เกมรักกิเลนไฟ บทที่ 13

กระทู้สนทนา


บทที่ 13

ปริศนาที่สอง




พาฝันส่งเสียงอู้อี้ ทั้งเตะทั้งถีบ พุ่มไม้แหวกลู่ไปเป็นทางขณะที่เธอถูกลากผ่านอย่างไม่ผ่อนแรง

หยางเจี๋ยถูกตุบตั้บเข้าไปหลายรอบชักมีน้ำโหขึ้นมาบ้าง เขากดเธอลงกับพื้นอย่างแรง โน้มตัวลงมาแนบชิดเล่นเอาใจหายแวบ

อย่าบอกนะว่าไอ้หมอนี่เกิดหื่น หน้ามืดคิดปล้ำคนขึ้นมากลางวันแสกๆ?

    แต่หญิงสาวก็ได้รู้ว่าคิดผิดเมื่อได้ยินเขากระซิบ

“ใจเย็นก่อนสิ ฉันแค่อยากช่วย นี่โอกาสสุดท้ายแล้วนะ ถ้าไม่หนีตอนนี้คงไม่มีโอกาสอีก”

พาฝันจ้องตากับเขาในระยะที่ปลายจมูกห่างกันไม่ถึงคืบ มือที่ส่งกลิ่นหอมนุ่มนิ่มราวกับมือผู้หญิงของเขายังปิดปากเธออยู่ หญิงสาวพยักหน้าช้าๆ ท่าทีที่สงบลงแล้วของเธอทำหยางเจี๋ยคลายใจ ลดมือลงจากริมฝีปากสีชมพู แต่นี่นับเป็นสิ่งที่เขาไม่ควรทำ พาฝันพลันกระทุ้งเข่าขึ้นสุดแรง ตีเข้าจุดยุทธศาสตร์สำคัญ หนุ่มฮ่องกงสะดุ้งเฮือกหน้าบิดเบี้ยว พลิกตัวลงไปนอนงอตัวด้วยความจุก

“ยายฝันร้าย ทำอะไรของเธอวะ ฉันเจตนาดีนะเว้ย” เขาพูดผ่านไรฟัน ความเจ็บปวดทำหน้าแดงน้ำตาแทบเล็ด

“เจตนาดี ใครเขาทำกันแบบนี้” พาฝันลุกขึ้นนั่ง ปัดเศษหญ้าเศษใบไม้ออกจากสองแขน “ไม่ต้องห่วงหรอก พวกเขาไม่ได้จับตาทุกฝีก้าวหรือกักขังให้เราอยู่ในสายตาแบบเมื่อวาน ถ้าฉันอยากหนีจริงๆ ทำไมจะทำไม่ได้ คนคุมเข้มมีที่ไหนปล่อยให้ออกมาหาที่พักได้ตามใจชอบเนี่ย”

ชายหนุ่มโต้ทันควัน “จะโลกสวยไปไหน คิดหรือว่าที่เขาปล่อยให้พวกเรากลับมาพักผ่อนบ้านใครบ้านมันตามสบายเนี่ย เป็นเพราะวางใจว่าเราจะไม่หนี”

หยางเจี๋ยข่มความเจ็บจุก กระชากแขนให้พาฝันกลับมานั่งขณะเธอลุกขึ้นยืน พาฝันถูกดึงแบบไม่ทันตั้งตัวก็ล้มพาดลงไปบนตัวเขา ชายหนุ่มพูดต่ออย่างไม่สนใจพลางกอดรัดร่างบางไว้ไม่ให้ดิ้น “มันเป็นเพราะพวกเขาแน่ใจแล้วต่างหาก ว่าถ้าเกิดมีคนหลบหนี จะสามารถไปตามตัวพวกเราได้จากที่ไหน”

หญิงสาวชะงักกึก “นายหมายความว่าไง”

“มันก็หมายความว่า... ”

แต่หยางเจี๋ยไม่มีโอกาสตอบ เสียงหนึ่งก็กรีดร้องแหลมสูงขึ้นเสียก่อน “นายน้อย!”

หนุ่มฮ่องกงกับสาวปากจัดหันขวับไป อาหลินยืนหน้าตาเหรอหราอยู่ริมทางเดิน ด้านหลังสาวผมสั้นยืนด้วยนิรวานกับนายอ๋อง แม้แต่คนเงียบขรึมอย่างบุตรชายกำนันยังแสดงสีหน้าคาดไม่ถึงออกมา

เจ้าของบ่อนลอยน้ำยิ้มกริ่ม “บ๊ะ เร่าร้อนกันดีแท้”

คำพูดเป็นนัยๆ นั้นทำให้พาฝันกับหยางเจี๋ยรีบหันกลับมาสำรวจสภาพตัวเอง ก่อนจะพากันสบถออกมาทั้งคู่และรีบแยกออกจากกันพัลวัน เมื่อครู่มัวแต่ยื้อยุดฉุดกระชากกันพลางคุยกันพลาง จึงไม่สังเกตว่าร่างของหญิงสาวทาบทับลำตัวของหยางเจี๋ยชนิดหน้าอกแนบหน้าอก มองจากมุมสูงลงไป เหมือนคนมาแอบพลอดรักกันมากกว่า

“นายน้อยอ้ะ” อาหลินก้าวปราดๆ เข้ามาดึงแขนเจ้านายลุกขึ้น ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ “ทำไมทำตัวแบบนี้ นี่เพิ่งเที่ยงเองนะ”

พาฝันหน้าชาดิก “เฮ่ ฉันไม่ได้ทำอะไรกับนายน้อยแบบที่เธอคิดนะอาหลิน หมอนี่ลากฉันเข้ามาเพื่อ – ”

“หลบงู เมื่อกี้ฉันเห็นงูเหลือมเลื้อยตัดหน้า เลยกระชากหนีมาก่อน” หยางเจี๋ยแทรก หันมาหลิ่วตาให้พาฝันตามน้ำ พาฝันก้มปัดเศษดินบนเข่ากางเกง เอียงคอจะพูดความจริงออกมาอยู่แล้วพอได้ยินดังนั้นคิดได้ว่าไม่เข้าท่า จึงต้องเลี้ยวโค้งนาทีสุดท้ายพลิกลิ้นให้เป็นเรื่องเดียวกับเขา

“อุ๊ย งั้นนายน้อยรีบออกมาเร็ว เกิดงูยังอยู่แถวนี้มันจะฉกเอา” อาหลินผู้หลงเชื่อทุกคำพูดของหยางเจี๋ยอย่างง่ายดายไม่สนใจสืบความใดๆ อีก เธอล็อคแขนลากเจ้านายหนุ่มออกจากพุ่มไม้ข้างทาง พาฝันเดินตามหลังไปพลางทักทายบรรพบุรุษของพวกเขาไปตลอดทาง จากนั้นสาวน้อยผมสั้นก็นำพวกเขาเดินขึ้นเนินเขาขนาดย่อมไปยังทางซ้ายมือของโฮมสเตย์ ไม่ปล่อยให้นายน้อยคลาดสายตาเป็นครั้งที่สอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่