ความรับผิดชอบของ K Bank ต่อกรณีลูกค้าโดนยึดบัตร ATM ถึง 2 ครั้งใน 2 สัปดาห์ ???? สโลแกน "บริการที่คุณประทับใจ"

ตอนนี้รู้สึก เซ็งกับ K Bank มาก ๆ กับ ปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก และ แนวทางการแก้ไขปัญหาของพนักงาน

เมื่อค่ำวันที่ 18 สค เวลา 3 ทุ่มเศษ ที่ตู้ ATM ของ K Bank (ธ. กสิกรไทย) สาขา สุขุมวิท 101
- ดิฉันตั้งใจไปโอนเงินเข้าบัญชีให้บุคคลอื่น ด้วยบัตร ATM ของ K Bank ปรากฏว่า พอเสียบบัตรเข้าตู้ ATM ปุ๊บ ตู้ก้อยึดบัตรไปเลย ยังไม่ได้ทำรายการใด  ๆ หรือ กดรหัส โดยหน้าจอขึ้นข้อความแปลก ๆ (ดิฉันมีรูปถ่ายหน้าจอเก็บไว้) ดิฉันตัดสินใจ อายัตบัตรไปก่อนและเจ้าหน้าที่ Call Center แจ้งว่า ให้ถือ สมุดธนาคารไปออกบัตรใหม่ที่ ธนาคารสาขาใดก้อได้  สุดท้ายดิฉันก้อต้องเข้าไปทำบัตร ATM ใหม่ที่ K Bank เมกะบางนา เพราะใกล้บ้านที่สุด

หลังจากเหตุการณ์โดนยึดบัตรครั้งที่ 1 ก้อมาเกิดเหตุซ้ำรอยเดิมทุกประการ คือ

เมื่อวันจันทร์ที่ 31 สค เวลาประมาณ 16.00-16.30  ที่ รพ ศิริราช ซึ่งดิฉันเป็นคนไข้มะเร็งหน้าอก และมาตรวจร่างกายคุณหมอคีโม และต้องรับยากลับไกิน โดยให้เพื่อนต่อคิวจ่ายยา ส่วนตัวดิฉันไปกดเงินที่ ตู้ ATM ของ K Bank ที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ปรากฏว่า พอเสียบบัตรเข้าตู้ ATM ปุ๊บ ตู้ก้อยึดบัตรไปเลย เหมือนเดิม และขึ้นข้อความเหมือนครั้งที่ 1 ทุกอย่าง (จริง ๆ ดิฉันมีรุปถ่ายของ หน้าจอเก็บไว้) และเมื่อดิฉันโทรไป Call Center สิ่งที่ได้รับการบอกกล่าวคือ ตู้ ATM คงเสีย ให้ดิฉันถือสมุดธนาคารไปที่ธนาคารออกบัตรใหม่อีกแล้ว  ดิฉันถามว่า ดิฉันเพิ่งทำบัตร ATM ใหม่เมื่อไม่นานมานี้เอง แล้ววันนี้โดนยึดบัตรอีกแล้ว  
(แต่ในสถานการณ์ตอนนั้น คือ ที่ใกล้ รพ ศิริราช ที่สุด เป็น Stand Alone ของ K Bank ซึ่งปิดแล้วตั้งแต่ 15.30 และตัวดิฉันซึ่งเป็นผู้ป่วย วันนั้นก้อไม่ได้ขับรถไป รพ และ ไม่มีสมุดบัญชีอยู่กับตัว ปกติคงไม่มีใครพบสมุดบัญชีธนาคารไปอยู่แล้ว ถ้าไม่มีธุระกับธนาคาร)

สุดท้าย ดิฉันตัดสินใจใช้บัตรเครดิตแทนเงินสดจ่ายไปก่อนแทน

คำตอบที่ได้รับจาก เจ้าหน้าที่ Call Center ทั้ง 2 ครั้ง คือ
1. ตู้คงเสีย - อายัดบัตรเก่า - ไปทำบัตรใหม่ - ไปธนาคาร  (ตอบ Standard มาก)

เนื่องจาก มือถือดิฉัน แบตใกล้หมด จึงบอก จนท Call Center ท่านนั้นไปว่า ขอให้ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจหรือระดับหัวหน้าช่วยติดต่อกลับวันรุ่งขึ้น

พอวันรุ่งขึ้น  ดิฉันไม่สบาย กลับมาจาก รพ ก้อ Knock ไปเลย เพราะ ความดันต่ำมาก ปวดหัว นอนพักทั้งวัน  ดิฉันรอทั้งวัน ไม่มี จนท ติดต่อกลับมาเลย จนกระทั่งเย็น ดิฉันตัดสินใจขับรถมา เมกะ บางนา เพราะต้องจ่ายเงินค่าแม่บ้านทำความสะอาดบ้าน  ทำให้ต้องไปติดต่อธนาคาร เพราะไม่มีบัตร ATM จะเบิกเงินไม่ว่าจาก สมุดบัญชี หรือ ทำบัตร ATM ใหม่ก้อตามประจวบกับเป็น วันที่ 1 ของเดือน ลูกค้าธนาคารเยอะมาก ดิฉันเป็นคิวที่ 4 แต่รอคิวที่ 1 ยังใช้เวลา 30 นาที คำนวณเวลาแล้วเริ่มไม่ไหว ถ้ารอถึงคิวที่ 4 คงใช้เวลา 2 ชม พอดี  เลยตัดสินใจโทรไป Call Center สอบถามถึงเรื่องที่แจ้ง จนท ท่านแรกไว้ ปรากฏว่า ไม่มีใครทราบเรื่อง ทั้งที่ได้แจ้งให้ติดต่อกลับมาวันนี้  จึงเป็น จนท ท่านใหม่รับเรื่อง และ ผ่านเรื่องให้ อีกหน่วยงานหนึ่งรับเรื่อง ถึงได้ลัดคิวทำบัตร ATM ให้ดิฉัน (เพราะดิฉันไม่ได้เป็นฝ่ายผิดที่บัตร ATM โดนยึด และดิฉันก้อไม่สบาย)

หลังจากที่ดิฉันเสียเวลาทำบัตร ATM ที่ K Bank ในเมกะบางนา เริ่มรู้สึกว่า ตัวเองเพลียมาก มึนหัว จะอ๊วกตลอด เลยเดินไปที่ Sparsha ที่ดิฉันเป็นลูกค้านวดหน้าอยู่ เพื่อขอวัดความดัน ตอนนั้น ความดันดิฉันเหลือ 79/49 ซึ่งต่ำมาก เลยขอนอนพัก และสุดท้ายพนักงานใน Sparsha ขับรถดิฉันไปส่งดิฉันที่บ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก เมกะบางนา

ผลกระทบทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับดิฉัน

1. เสืยชื่อเสียง  - เพราะ รับปากบุคคลอื่นที่จะโอนเงินให้กับพวกเขา และต้องขอโทษ ดิฉันเหมือนเป็น คนไม่รักษาคำพูด และแก้ตัว อีกอย่างคนเหล่านั้นก้อได้รับผลกระทบตามไปด้วย เพราะ เขาอาจต้องใช้เงินที่ดิฉันจะต้องโอนไปใช้จ่ายอื่น ๆ ของเขา

2. เสียเวลา - ดิฉันต้องเสียเวลาอายัดบัตร เล่าเรื่องราวซ้ำไปมากับ จนท K Bank หลายท่าน หลายส่วนงาน และต้องเสียเวลาเดินทางไปทำบัตร ATM ใหม่ถึง 2 รอบ ในขณะที่ตัวดิฉันไม่สะดวก ทั้งจากครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 ที่ดิฉันป่วย

3. เสียสุขภาพ - เนื่องจาก ดิฉันป่วยเป็น มะเร็ง ซึ่งก้อทราบดีว่า ห้ามเครียด และ ดิฉันป่วยเป็นความดันต่ำ แต่ต้องเดินทางขับรถไปธนาคารเพื่อออกบัตร ATM ใหม่ รวมถึงไปไม่สบาย ต้องรบกวนขอนอนพักที่ Sparsha และขอให้น้องเขาพาส่งกลับบ้าน

4. เสียเงิน - ไหนจะค่าน้ำมัน ค่าเสียโอกาส เพราะ บัญชี K Bank ปกติใช้ในการทำ ธุรกรรมโอนเงินค่าซื้อขายหุ้น และ ใช้โอนเงินในการทำธุรกรรมต่าง ๆ

5. เสียความรู้สึก - เพราะ การติดต่อ จนท Call Center แต่ละท่าน การตอบคำถามแบบง่าย ๆ ว่า เครื่องเสีย และแนะนำไปออกบัตรใหม่ มันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

แต่ใน กรณีของดิฉัน มันผิดปกติมาก เพราะ ในความเป็นจริง ดิฉันโดนยึดบัตร ATM ถึง 2 ครั้ง ใน 2 อาทิตย์ ต่างวัน ต่างเวลา ต่างสถานที่ แต่เป็นคนเดียวกันที่โดนซ้ำ และเชื่อว่า น่าจะมีปัญหาอย่างอื่นมากกว่านั้น  รวมถึง การป้องกันมิให้เกิดอีกเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งไม่รู้จะโดนอีกเมื่อไร เพราะ การออกบัตรใหม่ ทาง จนท ก้อไม่สามารถยืนยันความปลอดภัย

ล่าสุด จนท K Bank แจ้งว่า 1. ข้อมูลดิฉัน ไม่ได้โดน Hag 2. ระบบของ ธนาคารไม่มีปัญหา 3. ตู้ ATM ของธนาคารก้อรองรับระบบ
แล้ว ปัญหา คือ อะไร งง กับ คำตอบ  (จนท แจ้งว่า กรณีแบบดิฉันที่ไม่ค่อยเกิด)

สรุป คือ ดิฉัน คือ  1 ในผู้โชคร้ายที่โดนแบบนี้ แล้ว มาตราการแก้ไข ป้องกัน เยียวยา คืออะไรค่ะ อยากถามไปถึงผู้บริหารองค์กร

หลังจากเหตุการณ์ครั้งแรก 18 สค จนถึงขณะนี้ ยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงของปัญหา และ แนวทางการป้องก้นจาก ธนาคาร ก้อไม่มี ดิฉันในฐานะลูกค้าก้อต้องลุ้นเอาเองว่า ไปใช้บัตร ATM จะโดนยึดตอนไหนไม่รู้  วิธีแก้ปัญหา คือ ต้องเลิกใช้บริการ K Bank รึป่าว ซึ่งถ้าทำแบบนั้น ดิฉันก้อจะวุ่นวายมากเช่นกัน เนื่องจาก ทำเรื่องในการตัดบัญชีเงินค่าหุ้น ค่าใช้จ่าย ๆ อื่น ผ่าน K Bank

อยากถามความเห็นของท่านอื่น ๆ ว่า ความรับผิดชอบของ K Bank ควรเป็นอะไร แค่ขอโทษ และดิฉันก้อต้องเดินทางไปออกบัตร ATM ใหม่แค่นั้นหรือ ?

สมกับ สโลแกน K Bank "บริการที่คุณประทับใจ"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่