บทที่ 11: เยี่ยมเยียน
เก็บๆๆ ๆ ฉันกับนายพีทต่างคนต่างช่วยกันเก็บของ แต่ก็ยังไม่วายวกกลับมากวนประสาทฉันอีกจนได้ ตามสไตล์คุณพีทบ้ากาม
“อันนี้ฉันต้องเก็บไปด้วยไหมน๊า~” พีทที่ตอนนี้ใส่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้น กำลังยืนชู เอิ่ม...กางเกงในของฉันอยู่ด้วยหน้าตาที่ภาคภูมิใจมาก
“เลิกกวนซักที อยากได้นักก็เก็บเอาไปเลย” ฉันบ่นนายนั่น และหันกลับมาจัดของต่อ
“ว้าว! ใจดีจังเลย งั้นขอหลายๆ ตัวได้ไหม” พีทพูดพลางค้นตู้ฉันต่อ
“ไอ้พีท!” ขอโทษที่ต้องหยาบคายนะคะ แค่มันทนไม่ไหวแล้วววว
“อย่าโกรธสิ ก็บอกเองนะว่าถ้าอยากได้ก็ให้เก็บๆ ไป” นายนั่นหันมาพูด และทำหน้าตาไร้เดียงสา
“เอากลับไปวางไว้ที่เดิม” ฉันพูดพร้อมกับชี้หน้าพีท ซึ่งเค้าก็ทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะเดินมาทางฉัน รู้สึกสังหรณ์ใจจังว่าจะมากวนอะไรแถวนี้อีก
“งั้นขอเก็บชิ้นนี้ไว้ได้ไหม” พีทเข้ามากอดรวบตัวฉันไว้ ตอนนี้จะตบจะตีนายนี่ก็ทำไม่ได้ ก็ดันมารวบตัวฉันไว้ แต่จะขยับเขยื้อนยังลำบาก
"ฉันขอเธอ เก็บเธอไปด้วยได้ไหม" เค้ากระซิบที่ข้างหูของฉัน อึ้ย~
"นี่นายจะจริงจังหน่อยได้ไหมเนี่ย พรุ่งนี้ป๊ากับแม่ฉันจะมาล่ะนะ" ฉันพูดพลางพยายามขัดขืน
"อุ้ย ไล่เค้าแต่ตัวเองหน้าแดงเถือกเลยนะ" พีทพูดพลางซุกไซ้อยู่ที่ผมข้างหูของฉัน เขิลก็เขิลนะฉัน แต่พอนายนี่พูดมาอย่างนี้ความทรงจำแย่ๆ ที่นายพีททำก็เข้ามาในหัวฉัน เริ่มรู้สึกโมโหตะหงิดๆ จะไม่ให้ออกไปใช่ไหมนายตายแน่ไอ้คุณพีท
แล้วฉันก็หันหน้าเข้าหานายพีท นายนั่นมองหน้าฉันอย่างตกใจก่อนที่จะเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ฉันแทน
"หันหน้ามาแบบนี้ เดี๋ยวก็โดนจูบซะหรอก" ตาพีทคนบ้ากามพูดขึ้น ฉันจึงเลิกคิ้วท้าทาย และพูดตอบ
"แน่จริงก็เข้ามา"
พีทยิ้มอย่างกับเด็กได้ของเล่นก่อนที่จะค่อยๆ โน้มตัวลงมา ตอนนี้จมูกของเค้าชนอยู่กับจมูกของฉัน เค้าไล่จมูกของเค้าไปมาอยู่ที่จมูกฉันอย่างอ้อยอิ่ง แล้วพีทก็พูดต่อ
"เกี๊ยว เธอรู้ไหมฉันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะพูดกับเธอนะ ไม่รู้ทำไมทั้งๆ ที่เราอยู่คอนโดเดียวกันแท้ๆ แต่ตลอด 2 - 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันกลับคิดถึงเธอมะ...อ๊ากก" หึหึ ฉันไม่ปล่อยให้พีทพูดจบ ก็เดี๋ยวใจฉันไม่แข็งแรงอีก ฉันจึงตัดสินใจกัดเข้าไปที่ริมฝีปากเค้า ตอนนี้นายพีทกำลังดิ้นรนจับปากตัวเองอยู่ต่อหน้าฉัน ซะใจจริงๆ เลยยยย
หลังจากที่ฉันกัดริมฝีปากเค้าซักพัก และดูพีทดิ้นๆ จนหนำใจแล้วฉันจึงปล่อยริมฝีปากเค้าให้เป็นอิสระ
"ฮือออ~ ยัยผู้หญิงใจร้าย" พีทพูดขึ้นขณะที่จับริมฝีปากล่างของตัวเองไปด้วย
"อยากโดนอีกไหมล่ะ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้! ช่วยเก็บของต่อได้แล้วไม่งั้นนายโดนดีแน่" ฉันพูดพลางพับเสื้อผ้านายพีทไปด้วย
"ถ้าไม่ช่วยเธอเก็บของ ฉันจะโดนเธอกัดปากอีกเหรอ" เค้าทำท่าครุ่นคิด ก่อนที่จะพูดต่อ
"จริงๆ มันก็คุ้มนะ มาๆ กัดปากกันอีก" อิตาพีทวิ่งเข้ามาหาฉันอีกครั้ง แต่คราวนี้ฉันขว้างเสื้อที่กำลังพับอยู่ใส่นายนั่น ซึ่งพีทก็ขำเบาๆ และเปลี่ยนท่าทีมาช่วยฉันเก็บต่อ
“ช่วยก็ได้ แต่เบื่อแล้วมานั่งกัดปากกันอีกนะ” อีตาพีทพูดพลางขยิบตาใส่ฉัน
เฮ้ออออ..เชื่อเถอะอีเดี๋ยวก็ลุกมากวนอีก ไม่มีทางสงบได้นานหรอก แล้ววันนี้จะเก็บทันไหมเนี่ยยยยย!
เวลา 02.00 น..
เพลียมากๆ เลยฉัน ตอนนี้พวกเราเอาของใช้ส่วนตัว และเสื้อผ้าของพีทที่ตากอยู่เข้าไปเก็บในห้องนอนของเค้าหมดแล้ว ซึ่งเราตัดสินใจว่าจะปิดล็อกห้องนอนใหญ่ และจะบอกป๊ากับแม่ว่าเจ้าของห้องไปต่างประเทศ ส่วนฉันมาเช่าช่วงที่เค้าไม่อยู่ แผนเลิศ!
ว่าแล้วฉันจึงเดินไล่ปิดไฟที่ไม่ใช้ทั้งหมด และเดินเข้าไปหาพีท
“พีทล็อกห้องแล้วใช่ไหม” ฉันพูดถามเสียงงัวเงียกับร่างใหญ่ที่ขณะนี้ล้มตัวลงนอนที่โซฟากลางห้องรับแขก
“อืม..คิดว่า” อ้าวไหงตอบอย่างนี้นะ
“พีทท ไปล็อกให้ดีดี โอ๊ะ!” ขณะที่ฉันเดินเข้าไปเขย่าตัวเพื่อให้เค้าตื่นไปล็อกประตูตัวเอง พีทก็ดึงร่างฉันลงไปนอนที่โซฟา ซึ่งตอนนี้ฉันนอนหนุนแขนเค้าอยู่ส่วนมืออีกข้างที่เค้าฉุดฉันนั้นตอนนี้วางพาดโอบรอบตัวฉันอยู่
“บอกว่าล็อกแล้วก็ล็อกแล้วสิ” เค้ากระซิบด้วยเสียงที่งัวเงียที่หูฉันเบาๆ ก่อนที่จะกดจมูกของเค้ามาที่ผมของฉัน
“นายไม่เล่นสิ ฉันง่วงมาก และไม่มีแรงจะเล่นด้วยแล้วนะ” ฉันพูดพลางหลับตาไปด้วย อื้อ~อุ่นจัง
“ง่วงก็นอนซะ” พีทพูดพร้อมกับกระชับกอดแน่นขึ้น
“ฉันจะไปนอนที่ห้องของฉัน” ฉันพูด แต่ก็ไม่มีแรงลุกแล้วอ่ะนะ
“อยู่นี่แหละ เดี๋ยวฉันปลุกเธอเอง”
“อืม อย่านอนเพลินล่ะ” ฉันพูด
ตอนนี้ฉันก็คงไม่มีแรงที่จะขัดขืนเค้าหรอก แล้วอีกอย่างอยู่ตรงนี้ก็ดีเหมือนกัน มันอาจจะเหมือนการเล่นอยู่กับไฟนะแต่ก็รู้สึกดี เพราะกอดของพีทนั้นดูอบอุ่นอยู่เสมอสำหรับฉัน โดยในทางกลับกันก็มีบางครั้งที่เหมือนว่าร่างกายของฉันนั้นอาจจะถูกเผาไหม้ไปได้ในอ้อมกอดนี้ แต่ถ้าไม่มีพีทไม่มีอ้อมกอดนี้ ฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหนาวตายได้เหมือนกัน
และคืนนี้ฉันจะปล่อยให้หัวใจได้ทำงานตามหน้าที่มันไปก็แล้วกัน...
เวลา 07.20 น..
‘ติ๊ดๆๆ ๆ’ ใครกัน! โทรมาแต่เช้ายังง่วงอยู่เลย
“ใคร! โทรมาแต่เช้าเลย” ฉันตะโกนไปตามสาย ส่วนพีทก็ขยับเล็กน้อยแต่ก็ยังนอนกอดฉันอยู่ อ่า~ฉันรู้สึกดีจริงๆ
“ใครเหรอ! กล้าถามมากนะลูกฉัน เดี๋ยวนี้ลูกรับสายโทรศัพท์หยาบคายขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย ยัยเกี๊ยว!” เสียงแม่ฉันไหลมาตามสาย โถ่แม่นี่เองนึกว่าใคร..
แม่!
ฉันกระโดดลุกขึ้นทำให้แขนของนายพีทหลุดไปจากตัวฉัน
“จะไปไหนนน~” อิตาพีทถามขึ้นด้วยเสียงเซ็กซี่ในตอนเช้า มันใช่เรื่องไหมเนี่ย
“นั่นเสียงใคร! แกซุกผู้ชายเหรอ” ตายแล้ววววว แม่ฉันดันได้ยินเสียงตาพีทด้วยเนี่ยสิ
พีทกำลังจะพูดอะไรออกมาอีก ซึ่งมือข้างนึงของฉันก็ไม่ว่าง เพราะต้องจับมือนายนั่นที่กำลังเป็นหนวดปลาหมึกอยู่ ส่วนอีกข้างก็จับมือถือ สุดท้ายแล้วก็..เอิ่มมม..เอาก็เอาวะ
ฉันตัดสินใจเอาแก้มของตัวเองเข้าไปปิดปากนายพีทไว้ และตอบแม่
“แม่เหรอ เกี๊ยว ขอโทษ แล้วผู้ชายที่ไหนไม่มี๊แม่ พอดีเกี๊ยวดูซีรี่ย์แล้วเปิดค้างไว้ แม่อยู่ไหนแล้ว”
“แม่ว่าแล้ว ว่าเกี๊ยวของแม่ต้องไม่เหลวไหล” แม่ตอบกลับมา แต่แม่จ๋าตอนนี้แก้มลูกอยู่ที่ปากผู้ชาย
“แม่ถึงไหนแล้ววววว” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง
“อยู่ข้างล่างคอนโดแกล่ะ รีบๆ ลงมารับหน่อย ป๊าแกจะตีกับยามข้างล่างแล้วเนี่ย”
“ห่ะ! ข้างล่างได้ๆ เดี๋ยวเกี๊ยวลงไป” ฉันพูดจบก็รีบวางสายทันที แล้วก็ลุกขึ้น
“พีทไปเร็วแม่อยู่ข้างล่างแล้ว” ฉันหันกลับไปพูด และดึงแขนพีท โอ๊ย! ทำไมไม่ลุกมาาา
ฉันเลื่อนสายตาไป เพื่อมองหน้าพีทที่ตอนนี้แดงเถือกไปถึงไหนต่อไหน
“ยัยเกี๊ยว” พีทพูดขึ้น
“อะไร” ฉันถามด้วยความเป็นห่วง เค้าเป็นอะไรไปอีกนะ
“ถะ..ถ้าฉันไม่ลุก เธอจะเอาปากมาปิดปากฉันม่ะ” ฉันลืมไปเลยว่าเมื่อกี้ฉันได้ทำ...โอ๊ยยย แต่นี่ไม่ใช่เวลา
“ไอ้บ้า! หยุดคิดลุกเดี๋ยวนี้” ฉันทุบเค้ารัวๆ แล้วตาพีทก็วิ่งเข้าห้องน้ำก่อนที่จะตะโกนออกมา
“ฉี่ก่อน แต่เค้าไม่ลืมนะตัวเอง ตัวเองผิดผีเค้าแล้วนะ” ดูตานี่พูด
“ไอ้บ้าาาาาาาาาาาาา” ไม่รู้จะพูดคำไหนแล้ว
10 นาทีผ่านไป..
ฉันกับนายพีท เดินแยกกันออกมาจากลิฟถ์ ฉันเห็นแม่ฉันอยู่ที่โซฟาตรงส่วนกลางกำลังเท้าเอวยืนดูป๊ากับยามหน้าตึกเถียงกันอยู่
“ผมบอกแล้วไงครับว่าไม่มีชื่อนี้อยู่ที่นี่” ยามพูดขึ้น ก่อนที่จะหันมาทางฉัน แล้วกล่าวทักทาย
“สวัสดีครับคุณหนูที่อยู่ห้องคุณพีทนี่ครับ” อ้ายยย อย่าพูดลุง
“อ่ะ! นี่ไงลูกสาวผมไหนว่าไม่ได้อยู่ที่นี้ แล้วพีทนี่ใครกันเกี๊ยว” ป๊าฉันหยุดเถียงกับยาม และหันมาถามฉันแทน
“เจ้าของห้องไงครับ เกี๊ยวนี่ชื่อคุณหนูเหรอครับ” ยามตอบแทนฉัน พอเลย หยุดเลยนะ
ฉันพยักหน้าให้ยามเบาๆ ก่อนที่จะแยกป๊ากับแม่กำลังจะไปที่ลิฟถ์ แต่ยามก็พูดขึ้นอีก
“นั่นไงครับคุณพีท” ยามพูดพลางชี้ไปที่ตาพีทที่ขณะนี้ใส่หมวก และที่ปิดปาก
ส่วนป๊ากับแม่ฉันน่ะเหรอ หันขวับเลยน่ะสิ
“นีแกอยู่กับผู้ชายเหรอ” แม่หันมาถามทำตาเขียว ส่วนป๊านิ่งเลย
“เปล่านะแม่” ฉันรีบบอกก่อนที่ยามจะพูดอะไรอีก
“นี่ไงครับ คุณพีทครับ คุณพีทมาทางนี้ก่อนครับ ทางนี้ครับ!” ยามพยายามตะโกนเรียก แต่พีทไม่หันกลับมา
“สงสัยจะไม่ได้ยินเดี๋ยวผมวิ่งตาม” ตาพีทที่กำลังเดินๆ อยู่ได้ยินจึงหยุดเดิน และหันกลับมา
“คุณจำคนผิดแล้วครับ ผมมาหาญาติที่ชั้น 12 ขอตัวนะครับ” เมื่อพูดจบพีทที่บอกว่าตัวเองไม่ใช่พีท ก็เดินฉับๆ อย่างรวดเร็วออกไป ยามได้แต่ยืนงง โดยที่มีแม่ฉันหันไปยิ้มเยาะ แม่..ลุงเค้าไม่ผิดอย่าไปทำอย่างนั้นนน..
ป๊ากับแม่ขึ้นมาที่ห้องทั้งสองต่างซักไซร้ฉันเรื่องการมาอยู่กรุงเทพฯ ฉันก็ตอบตามที่เตี้ยมไว้แบบเป๊ะๆ
“งั้นหมายความว่าเจ้าของห้องเกี๊ยว เค้าเป็นผู้ชายเหรอลูก” ป๊าถามขึ้นมาหลังจากฉันเล่าจบ
“ใช่ค่ะ และกว่าเค้าจะกลับก็อีกปีนึง เกี๊ยวเลยอยู่ที่นี่ได้สบาย” ฉันตอบก่อนที่จะได้ยินเสียงของแม่ดังมาจากในครัว
“ยัยเกี๊ยว! นี่แม่สอนให้แกแช่จานชามอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” พีททท นายอีกแล้วใช่ไหม เมื่อวานไม่ได้ล้างตามที่ฉันบอกเหรอไงงง
“ก็..เกี๊ยวงานยุ่งน่ะแม่ เกี๊ยวทำงานดึกเกี๊ยวลืม” ฉันตอบพลางเดินเข้าไปที่ครัว และกอดแม่ที่กำลังล้างจานอยู่
“อย่าให้เป็นอย่างนี้อีกนะ” แม่พูด และล้างจานไปด้วย เฮ้อออ ดีนะแม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้ง่ายๆ
“เกี๊ยวนี่มันอะไรกัน” เสียงป๊าตะโกนมาอีกจากด้านนอก วันนี้มันวันอะไรเนี่ย
ฉันเดินออกไป ภาพที่เห็นทำให้ฉันอยากจะบ้าตาย นั่นมันกางเกงในตาพีทนี่! ตัวเก่งนายนั่นด้วย ชอบเอามาโบกโชว์อ่ะนะ
“เอ่อออ..” พูดไม่ออกจ้า
“ตอบป๊ามา” ป๊าพูดนิ่งๆ ฮืออออ ป๊าให้เกี๊ยวคิดแป๊บนึง รู้ล่ะ
“อ่อ ผ้าขี้ริ้วน่ะป๊า เจ้าของห้องเค้าเป็นคนขี้งก ซื้อมาแล้วใส่ไม่ได้ เลยเอามาเช็ดของในห้อง” ฉันยิ้มให้ป๊า ก่อนที่จะเข้าไปหยิบแล้วเช็ดฝุ่นแถวนั้นทันที
“นี่ไงป๊า” ฉันพูดอีกครั้ง และก็ถูของใช้ไปเรื่อยๆ ฮืออออ พีทต้องฆ่าฉันแน่ๆ เอากางเกงในตัวโปรดมาเช็ดฝุ่นเล่น
“แล้วไป” ป๊าพูดขึ้น และหันกลับไปดูโทรทัศน์ต่อ อย่างน้อยก็โล่งใจได้อย่างนึงล่ะนะ
คืนนั้นป๊าฉันนอนที่เตียง และฉันกับแม่ก็ปูผ้านอนข้างล่างในห้องฉัน ฉันได้พาพวกท่านไปทานข้าว และเที่ยวที่ต่างๆ วันนี้ผ่านไปอย่างมีความสุข แต่แล้วเค้าล่ะไปนอนที่ไหน แล้วจะกินข้าวรึยังนะ หวังว่าจะสบายดีนะพีท
นิยายออนไลน์ รูมเมทร้ายกับยัยน่ารัก บทที่ 11
บทที่ 1 http://ppantip.com/topic/34309672
บทที่ 2 http://ppantip.com/topic/34312776
บทที่ 3 http://ppantip.com/topic/34318241
บทที่ 4 http://ppantip.com/topic/34324517
บทที่ 5 http://ppantip.com/topic/34331346
บทที่ 6 http://ppantip.com/topic/34340038
บทที่ 7 http://ppantip.com/topic/34349167
บทที่ 8 http://ppantip.com/topic/34361425
บทที่ 9 http://ppantip.com/topic/34366412
บทที่ 10 http://ppantip.com/topic/34375149
-----------------------------------------------------------
บทที่ 11: เยี่ยมเยียน
เก็บๆๆ ๆ ฉันกับนายพีทต่างคนต่างช่วยกันเก็บของ แต่ก็ยังไม่วายวกกลับมากวนประสาทฉันอีกจนได้ ตามสไตล์คุณพีทบ้ากาม
“อันนี้ฉันต้องเก็บไปด้วยไหมน๊า~” พีทที่ตอนนี้ใส่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้น กำลังยืนชู เอิ่ม...กางเกงในของฉันอยู่ด้วยหน้าตาที่ภาคภูมิใจมาก
“เลิกกวนซักที อยากได้นักก็เก็บเอาไปเลย” ฉันบ่นนายนั่น และหันกลับมาจัดของต่อ
“ว้าว! ใจดีจังเลย งั้นขอหลายๆ ตัวได้ไหม” พีทพูดพลางค้นตู้ฉันต่อ
“ไอ้พีท!” ขอโทษที่ต้องหยาบคายนะคะ แค่มันทนไม่ไหวแล้วววว
“อย่าโกรธสิ ก็บอกเองนะว่าถ้าอยากได้ก็ให้เก็บๆ ไป” นายนั่นหันมาพูด และทำหน้าตาไร้เดียงสา
“เอากลับไปวางไว้ที่เดิม” ฉันพูดพร้อมกับชี้หน้าพีท ซึ่งเค้าก็ทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะเดินมาทางฉัน รู้สึกสังหรณ์ใจจังว่าจะมากวนอะไรแถวนี้อีก
“งั้นขอเก็บชิ้นนี้ไว้ได้ไหม” พีทเข้ามากอดรวบตัวฉันไว้ ตอนนี้จะตบจะตีนายนี่ก็ทำไม่ได้ ก็ดันมารวบตัวฉันไว้ แต่จะขยับเขยื้อนยังลำบาก
"ฉันขอเธอ เก็บเธอไปด้วยได้ไหม" เค้ากระซิบที่ข้างหูของฉัน อึ้ย~
"นี่นายจะจริงจังหน่อยได้ไหมเนี่ย พรุ่งนี้ป๊ากับแม่ฉันจะมาล่ะนะ" ฉันพูดพลางพยายามขัดขืน
"อุ้ย ไล่เค้าแต่ตัวเองหน้าแดงเถือกเลยนะ" พีทพูดพลางซุกไซ้อยู่ที่ผมข้างหูของฉัน เขิลก็เขิลนะฉัน แต่พอนายนี่พูดมาอย่างนี้ความทรงจำแย่ๆ ที่นายพีททำก็เข้ามาในหัวฉัน เริ่มรู้สึกโมโหตะหงิดๆ จะไม่ให้ออกไปใช่ไหมนายตายแน่ไอ้คุณพีท
แล้วฉันก็หันหน้าเข้าหานายพีท นายนั่นมองหน้าฉันอย่างตกใจก่อนที่จะเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ฉันแทน
"หันหน้ามาแบบนี้ เดี๋ยวก็โดนจูบซะหรอก" ตาพีทคนบ้ากามพูดขึ้น ฉันจึงเลิกคิ้วท้าทาย และพูดตอบ
"แน่จริงก็เข้ามา"
พีทยิ้มอย่างกับเด็กได้ของเล่นก่อนที่จะค่อยๆ โน้มตัวลงมา ตอนนี้จมูกของเค้าชนอยู่กับจมูกของฉัน เค้าไล่จมูกของเค้าไปมาอยู่ที่จมูกฉันอย่างอ้อยอิ่ง แล้วพีทก็พูดต่อ
"เกี๊ยว เธอรู้ไหมฉันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะพูดกับเธอนะ ไม่รู้ทำไมทั้งๆ ที่เราอยู่คอนโดเดียวกันแท้ๆ แต่ตลอด 2 - 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันกลับคิดถึงเธอมะ...อ๊ากก" หึหึ ฉันไม่ปล่อยให้พีทพูดจบ ก็เดี๋ยวใจฉันไม่แข็งแรงอีก ฉันจึงตัดสินใจกัดเข้าไปที่ริมฝีปากเค้า ตอนนี้นายพีทกำลังดิ้นรนจับปากตัวเองอยู่ต่อหน้าฉัน ซะใจจริงๆ เลยยยย
หลังจากที่ฉันกัดริมฝีปากเค้าซักพัก และดูพีทดิ้นๆ จนหนำใจแล้วฉันจึงปล่อยริมฝีปากเค้าให้เป็นอิสระ
"ฮือออ~ ยัยผู้หญิงใจร้าย" พีทพูดขึ้นขณะที่จับริมฝีปากล่างของตัวเองไปด้วย
"อยากโดนอีกไหมล่ะ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้! ช่วยเก็บของต่อได้แล้วไม่งั้นนายโดนดีแน่" ฉันพูดพลางพับเสื้อผ้านายพีทไปด้วย
"ถ้าไม่ช่วยเธอเก็บของ ฉันจะโดนเธอกัดปากอีกเหรอ" เค้าทำท่าครุ่นคิด ก่อนที่จะพูดต่อ
"จริงๆ มันก็คุ้มนะ มาๆ กัดปากกันอีก" อิตาพีทวิ่งเข้ามาหาฉันอีกครั้ง แต่คราวนี้ฉันขว้างเสื้อที่กำลังพับอยู่ใส่นายนั่น ซึ่งพีทก็ขำเบาๆ และเปลี่ยนท่าทีมาช่วยฉันเก็บต่อ
“ช่วยก็ได้ แต่เบื่อแล้วมานั่งกัดปากกันอีกนะ” อีตาพีทพูดพลางขยิบตาใส่ฉัน
เฮ้ออออ..เชื่อเถอะอีเดี๋ยวก็ลุกมากวนอีก ไม่มีทางสงบได้นานหรอก แล้ววันนี้จะเก็บทันไหมเนี่ยยยยย!
เวลา 02.00 น..
เพลียมากๆ เลยฉัน ตอนนี้พวกเราเอาของใช้ส่วนตัว และเสื้อผ้าของพีทที่ตากอยู่เข้าไปเก็บในห้องนอนของเค้าหมดแล้ว ซึ่งเราตัดสินใจว่าจะปิดล็อกห้องนอนใหญ่ และจะบอกป๊ากับแม่ว่าเจ้าของห้องไปต่างประเทศ ส่วนฉันมาเช่าช่วงที่เค้าไม่อยู่ แผนเลิศ!
ว่าแล้วฉันจึงเดินไล่ปิดไฟที่ไม่ใช้ทั้งหมด และเดินเข้าไปหาพีท
“พีทล็อกห้องแล้วใช่ไหม” ฉันพูดถามเสียงงัวเงียกับร่างใหญ่ที่ขณะนี้ล้มตัวลงนอนที่โซฟากลางห้องรับแขก
“อืม..คิดว่า” อ้าวไหงตอบอย่างนี้นะ
“พีทท ไปล็อกให้ดีดี โอ๊ะ!” ขณะที่ฉันเดินเข้าไปเขย่าตัวเพื่อให้เค้าตื่นไปล็อกประตูตัวเอง พีทก็ดึงร่างฉันลงไปนอนที่โซฟา ซึ่งตอนนี้ฉันนอนหนุนแขนเค้าอยู่ส่วนมืออีกข้างที่เค้าฉุดฉันนั้นตอนนี้วางพาดโอบรอบตัวฉันอยู่
“บอกว่าล็อกแล้วก็ล็อกแล้วสิ” เค้ากระซิบด้วยเสียงที่งัวเงียที่หูฉันเบาๆ ก่อนที่จะกดจมูกของเค้ามาที่ผมของฉัน
“นายไม่เล่นสิ ฉันง่วงมาก และไม่มีแรงจะเล่นด้วยแล้วนะ” ฉันพูดพลางหลับตาไปด้วย อื้อ~อุ่นจัง
“ง่วงก็นอนซะ” พีทพูดพร้อมกับกระชับกอดแน่นขึ้น
“ฉันจะไปนอนที่ห้องของฉัน” ฉันพูด แต่ก็ไม่มีแรงลุกแล้วอ่ะนะ
“อยู่นี่แหละ เดี๋ยวฉันปลุกเธอเอง”
“อืม อย่านอนเพลินล่ะ” ฉันพูด
ตอนนี้ฉันก็คงไม่มีแรงที่จะขัดขืนเค้าหรอก แล้วอีกอย่างอยู่ตรงนี้ก็ดีเหมือนกัน มันอาจจะเหมือนการเล่นอยู่กับไฟนะแต่ก็รู้สึกดี เพราะกอดของพีทนั้นดูอบอุ่นอยู่เสมอสำหรับฉัน โดยในทางกลับกันก็มีบางครั้งที่เหมือนว่าร่างกายของฉันนั้นอาจจะถูกเผาไหม้ไปได้ในอ้อมกอดนี้ แต่ถ้าไม่มีพีทไม่มีอ้อมกอดนี้ ฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหนาวตายได้เหมือนกัน
และคืนนี้ฉันจะปล่อยให้หัวใจได้ทำงานตามหน้าที่มันไปก็แล้วกัน...
เวลา 07.20 น..
‘ติ๊ดๆๆ ๆ’ ใครกัน! โทรมาแต่เช้ายังง่วงอยู่เลย
“ใคร! โทรมาแต่เช้าเลย” ฉันตะโกนไปตามสาย ส่วนพีทก็ขยับเล็กน้อยแต่ก็ยังนอนกอดฉันอยู่ อ่า~ฉันรู้สึกดีจริงๆ
“ใครเหรอ! กล้าถามมากนะลูกฉัน เดี๋ยวนี้ลูกรับสายโทรศัพท์หยาบคายขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย ยัยเกี๊ยว!” เสียงแม่ฉันไหลมาตามสาย โถ่แม่นี่เองนึกว่าใคร..
แม่!
ฉันกระโดดลุกขึ้นทำให้แขนของนายพีทหลุดไปจากตัวฉัน
“จะไปไหนนน~” อิตาพีทถามขึ้นด้วยเสียงเซ็กซี่ในตอนเช้า มันใช่เรื่องไหมเนี่ย
“นั่นเสียงใคร! แกซุกผู้ชายเหรอ” ตายแล้ววววว แม่ฉันดันได้ยินเสียงตาพีทด้วยเนี่ยสิ
พีทกำลังจะพูดอะไรออกมาอีก ซึ่งมือข้างนึงของฉันก็ไม่ว่าง เพราะต้องจับมือนายนั่นที่กำลังเป็นหนวดปลาหมึกอยู่ ส่วนอีกข้างก็จับมือถือ สุดท้ายแล้วก็..เอิ่มมม..เอาก็เอาวะ
ฉันตัดสินใจเอาแก้มของตัวเองเข้าไปปิดปากนายพีทไว้ และตอบแม่
“แม่เหรอ เกี๊ยว ขอโทษ แล้วผู้ชายที่ไหนไม่มี๊แม่ พอดีเกี๊ยวดูซีรี่ย์แล้วเปิดค้างไว้ แม่อยู่ไหนแล้ว”
“แม่ว่าแล้ว ว่าเกี๊ยวของแม่ต้องไม่เหลวไหล” แม่ตอบกลับมา แต่แม่จ๋าตอนนี้แก้มลูกอยู่ที่ปากผู้ชาย
“แม่ถึงไหนแล้ววววว” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง
“อยู่ข้างล่างคอนโดแกล่ะ รีบๆ ลงมารับหน่อย ป๊าแกจะตีกับยามข้างล่างแล้วเนี่ย”
“ห่ะ! ข้างล่างได้ๆ เดี๋ยวเกี๊ยวลงไป” ฉันพูดจบก็รีบวางสายทันที แล้วก็ลุกขึ้น
“พีทไปเร็วแม่อยู่ข้างล่างแล้ว” ฉันหันกลับไปพูด และดึงแขนพีท โอ๊ย! ทำไมไม่ลุกมาาา
ฉันเลื่อนสายตาไป เพื่อมองหน้าพีทที่ตอนนี้แดงเถือกไปถึงไหนต่อไหน
“ยัยเกี๊ยว” พีทพูดขึ้น
“อะไร” ฉันถามด้วยความเป็นห่วง เค้าเป็นอะไรไปอีกนะ
“ถะ..ถ้าฉันไม่ลุก เธอจะเอาปากมาปิดปากฉันม่ะ” ฉันลืมไปเลยว่าเมื่อกี้ฉันได้ทำ...โอ๊ยยย แต่นี่ไม่ใช่เวลา
“ไอ้บ้า! หยุดคิดลุกเดี๋ยวนี้” ฉันทุบเค้ารัวๆ แล้วตาพีทก็วิ่งเข้าห้องน้ำก่อนที่จะตะโกนออกมา
“ฉี่ก่อน แต่เค้าไม่ลืมนะตัวเอง ตัวเองผิดผีเค้าแล้วนะ” ดูตานี่พูด
“ไอ้บ้าาาาาาาาาาาาา” ไม่รู้จะพูดคำไหนแล้ว
10 นาทีผ่านไป..
ฉันกับนายพีท เดินแยกกันออกมาจากลิฟถ์ ฉันเห็นแม่ฉันอยู่ที่โซฟาตรงส่วนกลางกำลังเท้าเอวยืนดูป๊ากับยามหน้าตึกเถียงกันอยู่
“ผมบอกแล้วไงครับว่าไม่มีชื่อนี้อยู่ที่นี่” ยามพูดขึ้น ก่อนที่จะหันมาทางฉัน แล้วกล่าวทักทาย
“สวัสดีครับคุณหนูที่อยู่ห้องคุณพีทนี่ครับ” อ้ายยย อย่าพูดลุง
“อ่ะ! นี่ไงลูกสาวผมไหนว่าไม่ได้อยู่ที่นี้ แล้วพีทนี่ใครกันเกี๊ยว” ป๊าฉันหยุดเถียงกับยาม และหันมาถามฉันแทน
“เจ้าของห้องไงครับ เกี๊ยวนี่ชื่อคุณหนูเหรอครับ” ยามตอบแทนฉัน พอเลย หยุดเลยนะ
ฉันพยักหน้าให้ยามเบาๆ ก่อนที่จะแยกป๊ากับแม่กำลังจะไปที่ลิฟถ์ แต่ยามก็พูดขึ้นอีก
“นั่นไงครับคุณพีท” ยามพูดพลางชี้ไปที่ตาพีทที่ขณะนี้ใส่หมวก และที่ปิดปาก
ส่วนป๊ากับแม่ฉันน่ะเหรอ หันขวับเลยน่ะสิ
“นีแกอยู่กับผู้ชายเหรอ” แม่หันมาถามทำตาเขียว ส่วนป๊านิ่งเลย
“เปล่านะแม่” ฉันรีบบอกก่อนที่ยามจะพูดอะไรอีก
“นี่ไงครับ คุณพีทครับ คุณพีทมาทางนี้ก่อนครับ ทางนี้ครับ!” ยามพยายามตะโกนเรียก แต่พีทไม่หันกลับมา
“สงสัยจะไม่ได้ยินเดี๋ยวผมวิ่งตาม” ตาพีทที่กำลังเดินๆ อยู่ได้ยินจึงหยุดเดิน และหันกลับมา
“คุณจำคนผิดแล้วครับ ผมมาหาญาติที่ชั้น 12 ขอตัวนะครับ” เมื่อพูดจบพีทที่บอกว่าตัวเองไม่ใช่พีท ก็เดินฉับๆ อย่างรวดเร็วออกไป ยามได้แต่ยืนงง โดยที่มีแม่ฉันหันไปยิ้มเยาะ แม่..ลุงเค้าไม่ผิดอย่าไปทำอย่างนั้นนน..
ป๊ากับแม่ขึ้นมาที่ห้องทั้งสองต่างซักไซร้ฉันเรื่องการมาอยู่กรุงเทพฯ ฉันก็ตอบตามที่เตี้ยมไว้แบบเป๊ะๆ
“งั้นหมายความว่าเจ้าของห้องเกี๊ยว เค้าเป็นผู้ชายเหรอลูก” ป๊าถามขึ้นมาหลังจากฉันเล่าจบ
“ใช่ค่ะ และกว่าเค้าจะกลับก็อีกปีนึง เกี๊ยวเลยอยู่ที่นี่ได้สบาย” ฉันตอบก่อนที่จะได้ยินเสียงของแม่ดังมาจากในครัว
“ยัยเกี๊ยว! นี่แม่สอนให้แกแช่จานชามอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” พีททท นายอีกแล้วใช่ไหม เมื่อวานไม่ได้ล้างตามที่ฉันบอกเหรอไงงง
“ก็..เกี๊ยวงานยุ่งน่ะแม่ เกี๊ยวทำงานดึกเกี๊ยวลืม” ฉันตอบพลางเดินเข้าไปที่ครัว และกอดแม่ที่กำลังล้างจานอยู่
“อย่าให้เป็นอย่างนี้อีกนะ” แม่พูด และล้างจานไปด้วย เฮ้อออ ดีนะแม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้ง่ายๆ
“เกี๊ยวนี่มันอะไรกัน” เสียงป๊าตะโกนมาอีกจากด้านนอก วันนี้มันวันอะไรเนี่ย
ฉันเดินออกไป ภาพที่เห็นทำให้ฉันอยากจะบ้าตาย นั่นมันกางเกงในตาพีทนี่! ตัวเก่งนายนั่นด้วย ชอบเอามาโบกโชว์อ่ะนะ
“เอ่อออ..” พูดไม่ออกจ้า
“ตอบป๊ามา” ป๊าพูดนิ่งๆ ฮืออออ ป๊าให้เกี๊ยวคิดแป๊บนึง รู้ล่ะ
“อ่อ ผ้าขี้ริ้วน่ะป๊า เจ้าของห้องเค้าเป็นคนขี้งก ซื้อมาแล้วใส่ไม่ได้ เลยเอามาเช็ดของในห้อง” ฉันยิ้มให้ป๊า ก่อนที่จะเข้าไปหยิบแล้วเช็ดฝุ่นแถวนั้นทันที
“นี่ไงป๊า” ฉันพูดอีกครั้ง และก็ถูของใช้ไปเรื่อยๆ ฮืออออ พีทต้องฆ่าฉันแน่ๆ เอากางเกงในตัวโปรดมาเช็ดฝุ่นเล่น
“แล้วไป” ป๊าพูดขึ้น และหันกลับไปดูโทรทัศน์ต่อ อย่างน้อยก็โล่งใจได้อย่างนึงล่ะนะ
คืนนั้นป๊าฉันนอนที่เตียง และฉันกับแม่ก็ปูผ้านอนข้างล่างในห้องฉัน ฉันได้พาพวกท่านไปทานข้าว และเที่ยวที่ต่างๆ วันนี้ผ่านไปอย่างมีความสุข แต่แล้วเค้าล่ะไปนอนที่ไหน แล้วจะกินข้าวรึยังนะ หวังว่าจะสบายดีนะพีท