รักวุ่นวายของคุณชายไฮโซกับยายซุ่มซ่าม ตอนที่ 2 by ล. วิลิศมาหรา

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 2

ชุลมุนลุ้นรัก

     หลังจากทิ้งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการคนใหม่ไว้ที่ห้องทำงานแล้ว ช่อชบาก็กลับมานั่งประจำอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเองหน้าบริษัท ซึ่งห่างจากห้องทำงานของทั้งเนตรนภิสและเขมชาติประมาณสองเมตร เลขานุการสาวรับคำสั่งจากเจ้านายทั้งคู่ผ่านทางโทรศัพท์ติดต่อภายใน

     บริษัทของเนตรนภิสอยู่บนชั้นเจ็ดของอาคารสูงสิบสองชั้นหลังนี้ ข้างล่างต่ำลงไปหนึ่งชั้นเป็นฟู้ดเซ็นเตอร์ บริการอาหารและเครื่องดื่ม มีธนาคารและร้านสะดวกซื้อซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานของบริษัทต่าง ๆ บนอาคารแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

     หญิงสาวแก้มป่องส่งค้อนปะหลับปะเหลือกไปทางห้องทำงานของผู้ช่วยคนใหม่อย่างนึกหมั่นไส้ เมื่อกี้ตอนที่พาเขาเข้าไปในห้องทำงาน ชายหนุ่มหันมองรอบ ๆ ห้อง หล่อนสังเกตเห็นเขาขมวดคิ้วยุ่ง ทำท่าเหมือนไม่ค่อยถูกใจ ขณะสำรวจดูห้องทำงานที่มีโต๊ะทำงานตัวใหญ่ตั้งอยู่เกือบชิดด้านหลังห้องที่เป็นผนังกระจก ซึ่งสามารถเปิดม่านสีชมพูอ่อนออกไปดูทัศนียภาพข้างนอกอาคารได้อีกด้วย
“ทำไมไม่เลือกผ้าม่านสีเขียวนะ จะได้ดูเย็นสบายตามากกว่านี้”
เฮ้ย!!!! พึ่งมาทำงานวันแรก เจ้าหมอนี่เริ่มติสีผ้าม่าน แสดงให้เห็นถึงนิสัยละเอียดหยุมหยิม ซวยแน่ตู ช่อชบานึกเอะอะในใจ
“คอมพิวเตอร์รุ่นนี้เค้าไม่ใช้กันแล้วนะ”
นั่น...ลามมาหาเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่วางอยู่บนโต๊ะอีกตัวซึ่งต่อจากโต๊ะทำงานตัวใหญ่เพื่อให้สะดวกในการทำงาน
“เอิ่ม ไม่ทราบค่ะ ที่คุณถามมาทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องของเจ้าของบริษัทและผู้จัดการ เลขาไม่เกี่ยว”
     หญิงสาวโต้ อดชักสีหน้าเข้าใส่ชายหนุ่มไม่ได้ พอเขาหันขวับมามอง เธอก็รีบเหลือบสายตาขึ้นมองไปทางอื่น ทำไม่รู้ไม่ชี้
     เขาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานบุหนังสีดำ ลองหมุนไปมา แล้วเงยหน้าเข้ม ๆ นั้นขึ้นมองหญิงสาวที่ยืนตาแป๋ว ก่อนออกคำสั่งด้วยเสียงห้วน ๆ อย่างวางอำนาจ
“นั่นสินะ มันไม่ใช่เรื่องอะไรของคุณ มันเป็นเรื่องรสนิยมผมก็ลืมนึกไป เอาละคุณกลับออกไปทำงานได้แล้ว ผมก็จะเริ่มทำงานของผมเสียที”
ต๊าย...มาดูถูกชั้นว่าไม่มีรสนิยมเสียอีกแน่ะ แล้วดูเถอะยังกะชั้นอยากอยู่คุยด้วยงั้นแหละ ชิ ไอ้ผู้ชายไฮโซ!!!!!
ช่อชบารับคำว่า“ค่ะ”สั้น ๆ  แล้วรีบหมุนตัวออกไปจากห้องทำงานของเขาโดยเร็ว

     หล่อเสียเปล่า มารยาทแย่มาก หญิงสาวนึกค่อนขอดในใจ พอนึกอะไรขึ้นมาได้ช่อชบาก็รีบงัดเอากระจกเงาบานเล็กจากในกระเป๋าถือขึ้นมาส่องดู หญิงสาวควานหาคลิปหนีบกระดาษพลาสติกสีสวยใต้โต๊ะ เลือกเอาสีชมพูสีโปรดขึ้นมาอันหนึ่ง บรรจงสอดผมหน้าม้าสั้นเต่อของตัวเองเข้าไว้ในคลิปจนเรียบร้อย มองดูหน้าตาบ้องแบ๊วของตัวเองในกระจกอย่างอิดหนาระอาใจ เมื่อคืนไม่น่ามือบอนไปตัดผมหน้าม้าเลย แล้วพรุ่งนี้พี่อนุชาเห็นเข้าเขาจะปลื้มไหมเนี่ย...ว้า แย่จริง ๆ

     ช่อชบาคิดถึงพี่อนุชาขึ้นมาอีกแล้ว รุ่นพี่คนเก่งของเธอมีใบหน้าหล่อใสขาวสะอาดสะอ้าน คิ้วเข้มตาคมแฝงแววอ่อนโยน ริมฝีปากแดง ๆ เหมือนพวกดาราหนังจีนหนังเกาหลี ประกอบกับรูปร่างสูงใหญ่และสมาร์ทแบบนักกีฬา
     พี่อนุชามีเสน่ห์เร้าใจผู้หญิง โดยเฉพาะเวลาเขาถอดเสื้อนักบาสออก เหลือแต่กางเกงนักกีฬาที่เอวต่ำ เผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องเป็นลอน ๆ  พอมองต่ำลงมาเห็นไรขนหน้าท้องบาง ๆ ที่โผล่พ้นขอบเอวกางเกง หัวใจดวงน้อย ๆ ของช่อชบาก็สะท้านสะเทือนสั่นไหว
อร๊ายยยยย ชั้นอยากเป็นเจ้าสาวพี่เค้า!!!!
     เปรียบเทียบกับอีตาข้างในห้องนั่น สาวแก้มป่องนั่งนึก หมอนี่คงจะรุ่นราวคราวเดียวกับพี่อนุชาหรืออ่อนแก่กว่ากันไม่เท่าไหร่ เธอนึกสงสัยว่าเขาจะมีเชื้อสายชาวอิตาเลียนเพราะรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาเข้มคมราวหนุ่มโรมัน แต่ถึงจะหล่อยังไงถ้านิสัยแย่ก็หมดกัน
     สายมากแล้ว ข้างนอกแดดคงร้อนมาก แต่ภายในบริษัทติดแอร์เย็นฉ่ำ โชคดีจริง ๆ ที่เธอสามารถเปลี่ยนอาชีพจากเซลขายยามาเป็นเลขานุการให้เพื่อนสนิท จึงไม่ต้องเทียวเดินทางตะลอน ๆ ผ่านอากาศร้อนข้างนอกไปโน่นมานี่ให้ลำบากอีก
เนตรนภิสรักและหวังดีต่อเธอมาตลอด ตั้งแต่เรียนบริหารธุรกิจอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน แม้สองสาวจะมีฐานะที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน เพื่อนหญิงคนนี้ของเธอก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจ
      เพื่อนสาวคนสนิทของช่อชบามีนิสัยคล้ายผู้ชาย เธอเป็นลูกสาวคนสุดท้องของเจ้าของบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ส่วนช่อชบาเป็นเด็กกำพร้า อาศัยอยู่กับคุณยายสองคนในบ้านสวนหลังเล็ก ๆ ชานเมือง
     เมื่อเนตรนภิสและเอกพงษ์ผู้เป็นพี่ชายตั้งบริษัทในเครือของบริษัทบิดาแห่งนี้ขึ้นมา เธอจึงดึงตัวเพื่อนสาวให้มาช่วยทำหน้าที่เลขานุการของตัวเอง

     วันนี้เลขาสาวของเนตรนภิสไม่ค่อยมีสมาธิในการทำงาน หล่อนหยิบมือถือมากดดูหน้าเฟสบุคเป็นครั้งที่ร้อย ปรากฏว่ารุ่นพี่หวานใจไม่ยอมขึ้นสเตตัสใด ๆ ไม่มีข้อความ ไม่มีรูปภาพ หล่อนเฝ้ารอเสียงโทรศัพท์ก็ไม่ดังขึ้นเสียที ครั้นจะโทรไปหาก็หน้าบาง กระดายอายเกินไป อีกอย่าง พี่อนุชาเคยบอกว่าไม่ชอบคนงี่เง่าเซ้าซี้ ช่อชบาเกือบสะดุ้งกับคำว่างี่เง่า เพราะคำ ๆ นี้เธอเคยได้ยินเนตรนภิสสรรเสริญเอาบ่อย ๆ  แอบนึกน้อยใจที่รุ่นพี่ชายแสนรักพูดคำนี้กับเธอ แต่พอเขาทอดสายตาอ่อนโยน ยิ้มหวาน ๆ มาให้ เธอก็ลืมมันไปหมดสิ้น..เอาแต่ขวยเขินบิดตัวไปมา
     ไม่ได้การ!!!สาวแก้มป่องกดดูรายชื่อสาว ๆ คู่แข่งหัวใจที่เธอไล่แอดมาเป็นเพื่อนเพื่อเอาไว้ติดตามดูความเคลื่อนไหวของชายคนรัก
     คนแรกคือชิดชนก...แม่สาวคนนี้หน้าตาเซ็กซี่มีนมเป็นอาวุธ มักเซลฟี่อวดโฟรโมสไซส์บี๊กลงเฟสเป็นประจำ
ถัดมาแม่นี่ชื่อฟ้าใส ชอบแอ๊บหน้าใส ๆ คิขุน่ารัก ๆ อีกคนคือยัยน้ำผึ้งเดือนห้า หน้าหวานหยดมดตอมตรึม ไล่มาเรื่อย ๆ ก็ไม่มีวี่แววว่าใครจะมีนัดกับรุ่นพี่
     ตกลงช่อชบาก็ยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวาเลนไทน์พรุ่งนี้เพิ่มเติม แต่ที่รู้แน่ ๆ ก็คือ คู่แข่งแต่ละนางสวยมาก ๆ ๆ ๆ.....ถ้าแข่งความสวยกันเธอก็แพ้ยับเยิน....

     ขณะที่เลขาสาวนั่งนึกกลุ้มอกกลุ้มใจกับหน้าตาและทรงผมของตัวเองอยู่นั้น ฉับพลันก็ต้องสะดุ้งขึ้นสุดตัวเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นสายที่มาจากห้องของผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการคนใหม่
“คุณเลขาช่วยชงกาแฟมาให้ผมถ้วยหนึ่งนะ กาแฟสองน้ำตาลสองไม่ใส่ครีม”
     ช่อชบารับคำสั้น ๆ อีกตามเคย  อะฮ่า... งานแรกของการทำหน้าที่เลขาวันนี้คือเสิร์ฟกาแฟให้เจ้านายคนใหม่อีกคนวุ้ย...
     หญิงสาวลุกออกไปชงกาแฟให้เขาตามคำสั่ง เสร็จแล้วก็ยกไปให้ในห้องทำงาน หล่อนเคาะประตูแล้วผลักเข้าไป เธอเห็นร่างสูงกำลังนั่งคุยโทรศัพท์มือถืออยู่ที่โต๊ะ ช่อชบาเดินก้มหน้างุดเข้าไปวางถ้วยกาแฟให้บนโต๊ะแล้วจะรีบหันกลับออกมา เสียงดุ ๆ นั้นก็ดังขึ้น
“กิ๊ปหนีบผมคุณสวยดีนะ”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นจ้องชายหนุ่มตรงหน้าที่ปิดมือถือลงแล้วมองมาที่เธอยิ้ม ๆ
จ๊าก.....ชั้นอยากเข้าไปหักคอแก๊!!!!!!
เลขาสาวยกมือขึ้นตะครุบปิดกิ๊บคลิปหนีบกระดาษอย่างอัตโนมัติ กัดฟันตอบว่า
“ขอบคุณ..ค่ะ”

     เนตรนภิสหายไปนานคงจะยังไม่เสร็จธุระ ช่อชบาก้มมองดูนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่าใกล้เที่ยง แล้วมื้อเที่ยงนี่ต้องทำยังไงกับหมอนั่นล่ะ หล่อนชะเง้อมองไปรอบ ๆ บริษัทหวังจะพึ่งพาคนรู้จักแต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะตัวเธอเองก็พึ่งมาทำงานได้ไม่นาน ยังไม่ค่อยรู้จักใครเลย มีแต่ชมพูนุท พนักงานบัญชีสาวร่างท้วมที่คุ้นด้วยหน่อย ช่อชบารีบเดินเกร่ไปหา
“จะเที่ยงแล้วไปกินข้าวกัน”
สาวบัญชียิ้มให้เพื่อนใหม่
“อ้าว วันนี้ไม่ไปกินกับบอสเหรอจ๊ะ”
“บอสออกไปข้างนอกยังไม่กลับจ้ะ”
“ขอโทษนะ วันนี้เราห่อข้าวมากิน อยากเคลียร์งานให้เสร็จเร็ว ๆ เพราะจะลาพักน่ะจ๊ะ”
     ช่อชบาหน้าแห้งลงเมื่อได้ยิน เธอพึมพำบอกเพื่อนร่วมงานว่าไม่เป็นไร หันซ้ายหันขวาก่อนตัดสินใจกดโทรศัพท์หาเพื่อนสาว
“อ้อ พี่ชาติมาแล้วเหรอ เออนี่ ฉันยังไม่เสร็จธุระ เดี๋ยวแกพาพี่ชาติไปกินข้าวทีนะ กินที่ฟู้ดเซ็นเตอร์นั่นแหละ พี่ชาติเขาเป็นเพื่อนพี่ชายชั้นเองไม่เรื่องมากหรอก เค้าใจดีอุตส่าห์ยอมมาช่วยงานบริษัทให้ชั้น ยอมรับเงินเดือนจี๊ดเดียวของบริษัทเราทั้ง ๆ ที่จบจากอังกฤษ ลำบากแกหน่อยนะ แกก็พึ่งมาทำงานได้ไม่กี่วันเอง เดี๋ยวบ่าย ๆ ชั้นทำธุระเสร็จแล้วจะรีบกลับเข้าไป โอเคนะเพื่อน”
     แม่เพื่อนซี้และเจ้านายสาวสั่งเสียยืดยาวก่อนตัดสายไป
ห๊ะ...ว่าไงนะ ช่อชบามองมือถือเหมือนโดนผีหลอก ชั้นต้องไปกินข้าวกับไอ้หนุ่มไฮโซนั่น...โอ้..แม่จ้าว...ไม่นะ!!!!!

จบตอนที่ 2 ค่ะ อ่านแล้วรู้สึกกับนิยายแบบนี้ยังไงช่วยคอมเม้นท์ให้ด้วยนะคะ นี่เป็นนิยายรักใสๆที่พึ่งเขียนครั้งแรกค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่