เจ้าสาวเงากุหลาบ ตอนที่ 2 - 3 : โดย ปิ่นนลิน

กระทู้สนทนา


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้




ตอนที่ 2

    นี่คงจะเป็นสถิติที่เร็วที่สุดของการขับรถจากกรุงเทพมหานครไปอยุธยาของภีมวัชช์ พอรถอเนกประสงค์เอสยูวีสีขาวของภีมวัชช์จอดที่จอดรถโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเรียบร้อย ทั้งคู่ก็รีบเข้าไปด้านในทันที ร่างของชัชชวินยังอยู่ที่โรงพยาบาล โดยมีพี่สาวของชัชชวิน และญาติคนอื่นๆนั่งอยู่หน้าห้องที่มีร่างของอาจารย์นักออกแบบนอนไร้ลมหายใจอยู่


    “ไหม" ชลลดา พี่สาวของชัชชวินผุดลุกจากที่นั่งเมื่อเห็นหลานสาวกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาแต่ไกล เธอกอดคุณป้าชลลดาไว้แน่นก่อนจะร้องไห้โฮ
    “เกิดอะไรขึ้นหรือครับ ทำไมพี่ชัชถึงได้จากไปเร็วแบบนี้ล่ะครับ" ภีมวัชช์รู้จักชลลดาดี จึงรีบถามรายละเอียดเพิ่มเต้ม เพราะจืด คนดูแลบ้านนั้นเสียใจจนเล่าไม่เป็นเรื่องเลย

    “พี่ก็ไม่รู้หรอกภีม จืดโทรมาบอกพี่ว่าได้ยินเสียงชัชร้อง พอวิ่งมาดูก็พบว่านอนอยู่ตรงตกบันได เลือดไหลท่วมไปหมด และก็คอหักด้วยทำให้เสียชีวิตทันที" ชลดาเล่าเสียงสั่น ด้วยไม่คิดเลยว่าน้องชายที่อนาคตไกลจะด่วนจากไปแบบนี้

    “หนูอยากเจอพ่อจ้ะป้าดา" มาหยาบอกกับชลลดา ชลลดาจึงไปพูดกับเจ้าหน้าที่ มาหยาจึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปร่ำลาพ่อบุญธรรมเป็นครั้งสุดท้าย โดยภีมวัชช์ตามติดไปอยู่ไม่ห่าง

    “พ่อ ... พ่อชัชจ๋า ... ทำไมพ่อชัชต้องทิ้งหนูไปด้วย พ่อตื่นขึ้นมาหาหนูสิจ๊ะ" มาหยาร้องไห้และเรียกหาบิดาใจจะขาด ใบหน้าขาวแดงก่ำจากการร้องไห้มาตลอดทาง ยิ่งเห็น ยิ่งรับรู้ว่าบิดาที่ใจดีของเธอได้จากไปแล้วจริงๆ เธอก็ยิ่งรับไม่ได้

    “พี่ชัช ...” ภีมวัชช์เอ่ยอะไรไม่ออก อดน้ำตาไหลไม่ได้เมื่อต้องสูญเสียพี่ชายที่มีบุญคุณและสนิทกันมากไปแบบนี้ ชัชชวินเคยช่วยชีวิตภีมวัชช์จากอุบัติเหตุไว้ตอนที่ภีมวัชช์อายุยี่สิบปี

    คราวนั้นรถของภีมวัชช์ชนกับข้างทางจนคว่ำ ถ้าหากชัชชวินที่ผ่านมา ไม่ช่วยลากเขาออกมาจากซากรถก่อนที่รถจะไฟลุกท่วม ป่านนี้เขาคงตายไปพร้อมซากรถคันนั้นแล้ว หลังจากนั้นภีมวัชช์ก็ติดต่อ และนับถือชัชชวินเหมือนพี่ชายมาตลอด

    “พี่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมรับปากไว้ ผมจะทำตามสัญญา ผมจะดูแลมาหยาแทนพี่เอง"

    ภีมวัชช์รู้ดีว่าสิ่งนี้ ห่วงสุดท้ายที่อาจจะทำให้ชัชชวินนอนตายตาไม่หลับจึงบอกกับร่างไร้วิญญาณของชัชชวินด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้มาหยาจะเป็นเพียงเด็กที่รับมาเลี้ยงเท่านั้น แต่ชัชชวินรักลูกสาวมาก ถึงขนาดเคยออกปากกับเขาเมื่อครั้งล่าสุดที่ภีมวัชช์มาเยี่ยม ... ราวสามเดือนก่อนได้มั้ง

    'ถ้าภีมทำใจจากแฟนเก่าได้เมื่อไหร่ ลองมองลูกสาวพี่บ้างไหม ยายไหมสวยนะ' ชัชชวินบอกยิ้มๆ ไม่รู้พูดจริงหรือล้อเขาเล่นกันแน่

    'อย่าเลยครับพี่ชัช ไหมยังมีอนาคตที่สวยงาม อย่ามาจมปลักกับคนแก่อย่างผมเลย' ภีมวัชช์คิดว่าอายุเขากับมาหยาห่างกันเป็นสิบปี น่ากลัวจะทำร้ายมาหยามากกว่าหากต้องมาอยู่กับคนน่าเบื่ออย่างเขา

    'แต่พี่คงสบายใจ ถ้าไหมได้คนอย่างภีมดูแล เพราะพี่รู้จักภีมดีว่าภีมเป็นคนไม่เจ้าชู้ และเอาการเอางาน ... ภีม รับปากพี่ได้ไหมถ้าพี่เป็นอะไรไป พี่ฝากลูกสาวพี่ด้วยนะภีม'

    ตอนนั้นชัชชวินฝากฝังลูกเลี้ยงกับเขา ภีมวัชช์ไม่คิดว่านั่นจะเป็นการฝากฝังครั้งสุดท้ายที่เขาได้เจอกับชัชชวิน เพราะภีมวัชช์มัวแต่ยุ่งกับเรื่องงานทั้งงานบริษัทก่อสร้าง และงานที่แฮ้ปปี้ แบร์ ฟาร์ม จึงไม่ได้พูดคุยกับชัชชวินเลย มีเพียงพบหน้ามาหยาบ้างอย่างบังเอิญมากกว่า ... ภีมวัชช์ไม่คิดเลยว่าเขาจะต้องรักษาคำสัญญาที่ให้ไว้กับชัชชวินไวขนาดนี้ ... ไม่น่าเลย




    เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือที่ตั้งไว้เฉพาะบุคคลดังเรียกให้หญิงสาวร่างบางผอมสูง ผมสั้นบ๊อบ ที่อยู่ในห้องน้ำรีบวิ่งออกมาทั้งที่มีแค่แว่นสายตา และผ้าขนหนูนุ่งอยู่ผืนเดียว แต่ในห้องนอนตัวเองเลยไม่น่าห่วงเท่าไหร่


    “ว่าไงไหม" มณิกา กรอกเสียงถามอย่างสงสัยว่ามาหยา ที่แยกกันที่สนามบินโทรศัพท์มาหาเวลานี้ทำไม เพราะเมื่อมองนาฬิกาแขวนผนังก็เห็นว่าเลยวันใหม่มาเกือบชั่วโมงแล้ว

    มณิกาเพิ่งรื้อกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เสร็จ หลังจากไปท่องเที่ยวต่างประเทศกับมาหยา เพื่อนสนิทที่สุด รวมๆสองอาทิตย์ เธอจึงเพิ่งได้อาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวจะนอน วันรุ่งขึ้นต้องไปทำงานแต่เช้า

    “อาเองนะลูกแก้ว ... อาภีม" เมื่อภีมวัชช์บอกอีกฝ่าย ก็ได้ยินเสียงอุทานตกใจจากมณิกา เพื่อนซี้ปึ้กของมาหยา

    “อาภีม! มีอะไรหรือคะ ทำไมโทรมาเบอร์ไหม หรือเกิดอะไรขึ้นกับไหมหรือเปล่าคะ" มณิการัวคำถามใส่ภีมวัชช์ ผู้มีสองสถานะสำหรับเธอ คือ หนึ่ง อาของเพื่อนสนิท และสอง คือ เจ้านายของเธอเอง เพราะมณิกาก็ทำงานเป็นสถาปนิกบริษัทที่ภีมวัชช์บริหารงานอยู่

    แต่เรื่องที่มาหยาเป็นหลานของภีมวัชช์นี่ นอกจากมณิกาแล้วที่ทำงานไม่มีใครรู้เลย เนื่องจากไม่อยากให้เกิดความอึดอัดขึ้นในแผนกการทำงาน มาหยาจึงไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ เวลาพบหน้ากันที่บริษัทฯ จึงไม่ค่อยทัก หรือถ้าพูดคุยก็จะฟอร์มว่าเป็นพนักงานกับผู้บริหารทุกที แต่โชคดีนานๆครั้งจะพบหน้าภีมวัชช์สักที การทำงานมาสองปีของเธอทั้งสองจึงราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร

    ภีมวัชช์ไม่ชอบหรอก แต่ก็ไม่อยากขัดใจ หรือทำให้หลานสาวที่น่ารักของเขาวางตัวลำบากในการทำงาน

    “ไหมไม่ได้เป็นอะไรหรอก แต่พ่อชัชของไหมเขาเสียน่ะ ตอนนี้อากับไหมเลยอยู่อยุธยาด้วยกัน" ภีมวัชช์เล่ารายละเอียดคร่าวๆให้คนในโทรศัพท์ฟัง มณิกาอุทานอย่างตกใจ ใจหายวาบเมื่อได้ยินข่าวร้าย ฝากความเสียใจไปให้เพื่อนคนสนิทด้วย

    “พรุ่งนี้ไหมคงไม่ได้ไปทำงานนะ ยังไงเดี๋ยวอาจะให้ไหมโทรศัพท์ไปลากับคุณกฤษณ์ หัวหน้าของไหมอีกทีนึง" ภีมวัชช์บอกถึงธุระที่ทำให้เขาต้องโทรศัพท์หามณิกากลางดึก

    “ค่ะ แล้วไหมเป็นยังไงบ้างคะ" มณิกาเป็นห่วงเพื่อนสนิทมาก รู้ดีว่ามาหยามีพ่อบุญธรรมเพียงคนเดียว จริงๆก็รู้ว่าชัชชวินมีพี่น้องหลายคน แต่มาหยาก็สนิทกับพ่อที่สุดอยู่ดี

    แต่ภีมวัชช์ก็อยู่ด้วยแบบนี้ มณิกาก็คล้ายจะเบาใจ เขาต้องปลอบมาหยาได้ดีแน่ๆ

    “ก็แย่ๆน่ะนะ ... แล้วอามีเรื่องจะให้ลูกแก้วช่วยอาเรื่องหนึ่ง" ภีมวัชช์เว้นจังหวะ เมื่อมณิกาตอบรับจึงเอ่ยต่อ "พรุ่งนี้จะมีเพื่อนของอาไปพบอาที่บริษัทฯ แต่อาคิดว่าอาคงยังไม่กลับจนกว่าจะเสร็จงานศพของไหม ... เลยอยากจะให้ลูกแก้วช่วยรับงานจากเพื่อนอาแทนที"

    “ได้ค่ะอาภีม ไม่ต้องห่วงนะคะ ลูกแก้วจะจัดการให้นะคะ" มณิการับปาก ก่อนจะถามรายละเอียดเพิ่มเติม "เพื่อนของอาภีมชื่ออะไรคะ" มณิกาถามพร้อมหาสมุดจดมารอ

    “เขาชื่อ พี่พีช นะ เอางี้ ... เดี๋ยวอาจะส่งเบอร์โทรศัพท์ให้ ... อาฝากลูกแก้วทีนะ ขอโทษทีที่โทรมารบกวนกลางดึก" ภีมวัชช์ทิ้งท้ายอย่างเกรงใจ

    “ไม่เป็นไรเลยค่ะอาภีม ยังไงก็ดูๆไหมด้วยนะคะ ลูกแก้วเป็นห่วงไหมมากเลยค่ะ แล้วไหมจะบอกพี่กฤษณ์ให้นะคะ"

    “จ้า คืนนี้ฝันดีจ้ะ"

    ภีมวัชช์วางสายไปแล้ว แต่มณิกายังนั่งอยู่ในท่าเดิม เธอถอนหายใจกับความไม่แน่นอนของชีวิต ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากเสียงข้อความเข้าก็ปลุกให้เธอกดอ่าน

    “มล. พิชาภพ วงศ์ปภาภัทร" มณิกาขมวดคิ้วกับคำนำหน้าชื่อ

    "หม่อมหลวงเหรอ ... อื๋อ ... จะเจ้ายศเจ้าอย่างหรือเปล่าเนี่ยะ" มณิกาเบ้หน้าเมื่อนึกถึงฉากต่างๆในละครแนวเจ้าแนวคุณชายต่างๆ ยิ่งเธอเป็นพวกขี้รำคาญอยู่ด้วย หวังว่าคุณชายคนนี้จะไม่มาเต็มรูปแบบแบบในละครหรอกนะ


(มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่