สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เราอยากจะมาแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับการศึกษาเมล็ดเจีย ก่อนที่จะตัดสินใจรับประทานค่ะ
คือจริงๆ ก่อนหน้าที่เมล็ดเจีย จะ BOOM เราเคยรู้จักมาก่อนแล้ว แต่บางแหล่งบอกว่าคล้ายกับเมล็กแมงลัก
ซึ่งแท้จริงแล้วมันค่อนข้างแตกต่างกันค่ะ แต่มันต่างกันยังไง เราก็ไม่รู้
ตอนแรกเลยตัดสินใจลองซื้อเมล็ดแมงลักมากินดูก่อน คือต้องออกตัวก่อนเลยนะ ว่า เกลียดเมล็ดอะไรพวกนี้มากเลย
ที่มีลักษณะ พองตัวใสๆ กินแล้ว แบบบอกไม่ถูกอะ
สรุป กินเมล็ดแมงลักแช่น้ำ ผสมนั้นนี่ได้สักพัก ไม่เวิร์คค่ะ ขอบ๊าย บายยย
จนได้มาตัดสินใจศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเมล็ดเจีย ซึ่งเราก็พยายามหาหลายๆ แหล่งนะคะ
เสิร์ชกูเกิ้ล ดูตามเว็บต่างๆ อื่นๆ มากมายก็แล้ว แต่ก็ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้
จนก่อนตัดสินใจจะซื้อมากินค่ะ (เราซื้อมากินเอง โนวววอิงโฆษณาแฝงงงนะคะ ไม่ได้มี Sponsor แต่อย่างใด )
ต่อไปนี้จะเป็นรายละเอียดของเมล็ดเจียค่ะ
เริ่มที่ ประโยชน์และสรรพคุณของเมล็ดเจีย
-มีโอเมก้า 3 มากกว่าปลาแซลมอนถึง 8 เท่า (เทียบที่น้ำหนักเท่ากัน)
-มีแมกนีเซียมเป็น 15 เท่า ของบล็อกโคลี่
-มีแคลเซียมเป็น 5เท่าของนม
-มีธาตุเหล็กมากเป็น3เท่าของผักโขม
-มี แอนตี้ออกซิเดนท์มากเป็น3เท่าของบลูเบอร์รี่
คุณค่าทางอาหารของเมล็ดเจีย
-ช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง
-ทำให้ห่างไกลโรคเบาหวาน
-ช่วยช่วยบำรุงสมองและความจำ
-ช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานดีขึ้น
-ช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้น
-ช่วยให้ดูอ่อนกว่าวัย (หน้าเด็กๆ)
วิธีทานเมล็ดเจีย
แบบแช่น้ำทาน : นำเมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะไปแช่น้ำ /นม/น้ำเต้าหู้/กาแฟ/น้ำผลไม้ ประมาณ 10-15นาที เมล็ดเจียจะพองตัว เมื่อทานจะช่วยให้อิ่มนานเป็นผลดีต่อคนที่ลดน้ำหนัก
แบบแห้ง : ตักเมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะ โรยอาหาร เช่น ข้าว , สลัดผัก ,พาสต้า ,สปาเกตตี้ , พิซซ่า และก๋วยเตี๋ยว หลังจากทานเข้าไปเมล็ดเจียจะไปพองตัวในท้องของเรา ทำให้อิ่มเร็วขึ้น
อาหารหวาน ได้แก่ ผสมเป็นสเปรด กับเนยเอาไว้ทาขนมปัง นำไปโรยใส่ไอศกรีม กินกับโยเกิร์ต เพิ่มในซีเรียล ทำเมนูสมูธตี้และมิลค์เชค
ปริมาณการทานเมล็ดเจียต่อวัน
-เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ควรบริโภคประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน
-เด็กที่อายุตั้งแต่ 5-18 ปี ควรบริโภคประมาณ 1-2 ช้อนชาต่อวัน
-วัยผู้ใหญ่ ควรบริโภคประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน
-ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรบริโภคแบบป่นประมาณมาณ 5- 6 ช้อนโต๊ะทุกๆ 3 เดือน
เมล็ดเจียลดความอ้วนได้จริงหรือ????
-เมล็ดเจียจะช่วยดูดซึมของเหลว อุดมด้วยไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ เมื่อทานเข้าไปจะไปพองตัวในกระเพาะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นนั่นเอง
- ข้อดีและเด่นที่สุดของเมล็ดเจียในการลดน้ำหนัก ก็คือ เมล็ดเจียที่ได้ชื่อเป็น super food นั้นมีสารอาหารดีๆมากมายทำให้ร่างการเราขาดแคลนสารอาหารที่จำเป็นน้อยลง
แล้ว !!! เมล็ดเจีย เม็ดแมงลัก ต่างกันอย่างไร
หลายคนเข้าใจคิดว่าเมล็ดเจียคือเม็ดแมงลัก ความจริงแล้วเป็นธัญพืชคนละชนิดกันเลยค่ะ แม้ว่าทั้งเมล็ดเจียและเม็ดแมงลักจะนำไปแช่น้ำแล้วจะมีลักษณะคล้ายกันก็ตาม แต่ก็มีความต่างที่เราสามารถสังเกตเห็นได้ค่ะ นั่นคือ ก่อนนำไปแช่น้ำ เมล็ดเจียจะมีลักษณะรี มีสีน้ำตาลเทา มีลวดลายเล็กน้อย ส่วนแมงลักจะมีลักษณะรี มีสีดำเข้ม แต่ถ้าหากนำไปแช่น้ำแล้วจะพบว่าเมล็ดเจียจะเกิดการพองตัวลักษณะเม็ดใส แต่เม็ดแมงลักจะพองตัวลักษณะเม็ดมีเมือกสีขาวขุ่น
เมล็ดเจียกับคุณค่าทางโภชนาการที่ไม่ธรรมดา
จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture) เผยว่า เมล็ดเจียเป็นธัญพืชที่มีคุณสมบัติเป็นทั้ง Super Fruit และ Super Seed อัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ ไฟเบอร์ กรดไขมันดีชนิดโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 แคลเซียม สารต้านอนุมูลอิสระ และโปรตีน ซึ่งเมื่อนำเมล็ดเจียเต็มเมล็ด หรือนำไปบด แล้วนำไปแช่กับของเหลว เช่น น้ำ น้ำผลไม้ หรือ นม เมล็ดเจียจะสามารถพองตัวขึ้นมาได้อีก 12 เท่า ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับอาหารได้ เช่น การเพิ่มเมล็ดเจียในน้ำผลไม้ที่มีสารเรสเวอราทรอล เช่น น้ำทับทิม หรือ น้ำผลไม้ตระกูลเบอร์รี จะช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในเครื่องดื่มนั้น ๆ ได้
เมล็ดเจีย ปริมาณการกินที่ต่อสุขภาพ
เมล็ดเจียเป็นอาหารที่เราสามารถกินได้ทุกวัยเลยนะคะ ลองมาดูกันว่า ปริมาณการบริโภคเมล็ดเจียที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพนั้นควรเป็นอย่างไร
เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ควรบริโภคประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน
เด็กที่อายุตั้งแต่ 5-18 ปี ควรบริโภคประมาณ 1.4-4.3 กรัมต่อวัน
วัยผู้ใหญ่ ควรบริโภคประมาณ 15 กรัม หรือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน
ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรบริโภคแบบป่นประมาณ 33-41 กรัมทุก ๆ 3 เดือน
ครบถ้วนไหมค่ะ สำหรับคุณประโยชน์ของเมล็ดเจีย
โดยส่วนตัวแล้วเราทานเมล็ดเจียกับอะไรร
มาดูกันเลยค่ะ
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ จะตอนเช้า หรือ ตอนเย็น หรือ เวลาหิว แต่อยากได้อาหารที่ไม่หนักท้องก็ต้องตัวนี้เลยยย
ไปต่อที่
โยเกิร์ต กรีก เวรี่เบอร์รี่ ที่มีเนื้อผลไม้ปนอยู่ด้วย กินแล้วอิ่มท้องดีค่ะ เพราะตัวของโยเกิร์ตจะคงตัวกว่า ตัวแรกมะกี้ที่แนะนำ
แล้วก็นี่เลย
สลัดผัก น้ำสลัดงาดำ มือเช้าประจำของเรา เลยแอบใส่เพิ่มเติมเมล็ดเจียลงไป กินแล้วอิ่มท้องไปจนไม่อยากกินข้าวเที่ยงเลยค่ะ
และปิดท้ายด้วย
เมล็ดเจียกับนม ตัวนี้พอแช่น้ำแล้วจะพองตัวเหมือนเมล็ดแมงลัก แต่อยากจะบอกว่า ทานง่ายกว่ามากๆ ค่ะ
จะกินกับนม หรือน้ำผลไม้ก็ได้หมด สรุปคือ ดี
เป็นยังไงบ้างค่ะที่เรานำมาแนะนำวันนี้
ก่อนจากไปต้องบอกเพื่อนๆ หรือคนที่หลงเข้ามาอ่านจนถึงตอนนี้นะคะ
สิ่งที่เรานำมาแชร์ เป็นเพราะว่าเราอยากใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นสิ่งที่บันทึกความทรงจำ หรือเรื่องราวดีๆ
แชร์ในสิ่งที่มันอยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น การกิน การใช้ชีวิต ความสวยความงาม
ขอให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านเข้าใจด้วยนะคะ งดดราม่า ว่ามาขายของ หรือเป็นกระทู้อวยนั้นนี่
#ยินดีที่ได้แชร์
ไปละค่ะ บ๊ายบายยยยย
คุณค่าของเมล็ดเจีย+วิธีการทานเมล็ดเจีย ในรูปแบบของเรา
คือจริงๆ ก่อนหน้าที่เมล็ดเจีย จะ BOOM เราเคยรู้จักมาก่อนแล้ว แต่บางแหล่งบอกว่าคล้ายกับเมล็กแมงลัก
ซึ่งแท้จริงแล้วมันค่อนข้างแตกต่างกันค่ะ แต่มันต่างกันยังไง เราก็ไม่รู้
ตอนแรกเลยตัดสินใจลองซื้อเมล็ดแมงลักมากินดูก่อน คือต้องออกตัวก่อนเลยนะ ว่า เกลียดเมล็ดอะไรพวกนี้มากเลย
ที่มีลักษณะ พองตัวใสๆ กินแล้ว แบบบอกไม่ถูกอะ
สรุป กินเมล็ดแมงลักแช่น้ำ ผสมนั้นนี่ได้สักพัก ไม่เวิร์คค่ะ ขอบ๊าย บายยย
จนได้มาตัดสินใจศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเมล็ดเจีย ซึ่งเราก็พยายามหาหลายๆ แหล่งนะคะ
เสิร์ชกูเกิ้ล ดูตามเว็บต่างๆ อื่นๆ มากมายก็แล้ว แต่ก็ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้
จนก่อนตัดสินใจจะซื้อมากินค่ะ (เราซื้อมากินเอง โนวววอิงโฆษณาแฝงงงนะคะ ไม่ได้มี Sponsor แต่อย่างใด )
ต่อไปนี้จะเป็นรายละเอียดของเมล็ดเจียค่ะ
เริ่มที่ ประโยชน์และสรรพคุณของเมล็ดเจีย
-มีโอเมก้า 3 มากกว่าปลาแซลมอนถึง 8 เท่า (เทียบที่น้ำหนักเท่ากัน)
-มีแมกนีเซียมเป็น 15 เท่า ของบล็อกโคลี่
-มีแคลเซียมเป็น 5เท่าของนม
-มีธาตุเหล็กมากเป็น3เท่าของผักโขม
-มี แอนตี้ออกซิเดนท์มากเป็น3เท่าของบลูเบอร์รี่
คุณค่าทางอาหารของเมล็ดเจีย
-ช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง
-ทำให้ห่างไกลโรคเบาหวาน
-ช่วยช่วยบำรุงสมองและความจำ
-ช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานดีขึ้น
-ช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้น
-ช่วยให้ดูอ่อนกว่าวัย (หน้าเด็กๆ)
วิธีทานเมล็ดเจีย
แบบแช่น้ำทาน : นำเมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะไปแช่น้ำ /นม/น้ำเต้าหู้/กาแฟ/น้ำผลไม้ ประมาณ 10-15นาที เมล็ดเจียจะพองตัว เมื่อทานจะช่วยให้อิ่มนานเป็นผลดีต่อคนที่ลดน้ำหนัก
แบบแห้ง : ตักเมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะ โรยอาหาร เช่น ข้าว , สลัดผัก ,พาสต้า ,สปาเกตตี้ , พิซซ่า และก๋วยเตี๋ยว หลังจากทานเข้าไปเมล็ดเจียจะไปพองตัวในท้องของเรา ทำให้อิ่มเร็วขึ้น
อาหารหวาน ได้แก่ ผสมเป็นสเปรด กับเนยเอาไว้ทาขนมปัง นำไปโรยใส่ไอศกรีม กินกับโยเกิร์ต เพิ่มในซีเรียล ทำเมนูสมูธตี้และมิลค์เชค
ปริมาณการทานเมล็ดเจียต่อวัน
-เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ควรบริโภคประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน
-เด็กที่อายุตั้งแต่ 5-18 ปี ควรบริโภคประมาณ 1-2 ช้อนชาต่อวัน
-วัยผู้ใหญ่ ควรบริโภคประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน
-ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรบริโภคแบบป่นประมาณมาณ 5- 6 ช้อนโต๊ะทุกๆ 3 เดือน
เมล็ดเจียลดความอ้วนได้จริงหรือ????
-เมล็ดเจียจะช่วยดูดซึมของเหลว อุดมด้วยไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ เมื่อทานเข้าไปจะไปพองตัวในกระเพาะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นนั่นเอง
- ข้อดีและเด่นที่สุดของเมล็ดเจียในการลดน้ำหนัก ก็คือ เมล็ดเจียที่ได้ชื่อเป็น super food นั้นมีสารอาหารดีๆมากมายทำให้ร่างการเราขาดแคลนสารอาหารที่จำเป็นน้อยลง
แล้ว !!! เมล็ดเจีย เม็ดแมงลัก ต่างกันอย่างไร
หลายคนเข้าใจคิดว่าเมล็ดเจียคือเม็ดแมงลัก ความจริงแล้วเป็นธัญพืชคนละชนิดกันเลยค่ะ แม้ว่าทั้งเมล็ดเจียและเม็ดแมงลักจะนำไปแช่น้ำแล้วจะมีลักษณะคล้ายกันก็ตาม แต่ก็มีความต่างที่เราสามารถสังเกตเห็นได้ค่ะ นั่นคือ ก่อนนำไปแช่น้ำ เมล็ดเจียจะมีลักษณะรี มีสีน้ำตาลเทา มีลวดลายเล็กน้อย ส่วนแมงลักจะมีลักษณะรี มีสีดำเข้ม แต่ถ้าหากนำไปแช่น้ำแล้วจะพบว่าเมล็ดเจียจะเกิดการพองตัวลักษณะเม็ดใส แต่เม็ดแมงลักจะพองตัวลักษณะเม็ดมีเมือกสีขาวขุ่น
เมล็ดเจียกับคุณค่าทางโภชนาการที่ไม่ธรรมดา
จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture) เผยว่า เมล็ดเจียเป็นธัญพืชที่มีคุณสมบัติเป็นทั้ง Super Fruit และ Super Seed อัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ ไฟเบอร์ กรดไขมันดีชนิดโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 แคลเซียม สารต้านอนุมูลอิสระ และโปรตีน ซึ่งเมื่อนำเมล็ดเจียเต็มเมล็ด หรือนำไปบด แล้วนำไปแช่กับของเหลว เช่น น้ำ น้ำผลไม้ หรือ นม เมล็ดเจียจะสามารถพองตัวขึ้นมาได้อีก 12 เท่า ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับอาหารได้ เช่น การเพิ่มเมล็ดเจียในน้ำผลไม้ที่มีสารเรสเวอราทรอล เช่น น้ำทับทิม หรือ น้ำผลไม้ตระกูลเบอร์รี จะช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในเครื่องดื่มนั้น ๆ ได้
เมล็ดเจีย ปริมาณการกินที่ต่อสุขภาพ
เมล็ดเจียเป็นอาหารที่เราสามารถกินได้ทุกวัยเลยนะคะ ลองมาดูกันว่า ปริมาณการบริโภคเมล็ดเจียที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพนั้นควรเป็นอย่างไร
เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ควรบริโภคประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน
เด็กที่อายุตั้งแต่ 5-18 ปี ควรบริโภคประมาณ 1.4-4.3 กรัมต่อวัน
วัยผู้ใหญ่ ควรบริโภคประมาณ 15 กรัม หรือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน
ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรบริโภคแบบป่นประมาณ 33-41 กรัมทุก ๆ 3 เดือน
ครบถ้วนไหมค่ะ สำหรับคุณประโยชน์ของเมล็ดเจีย
โดยส่วนตัวแล้วเราทานเมล็ดเจียกับอะไรร
มาดูกันเลยค่ะ
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ จะตอนเช้า หรือ ตอนเย็น หรือ เวลาหิว แต่อยากได้อาหารที่ไม่หนักท้องก็ต้องตัวนี้เลยยย
ไปต่อที่
โยเกิร์ต กรีก เวรี่เบอร์รี่ ที่มีเนื้อผลไม้ปนอยู่ด้วย กินแล้วอิ่มท้องดีค่ะ เพราะตัวของโยเกิร์ตจะคงตัวกว่า ตัวแรกมะกี้ที่แนะนำ
แล้วก็นี่เลย
สลัดผัก น้ำสลัดงาดำ มือเช้าประจำของเรา เลยแอบใส่เพิ่มเติมเมล็ดเจียลงไป กินแล้วอิ่มท้องไปจนไม่อยากกินข้าวเที่ยงเลยค่ะ
และปิดท้ายด้วย
เมล็ดเจียกับนม ตัวนี้พอแช่น้ำแล้วจะพองตัวเหมือนเมล็ดแมงลัก แต่อยากจะบอกว่า ทานง่ายกว่ามากๆ ค่ะ
จะกินกับนม หรือน้ำผลไม้ก็ได้หมด สรุปคือ ดี
เป็นยังไงบ้างค่ะที่เรานำมาแนะนำวันนี้
ก่อนจากไปต้องบอกเพื่อนๆ หรือคนที่หลงเข้ามาอ่านจนถึงตอนนี้นะคะ
สิ่งที่เรานำมาแชร์ เป็นเพราะว่าเราอยากใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นสิ่งที่บันทึกความทรงจำ หรือเรื่องราวดีๆ
แชร์ในสิ่งที่มันอยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น การกิน การใช้ชีวิต ความสวยความงาม
ขอให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านเข้าใจด้วยนะคะ งดดราม่า ว่ามาขายของ หรือเป็นกระทู้อวยนั้นนี่
#ยินดีที่ได้แชร์
ไปละค่ะ บ๊ายบายยยยย