<< ชายกางเข้าครัว ... แกงขี้เหล็ก เนื้อย่าง >>

     หวานเป็นลม  ขมเป็นยา   นิยามของคนในสมัยก่อน ที่มักจะบอกกับลูกหลานว่า  ของที่ขมมักจะให้คุณ  ของที่หวานมักจะให้โทษ  กินอะไรก็ให้มีรสหวาน มีรสขมมาถ่วงสมดุลซึ่งกันและกัน มันถึงจะไม่เกิดโทษ
    อาหารที่ให้รสขมตามธรรมชาตินั้นมีมาก  ในสมัยก่อนจะปลูกบ้าง ขึ้นเองบ้าง  ตามเรือกสวน ร่องสวน  เราเพียงแต่รดน้ำ ใส่ปุ๋ยคอกให้บ้างตามโอกาส  ออกลูกกันขี้เกียจจะเก็บกิน  ทั้งมะระไทยลูกป้าน ๆ ไม่ใหญ่โตเหมือนมะระจีนในสมัยนี้  มะระขี้นกที่ลูกเล็ก ๆ สั้น ๆ รสขมจัด  ไม่ใช่พันธุ์เกษตรแบบในสมัยนี้เช่นกัน
    มีผักรสขมอีกชนิดที่มักจะปลูกท้ายสวน  ปลูกไว้เป็นแนวบอกอาณาเขตชั้นแรก  ก่อนจะถึงชั้นที่สอง  ชั้นแรกที่ว่าคือต้นขี้เหล็ก สาเหตุที่ให้อยู่แนวนอกนั้นก็เพราะว่า ขี้เหล็กนั้นเป็นไม้ยืนต้น ทนแล้ง ทนน้ำได้ดี  ชั้นที่สองคือชะอม  ที่อาศัยหนามของชะอมเป็นรั้วได้อย่างดี  ยอดก็เก็บมารูดแล้วลวกราดหัวกะทิกินกับน้ำพริก อร่อยกว่าทอดไข่เป็นไหน ๆ หรือจะแกงหอยขมก็แจ่ม
    พูดถึงหอยขมแล้วเปรี้ยวปาก อยากกิน อยากแกงให้ชมกันเลย  ในสมัยก่อน ถ้าคุณยายเดินเข้าสวน แล้วตัดทางมะพร้าวมาทั้งก้านซัก 3 – 4 ทางละก็  รู้กันเลยว่าพรุ่งนี้เป็นคืนข้างขึ้น หอยขมจะมากและไม่มีลูก
    คุณยายจะเอาไม้มาทุบ ๆ ที่ใบมะพร้าวให้ช้ำ ๆ แตก ๆ แล้วโยนลงไปในลำประโดงข้างสวน  โดยทิ้งระยะห่างกันทางละ 3 – 5 เมตร  รุ่งขึ้นมาลากขึ้นจากน้ำ ก็จะมีหอยขมเกาะเต็มไปหมด  เพราะมันมากินทางมะพร้าวที่เราทุบให้ส่งกลิ่นเขียว ๆ ออกไป
    นำหอยขมมาล้างให้ดี ใช้กาบในของเปลือกมะพร้าวขัดเอาตะไคร่ออกจนหมดจด  ใช้คีมปากนกแก้วกัดก้นหอยออกไป แล้วล้างน้ำหลาย ๆ ครั้ง โดยใส่กระบุงส่ายในคลอง ให้เศษเปลือกหลุดไปจนเกลี้ยง  แล้วนำมาแกงคั่วน้ำขลุกขลิก ใส่ยอดชะอม  กินอร่อย จุ๊บกันเพลินเหลือใจ

    เอาแล้วไง !!  จะชวนมาแกงขี้เหล็ก  พาไปแกงหอยขมซะนี่   ไปหายอดขี้เหล็กที่มีดอกเยอะ ๆ มาแกงกันดีกว่าครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่