สวรรค์บาป (ตัวเดินเรื่องเป็นสาวประเภทสอง) ตอนที่ 10

สวรรค์บาป ตอนที่9 >> http://ppantip.com/topic/33551838

ตอนที่10

"คุณพิมพ์ คุณนี่อายุยืนจริงๆเลย ดูพูดยังไม่ทันขาดคำก็โผล่มาเงียบๆจนเกือบจะตกใจแน่ะ คุณพิมพ์ครับเราอยู่ที่นี่!" ตอนท้ายชายหนุ่มปรารภค่อยๆ มาเป็นป้องปากตะโกนเรียกหญิงสาวอย่างคุ้นเคย

กาญน์กนกเงยหน้าขึ้นมองตามไปบ้าง "ต๊าย! พี่พิมพ์จริงๆด้วย กาญน์นึกว่าพี่สุทธิ์ล้อเล่นเสียอีก" หล่อนเปล่งเสียงออกมาอย่างตื่นเต้นและแปลกใจไม่แพ้ชายหนุ่มคนรัก

พิมพ์มาดาเดินเข้ามาใกล้หนุ่มสาวทั้งสอง พลางยิ้มแย้มอย่างสดใสทั้งปากและดวงตา

"แหม...สองคนนี้ดูมีความสุขกันจริงเลยนะ น่าอิจฉาจริงๆเลย" หล่อนเอ่ยปราศรัยอย่างยั่วเย้า แล้วก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเสื่อ เอื้อมมือไปรับแก้วน้ำผลไม้มาดื่มอย่างชื่นใจ

"รูไหมคะว่าเรากำลังนินทาพี่อยู่ทีเดียว เป็นอย่างไรบ้างคะที่ชุมพร...อยู่ที่นั่นลำบากไหมคะ แล้วยายกะเทยนั่นหน้าตาเป็นอย่างไรบ้างคะแล้วก็คุณ..."

"แหม...ที่ละคำถามซียายกาญน์ พี่ยังไม่ทันหายเหนื่อยเลย ซักเอาๆยังกะพี่เป็นนักโทษไปได้"

"คุณพิมพ์สวยขึ้นเป็นกองเลยนะครับ ผมอยากจะเดาว่าคุณพิมพ์ต้องมีความสุขมากแน่ๆใช่ไหมครับ กับการที่ได้อยู่ที่โน่น" สุทธิ์นันท์กล่าวสีหน้ายิ้มแย้ม หญิงสาวผู้ถูกชมเชยหัวเราะ

"มาชมพี่ต่อหน้ายายกาญน์ ระวังจะเจ็บตัวนะคะคุณสุทธิ์"

"อ้าวก็จริงนี่ครับ" หันมาทางคนรัก "จริงไหมกาญน์ พี่พิมพ์ดูสวยและดูมีน้ำมีนวลขึ้น ดวยเฉพาะดวงตาดูหวานและสวยขึ้นมาก"

"แหม! คุณสุทธิ์นี่ก็สำบัดสำนวนจังเลยนะคะ มันเป็นยังไงคะตาของฉันสวยขึ้นกว่าเก่าน่ะ อุ๊ย! หรือว่าคุณสุทธิ์อยากจะบอกว่าพี่แต่งหน้าแต่งตาจนเกินงามไป ใช่ไหมล่ะคะ"

"โธ่ โธ่" สุทธิ์นันท์ร้องพลางยกมือขึ้นเกาศีรษะ "คุณพิมพ์ไม่น่ากล่าวหาผมแบบนี้เลย ผมหมายความอย่างที่ผมพูดจริงๆนะครับไม่มีเจตนาอื่นใดซ่อนในคำชมสักหน่อย คุณพิมพ์สวยขึ้นจริงๆ ผมมองตาก็รู้ว่าตอนนี้คุณพิมพ์คงจะมีความสุขมากๆกับความรัก ใช่ไหมครับคุณพิมพ์หน้าแดงแล้ว!"

พิมพ์มาดามีสีหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาจริงๆเหมือนกับที่สุทธิ์นันท์กล่าว เพราะเขาพูดแทงใจดำของหล่อนพอดี

"ดูนะกาญน์ คนรักของเธอน่ะลื่นอย่างกับปลาไหล พูดไม่มีติดขัด ยังกับนักข่าวก็ไม่ปาน" พิมพ์มาดาแกล้งพูดกับน้องสาวเพื่อปกปิดรอยพิรุธของตัวเอง "ไม่ค่อยหน้าไว้ใจเลยกับผู้ชายที่พูดเก่งๆแบบนี้!"

"อ้าวคุณพิมพ์จะมายุให้กาญน์เกลียดผมเสียแล้ว ผมไม่ยอมนะครับมาใส่ร้ายกันแบบนี้...ว่าแต่บอกผมได้ไหมครับว่าพี่นนท์ของผมเขาเป็นยังไงบ้าง"

พิมพ์มาดาสะดุ้งเล็กน้อย ปรายตาดูน้องสาวซึ่งกาญน์กนกเอ่ยปากยอมรับเสียงอ่อยๆว่า...

"กาญน์บอกแล้วไงล่ะคะว่าเมื่อกี้เรานินทาเรื่องพี่พิมพ์อยู่...กาญน์ก็เลย...เอ่อ...เผลอบอกกับพี่สุทธิ์ไปว่าพี่ไปอยู่บ้านเกียรติยานนท์กับคุณชานนท์"

"ยายกาญน์!"

"ไม่ต้องอายผมหรอกครับคุณพิมพ์" สุทธิ์นันท์รีบกล่าวขึ้น "การที่ใครคนหนึ่งจะหลงรักใครสักคนหนึ่งนั้นมันไม่ใช่ความผิดอะไรเลยสักนิด! ผู้หญิงหรือผู้ชายก็มีหัวใจเหมือนกันนั่นแหละ เพราะอย่างนี้ผมถึงไม่แปลกใจเลยที่รู้จากกาญน์ว่าคุณพิมพ์หลงรักพี่นนท์มาก ถึงได้ไปอยู่กับพี่นนท์ถึงบ้านเกียรติยานนท์ แต่ว่าผมอยากจะขอร้องคุณพิมพ์ช่วยรักษาความลับที่..."

"คุณนนท์อยู่ในบ้านเกียรติยานนท์ในนามของคุณสุทธิ์อย่างนั้นหรือคะ? ...ค่ะ...พิมพ์รับรองว่าจะไม่บอกใคร คุณสุทธิ์สบายใจได้ค่ะ" พิมพ์มาดากล่าวตอบเขาเหมือนเข้าใจความรู้สึกของชายหนุ่มดี และน้ำเสียงแสดงความเห็นอกเห็นใจหล่อนของสุทธิ์นันท์นั้น ทำให้อาการกระดากกระเดื่องของพิมพ์มาดาหายไปอย่างรวดเร็ว "พิมพ์มีเจตนาที่จะยุ่งแค่เรื่องของคุณนนท์เท่านั้นค่ะ ไม่ต้องการที่จะให้ใครต้องเดือดร้อนเพราะพิมพ์สักนิดเดียว"

"ทำไมพี่พิมพ์รีบกลับกรุงเทพฯล่ะคะ?" กาญน์กนกถามขึ้นอย่างสงสัย

"อ๋อ...พอดีพี่มีธุระต้องกลับมาทำน่ะ...เจ้านายพี่เขามีงานด่วน พี่เลยต้องรีบขึ้นมา!" พิมพ์มาดากล่าวตอบน้องสาว พิมพ์มาดามีชักสีหน้านิดๆเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเมื่อพูดถึงเจ้านาย! คุณณรงค์เดช ผู้เป็นเจ้านายและสามีลับๆของหล่อน เมื่อคืนเขาโทรหาหล่อนและถามว่าในตอนนี้หล่อนอยู่ที่ไหน...และหล่อนก็ต้องโกหกไปว่ามาพักผ่อนที่เชียงใหม่

ในตอนแรกณรงค์เดช ต้องการที่จะมาหาหล่อนที่เชียงใหม่...และถ้าหากเขามาหาก็ไม่ได้เจออยู่ดีเนื่องจากความจริงแล้วพิมพ์มาดาอยู่ที่ชุมพรต่างหาก และเพื่อรักษาความลับ หล่อนจึงต้องกลับมาพบหน้าเขาก่อนที่เขาจะตามหาหล่อนและรู้ความจริงว่าไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น!

"แล้วตกลงเขาจะได้แต่งงานกันจริงๆหรือเปล่าคะ แล้วพี่พิมพ์จะทนไหวหรือถ้าเขาแต่งงานกันจริงๆ!" กาญน์กนกถามพี่สาว

"ไม่จำเป็นต้องทนอะไรนี่ยายกาญน์ " พูดพลางยักไหล่ด้วยกริยาเคยชิน "กับกะเทยพรรค์นั้น อย่าว่าแต่แต่งงานกับคุณนนท์เลย มากกว่านั้นพี่ก็แน่ใจว่าจะต้องเขี่ยมันออกไปจากวงจรชีวิตของคุณนนท์ได้แน่ๆ แต่ว่าตอนนี้พี่จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปก่อนเพราะเห็นแก่เธอกับคุณสุทธิ์นันท์ ทีนี้แกเข้าใจหรือยังล่ะ"

"เอ...แล้วเมื่อไหร่ล่ะคะพี่พิมพ์ถึงจะจัดการเขี่ยนังนั่นออกไปจากชีวิตคุณชานนท์" กาญน์กนกอดซักต่อไม่ได้เพราะอยากรู้ความคิดของพี่สาวเต๋็มที

พิมพ์มาดาปรายตาไปทางสุทธิ์นันท์ซึ่งกำลังวุ่นวายอยู่กับการดื่มเบียร์ของเขา

"ก็ต้องรอให้มีจังหวะดีๆกว่านี้ก่อน เอ้อ...ตอนที่พี่ไม่อยู่มีใครมาหาพี่หรือเปล่า?"

"ก็ไม่มีนี่คะ อ้อมีแต่คุณณรงค์เดชโทรมาถามกาญน์ว่าพี่พิมพ์ไปต่างจังหวัดจริงหรือเปล่า...นอกนั้นก็ไม่มีใครมาหานะคะ"

พิมพ์มาดาเผลอแบะปากออกมาเมื่อน้องสาวเอ่ยถึง ณรงค์เดช เจ้านายของเธอ พิมพ์มาคิดในใจว่าหล่อนจะต้องหาทางตัดขาดกับเขาให้ได้และการที่หล่อนจะตัดขาดได้นั้นมีทางเดียวคือแต่งงานกับ ชานนท์ ชายหนุ่มที่หล่อนรักมากที่สุด!

สุทธิ์นันท์นั่งฟังสองสาวพี่น้องคุยกันอย่างรู้สึกเป็นปกติไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลยสักนิดเดียวกับการกล่าวถึงชลิตาด้วยความประสงค์ร้ายอย่างน่ากลัว ทั้งที่หล่อนก็คือคู่หมั้นโดยตรงของเขาแท้ๆ และเขาก็คำนึงถึงชลิตาสาวประเภทสองที่เขาตั้งแง่รังเกียจว่า

"น่าสงสารพี่นนท์ อยู่ๆก็ตกกระไดพลอยโจรมีคู่หมั้นเป็นกะเทย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น! ฮึ ช่วยไม่ได้อยากซวยเอง!"

*************************

คุณลีลาวดีนั่งดื่มไวน์แดงราคาแพงอยู่หน้าโทรทัศน์บนห้องรับแขกส่วนตัวของบ้าน หล่อนยิ้มอย่างมีความสุขที่สุดในขณะที่กำลังรับชมรายการโปรดพร้อมกับจิบไวน์แดงรสหวานนั้น มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาทิ้งตัวนั่งข้างๆเธอบนโซฟา และเมื่อเธอละสายตาจากโทรทัศน์เธอก็เห็นว่าผู้ที่นั่งข้างกายเธอ คือสุทธิ์นันท์บุตรชายคนเดียวของเธอเอง!

"อ้าวตาสุทธิ์กลับมาซะบ่ายเลยไปไหนมาวันนี้วันหยุดด้วย เห็นออกไปแต่เช้าเชียว แม่รู้นะว่าไปหาแม่ดาราสาวนั่น" มารดามองเขาและยิ้มอย่างรู้ทัน

"ผมขอบคุณคุณแม่มากนะครับที่ช่วยเหลือผมเรื่องที่ผมไม่ต้องไปบ้านนั้น" เขาพูดพลางยกมือมารดามาจุมพิต.... "ผมรักคุณแม่ที่สุดแล้วล่ะครับ แม่ดีกับผมทุกเรื่องเลย"

คุณลีลาวดีมองบุตรชายอย่างมีความสุข แน่นอนทำไมหล่อนจะไม่รักเขาล่ะ เขาคือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวของเธอ และเขาก็จะเป็นผู้สืบทอดตระกูล ชญากร

"อ้อ...วันนี้ผมเจอคุณพิมพ์พี่สาวของกาญน์ด้วยครับ เธอบอกว่าไปอยู่ในบ้านเกียรติยานนท์กับพี่นนท์ด้วย ผมนี่ไม่รู้มาก่อนเลยนะครับว่าคุณพิมพ์เธอชอบพี่นนท์มาก"

คุณลีลาวดีได้ยินบุตรชายพูดถึงเรื่องนี้ก็ถึงกับเปลี่ยนอริยาบทจากการถือแก้วไวน์นั้นเป็นวางลงไปกับโต๊ะหน้าที่นั่ง และหันมามองบุตรชายอย่างสนใจ

"อะไรนะ...แกว่าพี่สาวของแม่ดารานั่นไปอยู่กับตานนท์ที่บ้านนั้นน่ะเหรอ แล้วในฐานะอะไร?" หล่อนถามอย่างสนใจ

"อืม...เห็นเธอบอกว่าในฐานะพี่สาวน่ะครับ"

"พี่สาวเหรอ..." คุณลีลาวดีทวนคำพูดของบุตรชาย หล่อนหวนคิดถึงเรื่องราวเก่าๆในอดีต...

"ดี..." คุณลีลาวดียิ้มออกมา...สุทธิ์นันท์เห็นมารดายิ้มแย้มเหมือนรู้สึกพอใจกับเรื่องนี้มาก เขาจึงอดที่จะซักต่อไม่ได้

"คุณแม่ยิ้มแบบนี้ คุณแม่ดีใจเรื่องอะไรครับ?"

"แกก็รู้ว่าแม่เคยเล่าให้แกฟังว่าแม่กับคุณนายตรีรัตน์น่ะไม่ค่อยจะถูกใจกัน...ปัญหาที่มันคาราคาซังอยู่ทุกวันนี้มันไม่ใช่ใครหรอก ก็นังคุณนายนั่นแหละ!"

สุทธิ์นันท์มองดูมารดาอย่างเห็นใจ เขาได้ยินเรื่องนี้จากปากมารดามานานในเรื่องที่มารดาและคุณนายตรีรัตน์มีปัญหากันมาก่อน แต่เขาก็ไม่รู้อะไรไปมากกว่านั้น มารดาเขาบอกเพียงแค่ว่ายังไม่ถึงเวลาที่เขาจะรู้ แต่ให้เขารู้เพียงว่า คุณนายตรีรัตน์ไม่ใช่คนดี!

"แม่อยากให้มันตายๆไปซะที...ลูกรู้ไหมว่าโชคดีของลูกแค่ไหนที่ตานนท์น่ะปลอมตัวไปเป็นในนามของลูกน่ะ...สวรรค์เข้าข้างเราจริงๆที่ส่งตานนท์มาช่วยแกไว้...ถ้าไม่มีตานนท์ป่านนี้แม่คงทุกข์ใจเรื่องแกเป็นอย่างมากเลย!"

สุทธิ์นันท์อดที่จะทำท่าทางไม่พอใจออกมาให้มารดาเห็นไม่ได้ เมื่อมารดาเอ่ยชมเชยลูกเลี้ยงออกมา...เขาไม่ชอบเลยเวลาที่มารดากล่าวหรือสรรเสริญพี่ชายต่างบิดามารดาอย่างชานนท์!

"ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะตาสุทธิ์ แม่จะรักใครมากไปกว่าแกน่ะไม่มีหรอก" คุณลีลาวดีกล่าวออกมาอย่างรู้ทัน

คุณลีลาวดีหวนนึกถึงเรื่องที่หล่อนวางแผนให้สุทธิ์นันท์โกหกชานนท์ลูกเลี้ยงหนุ่มว่ากาญน์กนกตั้งท้องกับบุตรชายของเธอ แล้วอดที่จะปรามลูกชายตรงหน้าไม่ได้

"แกอย่าเพิ่งทำให้แม่ดารานั่นท้องขึ้นมาจริงๆล่ะ มันจะไม่งาม" คุณลีลาวดีไม่ค่อยชอบในตัวกาญน์กนกคนนี้สักเท่าไหร่ เพราะเธอรู้มาว่ากาญน์กนกนั้นมีแต่เปลือก ฐานะทางบ้านก็เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาที่มาจับพลัดจับผลูได้มาเป็นดารา เป็นใบเบิกทางของชีวิต ทำไมหล่อนจะไม่รู้ว่ากาญน์กนกจะมาจับบุตรชายของเธอเพื่อหวังสมบัติ!

"โธ่ คุณแม่ครับผมไม่โง่ให้กาญน์ท้องเพื่อที่จะมาจับผมหรอกครับ เดี๋ยวผมเบื่อผมก็ทิ้งแล้ว...ผมไม่เคยคิดจะแต่งงานกับเขาอยู่แล้ว แค่สนุกคบกันไปขำๆ"

"แต่แม่คิดว่ามันจะไม่ขำกับแกน่ะซีตาสุทธิ์ แม่มองตามันก็รู้แล้วว่ามันจริงจังกับแกมากขนาดไหน" มารดาอดที่จะเป็นกังวลกับเรื่องนี้ไม่ได้ "ถ้าแกกลัวว่าจะมีปัญหา แม่อยากจะแนะนำว่าให้แกเอาเงินฟาดหัวมันไปตั้งตัว คร้านจะเลิกกับแกเสียง่ายๆ"

สุทธิ์นันท์มองดูผู้เป็นมารดาอย่างเข้าใจ เขาก็ไม่คิดหรอกที่จะใช้ชีวิตคู่กับกาญน์กนก เขาคบกับเธอเพียงเพราะความสวยเท่านั้น...ตอนนี้เขายังไม่เบื่อหล่อน...แต่เขาคิดมาเสมอว่าคนที่จะมาเป็นแม่ของลูกเขา...ไม่ใช่กาญน์กนกอย่างแน่นอน

"คุณแม่ไว้ใจได้ครับว่าผมไม่มีวันเอาบ่วงมาคล้องคอแบบพี่นนท์แน่นอน!"

คุณลีลาวดีได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก หล่อนหยิบแก้วไวน์ที่ตั้งอยู่ตรงโต๊ะด้านหน้านั้นมาจิบอีกครั้ง แววตาของหล่อนทอดยาวไปที่โทรทัศน์ที่กำลังเล่นละครเรื่องโปรด ซึ่งขณะนั้นกำลังฉายภาพที่นางเอกกำลังโดนทำร้ายจากตัวโกง....หล่อนทอดมอง แววตาของคุณลีลาวดีไม่ได้แตกต่างไปจากตัวโกงที่กำลังทารุณนางเอกในละครเลยแม้แต่นิด!

และในขณะที่ต่างฝ่ายต่างเงียบงันกันไปนั้น ชญามินธิ์ผู้เป็นน้องสาวของสุทธิ์นันท์เดินเข้ามาหาด้วยท่าทางร่าเริงของเด็กสาววัยสิบแปดปี

"ประจบอะไรคุณแม่อยู่ล่ะคะพี่สุทธิ์" หล่อนเอ่ยหยอกเย้าพี่ชายตรงหน้า พร้อมทรุดตัวลงนั่งกับพื้นชิดเข่ามารดา

"เอ้อ...ถ้าพี่หยุดคุยกับแม่นี่ แกจะต้องคิดว่าพี่มีแต่เรื่องประจบคุณแม่งั้นซียายมินธิ์?" สุทธิ์นันท์พูดปนหัวเราะพร้อมกับขยี้ศีรษะน้องสาวเบาๆ ชญามินธิ์รีบเอามือปัดมือของพี่ชาย พร้อมกับทำหน้าบึ้งๆ

"ดูซีพี่สุทธิ์มาขยี้ผมน้อง อุตส่าห์ถักเปียมาสวยๆตอนนี้ยุ่งหมดแล้ว มินธิ์ไม่ยอมนะคะมินธิ์จะต้องเรียกค่าเสียหาย" พูดพลางเด็กสาวก็จับผมที่หลุดออกมานิดหนึ่งให้กลับไปอยู่ที่เดิมอย่างลวกๆ

"โอ้โหใจคอน้องจะติดป้ายราคาไว้ทั้งตัวเลยหรือไง งกเงินจริงๆเลย"

"อ้อ...แน่นอนค่ะ ก็มินธิ์ยังไม่มีเงินเดือนเยอะแบบพี่สุทธิ์นี่คะ" ชญามินธิ์ว่าพลางค้อนขวัก แล้วก็ยื่นคางมนไปวางบนเข่าของมารดา "พี่สุทธิ์มาประจบอะไรคุณแม่อีกหรือคะ?" ชญามินธิ์อดที่จะคิดถึงชานนท์พี่ชายต่างบิดาและมารดาไม่ได้จึงพูดขึ้นว่า

"คิดถึงพี่นนท์นะคะไม่ได้เห็นหน้าหลายวันแล้ว เมื่อไหร่พี่นนท์จะกลับบ้านสักทีล่ะคะคุณแม่ หนูคิดถึงมากเลย หรือพี่นนท์จะมีแฟนอยู่ที่นู่นจนลืมที่นี่แล้วก็ไม่รู้นะคะ"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่