ประโยชน์ของชมพู่ ผลไม้ฉ่ำน้ำ มีน้ำตาลน้อย หลายคนทานชมพู่เพื่อช่วยลดน้ำหนัก ลดความอ้วน มาดูกันว่าชมพู่มีประโยชน์ต่อร่างกายยังไงบ้าง

1.อุดมไปด้วย ไฟเบอร์ ช่วยในการขับถ่าย
ชมพู่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำและชนิดไม่ละลายน้ำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับถ่าย
2.ผลไม้น้ำตาลน้อย เหมาะสำหรับ ผู้ดูแลสุขภาพ
ชมพู่ทับทิมจันทร์ น้ำหนัก 100 กรัม หรือ 1 ผลขนาดกลาง มีน้ำตาลประมาณ 7.7-7.9 กรัม หรือคิดเป็น 1.9-2 ช้อนชา ส่วนชมพู่มะเหมี่ยว มีน้ำตาล 5.8 กรัม หรือ 1.5 ช้อนชา ต่อน้ำหนัก 100 กรัม (ประมาณ 1 ผลขนาดกลาง) ชมพู่ทูลเกล้า 1 ผลขนาดใหญ่ น้ำหนัก 100 กรัม มีปริมาณน้ำตาล 7.9 กรัม หรือประมาณ 2 ช้อนชา เท่ากับปริมาณน้ำตาลในชมพู่เพชร ในน้ำหนักเท่ากัน
3. มีสารต้าน อนุมูลอิสระ วิตามิน A, C, E
ชมพู่เป็นผลไม้ที่มีทั้งวิตามินซี วิตามินเอ และวิตามินอี อีกทั้งยังฉ่ำน้ำ รับประทานแล้วเพิ่มความสดชื่น เติมน้ำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และวิตามินเอก็มีส่วนช่วยบำรุงสายตา ส่วนวิตามินซีก็ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน และลดความรุนแรงของโรคหวัด
4. ช่วยลด คอเลสเตอรอล
ไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำในชมพู่มีคุณสมบัติลดการดูดซึมไขมันในระบบทางเดินอาหาร ช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือดได้อีกทาง อีกทั้งในชมพู่ยังอุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ โพแทสเซียม สารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยบำรุงหลอดเลือดและช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้

ข้อควรระวังในการทานชมพู่
ในส่วน เมล็ด ราก และใบชมพู่ มีสาร ไซยาไนด์ (Cyanide) ซึ่งเป็นมีสารที่เป็นพิษต่อร่างกาย ถึงแม้จะมีอยู่ในปริมาณที่ไม่มาก แต่ก็ไม่ควรทานเข้าไป เพราะสารไซยาไนด์จะส่งผลร้ายต่อต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดได้
ข้อมูล กรมส่งเสริมการเกษตร และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
"ชมพู่" ผลไม้ที่มีทุกฤดูกาลและคุณประโยชน์มากมาย
1.อุดมไปด้วย ไฟเบอร์ ช่วยในการขับถ่าย
ชมพู่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำและชนิดไม่ละลายน้ำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับถ่าย
2.ผลไม้น้ำตาลน้อย เหมาะสำหรับ ผู้ดูแลสุขภาพ
ชมพู่ทับทิมจันทร์ น้ำหนัก 100 กรัม หรือ 1 ผลขนาดกลาง มีน้ำตาลประมาณ 7.7-7.9 กรัม หรือคิดเป็น 1.9-2 ช้อนชา ส่วนชมพู่มะเหมี่ยว มีน้ำตาล 5.8 กรัม หรือ 1.5 ช้อนชา ต่อน้ำหนัก 100 กรัม (ประมาณ 1 ผลขนาดกลาง) ชมพู่ทูลเกล้า 1 ผลขนาดใหญ่ น้ำหนัก 100 กรัม มีปริมาณน้ำตาล 7.9 กรัม หรือประมาณ 2 ช้อนชา เท่ากับปริมาณน้ำตาลในชมพู่เพชร ในน้ำหนักเท่ากัน
3. มีสารต้าน อนุมูลอิสระ วิตามิน A, C, E
ชมพู่เป็นผลไม้ที่มีทั้งวิตามินซี วิตามินเอ และวิตามินอี อีกทั้งยังฉ่ำน้ำ รับประทานแล้วเพิ่มความสดชื่น เติมน้ำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และวิตามินเอก็มีส่วนช่วยบำรุงสายตา ส่วนวิตามินซีก็ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน และลดความรุนแรงของโรคหวัด
4. ช่วยลด คอเลสเตอรอล
ไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำในชมพู่มีคุณสมบัติลดการดูดซึมไขมันในระบบทางเดินอาหาร ช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือดได้อีกทาง อีกทั้งในชมพู่ยังอุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ โพแทสเซียม สารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยบำรุงหลอดเลือดและช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้
ข้อควรระวังในการทานชมพู่
ในส่วน เมล็ด ราก และใบชมพู่ มีสาร ไซยาไนด์ (Cyanide) ซึ่งเป็นมีสารที่เป็นพิษต่อร่างกาย ถึงแม้จะมีอยู่ในปริมาณที่ไม่มาก แต่ก็ไม่ควรทานเข้าไป เพราะสารไซยาไนด์จะส่งผลร้ายต่อต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดได้
ข้อมูล กรมส่งเสริมการเกษตร และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ