😊😊..คุณวิษณุครับ อยากถามเกี่ยวกับการสั่งยึดทรัพย์ คุณยิ่งลักษณ์ครับ

สมมุติถ้าสั่งยึดทรัพย์ไปแล้ว เกิดศาลฏีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองตัดสินว่าไม่ผิด  มิต้องคืนทรัพย์ หรือครับ
หรือหากสมมุติ มีดอกเบี้ยที่รัฐจะต้องจ่ายเพิ่ม

ดอกเบี้ยส่วนเกิน  ที่หน่วยงานของรัฐจะต้องจ่ายเพิ่ม
หน่วยงานนั้นๆ
สามารถฟ้องร้องทางเพ่ง ให้คุณ วิษณุ และ พวก ต้องชดใช้  ฐานกระทําละเมิด
ด้วยมาตรา 8 และ 10 เช่นเดียวกัน ได้หรือไม่ครับ

คุณ วิษณุ ต้องตอบคําถามนี้ ให้ตัวเองน่ะครับ

-----------

ทีนี้มาดูกฏหมาย ตามมาตรา 8 และ 10 ตาม พ.ร.บ.ความผิดทางละเมิด ตามที่คุณ พิษณุ  และ พวก พูดถึง
( รายละเอียดของแต่ละมาตรา ก็ลองไปหาอ่านกันดูน่ะครับ  ผมพยายามอธิบายแบบรวบรัด ให้สั้นและ กระชับที่สุด )

มาตรา 8  ที่จริงก็ว่าด้วยเรื่อง  เจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ  ไปทําการละเมิดผู้อื่น จนเกิดความเสียหาย
              ทําให้หน่วยงานของรัฐ   ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนกับผู้เสียหาย
              แต่หากการกระทํานั้น   หน่วยงานของรัฐรู้ว่า   เกิดจากความจงใจ  หรือ  ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง  ของเจ้าหน้า
              หน่วยงานของรัฐก็สามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนคืน   จากเจ้าหน้าที่คนนั้นๆได้


สรุปความว่า มาตรา 8  ไม่เกี่ยวกับคดี คุณยิ่งลักษณ์เลย แค่เป็นเรื่องของจ้าหน้าที่รัฐ ไปกระทําละเมิดต่อผู้อื่น

ที่นี้มาดูมาตรา10 อาจจะเข้าเค้าหน่อย
เพราะว่าด้วยเรื่อง  ที่เจ้าหน้าที่รัฐ กระทําการละเมิด  ต่อหน่วยงานของรัฐเสียเอง
(  ถ้ากระทําผิดตามมาตรานี้  ก็ให้นํามาตรา8 มาบังคับใช้โดยอนุโลม )

เรื่องนี้  คุณ วิษณุ และ พวก  คงแกะมาจาก คําพิพากษาฏีกาศาลปกครองสูงสุด อ.456/2550

เหตุเกิดที่ สรรพากรอําเภอคลองเตย
ว่าด้วยเรื่องเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐ  ไปยักยอกเงินภาษีในหน่วยงานตัวเอง  ทําให้ผู้บังคับปัญคือหัวหน้ารับชําระภาษี
ต้องรับผิดทางเพ่งไปด้วย  
ฐานปล่อยปละละเลย  ไม่กํากับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา

แต่คดีนี้  ก็ไม่เห็นอธิบดีกรรมสรรพากร  ต้องมารับผิดทางเพ่ง  ประเด็นนี้คุณ วิษณุ และ พวก จะว่าไง

สมมุติ คุณยิ่งลักษณ์  เป็นเจ้าหน้าที่รัฐตามความหมายจริง
แต่คุณยิ่งลักษณ์  เป็นผู้กํากับด้านนโยบาย
ไม่ใช่เป้นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐนั้นๆโดยตรง   ที่หน่วยงานสามารถนําอํานาจทางปกครองมาบังคับใช้ได้

------------

แต่ถ้า  คุณวิษณุ และ พวก ออกมาโต้  ก็ ปปช. ขี้มูลมาอย่างนี้  ผมจะทําเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้

ก็ลองไปดู มาตรา 8 และ 10 ตาม พ.ร.บ.ความผิดทางละเมิด ใหม่ครับ
กฏหมายใช้คําว่า"รู้ " แต่  ปปช. ใช้คําว่า"ส่อ" ( ปล่อยปละละเลย ส่อว่ามีการทุจริต )
สองคํานี้  มันต่างกันน่ะครับ
รู้ในความหมายของมาตรา  8 และ 10  คือสรุปเป็นอันแน่ชัดแล้ว ( หรือหากรู้ไม่แน่ชัดแค่เพียงระแคะระคาย
ก็ต้องตั้งกรรมการสอบสวนให้รู้ให้แน่ชัดก่อน  จึงเอาสองมาตรานี้มาฟ้องทางละเมิดได้  )

ส่วน........ส่อ ยังไม่แน่ชัดว่าจริง หรือ ไม่จริง อาจจะจริงก็ได้  ไม่จริงก็ได้
แล้วหากไปฟ้องทางละเมิดเพื่อเรียกสินไหมทดแทนเสียแล้ว ลองใช้สามัญสํานึก ( ของคนปกติ ) คิดสิครับ
มันถูกต้องหรือไม่

ผมว่าคดีนี้หาก   คุณวิษณุ และ พวก เร่งรัดจนเกินงาม   ปัญหาที่จะตามมามีมากมาย  
ใช่เพียงแต่ในส่วนเรื่องคดีเท่านั้น   แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกของชาวนาหลายล้านคนทั่วประเทศ

หากคิดแต่จะใช้คมดาบฟาดฟันผู้อื่น
ก็ใหัระวัง   คมดาบอีกด้าน   มันจะฟันเข้าหน้าผากตัวเองบ้างครับ

ยิ่งเงื้อแรงเท่าไหร่   มันก็จะโดนตัวเองแรงมากขึ้นเท่านั้นเช่นกัน


------------------------
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่