📜 🚙 รถกระบะเก่าสีดำค่อยๆ เคลื่อนตัวไปตามถนนลูกรังที่ทอดยาวเข้าไปในความมืด
💡 แสงไฟหน้ารถส่องกระทบกับหมอกควันจางๆ ที่ลอยฟุ้งอยู่เหนือพื้นดิน
🌫️ ทำให้ทัศนวิสัยยามค่ำคืนยิ่งเลวร้ายลงไปอีก
🦗 เสียงจิ้งหรีดร้องดังเป็นระยะๆ สลับกับเสียงลมพัดผ่าน
🛤️ เส้นทางลูกรังที่เราเลือกใช้เป็นทางลัดไปในตัวเมืองยโสธรนั้นคดเคี้ยวและไม่คุ้นเคย
“ทางมันเปลี่ยวจังเลยนะเมย์” เอกหันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะให้ดูเป็นปกติ
🤲 แต่ฉันสังเกตเห็นว่ามือของเขาเกาะแน่นที่ขอบประตูรถ
“ทำไมมาทางลัดเนี่ย” ชาตรีเอ่ย
😰 ฉันพยายามจะไม่สนใจความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้น
🚧 แต่ยิ่งเราขับลึกเข้าไปในทางลัดมากเท่าไหร่
😨 ความหวาดกลัวของฉันก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
👻 ฉันนึกถึงตำนานเล่าขานเกี่ยวกับผีปอบและโจรที่มักจะออกมาอาละวาดในยามค่ำคืน
“พวกแกกลัวอะไรกันเนี่ย” ฉันพยายามจะล้อเล่นเพื่อคลายความตึงเครียด
เอ็มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เอกหันมาทางฉันแล้วพูดว่า “ไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหนเลยนี่นา”
แต่แววตาของเอ็มดูไม่มั่นใจเท่าไหร่
เราขับรถต่อไปอีกสักพักใหญ่ ๆ จู่ ๆ เสียงเครื่องยนต์ก็ดังขึ้นอย่างผิดปกติ
แล้วรถก็กระตุกวูบ เอกเหยียบเบรกจนล้อดัง
แล้วรถก็ค่อย ๆ ชะลอความเร็วลงจนสุดท้ายก็หยุดนิ่ง
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
ชาตรีถามด้วยเสียงที่สั่นเครือ
“ไม่รู้สิ รถมันเสียหรือเปล่า”
เอกตอบพลางลงไปดูเครื่องยนต์
ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงจันทร์ที่ส่องแสงจาง ๆ
ทำให้ฉันเห็นเงาของต้นไม้สูงใหญ่ที่โอนเอนไปมาตามแรงลม
พวกเราติดอยู่กลางป่าในคืนที่มืดมิดและเงียบสงัด ฉันรู้สึกถึงความกลัว
.............
หลังจากพยายามซ่อมรถอยู่นานสองนาน
แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้
เอกจึงตัดสินใจว่าเราควรจะเดินต่อไปยังตัวเมืองยโสธร
ระหว่างทางที่เดินไปตามถนนลูกรังนั้น
เราต่างก็รู้สึกเหนื่อยล้าและหิวกระหาย
พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นร้านสะดวกซื้อเล็ก ๆ ร้าง ๆ ตั้งอยู่ริมทาง
“โชคดีจัง พบร้านสะดวกซื้อพอดี” ชาตรีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจ
เราต่างก็พากันเดินเข้าไปในร้าน ร้านดูเงียบสงัดและมืดมิด
มีเพียงแสงไฟจากตู้เย็นที่ส่องสว่างเป็นบางจุด
ภายในร้านมีของวางขายไม่มากนัก และดูเหมือนว่าจะไม่มีลูกค้าคนอื่นเลยนอกจากพวกเรา
มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ เขามีรูปร่างผอมสูง
ใบหน้าซีดเซียว และดวงตาที่จ้องมองพวกเราด้วยสายตาที่น่ากลัว
“สวัสดีครับ” เอกทักทายไป แต่ชายคนนั้นก็ยังคงนิ่งเงียบ ไม่ตอบอะไรเลย
เราเดินไปหยิบน้ำดื่มและขนมขบเคี้ยวใส่ตะกร้า แล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อชำระเงิน
ชายคนนั้นหยิบสินค้าของเราขึ้นมาดูอย่างละเอียด แล้วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “พวกบ้านนอกยากจน”
คำพูดของเขาทำให้พวกเราตกใจและรู้สึกโกรธ
“ทำไมพูดกับลูกค้าแบบนี้”
ฉันตอบกลับไปอย่างโมโหชายคนนั้นส่ายหัวแล้วพูดต่อว่า “ร้านนี้ไม่ได้ขายของให้คนแบบพวกแก”
พวกเราพยายามจะใจเย็น
บรรยากาศในร้านเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ ฉันรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังและไม่สบายใจ
ฉันหันไปมองเพื่อน ๆ พวกเขาก็ดูจะรู้สึกไม่สบายใจเหมือนกัน
พวกเรารีบออกจากร้านทันที
..............
หลังจากที่เราออกไปไม่นาน
ความเงียบสงัดในร้านสะดวกซื้อถูกทำลายลงด้วยเสียงกระจกแตกดังสนั่นหวั่นไหว
พวกเราต่างผวาและหันไปมองต้นเสียง
พวกเราเห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งสวมหน้ากากสีดำและแต่งกายมิดชิดถือมีดคมกริบวิ่งตรงเข้ามาในร้าน
"เอาเงินมาให้หมด!" ชายคนนั้นตะโกนออกมาเสียงดังลั่น
พร้อมกับชี้มีดไปยังชายวัยกลางคนเจ้าของร้าน
ชายวัยกลางคนเจ้าของร้านที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ
"เอาเงินมาให้หมด!" เสียงทุ้มต่ำของคนร้ายดังกึกก้องไปทั่วร้าน
พร้อมกับใบมีดคมกริบที่เปล่งประกายวาววับในแสงไฟอันน้อยนิด
เขาชี้ใบมีดไปยังลิ้นชักเก็บเงินที่อยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์
เจ้าของร้านทำได้เพียงแต่ยืนนิ่งและมองไปยังใบมีดที่ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัว
"รีบๆ หน่อย!" คนร้ายตะคอกเสียงดัง
ในขณะที่เหตุการณ์กำลังตึงเครียด
ฉันและเพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ด้านนอกร้านก็ได้ยินเสียงโวยวายจากภายใน
จึงรีบวิ่งกลับเข้าไปในร้านทันที
...
เมื่อเข้าไปก็เห็นเจ้าของร้าน ถูกคนร้ายแทงจนตาย
เรามาช้าเกินไป ถ้าเจ้าของร้านไม่ไล่เราออกมาก็คงไม่เป็นแบบนี้
กสิณ 10!" เอกตะโกนออกมาขณะที่
โจรคนนั้นพยายามจะเข้ามาทำร้ายฉัน
แสงสีทองอร่ามแผ่ออกมาจากตัวของเอก พลังงานอันทรงพลังสะกดโจรคนนั้นให้แข็งทื่อ
โจรคนนั้นร้องเสียงหลง คาถานะจังงัง
“แกเป็นใครกันแน่เนี่ย!”
ขณะที่พวกเรากำลังตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
รีบโทรแจ้งตำรวจเถอะ” ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรแจ้งตำรวจ
ไม่นานนัก รถตำรวจก็มาถึง พวกตำรวจจับกุมตัวโจรคนนั้นไปดำเนินคดี
และพาพวกเราไปส่งในตัวเมืองยโสธร
พวกเราซื้อของกินเล่นและเข้าพักที่รีสอร์ท รอตอนเช้าเราก็โทรหาช่างซ่อมรถ
ตลอดทั้งคืน ฉันนอนไม่หลับ คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ชีวิตนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนอง การกระทำของเราในปัจจุบันย่อมส่งผลต่ออนาคตของเราเอง
ก่อนจะตัดสินใจใช้ทางลัด
ลองคิดทบทวนให้ดีนะครับ
เพราะบางครั้งทางลัดอาจนำพาความสยองขวัญมาให้ก็ได้"
.............
"เรื่องราวความลึกลับยังไม่จบแค่นี้! อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อ ต้องรอชมต่อไปนะ"
ซี่รี่ กสิณ10
https://youtu.be/e2AVgO6NXQY
https://youtu.be/8E9kO8ADks4
ทางลัดไปยโสธรตอนกลางคืน👻
📜 🚙 รถกระบะเก่าสีดำค่อยๆ เคลื่อนตัวไปตามถนนลูกรังที่ทอดยาวเข้าไปในความมืด
💡 แสงไฟหน้ารถส่องกระทบกับหมอกควันจางๆ ที่ลอยฟุ้งอยู่เหนือพื้นดิน
🌫️ ทำให้ทัศนวิสัยยามค่ำคืนยิ่งเลวร้ายลงไปอีก
🦗 เสียงจิ้งหรีดร้องดังเป็นระยะๆ สลับกับเสียงลมพัดผ่าน
🛤️ เส้นทางลูกรังที่เราเลือกใช้เป็นทางลัดไปในตัวเมืองยโสธรนั้นคดเคี้ยวและไม่คุ้นเคย
“ทางมันเปลี่ยวจังเลยนะเมย์” เอกหันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะให้ดูเป็นปกติ
🤲 แต่ฉันสังเกตเห็นว่ามือของเขาเกาะแน่นที่ขอบประตูรถ
“ทำไมมาทางลัดเนี่ย” ชาตรีเอ่ย
😰 ฉันพยายามจะไม่สนใจความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้น
🚧 แต่ยิ่งเราขับลึกเข้าไปในทางลัดมากเท่าไหร่
😨 ความหวาดกลัวของฉันก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
👻 ฉันนึกถึงตำนานเล่าขานเกี่ยวกับผีปอบและโจรที่มักจะออกมาอาละวาดในยามค่ำคืน
“พวกแกกลัวอะไรกันเนี่ย” ฉันพยายามจะล้อเล่นเพื่อคลายความตึงเครียด
เอ็มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เอกหันมาทางฉันแล้วพูดว่า “ไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหนเลยนี่นา”
แต่แววตาของเอ็มดูไม่มั่นใจเท่าไหร่
เราขับรถต่อไปอีกสักพักใหญ่ ๆ จู่ ๆ เสียงเครื่องยนต์ก็ดังขึ้นอย่างผิดปกติ
แล้วรถก็กระตุกวูบ เอกเหยียบเบรกจนล้อดัง
แล้วรถก็ค่อย ๆ ชะลอความเร็วลงจนสุดท้ายก็หยุดนิ่ง
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
ชาตรีถามด้วยเสียงที่สั่นเครือ
“ไม่รู้สิ รถมันเสียหรือเปล่า”
เอกตอบพลางลงไปดูเครื่องยนต์
ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงจันทร์ที่ส่องแสงจาง ๆ
ทำให้ฉันเห็นเงาของต้นไม้สูงใหญ่ที่โอนเอนไปมาตามแรงลม
พวกเราติดอยู่กลางป่าในคืนที่มืดมิดและเงียบสงัด ฉันรู้สึกถึงความกลัว
.............
หลังจากพยายามซ่อมรถอยู่นานสองนาน
แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้
เอกจึงตัดสินใจว่าเราควรจะเดินต่อไปยังตัวเมืองยโสธร
ระหว่างทางที่เดินไปตามถนนลูกรังนั้น
เราต่างก็รู้สึกเหนื่อยล้าและหิวกระหาย
พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นร้านสะดวกซื้อเล็ก ๆ ร้าง ๆ ตั้งอยู่ริมทาง
“โชคดีจัง พบร้านสะดวกซื้อพอดี” ชาตรีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจ
เราต่างก็พากันเดินเข้าไปในร้าน ร้านดูเงียบสงัดและมืดมิด
มีเพียงแสงไฟจากตู้เย็นที่ส่องสว่างเป็นบางจุด
ภายในร้านมีของวางขายไม่มากนัก และดูเหมือนว่าจะไม่มีลูกค้าคนอื่นเลยนอกจากพวกเรา
มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ เขามีรูปร่างผอมสูง
ใบหน้าซีดเซียว และดวงตาที่จ้องมองพวกเราด้วยสายตาที่น่ากลัว
“สวัสดีครับ” เอกทักทายไป แต่ชายคนนั้นก็ยังคงนิ่งเงียบ ไม่ตอบอะไรเลย
เราเดินไปหยิบน้ำดื่มและขนมขบเคี้ยวใส่ตะกร้า แล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อชำระเงิน
ชายคนนั้นหยิบสินค้าของเราขึ้นมาดูอย่างละเอียด แล้วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “พวกบ้านนอกยากจน”
คำพูดของเขาทำให้พวกเราตกใจและรู้สึกโกรธ
“ทำไมพูดกับลูกค้าแบบนี้”
ฉันตอบกลับไปอย่างโมโหชายคนนั้นส่ายหัวแล้วพูดต่อว่า “ร้านนี้ไม่ได้ขายของให้คนแบบพวกแก”
พวกเราพยายามจะใจเย็น
บรรยากาศในร้านเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ ฉันรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังและไม่สบายใจ
ฉันหันไปมองเพื่อน ๆ พวกเขาก็ดูจะรู้สึกไม่สบายใจเหมือนกัน
พวกเรารีบออกจากร้านทันที
..............
หลังจากที่เราออกไปไม่นาน
ความเงียบสงัดในร้านสะดวกซื้อถูกทำลายลงด้วยเสียงกระจกแตกดังสนั่นหวั่นไหว
พวกเราต่างผวาและหันไปมองต้นเสียง
พวกเราเห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งสวมหน้ากากสีดำและแต่งกายมิดชิดถือมีดคมกริบวิ่งตรงเข้ามาในร้าน
"เอาเงินมาให้หมด!" ชายคนนั้นตะโกนออกมาเสียงดังลั่น
พร้อมกับชี้มีดไปยังชายวัยกลางคนเจ้าของร้าน
ชายวัยกลางคนเจ้าของร้านที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ
"เอาเงินมาให้หมด!" เสียงทุ้มต่ำของคนร้ายดังกึกก้องไปทั่วร้าน
พร้อมกับใบมีดคมกริบที่เปล่งประกายวาววับในแสงไฟอันน้อยนิด
เขาชี้ใบมีดไปยังลิ้นชักเก็บเงินที่อยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์
เจ้าของร้านทำได้เพียงแต่ยืนนิ่งและมองไปยังใบมีดที่ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัว
"รีบๆ หน่อย!" คนร้ายตะคอกเสียงดัง
ในขณะที่เหตุการณ์กำลังตึงเครียด
ฉันและเพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ด้านนอกร้านก็ได้ยินเสียงโวยวายจากภายใน
จึงรีบวิ่งกลับเข้าไปในร้านทันที
...
เมื่อเข้าไปก็เห็นเจ้าของร้าน ถูกคนร้ายแทงจนตาย
เรามาช้าเกินไป ถ้าเจ้าของร้านไม่ไล่เราออกมาก็คงไม่เป็นแบบนี้
กสิณ 10!" เอกตะโกนออกมาขณะที่
โจรคนนั้นพยายามจะเข้ามาทำร้ายฉัน
แสงสีทองอร่ามแผ่ออกมาจากตัวของเอก พลังงานอันทรงพลังสะกดโจรคนนั้นให้แข็งทื่อ
โจรคนนั้นร้องเสียงหลง คาถานะจังงัง
“แกเป็นใครกันแน่เนี่ย!”
ขณะที่พวกเรากำลังตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
รีบโทรแจ้งตำรวจเถอะ” ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรแจ้งตำรวจ
ไม่นานนัก รถตำรวจก็มาถึง พวกตำรวจจับกุมตัวโจรคนนั้นไปดำเนินคดี
และพาพวกเราไปส่งในตัวเมืองยโสธร
พวกเราซื้อของกินเล่นและเข้าพักที่รีสอร์ท รอตอนเช้าเราก็โทรหาช่างซ่อมรถ
ตลอดทั้งคืน ฉันนอนไม่หลับ คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ชีวิตนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนอง การกระทำของเราในปัจจุบันย่อมส่งผลต่ออนาคตของเราเอง
ก่อนจะตัดสินใจใช้ทางลัด
ลองคิดทบทวนให้ดีนะครับ
เพราะบางครั้งทางลัดอาจนำพาความสยองขวัญมาให้ก็ได้"
.............
"เรื่องราวความลึกลับยังไม่จบแค่นี้! อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อ ต้องรอชมต่อไปนะ"
ซี่รี่ กสิณ10
https://youtu.be/e2AVgO6NXQY
https://youtu.be/8E9kO8ADks4