินได้กินเข้าไป ดีกว่าไม่มีกิน จะได้ลืมๆ'' ผมก็กินทุกอย่างเลยนะครับ ชอบอะไรกินหมด
ทั้ง อาหารต่างๆ ของทอด ของมัน ขนม น้ำอัดลม ชาเขียว กินมันทุกอย่างครับที่ซื้อได้
กินข้าวทีก็จานใหญ่ๆ ก๋วยเตี๋ยวสั่งพิเศษ เพิ่มของตลอด
รวมทั้งบุพเฟ่ไม่ต้องบอกผมไปบ่อยมากคือเน้นกินคุ้มกับเพื่อนๆอะไปหมดเลย เป็นแบบนี้ตั้งแต่สมัยเรียนมาแล้ว
การออกกำลังกาย ก็ทำมั่งไม่ทำมั่ง จนน้ำหนักผมทุกวันนี้ปาเข้าไป 135 กิโล แล้ว
มาถึงวันนี้... วันที่ผมรู้สึกแย่ คือผม หลังๆมาช่วงนี้รู้สึกเหมือนจะเวียนหัวบ่อยๆ บางทีก็ง่วงไม่มีสาเหตุ
ผมก็เลยไปหาหมอที่โรงพยาบาล (จริงๆไม่อยากไปแม่บังคับ ไม่ชอบไปโรงบาล) ปรากฏว่าผมไปตรวจความดัน
ก่อนหาหมอ พยาบาลต้องเช็คถึงสองครั้ง ครั้งแรก ผมได้ 145 ซึ่งสูงมากจนน่าตกใจ เค้าก็เลยให้ผมนั่งพักแปบ
ซักพัก เค้าก็วัดใหม่ คราวนี้ลงมาเหลือ 138 ซึ่งพยาบาลก็บอกว่าน่าห่วงอยู่ดี เค้าเลยให้ผมเจาะเลือดเลย
เพื่อเช็ค ไขมัน และ เบาหวาน (ถึงผมอ้วนแต่ผมเคยเช็คเบาหวานมาเรื่อยๆ แบบห่างๆ ผมไม่เคยเป็น)
ผลปรากฏว่า ''ไขมัน'' ผมอยู่ที่ 224 ซึ่งสูงมาก (เค้าบอกคนธรรมห้ามเกิน 90)
และ ''เบาหวาน'' เค้าก็ตรวจให้ผม แต่ต้องตรวจสองครั้ง ปรากฏว่าครั้งนี้ ผมมีเบาหวานครั้งแรกในชีวิต
เหมือนเริ่มเป็น อยู่ที่ 133 (เบาหวาน หมอบอกว่า น้ำตาลต้องไม่เกิน 129) แต่หมอว่านี้ครั้งแรก
เพราะเบาหวานต้องตรวจถึงสองครั้ง ถึงจะรู้ว่าเป็นเบาหวาน จริงไหม พอผมรู้แบบนี้ผมแทบเครียดเลย
เพราะ ''เบาหวาน'' เป็นโรคที่ผมเกลียดมากที่สุด ไม่อยากเป็นเลย เพราะรักษาไม่หาย
หมอ เลยบอกให้ผมตั้งแต่วันนี้ ต้องเปลี่ยนการกินใหม่หมดหมดทุกอย่าง และนัดผมอีก 1 เดือนมาตรวจเลือดอีกครั้ง
เค้า เน้นให้ผม กินของ ต้ม นึ่ง ย่าง ห้าม!! กินไขมัน กับ น้ำตาล (เลี่ยงเลยจะดีมาก) และ ออกกำลังกายให้เหงื่อเยอะที่สุด
แต่เอ.... ยังไงหล่ะ! จากคนกินได้ทุกอย่างมาถูกบังคับแบบนี้ก็แย่สิ แถมออกกำลังกายเหงื่อออกเยอะ (คนอ้วนจะไหวเรอะ!)
แต่การที่หมอ บังคับผมครั้งนี้มันเหมือน เปลี่ยนผมเลยนะครับ มันทำให้ผมกลับมาคิดว่า... ที่ผ่านมาเราเคยดูแลตัวเองไหม
ซึ่งหลังจากหาหมอ ผมก็รู้สึกอยากจะลองลดดูซักที แม้จะรู้ว่าทรมาณที่ไม่ได้กินอยากที่กินแค่ไหน ผมก็ต้องอดทน
เพราะผมคิดอยู่ในหัวเป็นกำลังใจว่า ''ถ้าไม่อยาก เป็นเบาหวาน ก็ต้องทำ''
*ซึ่งหลักจากหาหมอมาแล้วผมก็ทำดังนี้ ....
1.เช้า - เย็น ออกกำลังกาย เต้นแอโรบิค ให้เหงื่อออก 30 นาที ทุกวัน (แต่ใจอยากวิ่ง แต่หมอบอกอย่า เพราะเราอ้วน ข้อเสื่อมได้)
2.อาหารมื้อเช้า - ข้าวกล้อง 2 ช้อนโตะ + ปลาทูนิ่งตัวเล็ก ครึ่งตัว + น้ำพริกกะปิ + ผักต้ม (กระหล่ำ ผักกาดขาว ผักกระเฉด)
3.อาหารกลางวัน - แบบมื้อเช้า ห่อไปกินทำงาน
4.อาหารเย็น - งดครับไม่กินมานานแล้ว แต่ถ้าอยากกินก็กินแบบมื้อเช้า (อดอาหาร ลดความอ้วนไม่ถูกเหรอ)
5. ผลไม้ - ผมจะกินแทนอาหารมื้อๆนั้นเช่น ถ้าเช้าผมกินผลไม้ ผมก็ไม่กินข้าวเลย
6.น้ำเปล่า กินวันหล่ะ สองขวดใหญ่ (ผมเป็นคนชอบกินน้ำเปล่ามากๆมานานแล้ว ยอมรับว่าเมื่อก่อนติด ชาเขียว น้ำอัดลม ขวดใหญ่ๆเมือนกัน แต่หลังๆกินนานๆทีและ)
7.อาหารแนวลดน้ำหนัก - ที่ผมคิดว่าจะกินตลอดเดือนนี้ คือ แกงส้มผักรวม (ใส่ผักเยอะๆ เนื้อปลาน้อยๆ) กับ น้ำยาป่า
โดยที่เน้นแต่ผักล้วนๆไม่เอาแป้งเลย เพราะส่วนตัวผมกินผัดแหลกอยู่แล้ว (ผมกินเส้นแก้วแทนขนมจีน ได้ไหมหว่า)
8.เลิกนอนบ่อยๆ นอนเป็นเวลา ไม่กินแล้วนอนแบบเดิมแล้ว
9.เลิกทุกอย่าง ที่มี ไขมัน น้ำตาล เด็ดขาด!!! ไม่ว่าจะอาหาร ผลไม้ หรือ ของกิน (ผมไม่ได้เวอร์นะ แต่ผมอยากให้มันมีน้อยที่สุดอ่ะ กลัวตรวจเลือดไม่ผ่าน)
ซึ่งจากที่ผมทำแบบนี้มาได้สองวัน คนรอบๆตัวผมก็ถามผมว่า... ''ไหวเหรอ อดใจได้เหรอ มันยากนะ จะทรมานตัวเองได้เหรอ''
ความรู้สึกที่ทำมาผมบอกเลยว่า ทรมาณมากครับ ผมเพ่งจะรู้ว่าร่างกายเราเนี่ยเหมือนมันดื้อ ถ้าไม่ได้รับสิ่งที่มันเคยได้รับมา
มันจะเจ็บปวดในใจมากๆเหมือนหิวๆ และสมองก็บอกให้อยากกินตลอดเวลาด้วย แต่ผมก็มีกำลังใจจากคนในครอบครัวดี
ผมก็เลยสู้ๆตอนนี้ผมเริ่มคุมมันได้บ้างแล้วครับ และผมจะพยามทำแบบนี้ให้ได้ทั้งเดือน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
*เลยอยากจะถามเพื่อนๆที่กำลัง ''ลดความอ้วน'' หรือ ''ลดน้ำหนัก'' อยู่ หรือเคยลดมาได้จนผอมดั่งใจแล้วว่า..
มีวิธีอะไรพอจะแนะนำเพิ่มเติมผมอีกบ้างครับ เหมือนผมเป็นมือใหม่ ในการลดอยู่ ผมควรเดินไปทางไหนให้ได้ผลที่สุดดีครับ
ยังไงช่วยแนะนำผมเพิ่มเติมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ