สวรรค์บาป ตอนที่ 13>>
http://ppantip.com/topic/33972090
ตอนที่ 14 เมื่อความมืดมิดมาปิดบังใจ
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปในโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ สาวประเภทสองซึ่งเป็นบุตรสาวของคุณตรีรัตน์ เกียรติยานนท์นอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลในห้องพักพิเศษ มีสายออกซิเจน สายวัดชีพจร สายน้ำเกลือ และสายอะไรอีกมากมายระโยงระยางไปทั่วเตียงที่ชลิตานอนเหมือนหลับอยู่อย่างนั้น
ด้านซ้ายของเตียง มีคุณตรีรัตน์นั่งกุมมือของหญิงสาวอยู่ไม่ห่าง ใบหน้าของสตรีสูงวัยบัดนี้ไร้เครื่องสำอางยิ่งทำให้เห็นใบหน้าที่ซีดเซียวและเหี่ยวแห้งลงไปมาก เป็นเพราะหล่อนไม่มีอารมณ์จะมาแต่งหน้าทาปากได้อีกแล้ว เมื่อชลิตาลูกสาวเพียงคนเดียวของหล่อนต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้
เสียงเปิดประตูดังขึ้นมาอย่างช้าๆ คุณตรีรัตน์ซึ่งอยู่ในห้องพักผู้ป่วยของชลิตา ซึ่งมียายแจ้วนั่งอยู่บนโซฟาไม่ห่างกัน เมื่อหันไปมองผู้ที่เข้ามานั่นก็คือ ชานนท์ในคราบของสุทธิ์นันท์เขาเดินเข้ามาพร้อมกับพิมพ์มาดา!
บัดนี้เขาได้หายป่วยดีแล้วและเพิ่งจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ เขาบ่นว่าอยากจะมาหาชลิตา ผู้เป็นคนที่เขารู้สึกเป็นห่วงมาก และส่วนหนึ่งเป็นเพราะพิมพ์มาดาจะคอยพูดกรอกหูเขาอยู่ตลอดเวลา ว่าชลิตามีอาการหนักเป็นตายเท่ากัน นั่นยิ่งทำให้เขาเป็นห่วงมาก
แต่ก็ไม่สามารถจะมาเยี่ยมเธอได้แม้ว่าจะอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน เพราะพิมพ์มาดา หญิงสาวที่เขานึกรังเกียจเป็นที่สุด หล่อนถือโอากาสในเวลาที่เขาป่วยเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดดูแลเขา แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาซาบซึ้งใจแต่อย่างใด เพราะความเจ้ากี้เจ้าการของหล่อน ทำให้เขาไม่สามารถมาหาชลิตาได้ ถึงแม้ว่าเขาอยากจะมาใจแทบขาด
พิมพ์มาดาหล่อนคอยจับตาเขาตลอดเวลาและคอยห้ามพยาบาลว่าห้ามให้เขาออกมาจากห้องเพราะอันตราย...ดูเอาเถอะผู้หญิงพรรค์นี้ยังมีอยู่ในโลก...เขารู้สึกเกลียดและขยะแขยงยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด!
สีหน้าของคุณตรีรัตน์ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าแปลกใจอะไรนัก เมื่อพบว่าผู้ที่เข้ามานั้นคือสุทธิ์นันท์ และพิมพ์มาดาซึ่งชายหนุ่มอ้างว่าเป็นพี่สาว!
ชานนท์ยกมือไหว้คุณตรีรัตน์และย่าแจ้วอย่างนอบน้อม ต่างจากพิมพ์มาดาที่ไหว้แบบขอไปที! สีหน้าของชานนท์เคร่งขรึมเหมือนคนที่มีอะไรครุ่นคิดอยู่ในใจ...เขาแสดงออกว่าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น...ผิดกับพิมพ์มาดาที่มีสีหน้าร่าเริง ราวกับว่าคนที่ได้รับความสุขสมหวังกับอะไรบางอย่างมาอย่างเต็มเปี่ยม!
"ฮึ! คงนึกล่ะซีว่าคนแก่อย่างฉันจะรู้ไม่ทัน อยู่โรงพยาบาลเดียวกันแท้ๆกลับไม่เคยมาเยี่ยมยายตาเลย เจ็บก็ไม่ได้หนักหนาอะไร คิดจะมาแสดงละครอะไรกันอีกล่ะ!"
คุณตรีรัตน์มองหนุ่มสาวทั้งสอง พลางรำพึงในใจอย่างหมั่นใส้ระคนเจ็บใจ และด้วยเหตุนี้เมื่อชานนท์และพิมพ์มาดาก้าวเข้ามาคุณตรีรัตน์จึงกล่าวว่า
"ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วซี อยู่ในโรงพยาบาลด้วยกันสองต่อสอง สนุกมากไหม?"
ผู้ถูกทักนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งด้วยไม่คาดคิดว่าคุณตรีรัตน์จะทักทายเขาด้วยวาจาบาดแหลมเช่นนี้ ชานนท์เป็นฝ่ายตั้งสติก่อนจะตอบอย่างนอบน้อมและสุภาพว่า
"ไม่ได้ครับ ผมอยากจะมาหาน้องตาใจจะขาด แต่...แต่เออ...ผม...คุณหมอยังไม่อนุญาตน่ะครับ..." ชานนท์ในคราบของสุทธิ์นันท์จำต้องพูดปลดคุณตรีรัตน์อย่างเลี่ยงไม่ได้ ขืนเขาตอบว่าเป็นเพราะพิมพ์มาดาคอยขัดขวางก็คงจะเป็นเรื่อง...
คุณตรีรัตน์ยิ้มนิดๆคล้ายจะสมเพชแกมเยอะในคำตอบของชานนท์ ท่านเขม็งดูราวจะล้วงความในใจออกมาตีแผ่ก่อนพูดเป็นนัยๆว่า
"เขาว่าความรักและควันไฟ เป็นสิ่งที่ปิดบังได้ยากจริงไหมตาสุทธิ์ แต่ก็เอาเถอะ ในวันหนึ่งความจริงมันก็หนีความจริงไม่พ้นหรอก!"
เขาได้ยินคำพูดเช่นนั้นของคุณตรีรัตน์ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันที เขานึกถึงคำพูดของชลิตา ในวันที่เกิดอุบัติเหตุ...หล่อนบอกกับเขาว่าคุณตรีรัตน์จะใช้เขากับหล่อนเป็นเครื่องมือแก้แค้น...แต่เขาก็ยังไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันรวดเร็วจนเขาไม่สามารถจะสรุปได้ เขาเงียบไม่ตอบโต้ใดๆ ในวินาทีนี้เขาเดินเข้าไปหาร่างของชลิตา ที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงคนไข้
แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือ พิมพ์มาดารีบตอบคุณตรีรัตน์ไปในทันที... "จริงของคุณป้าค่ะ ความรักเป็นสิ่งที่ซ่อนเร้นได้ยาก เช่นเดียวกับเงินตราก็ไม่อาจจะซื้อความภักดีของผู้ชายบางคนได้...แต่...เฮ้อ....แหมแต่ก็นะคะ ในโลกนี้ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน เหมือนกับคุณชลิตาในตอนนี้ซีคะ..."
พิมพ์มาดาไม่ได้ทนให้คุณตรีรัตน์ที่บัดนี้มองดูหล่อนอย่างแสดงอาการรังเกียจในคำพูดของหล่อน พิมพ์มาดารีบก้าวฉับๆออกไปจากห้องอย่างคนเสียมารยาท
แววตาของชานนท์ก็ไม่ได้แตกต่างจากคุณตรีรัตน์เลย เขามองตามร่างของหล่อนจนเลยพ้นประตูไป ความดูแคลนระอาและชิงชังหล่อน เปล่งประกายแข่งกันอยู่ในดวงตาของเขาและคุณตรีรัตน์
คุณตรีรัตน์มองดูผู้ที่หล่อนคิดว่าคือสุทธิ์นันท์ ชญากร อย่างสงสัยในตัวเขา ภาพที่หล่อนเห็นในอาทิตย์ก่อน ชายหนุ่มกับแม่พิมพ์มาดา กอดจูบกันหน้าห้องนอนอย่างนั้น แต่แล้วทำไมวันนี้เขาถึงแสดงท่าทีรังเกียจพิมพ์มาดาออกมาให้เธอเห็น
คุณตรีรัตน์แลเห็นแววตาของสุทธิ์นันท์ "เขาว่าผู้ชายไม่มีมารยา จะเกลียดหรือจะรักก็แสดงออกมาตรงๆ แต่นั่นแหละถ้าตาสุทธิ์ไม่ได้หลงรักผู้หญิงคนนั้นแล้วทำไมภาพที่เราเห็นเมื่อคืนนั้น...แล้วทำไมจะต้องโกหกว่าผู้หญิงคนนั้นคือพี่สาว...หรือมันคือแผนการณ์ของลีลาวดี....อดีตน้องสาวตัวดีของหล่อน!"
คำนึงพลาง คุณตรีรัตน์ก็ยิ้มให้กับชายหนุ่มตรงหน้านิดหนึ่ง ก่อนจะอนุญาตให้เข้ามาใกล้ร่างที่นอนไร้สติของชลิตา
ชานนท์เดินเข้ามาหาชลิตาช้าๆ เขารำพึงในใจว่าเหตุการณ์แบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นกับเขาอีก คนที่เขารักจะต้องไม่จากไปไหนอีก การสูญเสียมันเจ็บปวดและทรมานเขารู้...
น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาช้าๆ เขาพยายามก้มหน้าและสะกดกลั้นไม่ให้สตรีสูงวัยทั้งสองคนในห้องต้องได้เห็นว่าเขาเสียใจและเจ็บปวดมากแค่ไหน ที่ต้องเห็นชลิตา สาวประเภทสองคนนี้ คนที่เขายอมรับออกมาแล้วว่าเขารักหล่อนมาก...ถึงแม้ชลิตาจะไม่ได้รับรู้ในตอนนี้ก็ตามแต่เขาก็หวังว่าหล่อนจะฟื้นขึ้นมาและได้ยินคำพูดว่า "รัก" จากผู้ชายคนนี้
ชานนท์นำมือของเขากุมเข้ากับมืออุ่นๆคู่นั้นของชลิตา...สาวประเภทสองที่เขายอมรับออกมาอย่างเต็มใจ...ว่าเขารักเธอมาก...เขาไม่เคยนึกรังเกียจเธอเลยสักนิด...ไม่เคยเลย
น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาหยดลงบนมือของหญิงสาว....เพียงครู่เดียว...เขาสังเกตเห็นคิ้วและดวงตากระพริบอย่างช้าๆ...นิ้วมือที่เขากุมไว้นั้นขยับอย่างช้าๆราวปฎิหาร...ชานนท์ยิ้มขึ้นมาอย่างดีใจ เขารีบหันไปบอกสตรีสูงวัยทั้งสองที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากตัวเขา
"คุณป้า คุณยายครับ...น้องตาขยับมือ กระพริบตาครับ!" พูดจบชานนท์รีบเอื้อมมือไปกดออดเพื่อเรียกพยาบาลให้เข้ามาดูอาการตอบสนองนี้โดยเร็ว
คุณตรีรัตน์ยิ้มออกมาอย่างดีใจ นี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนยิ้มออกมาและมีความสุขมากขนาดนี้ในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่ชลิตานอนหลับเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่อย่างนี้ ทุกๆวันหล่อนเฝ้าถามหมอ...คำตอบที่ได้คือเฝ้าดูอาการไปก่อน แต่ในวันนี้ิสิ่งที่หล่อนหวังว่าลูกสาวเพียงคนเดียวจะกลับมา มันจะเป็นความจริงอีกครั้ง!
ชานนท์มีหัวใจที่พองโตและมีความหวังอีกครั้งหนึ่งเหมือนกัน เขาไม่คิดว่าการที่เขาเข้ามาพบหล่อนในวันนี้ื จะเป็นการเรียกให้ชลิตากลับคืนมา หรือว่าชลิตาอาจจะรอเขาอยู่ รอให้เขากลับมาบอกว่าเขายังไม่ได้จากไปไหน...แล้วเหตุใดชลิตาจะต้องจากเขาไปล่ะ...เขากลับมาแล้ว...ชลิตาคนที่เขา "รัก" ก็ต้องกลับมาเช่นกัน!
พยาบาลและนายแพทย์ประจำตัวของชลิตาถูกเรียกให้เข้ามาในห้อง....ผ้าม่านถูกกั้นปิดไว้รอบเตียง...คุณตรีรัตน์ ยายแจ้ว มีสีหน้ายิ้มแย้มและจับมือกันไปมาอย่างมีความสุข
และชานนท์ เขาก็มีความสุขไม่แพ้กัน...เขาหวังว่าทุกอย่างจะเป็นปกติ...ชลิตาจะต้องกลับมามีความสุขเป็นชลิตาคนใหม่ที่จะมีเขาอยู่เคียงข้าง เขาคิดไว้แล้วว่าเมื่อชลิตาฟื้น เขาจะบอกความจริงกับเธอเป็นคนแรก และจะขอเธอแต่งงาน...ถ้าหากเธอตอบตกลง!
เสียงหมอและพยาบาลพยายามปลุกสติให้ชลิตาฟื้นตื่นขึ้นมาจากภวังค์ เมื่อเห็นเปลือกตาของหล่อนพยายามจะเปิดออกมา...นายแพทย์นำไฟฉายขนาดเล็กส่องไปที่นัยน์ตาของหล่อน...ชลิตาพยายามมอง...หล่อนลืมตาขึ้นมาเต็มที่ตามคำสั่งของหมอและพยาบาลโดยรอบ...
"คุณเห็นแสงไฟไหมครับ ที่หมอส่องในตาของคุณอยู่นี่"
"ทำไมฉันมองไม่เห็นอะไรเลยคะ? แสงไฟอะไร ทำไมมันมืดอย่างนี้ ฉันฝันไปหรือคะฉันอยู่ที่ไหนทำไมมันมืดขนาดนี้ โอ๊ยยย ปวดหัว ฉันปวดหัว!"
สวรรค์บาป (ตัวเดินเรื่องเป็นสาวประเภทสอง) ตอนที่ 14 เมื่อความมืดมิดมาปิดบังใจ
ตอนที่ 14 เมื่อความมืดมิดมาปิดบังใจ
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปในโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ สาวประเภทสองซึ่งเป็นบุตรสาวของคุณตรีรัตน์ เกียรติยานนท์นอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลในห้องพักพิเศษ มีสายออกซิเจน สายวัดชีพจร สายน้ำเกลือ และสายอะไรอีกมากมายระโยงระยางไปทั่วเตียงที่ชลิตานอนเหมือนหลับอยู่อย่างนั้น
ด้านซ้ายของเตียง มีคุณตรีรัตน์นั่งกุมมือของหญิงสาวอยู่ไม่ห่าง ใบหน้าของสตรีสูงวัยบัดนี้ไร้เครื่องสำอางยิ่งทำให้เห็นใบหน้าที่ซีดเซียวและเหี่ยวแห้งลงไปมาก เป็นเพราะหล่อนไม่มีอารมณ์จะมาแต่งหน้าทาปากได้อีกแล้ว เมื่อชลิตาลูกสาวเพียงคนเดียวของหล่อนต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้
เสียงเปิดประตูดังขึ้นมาอย่างช้าๆ คุณตรีรัตน์ซึ่งอยู่ในห้องพักผู้ป่วยของชลิตา ซึ่งมียายแจ้วนั่งอยู่บนโซฟาไม่ห่างกัน เมื่อหันไปมองผู้ที่เข้ามานั่นก็คือ ชานนท์ในคราบของสุทธิ์นันท์เขาเดินเข้ามาพร้อมกับพิมพ์มาดา!
บัดนี้เขาได้หายป่วยดีแล้วและเพิ่งจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ เขาบ่นว่าอยากจะมาหาชลิตา ผู้เป็นคนที่เขารู้สึกเป็นห่วงมาก และส่วนหนึ่งเป็นเพราะพิมพ์มาดาจะคอยพูดกรอกหูเขาอยู่ตลอดเวลา ว่าชลิตามีอาการหนักเป็นตายเท่ากัน นั่นยิ่งทำให้เขาเป็นห่วงมาก
แต่ก็ไม่สามารถจะมาเยี่ยมเธอได้แม้ว่าจะอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน เพราะพิมพ์มาดา หญิงสาวที่เขานึกรังเกียจเป็นที่สุด หล่อนถือโอากาสในเวลาที่เขาป่วยเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดดูแลเขา แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาซาบซึ้งใจแต่อย่างใด เพราะความเจ้ากี้เจ้าการของหล่อน ทำให้เขาไม่สามารถมาหาชลิตาได้ ถึงแม้ว่าเขาอยากจะมาใจแทบขาด
พิมพ์มาดาหล่อนคอยจับตาเขาตลอดเวลาและคอยห้ามพยาบาลว่าห้ามให้เขาออกมาจากห้องเพราะอันตราย...ดูเอาเถอะผู้หญิงพรรค์นี้ยังมีอยู่ในโลก...เขารู้สึกเกลียดและขยะแขยงยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด!
สีหน้าของคุณตรีรัตน์ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าแปลกใจอะไรนัก เมื่อพบว่าผู้ที่เข้ามานั้นคือสุทธิ์นันท์ และพิมพ์มาดาซึ่งชายหนุ่มอ้างว่าเป็นพี่สาว!
ชานนท์ยกมือไหว้คุณตรีรัตน์และย่าแจ้วอย่างนอบน้อม ต่างจากพิมพ์มาดาที่ไหว้แบบขอไปที! สีหน้าของชานนท์เคร่งขรึมเหมือนคนที่มีอะไรครุ่นคิดอยู่ในใจ...เขาแสดงออกว่าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น...ผิดกับพิมพ์มาดาที่มีสีหน้าร่าเริง ราวกับว่าคนที่ได้รับความสุขสมหวังกับอะไรบางอย่างมาอย่างเต็มเปี่ยม!
"ฮึ! คงนึกล่ะซีว่าคนแก่อย่างฉันจะรู้ไม่ทัน อยู่โรงพยาบาลเดียวกันแท้ๆกลับไม่เคยมาเยี่ยมยายตาเลย เจ็บก็ไม่ได้หนักหนาอะไร คิดจะมาแสดงละครอะไรกันอีกล่ะ!"
คุณตรีรัตน์มองหนุ่มสาวทั้งสอง พลางรำพึงในใจอย่างหมั่นใส้ระคนเจ็บใจ และด้วยเหตุนี้เมื่อชานนท์และพิมพ์มาดาก้าวเข้ามาคุณตรีรัตน์จึงกล่าวว่า
"ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วซี อยู่ในโรงพยาบาลด้วยกันสองต่อสอง สนุกมากไหม?"
ผู้ถูกทักนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งด้วยไม่คาดคิดว่าคุณตรีรัตน์จะทักทายเขาด้วยวาจาบาดแหลมเช่นนี้ ชานนท์เป็นฝ่ายตั้งสติก่อนจะตอบอย่างนอบน้อมและสุภาพว่า
"ไม่ได้ครับ ผมอยากจะมาหาน้องตาใจจะขาด แต่...แต่เออ...ผม...คุณหมอยังไม่อนุญาตน่ะครับ..." ชานนท์ในคราบของสุทธิ์นันท์จำต้องพูดปลดคุณตรีรัตน์อย่างเลี่ยงไม่ได้ ขืนเขาตอบว่าเป็นเพราะพิมพ์มาดาคอยขัดขวางก็คงจะเป็นเรื่อง...
คุณตรีรัตน์ยิ้มนิดๆคล้ายจะสมเพชแกมเยอะในคำตอบของชานนท์ ท่านเขม็งดูราวจะล้วงความในใจออกมาตีแผ่ก่อนพูดเป็นนัยๆว่า
"เขาว่าความรักและควันไฟ เป็นสิ่งที่ปิดบังได้ยากจริงไหมตาสุทธิ์ แต่ก็เอาเถอะ ในวันหนึ่งความจริงมันก็หนีความจริงไม่พ้นหรอก!"
เขาได้ยินคำพูดเช่นนั้นของคุณตรีรัตน์ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันที เขานึกถึงคำพูดของชลิตา ในวันที่เกิดอุบัติเหตุ...หล่อนบอกกับเขาว่าคุณตรีรัตน์จะใช้เขากับหล่อนเป็นเครื่องมือแก้แค้น...แต่เขาก็ยังไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันรวดเร็วจนเขาไม่สามารถจะสรุปได้ เขาเงียบไม่ตอบโต้ใดๆ ในวินาทีนี้เขาเดินเข้าไปหาร่างของชลิตา ที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงคนไข้
แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือ พิมพ์มาดารีบตอบคุณตรีรัตน์ไปในทันที... "จริงของคุณป้าค่ะ ความรักเป็นสิ่งที่ซ่อนเร้นได้ยาก เช่นเดียวกับเงินตราก็ไม่อาจจะซื้อความภักดีของผู้ชายบางคนได้...แต่...เฮ้อ....แหมแต่ก็นะคะ ในโลกนี้ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน เหมือนกับคุณชลิตาในตอนนี้ซีคะ..."
พิมพ์มาดาไม่ได้ทนให้คุณตรีรัตน์ที่บัดนี้มองดูหล่อนอย่างแสดงอาการรังเกียจในคำพูดของหล่อน พิมพ์มาดารีบก้าวฉับๆออกไปจากห้องอย่างคนเสียมารยาท
แววตาของชานนท์ก็ไม่ได้แตกต่างจากคุณตรีรัตน์เลย เขามองตามร่างของหล่อนจนเลยพ้นประตูไป ความดูแคลนระอาและชิงชังหล่อน เปล่งประกายแข่งกันอยู่ในดวงตาของเขาและคุณตรีรัตน์
คุณตรีรัตน์มองดูผู้ที่หล่อนคิดว่าคือสุทธิ์นันท์ ชญากร อย่างสงสัยในตัวเขา ภาพที่หล่อนเห็นในอาทิตย์ก่อน ชายหนุ่มกับแม่พิมพ์มาดา กอดจูบกันหน้าห้องนอนอย่างนั้น แต่แล้วทำไมวันนี้เขาถึงแสดงท่าทีรังเกียจพิมพ์มาดาออกมาให้เธอเห็น
คุณตรีรัตน์แลเห็นแววตาของสุทธิ์นันท์ "เขาว่าผู้ชายไม่มีมารยา จะเกลียดหรือจะรักก็แสดงออกมาตรงๆ แต่นั่นแหละถ้าตาสุทธิ์ไม่ได้หลงรักผู้หญิงคนนั้นแล้วทำไมภาพที่เราเห็นเมื่อคืนนั้น...แล้วทำไมจะต้องโกหกว่าผู้หญิงคนนั้นคือพี่สาว...หรือมันคือแผนการณ์ของลีลาวดี....อดีตน้องสาวตัวดีของหล่อน!"
คำนึงพลาง คุณตรีรัตน์ก็ยิ้มให้กับชายหนุ่มตรงหน้านิดหนึ่ง ก่อนจะอนุญาตให้เข้ามาใกล้ร่างที่นอนไร้สติของชลิตา
ชานนท์เดินเข้ามาหาชลิตาช้าๆ เขารำพึงในใจว่าเหตุการณ์แบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นกับเขาอีก คนที่เขารักจะต้องไม่จากไปไหนอีก การสูญเสียมันเจ็บปวดและทรมานเขารู้...
น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาช้าๆ เขาพยายามก้มหน้าและสะกดกลั้นไม่ให้สตรีสูงวัยทั้งสองคนในห้องต้องได้เห็นว่าเขาเสียใจและเจ็บปวดมากแค่ไหน ที่ต้องเห็นชลิตา สาวประเภทสองคนนี้ คนที่เขายอมรับออกมาแล้วว่าเขารักหล่อนมาก...ถึงแม้ชลิตาจะไม่ได้รับรู้ในตอนนี้ก็ตามแต่เขาก็หวังว่าหล่อนจะฟื้นขึ้นมาและได้ยินคำพูดว่า "รัก" จากผู้ชายคนนี้
ชานนท์นำมือของเขากุมเข้ากับมืออุ่นๆคู่นั้นของชลิตา...สาวประเภทสองที่เขายอมรับออกมาอย่างเต็มใจ...ว่าเขารักเธอมาก...เขาไม่เคยนึกรังเกียจเธอเลยสักนิด...ไม่เคยเลย
น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาหยดลงบนมือของหญิงสาว....เพียงครู่เดียว...เขาสังเกตเห็นคิ้วและดวงตากระพริบอย่างช้าๆ...นิ้วมือที่เขากุมไว้นั้นขยับอย่างช้าๆราวปฎิหาร...ชานนท์ยิ้มขึ้นมาอย่างดีใจ เขารีบหันไปบอกสตรีสูงวัยทั้งสองที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากตัวเขา
"คุณป้า คุณยายครับ...น้องตาขยับมือ กระพริบตาครับ!" พูดจบชานนท์รีบเอื้อมมือไปกดออดเพื่อเรียกพยาบาลให้เข้ามาดูอาการตอบสนองนี้โดยเร็ว
คุณตรีรัตน์ยิ้มออกมาอย่างดีใจ นี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนยิ้มออกมาและมีความสุขมากขนาดนี้ในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่ชลิตานอนหลับเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่อย่างนี้ ทุกๆวันหล่อนเฝ้าถามหมอ...คำตอบที่ได้คือเฝ้าดูอาการไปก่อน แต่ในวันนี้ิสิ่งที่หล่อนหวังว่าลูกสาวเพียงคนเดียวจะกลับมา มันจะเป็นความจริงอีกครั้ง!
ชานนท์มีหัวใจที่พองโตและมีความหวังอีกครั้งหนึ่งเหมือนกัน เขาไม่คิดว่าการที่เขาเข้ามาพบหล่อนในวันนี้ื จะเป็นการเรียกให้ชลิตากลับคืนมา หรือว่าชลิตาอาจจะรอเขาอยู่ รอให้เขากลับมาบอกว่าเขายังไม่ได้จากไปไหน...แล้วเหตุใดชลิตาจะต้องจากเขาไปล่ะ...เขากลับมาแล้ว...ชลิตาคนที่เขา "รัก" ก็ต้องกลับมาเช่นกัน!
พยาบาลและนายแพทย์ประจำตัวของชลิตาถูกเรียกให้เข้ามาในห้อง....ผ้าม่านถูกกั้นปิดไว้รอบเตียง...คุณตรีรัตน์ ยายแจ้ว มีสีหน้ายิ้มแย้มและจับมือกันไปมาอย่างมีความสุข
และชานนท์ เขาก็มีความสุขไม่แพ้กัน...เขาหวังว่าทุกอย่างจะเป็นปกติ...ชลิตาจะต้องกลับมามีความสุขเป็นชลิตาคนใหม่ที่จะมีเขาอยู่เคียงข้าง เขาคิดไว้แล้วว่าเมื่อชลิตาฟื้น เขาจะบอกความจริงกับเธอเป็นคนแรก และจะขอเธอแต่งงาน...ถ้าหากเธอตอบตกลง!
เสียงหมอและพยาบาลพยายามปลุกสติให้ชลิตาฟื้นตื่นขึ้นมาจากภวังค์ เมื่อเห็นเปลือกตาของหล่อนพยายามจะเปิดออกมา...นายแพทย์นำไฟฉายขนาดเล็กส่องไปที่นัยน์ตาของหล่อน...ชลิตาพยายามมอง...หล่อนลืมตาขึ้นมาเต็มที่ตามคำสั่งของหมอและพยาบาลโดยรอบ...
"คุณเห็นแสงไฟไหมครับ ที่หมอส่องในตาของคุณอยู่นี่"
"ทำไมฉันมองไม่เห็นอะไรเลยคะ? แสงไฟอะไร ทำไมมันมืดอย่างนี้ ฉันฝันไปหรือคะฉันอยู่ที่ไหนทำไมมันมืดขนาดนี้ โอ๊ยยย ปวดหัว ฉันปวดหัว!"