ตอนเดิมค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทนำ - ตอนที่1 http://ppantip.com/topic/34088111
ตอนที่ 2 - ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/34089767
ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/34090924
ตอนที่ 5 http://ppantip.com/topic/34093894
ตอนที่ 6 http://ppantip.com/topic/34104191
ตอนที่ 7
ช่วงสายวันนี้หม่อมหลวงพิชาภพมีนัดประชุมเรื่องการปรับปรุงบ้านเรือนกุหลาบกับภีมวัชช์ที่บริษัทโชควรารัตน์ คอนสตรักชั่น เกี่ยวกับหลายๆประเด็น เช่นการทำสัญญา หรือพบหน้าผู้ดูแลเกี่ยวข้องทั้งหลาย ทุกฝ่ายมาประชุมกันครบเพื่อรับทราบรายละเอียดงานต่างๆ รวมถึงข้อกำชับที่หม่อมหลวงหนุ่มมาดเนี้ยบเตือนทุกคนว่าให้ดูแล และระมัดระวังในการกระทำการใดๆที่อาจจะส่งผลให้บ้าน หรือข้าวของในบ้านเสียหายได้
มากันทุกฝ่ายก็จริง จะขาดก็แต่คนที่พิชาภพตั้งใจจะเอากล้องมาคืน ฝ่ายสถาปนิกส่งเพียงนายกฤษณ์ หัวหน้าของมณิกามาเท่านั้น ไม่มีสาวแว่นผมแดงมาร่วมประชุมด้วย พิชาภพสงสัยว่ามณิกาจะหนีหน้าเขา จึงหาโอกาสถามเมื่อจบการประชุมลงแล้ว
“คุณลูกแก้วล่ะ" พิชาภพถามถึงสถาปนิกสาวที่รับผิดชอบงานปรับปรุงบ้านเก่าของเขา
ภีมวัชช์ส่งเพียงสายตาถามไปยังกฤษณ์ หัวหน้าทีมที่มณิกาสังกัดอยู่ซึ่งเดินตามหลังเขาทั้งสอง เพราะภีมวัชช์เองก็แปลกใจอยู่เหมือนกันที่ไม่เห็นมณิกาเข้าร่วมประชุมด้วย
“ลูกแก้วลาป่วยน่ะครับ เธอโทรมาลาผมแต่เช้าเลย" กฤษณ์ สถาปนิกหนุ่มมาดเท่ห์ตอบคำถาม
“เป็นอะไรมากไหม ปกติลูกแก้วไม่ค่อยลาป่วยนี่" ภีมวัชช์จดจำภาพร่าเริงของมณิกาจนแทบนึกไม่ออกว่าเวลาป่วย มณิกาจะมีสภาพอย่างไร
เมื่อพอคิดถึงคนหนึ่ง หัวใจรั้นๆของภีมวัชช์ก็กระหวัดไปนึกถึงอีกคน
ภีมวัชช์ให้คนของเขาไปจัดการค่าใช้จ่ายโรงพยาบาล พร้อมทั้งเตรียมรถยนต์ไว้ให้แต่เช้า คนของภีมวัชช์รายงานว่าพาทั้งมาหยาและชลลดากลับถึงบ้านแล้ว แม้ภีมวัชช์จะคลายห่วงในเรื่องสุขภาพของมาหยาไปบ้าง แต่ก็มีอีกเรื่องที่เขาหนักใจจนไม่กล้าจ้องตาสีฟ้าของหลานสาวต่างสายเลือดนาน กลัวใจจะอ่อนแอแล้วเปิดรับมาหยามาอยู่ในหัวใจอีก
“น่าจะหนักอยู่นะครับ ปกติถ้าไม่ถึงกับลุกไม่ไหว ลูกแก้วไม่ค่อยลาหรอกครับ บางครั้งผมยังต้องไล่ให้กลับไปพักเลย ไฮเปอร์มาก" กฤษณ์ตอบ ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้
"จริงสิครับ คุณพีช ลูกแก้วบอกผมว่าเธอลืมกล้องถ่ายรูปไว้กับคุณ เธอเลยบอกผม ให้มาบอกคุณว่า
ฝากกล้องไว้กับผมก็ได้นะครับ"
พิชาภพกระตุกยิ้มมุมปาก อยากจะตอบไปนักว่า ... เรื่องสิ ...
หากสิ่งที่ตอบไปกลับเป็นสีหน้าตกใจ เหมือนเพิ่งนึกออก
“จริงสิ ผมก็ลืมเลย ว่าจะติดมือมาด้วยแท้ๆ เอาไว้ผมค่อยมาคืนให้กับเจ้าตัววันหลังก้ได้ครับ"
พิชาภพโกหก กล้องถูกเก็บไว้อย่างดีในรถยนต์ของเขาต่างหาก และเขาก็นำติดมาด้วย หากไม่คิดจะให้ยายผมแดงหลบหน้าเขาง่ายๆหรอก
“ครับ" กฤษณ์ทำได้เพียงยิ้มตอบ
“อ่อ ผมหวังว่าจะไม่มีการเปลี่ยนตัวสถาปนิกกลางคันนะครับ" พิชาภพพูดออกมา สีหน้าจริงจังมาก
ทำให้ภีมวัชช์ชะงักไปทั้งหน้าและตัว สายตาคมปราบถูกส่งไปยังกฤษณ์ กับเรื่องที่เขาเพิ่งรู้
“จะเปลี่ยนหรือกฤษณ์"
“ไม่ครับ ไม่มีเปลี่ยนหรอกครับ ตอนนี้ทุกคนงานเต็มมือหมด จะเปลี่ยนได้ยังไงล่ะครับ ฮ่าๆ" กฤษณ์หัวเราะแห้งๆ หน้าถอดสีไปนิด
“เราไม่อยากเริ่มบรีฟงานใหม่น่ะภีม นายก็รู้ว่าเราไม่มีเวลาว่างมากขนาดนั้น ถ้าเกิดเปลี่ยน เราคงเปลี่ยนบริษัทเลยดีกว่า ถ้าแค่เรื่องกลัวผีแล้วมาทิ้งงานกันแบบนี้ นายเข้าใจเราใช่ไหมว่ามันไร้สาระมาก"
พิชาภพไม่วายฝากระเบิดลูกโตไว้กับภีมวัชช์ และกฤษณ์ ด้วยรอยยิ้มละมุนละไม
“พนักงานของเราไม่ไร้ความรับผิดชอบแบบนั้นหรอกน่า ... แล้วเราก็ไม่คิดว่าลูกแก้วจะทิ้งงานกลางคันด้วย รับประกันได้เลย" ภีมวัชช์ยืนยัน รับประกัน
แต่สุดท้ายสายตาคมกริบของภีมวัชช์ก็กดดันใส่กฤษณ์แทน กฤษณ์ได้แต่ยิ้มแหยๆตอบรับไม่เต็มเสียงนัก
หลังจบประชุม รวมถึงกินมื้อเที่ยงกันแล้ว สองหนุ่มเพื่อนเก่าก็พากันมานั่งดื่มกาแฟในร้านชั้นล่างของบริษัท ตอนแรกพิชาภพก็ว่าจะแยกกลับเลยแต่ภีมวัชช์กลับดึงไว้ บอกมีเรื่องจะคุยด้วยนิดหน่อย
“ไอ้หม่อม ... นายมีแพลนจะแต่งงานหรือยัง"
คำถามของภีมวัชช์ทำเอาหม่อมหลวงพิชาภพเงยหน้าจากถ้วยกาแฟร้อนตรงหน้า กระพริบตามองอย่างสงสัยว่าทำไมอยู่ดีๆถึงได้ถามเรื่องนี้
“ถามอะไร นายก็เห็นว่าแฟน เรายังไม่มี จะให้ไปแต่งกับใครที่ไหนล่ะ" พิชาภพส่ายหน้าตอบ พลางยกกาแฟขึ้นจิบ
“แต่ปกติพวกแบบนายต้องมีพวกคู่หมั้นที่หม่อมย่าท่านพ่ออะไรจัดไว้ให้ไม่ใช่หรือ" ภีมวัชช์ถามต่อ ทำให้ราชนิกูลหนุ่มหลุดหัวเราะออกมา
“เฮ้ย ไอ้หมี นี่นายดูละครมากไปแล้ว สำหรับคนอื่นอาจจะใช่ก็ได้นะ แต่เราไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก"
“แล้วนายคิดยังไงกับมาหยา" รอยยิ้มและเสียงหัวเราะบนใบหน้าของพิชาภพหายไป กลายเป็นตกใจแทน
“คิดยังไง! หมายความว่ายังไงวะ เรากับคุณมาหยาเพิ่งเคยเจอกันครั้งเดียว จะให้คิดอะไรได้ล่ะ" พิชาภพยิ่งประหลาดใจมากเข้าไปใหญ่
“มาหยาก็น่ารักดีใช่ไหม" เพื่อนหุ่นหมีเจ้าของอกผึ่งผายกล้ามเป็นมัดๆถามต่ออีก
"แน่นอนสิ ... เราว่าคุณมาหยาเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะดวงตา ตาสีฟ้า ประทับใจเราเลย" พิชาภพพยักหน้าอย่างเห็นด้วย และชื่นชมจากใจ หากแววตาและสีหน้าของภีมวัชช์ดูแปลกๆ ทำให้ก่อนที่เขาจะโดนยิงคำถามเพิ่ม รีบชิงถามกลับก่อนดีกว่า
“หมี ... นายเป็นอะไรกันแน่ มีอะไรหรือเปล่า"
ภีมวัชช์ยังคงปิดปากนิ่ง แม้ว่าดวงตาของคนหุ่นหมีจะมีอะไรบางอย่างอยู่จริงๆ หากสิ่งที่ภีมวัชช์ตอบนั้นกลับเป็นการปฏิเสธ
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก"
หม่อมหลวงพิชาภพหรี่ตามองเพื่อนที่พอปฏิเสธจบก็นั่งก้มหน้า ท่าทางน่าสงสัย แต่พิชาภพก็ไม่คิดจะซักไซร้อะไรต่อ คิดว่าถ้า 'ไอ้หมีภีม' อยากเล่าหรืออยากปรึกษาก็คงพูดออกมาเอง
+มีต่อ+
เจ้าสาวเงากุหลาบ ตอนที่ 7 : โดย ปิ่นนลิน
ตอนเดิมค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 7
ช่วงสายวันนี้หม่อมหลวงพิชาภพมีนัดประชุมเรื่องการปรับปรุงบ้านเรือนกุหลาบกับภีมวัชช์ที่บริษัทโชควรารัตน์ คอนสตรักชั่น เกี่ยวกับหลายๆประเด็น เช่นการทำสัญญา หรือพบหน้าผู้ดูแลเกี่ยวข้องทั้งหลาย ทุกฝ่ายมาประชุมกันครบเพื่อรับทราบรายละเอียดงานต่างๆ รวมถึงข้อกำชับที่หม่อมหลวงหนุ่มมาดเนี้ยบเตือนทุกคนว่าให้ดูแล และระมัดระวังในการกระทำการใดๆที่อาจจะส่งผลให้บ้าน หรือข้าวของในบ้านเสียหายได้
มากันทุกฝ่ายก็จริง จะขาดก็แต่คนที่พิชาภพตั้งใจจะเอากล้องมาคืน ฝ่ายสถาปนิกส่งเพียงนายกฤษณ์ หัวหน้าของมณิกามาเท่านั้น ไม่มีสาวแว่นผมแดงมาร่วมประชุมด้วย พิชาภพสงสัยว่ามณิกาจะหนีหน้าเขา จึงหาโอกาสถามเมื่อจบการประชุมลงแล้ว
“คุณลูกแก้วล่ะ" พิชาภพถามถึงสถาปนิกสาวที่รับผิดชอบงานปรับปรุงบ้านเก่าของเขา
ภีมวัชช์ส่งเพียงสายตาถามไปยังกฤษณ์ หัวหน้าทีมที่มณิกาสังกัดอยู่ซึ่งเดินตามหลังเขาทั้งสอง เพราะภีมวัชช์เองก็แปลกใจอยู่เหมือนกันที่ไม่เห็นมณิกาเข้าร่วมประชุมด้วย
“ลูกแก้วลาป่วยน่ะครับ เธอโทรมาลาผมแต่เช้าเลย" กฤษณ์ สถาปนิกหนุ่มมาดเท่ห์ตอบคำถาม
“เป็นอะไรมากไหม ปกติลูกแก้วไม่ค่อยลาป่วยนี่" ภีมวัชช์จดจำภาพร่าเริงของมณิกาจนแทบนึกไม่ออกว่าเวลาป่วย มณิกาจะมีสภาพอย่างไร
เมื่อพอคิดถึงคนหนึ่ง หัวใจรั้นๆของภีมวัชช์ก็กระหวัดไปนึกถึงอีกคน
ภีมวัชช์ให้คนของเขาไปจัดการค่าใช้จ่ายโรงพยาบาล พร้อมทั้งเตรียมรถยนต์ไว้ให้แต่เช้า คนของภีมวัชช์รายงานว่าพาทั้งมาหยาและชลลดากลับถึงบ้านแล้ว แม้ภีมวัชช์จะคลายห่วงในเรื่องสุขภาพของมาหยาไปบ้าง แต่ก็มีอีกเรื่องที่เขาหนักใจจนไม่กล้าจ้องตาสีฟ้าของหลานสาวต่างสายเลือดนาน กลัวใจจะอ่อนแอแล้วเปิดรับมาหยามาอยู่ในหัวใจอีก
“น่าจะหนักอยู่นะครับ ปกติถ้าไม่ถึงกับลุกไม่ไหว ลูกแก้วไม่ค่อยลาหรอกครับ บางครั้งผมยังต้องไล่ให้กลับไปพักเลย ไฮเปอร์มาก" กฤษณ์ตอบ ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้
"จริงสิครับ คุณพีช ลูกแก้วบอกผมว่าเธอลืมกล้องถ่ายรูปไว้กับคุณ เธอเลยบอกผม ให้มาบอกคุณว่า
ฝากกล้องไว้กับผมก็ได้นะครับ"
พิชาภพกระตุกยิ้มมุมปาก อยากจะตอบไปนักว่า ... เรื่องสิ ...
หากสิ่งที่ตอบไปกลับเป็นสีหน้าตกใจ เหมือนเพิ่งนึกออก
“จริงสิ ผมก็ลืมเลย ว่าจะติดมือมาด้วยแท้ๆ เอาไว้ผมค่อยมาคืนให้กับเจ้าตัววันหลังก้ได้ครับ"
พิชาภพโกหก กล้องถูกเก็บไว้อย่างดีในรถยนต์ของเขาต่างหาก และเขาก็นำติดมาด้วย หากไม่คิดจะให้ยายผมแดงหลบหน้าเขาง่ายๆหรอก
“ครับ" กฤษณ์ทำได้เพียงยิ้มตอบ
“อ่อ ผมหวังว่าจะไม่มีการเปลี่ยนตัวสถาปนิกกลางคันนะครับ" พิชาภพพูดออกมา สีหน้าจริงจังมาก
ทำให้ภีมวัชช์ชะงักไปทั้งหน้าและตัว สายตาคมปราบถูกส่งไปยังกฤษณ์ กับเรื่องที่เขาเพิ่งรู้
“จะเปลี่ยนหรือกฤษณ์"
“ไม่ครับ ไม่มีเปลี่ยนหรอกครับ ตอนนี้ทุกคนงานเต็มมือหมด จะเปลี่ยนได้ยังไงล่ะครับ ฮ่าๆ" กฤษณ์หัวเราะแห้งๆ หน้าถอดสีไปนิด
“เราไม่อยากเริ่มบรีฟงานใหม่น่ะภีม นายก็รู้ว่าเราไม่มีเวลาว่างมากขนาดนั้น ถ้าเกิดเปลี่ยน เราคงเปลี่ยนบริษัทเลยดีกว่า ถ้าแค่เรื่องกลัวผีแล้วมาทิ้งงานกันแบบนี้ นายเข้าใจเราใช่ไหมว่ามันไร้สาระมาก"
พิชาภพไม่วายฝากระเบิดลูกโตไว้กับภีมวัชช์ และกฤษณ์ ด้วยรอยยิ้มละมุนละไม
“พนักงานของเราไม่ไร้ความรับผิดชอบแบบนั้นหรอกน่า ... แล้วเราก็ไม่คิดว่าลูกแก้วจะทิ้งงานกลางคันด้วย รับประกันได้เลย" ภีมวัชช์ยืนยัน รับประกัน
แต่สุดท้ายสายตาคมกริบของภีมวัชช์ก็กดดันใส่กฤษณ์แทน กฤษณ์ได้แต่ยิ้มแหยๆตอบรับไม่เต็มเสียงนัก
หลังจบประชุม รวมถึงกินมื้อเที่ยงกันแล้ว สองหนุ่มเพื่อนเก่าก็พากันมานั่งดื่มกาแฟในร้านชั้นล่างของบริษัท ตอนแรกพิชาภพก็ว่าจะแยกกลับเลยแต่ภีมวัชช์กลับดึงไว้ บอกมีเรื่องจะคุยด้วยนิดหน่อย
“ไอ้หม่อม ... นายมีแพลนจะแต่งงานหรือยัง"
คำถามของภีมวัชช์ทำเอาหม่อมหลวงพิชาภพเงยหน้าจากถ้วยกาแฟร้อนตรงหน้า กระพริบตามองอย่างสงสัยว่าทำไมอยู่ดีๆถึงได้ถามเรื่องนี้
“ถามอะไร นายก็เห็นว่าแฟน เรายังไม่มี จะให้ไปแต่งกับใครที่ไหนล่ะ" พิชาภพส่ายหน้าตอบ พลางยกกาแฟขึ้นจิบ
“แต่ปกติพวกแบบนายต้องมีพวกคู่หมั้นที่หม่อมย่าท่านพ่ออะไรจัดไว้ให้ไม่ใช่หรือ" ภีมวัชช์ถามต่อ ทำให้ราชนิกูลหนุ่มหลุดหัวเราะออกมา
“เฮ้ย ไอ้หมี นี่นายดูละครมากไปแล้ว สำหรับคนอื่นอาจจะใช่ก็ได้นะ แต่เราไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก"
“แล้วนายคิดยังไงกับมาหยา" รอยยิ้มและเสียงหัวเราะบนใบหน้าของพิชาภพหายไป กลายเป็นตกใจแทน
“คิดยังไง! หมายความว่ายังไงวะ เรากับคุณมาหยาเพิ่งเคยเจอกันครั้งเดียว จะให้คิดอะไรได้ล่ะ" พิชาภพยิ่งประหลาดใจมากเข้าไปใหญ่
“มาหยาก็น่ารักดีใช่ไหม" เพื่อนหุ่นหมีเจ้าของอกผึ่งผายกล้ามเป็นมัดๆถามต่ออีก
"แน่นอนสิ ... เราว่าคุณมาหยาเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะดวงตา ตาสีฟ้า ประทับใจเราเลย" พิชาภพพยักหน้าอย่างเห็นด้วย และชื่นชมจากใจ หากแววตาและสีหน้าของภีมวัชช์ดูแปลกๆ ทำให้ก่อนที่เขาจะโดนยิงคำถามเพิ่ม รีบชิงถามกลับก่อนดีกว่า
“หมี ... นายเป็นอะไรกันแน่ มีอะไรหรือเปล่า"
ภีมวัชช์ยังคงปิดปากนิ่ง แม้ว่าดวงตาของคนหุ่นหมีจะมีอะไรบางอย่างอยู่จริงๆ หากสิ่งที่ภีมวัชช์ตอบนั้นกลับเป็นการปฏิเสธ
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก"
หม่อมหลวงพิชาภพหรี่ตามองเพื่อนที่พอปฏิเสธจบก็นั่งก้มหน้า ท่าทางน่าสงสัย แต่พิชาภพก็ไม่คิดจะซักไซร้อะไรต่อ คิดว่าถ้า 'ไอ้หมีภีม' อยากเล่าหรืออยากปรึกษาก็คงพูดออกมาเอง
+มีต่อ+