สวรรค์บาป (ตัวเดินเรื่องเป็นสาวประเภทสอง) ตอนที่ 13

สวรรค์บาป ตอนที่ 12>> http://ppantip.com/topic/33969919

ตอนที่ 13

ชลิตารีบนำชายหนุ่มที่ในตอนนี้ใบหน้าของเขาโชกไปด้วยเลือด หล่อนขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวลเพราะว่าผู้ที่ทำให้เขาเป็นเช่นนี้ก็คือตัวหล่อนเอง ทั้งคู่เดินลงมาอย่างรีบๆ คุณลีลาวดีที่กำลังทำท่าจะเดินขึ้นบันไดเช่นกัน ชลิตาเดินลงมาไม่ทันได้มองจนเกือบจะชนคุณลีลาวดี ด้วยเร่งรีบที่จะพาเขาไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

"อุ๊ย...จะรีบไปไหนกันน่ะสองคนนี้" คุณลีลาวดีพูดใส่ชลิตาอย่างใส่อารมณ์ เพราะเหตุการณ์เมื่อเช้านี้ก็ทำให้อารมณ์ของคุณลีลาวดีขุ่นเคืองมิใช่น้อย แต่หล่อนก็ต้องอุทานอย่างตกใจ เมื่อมองไปเห็นเลือดไหลลงมาเป็นทางจากศีรษะด้านซ้ายของชานนท์ผู้ที่หล่อนอ้างว่าเขาคือสุทธิ์นันท์ผู้เป็นบุตรชายคนเดียว

"ว๊าย สุทธิ์ ทำไมเลือดออกเต็มหน้าไปหมดอย่างนั้นล่ะ ฮึ บอกแม่มาใครทำอะไร?" คุณลีลาวดีรีบแสดงบทบาทแม่สุดที่รักขึ้นมาทันที

"ฉันจะรีบพาคุณสุทธิ์ไปหาหมอเดี๋ยวนี้แล้วค่ะ เขาคงไม่เป็นอะไรมากแค่เย็บแผลเดี๋ยวเดียวก็คงจะหาย แต่เขาอาจจะตายก่อนก็ได้ถ้าคุณยังถามอยู่อย่างนี้!" ชลิตากล่าวตอบอย่างไปที เนื่องจากหล่อนไม่อยากจะมองหน้าสตรีสูงวัยผู้นี้สักนิด!

คุณลีลาวดีได้ยินเช่นนี้ก็ฉายแววตาริษยาออกมาอย่างเปิดเผย ปากของหล่อนขมุบขมิบใส่หญิงสาวประเภทสองตรงหน้า เหมือนจะบอกว่า "หนอยนังเด็กนี่อยากจะโดนตบเหรอ" แต่ชลิตาไม่รอให้เวลาผ่านพ้นไปนานกับการที่ต้องอยู่ใกล้กับสตรีนางนี้ หล่อนเดินผละออกไปที่ลานจอนรถก่อนอย่างไม่สนใจ

"คุณแม่ครับผมไม่เป็นอะไรมากหรอก เดี๋ยวผมจะกลับมาเล่านะครับว่าเกิดอะไีรขึ้น!" ชานนท์ในคราบของสุทธิ์นันท์กล่าวเสียงอ่อนกับผู้เป็นมารดาบุญธรรม ก่อนจะนำตัวและศีระษะที่โชกเลือดนั้นก้าวตามชลิตาที่บัดนี้เดินสะบัดตัวออกไปที่ลานจอดรถก่อนแล้ว

ประวิทย์ชายหนุ่มวัยรุ่นร่างสูงโปร่งผิวสีน้ำตาลเข้มแบบฉบับของหนุ่มใต้ เขาอยู่ในชุดทำงานเป็นเสื้อคอโปโลของบริษัทและกางเกงยีนส์ขายาวอย่างเรียบง่ายแต่ดูสุภาพ เขาสะพายเป้ใบใหญ่สีดำแนบข้างลำตัวเหมือนข่างในกระเป๋านั้นจะมีเอกสารอยู่ไม่น้อย

"อ่าว ตา จะไปไหนแต่เช้า..." ประวิทย์รีบทักทายชลิตาผู้เป็นลูกสาวของประมุขของบ้านและเจ้าของบริษัทผลิตน้ำมันปาล์มที่เขาทำงานอยู่ เขาทักทายอย่างสนิทสนม

ยังไม่ทันที่จะได้รับคำตอบจากหญิงสาวผู้ที่สนิทคุ้นเคยมาตั้งแต่วัยเยาว์ เขาเห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หุ่นนายแบบ วิ่งตามมาอีกคนมือข้างซ้ายถือผ้าเช็ดหน้าสีขาวนำมาปิดรอยเลือดที่ไหลออกมาจากศีรษะ เขาเห็นสุทธิ์นันท์รีบเปิดประตูรถด้านซ้ายเพื่อที่จะขึ้นไปนั่งเคียงคู่กับ ชลิตา เขาตกใจมากเหมือนกันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมสุทธิ์นันท์คู่หมั้นหนุ่มของ ชลิตา ถึงได้มีเลือดออกมากขนาดนั้น

ชลิตาเลื่อนกระจกรถยนต์ด้านคนขับลงมาจนสุด...หล่อนชะโงกหน้าไปพูดกับประวิทย์เพื่อนชายคนสนิทในบ้านอย่างรีบร้อน "วิทย์คือ เรื่องมันยาวน่ะ ตาจะกลับมาเล่าให้ฟังนะ เอ่อ...ฝากให้ตามคุณย่าแจ้ว ให้ไปดูแลคุณแม่ด้วย นะเร็วๆล่ะ ขอบใจนะวิทย์"

ชลิตาเลื่อนกระจกขึ้นปิดอย่างรวดเร็วและแล่นรถออกจากบ้านเกียรติยานนท์ไป...ปล่อยให้ประวิทย์ยืนมองอย่างงุนงงต่อสิ่งที่ได้เห็นในช่วงเช้าของวันนี้ ก็เมื่อวานชลิตา เพิ่งจะหมั้นกันหวานชื่นไปหยกๆ ฉไนวันนี้คุณสุทธิ์นันท์ถึงได้หัวร้างค่างแตกอย่างนี้ล่ะ?

หรือว่า...ทั้งคู่เกิดการทะเลาะกันขึ้นมาหนักหนา และมีการทำร้ายร่างกายกัน โอ...ใช่ซี เขาเห็นรอยแดงช้ำบนใบหน้าและลำตัวของชลิตาด้วยนี่...ผมเผ้าที่เกือบจะไม่เป็นทรงของหล่อนด้วย นี่นับเ็ป็นครั้งแรกที่เขาเห็นชลิตาออกจากบ้านในสภาพนี้ ไม่ได้สวยเนี๊ยบเหมือนวันก่อนๆ

โอ...เขามองทอดสายตาไปที่รถยนต์คันหรูก่อนที่มันจะหายลับตาออกไปจากถนนของบ้านเกียรติยานน์ เขารู้สึกสงสารและเห็นใจ ชลิตา ผู้หญิงที่เขาก็ได้เพียงแต่ "แอบ" รักเป็นอย่างมาก

"ขออย่าให้สิ่งที่ผมคิดเป็นความจริงเลย" ประวิทย์ครางออกมาช้าๆ เขาถอนหายใจออกมาครู่หนึ่งก่อนที่จะได้ยินเสียงสตรีนางหนึ่งวิ่งออกมาจากตัวบ้านและหล่อนก็หยุดวิ่งเมื่อมาถึงลานจอดรถ หล่อนยืนไม่ห่างจากจุดที่เขายืนมากนัก

"นี่คุณ ขับรถพาฉันตามพวกเขาไปโรงพยาบาลที!" พิมพ์มาดาหล่อนปรายตามองชายหนุ่มผิวคมเข้มที่ยืนอยู่ตรงนั้น หล่อนเดินเข้ามาหาและมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนจะบอกว่าเรามันคนละชั้นกัน!

หล่อนตื่นมาเห็นอาการตกใจของคุณลีลาวดีผู้เป็นมารดาของชานนท์ เมื่อหล่อนได้ยินคุณลีลาวดีอ้างมาว่า ชลิตาทำร้ายชานนท์จนหัวร้างข้างแตก ฉไนหล่อนจะทนรอและรีบวิ่งตามออกมา แต่ไม่ทันเสียแล้ว ทั้งสองได้ขับรถออกไปก่อนเพียงอึดใจเดียวก่อนที่หล่อนจะวิ่งมาถึง

"เอ่อ...คุณครับผมไม่ใช่คนขับรถนะครับ แล้วผมก็ไม่มีเวลาว่างด้วย จะไปทำงานครับ" ประวิทย์พยายามตอบอย่างเรียบๆ พยายามข่มใจให้พูดออกมาอย่างสุภาพ ถึงแม้ในใจจะไม่อยากพูดดีด้วยกับสตรีวัยสามสิบเศษคนนี้เพราะเขาก็พอรู้มาจากชลิตาเช่นกัน ว่าการที่สตรีนางนี้เข้ามาอยู่กับสุทธิ์นันท์ในบ้านเกียรติยานนท์ หาใช่พี่สาวแท้ไม่ แต่อาจจะเป็นเมียซะมากกว่า!

"นี่คุณ...ฉันก็เห็นคุณก็เป็นลูกคนใช้ไม่ใช่เหรอ มีพ่อเป็นคนสวน มีแม่เป็นแม่ครัว..." พิมพ์มาดาพูดเพื่อที่จะยั่วโมโหเขาพร้อมกับพูดต่อไปว่า "ฉันรู้นะ ฉันเป็นผู้หญิงที่ผ่านอะไรมาเยอะ ฉันดูผู้ชายทุกคนออกว่าคิดอย่างไรกับผู้หญิง...ถ้าให้ฉันเดา แววตาที่เธอมองยายชลิตาน่ะ...เธอชอบชลิตาใช่ไหม?"

ประวิทย์นิ่งอึ้งไปในทันที เมื่อได้ยินคำพูดดูถูกและทิ้งท้ายด้วยการทายใจเขา...แต่มันช่างแม่นยำเสี่ยนี่กระไร ใช่แล้ว เขาชอบชลิตาเขายอมรับออกมาในใจ แต่เขาก็ไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาให้พิมพ์มาดา หญิงสาวที่โชว์ตัวว่าเป็นหญิงกร้านโลก รู้จักอ่านใจผู้ชายทุกคน!

"ถ้าคุณรู้ใจผู้ชายทุกคน...ผมก็หวังว่าคุณจะรู้ใจคุณสุทธิ์นันท์ด้วยน่ะซีครับ...อ้อ...แล้วอีกอย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าผมจะเป็นลูกคนสวนหรือว่าแม่ครัวในบ้าน แต่ก็ยังดูมีค่ามีราคากว่าใครหลายๆคน ที่วันๆไม่ได้ทำอะไรเลย คอยแต่จะ....คุณว่าไงครับ...คุณพิมพ์มาดา!" ประวิทย์พูดจบก็ใช้สายตาคมงามคู่นั้นมองตั้งแต่หัวจรดเท้าของสตรีผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน่า...เหมือนกับจะบอกว่า คุณนั่นแหละที่ผมเอ่ยถึง !

พิมพ์มาดาฉลาดพอที่จะรู้ว่าประวิทย์กำลังเอ่ยถึงหล่อนอย่างเจ็บแสบ...ยังไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่า หล่อนขบฟันเข้าหากัน มือกำไว้แน่น เท้าทั้งสองข้างอยู่ไม่นิ่ง สาวเท้าไปมาอยู่กับที่อย่างนั้นเหมือนจะแสดงให้ชายหนุ่มสูงโปร่งตรงหน้าได้เห็นว่าหล่อนโกรธมากแค่ไหน

"หนอยแก...แกมาด่าฉันได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ ไอ๊ลูกคนสวน ไอ๊ขยะ...แก แก๊....!" พิมพ์มาดาอยากจะกรีดร้องออกมาเดี๋ยวนั้น แต่เมื่อเหลือบไปเห็นคนสวนหลายคนกำลังจ้องมองหล่อนอยู่ในขณะที่กำลังช่วยกันตัดแต่งกิ่งไม้ในสวนอยู่นั้น แววตาชายหนุ่มฉกรรจ์ สามคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากหล่อนมาก ก็คงพอจะได้ยินว่าหล่อนกำลังดูถูก "คนสวน" พวกเขาจ้องมองหล่อนอย่างเขม็ง นั่นเองทำให้พิมพ์มาดารู้สึกกลัวขึ้นมาในใจ...

"ฝากไว้ก่อนเถอะนะแก..." พิมพ์มาดาชี้หน้าด่าประวิทย์ ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นตึกไป ก็แน่ล่ะถ้าขืนหล่อนยืนอยู่ตรงนั้นอีกไม่กี่อึดใจหล่อนคงโดนคนงานรุมโทรมไปแล้วก็เป็นได้...

ประวิทย์ยืนมองสตรีร่างอวบอั๋นในชุดเดรสสั้นสีแดงสด...ที่บัดนี้วิ่งสะบัดขึ้นไปบนตัวบ้านแล้วนั้น...ประวิทย์ถอนหายใจเบาๆอีกครั้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเขาก็ทำท่าเหมือนคิดอะไรออกว่าชลิตานั้นได้บอกไว้ว่าให้ไปบอกกับย่าแจ้ว เพื่อให้เข้าไปดูแลคุณตรีรัตน์ ใช่...และเขาก็รีบเดินกึ่งวิ่งเข้าไปที่เรือนครัวเพื่อที่จะบอกเรื่องนี้ให้ย่าแจ้วได้ทราบ ซึ่งยาแจ้วก็มีศักดิ์เป็นคุณย่าแท้ๆของประวิทย์

***************
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่