สวรรค์บาป (ตัวเดินเรื่องเป็นสาวประเภทสอง) ตอนที่3

สวรรค์บาป ตอนที่ 2 >> http://ppantip.com/topic/33352515

ตอนที่3

ผู้ที่ผลักประตูเข้ามาในห้องทำงานของทนายประยุทธิ์ในตอนสายของวันนั้นคือ สตรีสาวสวยที่มาในชุดเดรสรัดรูปเหมือนกับดาราหนังก็ไม่ปาน ดวงหน้าเรียวคมของหล่อนถูกกลบไว้ด้วยเครื่องสำอางชั้นดีและแนบเนียนพอที่จะดูไม่น่าเกลียด แม้กระทั้งการทาเปลือกตาสีฟ้าในเวลากลางวัน

"อ้อ! คุณพิมพ์มาดานั่นเอง เชิญนั่งซึครับ"
ทนายประยุทธิ์ลุกขึ้นยืนเพื่อเป็นการต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และเมื่อสตรีผู้เป็นแขกได้ทรุดนั่งลงตรงข้ามท่านเรียบร้อยแล้ว ท่านจึงทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม

"มีธุระอะไรไม่ทราบครับ คุณพิมพ์มาดา"

ผู้เป็นทนายความกล่าวขึ้นอย่างช้าๆ อ่อนโยน ความเป็นพ่อหม้ายที่ต้องอ้างว้างกายใจมานานปีของท่าน ทำให้ท่านพินิจดูสตรีที่นั่งอยู่เบื้องหน้า พลางคำนึงถึงเหตุผลบางอย่างควบคู่กันไปด้วย ด้วยพิมพ์มาดานั้นถึงได้ชื่อว่าเป็นสตรีหม้าย เพราะเคยหย่าร้างมาครั้งหนึ่งแล้วก็ตาม แต่ความสวยเปล่งปลั่งตลอดจนได้ชื่อว่า เป็นพี่สาวของนางเอกดังที่สวยไม่แพ้น้องสาวเลยทีเดียว หนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ต่างก็อยากจะ ลอง พี่สาวแสนสวยของดาราสาวอย่างกาญน์กนกไม่ได้ สิ่งนั้นทำให้พิมพ์มาดายังคงมีค่าอยู่ไม่น้อยทีเดียว ในสายตาเพศตรงข้ามหลายคน

"พิมพ์อยากจะขอรบกวนคุณลุงหน่อยน่ะค่ะ ที่จริงมันอาจจะดูละลาบละล้วงไปบ้าง เพราะมันไม่ใช่เรื่องราวของพิมพ์เองหรอกค่ะ" พิมพ์มาดากล่าวเสียก่อนอย่างเกรงใจ ทำให้ทนายประยุทธิ์ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ตอบเสียงเรื่อยๆว่า...

"เชิญเลยครับไม่ต้องเกรงใจ"

"คือพิมพ์อยากทราบเรื่องราวระหว่าง ชานนท์กับสุทธิ์นันท์น่ะค่ะ คุณลุงช่วยบอกให้พิมพ์ทราบได้ไหมคะว่า..."

"เกี่ยวกับเรื่องอะไรไม่ทราบครับ?"

"พิมพ์รู้มาว่าชานนท์จะต้องเดินทางไปบ้านเกียรติยานนท์ ในนามของคุณสุทธิ์นันท์ ชญากร จริงหรือไม่คะ?"

ทนายประยุทธิ์ก้มศีระษะรับ "จริงครับ คุณคงทราบเรื่องนี้จากคุณกาญน์กนก" ทนายความสูงวัยหมายถึงน้องสาวของหล่อน แล้วก็อดที่จะถามต่อไม่ได้ "เอ้อ...จริงหรือเปล่านะที่คุณกาญน์กำลังจะมีเด็กกับคุณสุทธิ์นันท์?"

"โอ....จริงที่สุดค่ะ" พิมพ์มาดากล่าวอย่างหน้าตาเฉย ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่เรื่องจริงเลยสักนิดเดียว ทั้งนี้ก็เพื่อแผนการอันแยบยลที่ต้องการจะจับชานนท์ไว้เป็นของตนเองนั่นเองที่ทำให้หญิงสาวต้องกล่าวเท็จโดยไม่ละอายใจเลยแม่แต่นิดเดียว

"คุณลุงจะกรุณาช่วยให้รายละเอียดพิมพ์ได้ไหมคะว่าบ้านเกียรติยานนท์อยู่ที่ไหน แล้วเด็กที่เป็นเอ่อ...เป็นสาวประเภทสองน่ะค่ะเป็นใครไม่ทราบ" พิมพ์มาดาเอ่ยถึงจุดประสงค์หล่อนในทันที

ทนายประยุทธิ์ผู้ไม่ทราบความจริงของพิมพ์มาดาตอบตามตรงว่า

"บ้านเกียรติยานนท์อยู่จังหวัดชุมพรครับ และคุณชลิตาก็เป็นลูกของคุณตรีรัตน์ ลูกบุญธรรมน่ะครับ"

"อ้อ...เหรอคะ แล้วคุณลุงพอจะทราบประวัติของคุณตรีรัตน์บ้างไหมคะ?"

"เธอยังเป็นโสดถึงแม้ว่าอายุจะเข้าเลขห้าแล้ว เท่าที่ผมทราบเธอร่ำรวยมากในจังหวัดชุมพรและภาคใต้ครับ"

"ชลิตาหน้าตาเป็นยังไงคะ เธอสวยหรือเปล่า" พิมพ์มาดาซักถามต่อไปจนลืมคำนึงถึงมารยาท เป็นผลให้ทนายสูงวัยขมวดคิ้วนิดๆ มองแขกสาวเบื้องหน้าท่านอย่าแปลกใจ

"เอ...คุณพิมพ์จะรู้ไปทำไมไม่ทราบครับ"

หญิงสาวยิ้มเจื่อนๆอย่างรู้สึกตัวขึ้นมาเล็กน้อย รีบกล่าวแก้ตัวว่า

"น้องสาวพิมพ์เขาอยากรู้น่ะค่ะ คือยายกาญน์เขากลัวว่าคุณสุทธิ์นันท์จะเปลี่ยนใจในภายหลัง ถ้าชลิตาเป็นคนสวย และถ้าหากว่าวันหนึ่งคุณสุทธิ์นันท์เกิดทิ้งยายกาญน์ซึ่งกำลังท้องจะเป็นเรื่องมากกว่านี้นะคะ"

ทนายประยุทธิ์นิ่งไปครู่หนึ่งอย่างนึกหมั่นไส้ในสตรีผู้ถูกกล่าวถึง ซึ่งอาจจะเป็นด้วยเหตุผลนี้เอง ท่านจึงแกล้งตอบว่า

"ความจริงแล้วถ้าเป็นผู้หญิงดีจริงล่ะก็ ไม่เห็นจะต้องกลัวว่าผู้ชายจะทิ้งเลยนี่ครับ จริงไหมครับ! อ้อ! แต่คุณพิมพ์มาดาช่วยไปบอกคุณกาญน์กนกด้วยนะครับว่า ชลิตาไม่ใช่คนสวยอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว!"

"อุ๊ย จริงๆหรือคะ พิมพ์ก็กลัวอยู่แต่ว่า ชลิตาน่ะ อาจจะมีหน้าตาไม่สวยแต่อาจจะโชนแสงด้วยกองมรดกที่รออยู่ตรงหน้า ย่อมเป็นที่สนใจของหนุ่มๆไม่น้อยเลยจริงไหมคะ?"

ทนายประยุทธิ์หัวเราะ ฮึฮึ และไม่ได้ตอบโต้อะไรอีกในเรื่องของ "ชลิตา" และต่อจากนั้นเรื่องสนทนาก็เปลี่ยนไปคุยในเรื่องอื่นๆอีก ครู่หนึ่งหญิงสาวก็ขอตัวกลับ

********************************

"ไปไหนมาหรือคะพี่พิมพ์"

กาญน์กนกเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือเมื่อเห็นพี่สาวของหล่อนเดินเข้ามาในห้องรับแขก

"ไปหลายที่จ้ะกาญน์" พิมพ์มาดาตอบพลางทรุดนั่งลงบนโซฟาตัวยาว เคียงข้างน้องสาว ประกายตาของหล่อนฉายแววแห่งความสุขสมหวังอะไรสักอย่างหนึ่งอย่างเต็มเปี่ยม

"ไปไหนมาบ้างล่ะคะ"

"ไปหาทนายประยุทธิ์มา แล้วก็ไปซื่อเสื้อผ้า แล้วก็เลยไปลาพักร้อนชั่วคราวน่ะจ้ะ แหม...คุณณรงค์เดช เจ้านายพี่นะเขาใจดีมากเลยให้พี่พักร้อนตั้งเดือนหนึ่งแล้วยังให้เงินเดือนของเดือนที่ลาด้วยนะ"

พิมพ์มาดากล่าวถึง ณรงค์เดช เจ้านายหนุ่มประจำสำนักงานใหญ่ขายรถยนต์ยี่ห้อดังจากยุโรป ซึ่งพิมพ์มาดาทำงานเป็นเลขานุการประจำตัว ซึ่งทำทุกอย่างให้เจ้านายหนุ่ม บางทีอาจจะทำมากกว่าเมียในทะเบียนซะอีก...

"คุณณรงค์เดชที่เขาจะมาขอพี่ไปเป็นเมียน้อยน่ะหรือคะให้พี่ลาพักร้อน กาญน์ไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ"

กาญน์กนกพูดเหมือนไม่อยากจะเชื่อ เพราะว่าหล่อนทราบมาว่าคุณณรงค์เดชน์ชอบพี่สาวของหล่อนมานาน และยื่นข้อเสนอให้พิมพ์มาดาเป็นเมียน้อย โดยที่จะให้เงินเดือนมากถึงเดือนละห้าแสนบาท โดยที่ทำงานในนามเลขานุการ แต่เมื่อเวลากลางคืนก็จะตกเป็นเมียขาหนูต้องการแทน!

"แหม...ยัยกาญน์แกก็พูดไป ใครเป็นเมียน้อยไม่ทราบ เขาเรียกว่าเมียชั่วคราวต่างหากล่ะ ถ้าเป็นแกน่ะ แกจะเอาไหม เงินตั้งห้าแสนเข้าบัญชีทุกเดือน ยอมเสียตัวนิดๆหน่อยจะเป็นไรไป และที่สำคัญไม่มีใครรู้ มีแค่เรา โดยเฉพาะเมียแก่ๆที่บ้านคุณณรงค์เดชยังไม่รู้เลย พี่คิดว่าพี่ฉลาดมากนะยัยกาญน์ แต่อีกไม่นานหรอก พี่จะต้องแต่งงานกับคุณชานนท์ให้ได้ มันคือการแต่งงานอีกครั้งและครั้งสุดท้ายของพี่"

"ค่ะพี่พิมพ์ฉลาดมากเลยค่ะ แต่กาญน์คิดว่าคุณณรงค์เดชน่ะของตาย แต่คุณชานนท์นี่กาญน์ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ"

"แต่คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพี่หรอก! "

พิมพ์มาดานึกตอบน้องสาวอยู่ในใจ ขอบตาทั้งคู่หรี่เข้าหากันอย่างใช้ความคิด หล่อนจะต้องไปที่ชุมพรในเวลาไล่เลี่ยกับชานนท์ และหล่อนจะใช้ความลับ...ในเรื่องการปลอมตัวของชานน์ ให้เป็นประโยชน์กับอนาคตของหล่อนให้มากที่สุดทีเดียว

สามเดือนก่อนในงานแต่งงานของไฮโซชื่อดังของเมืองไทย หล่อนได้มีโอกาสติดตามน้องสาวของหล่อนไปด้วยในนามแฟนสาวของสุทธิ์นันท์ พิมพ์มาดาจำได้ว่าหล่อนทึ่งในความหล่อเหลาของชานนท์เป็นอย่างยิ่ง หล่อนอยากจะเข้าไปหาเขาแทบใจจะขาดในคืนนั้น แต่ก็ไม่มีโอกาสเนื่องด้วยชานนท์รวมกลุ่มอยู่กับเพื่อนกลุ่มใหญ่ของเขา และบังเอิญว่าคืนนั้นคุณณรงค์เดชเจ้านายและสามีลับของหล่อนก็มางานนี้ด้วย เขามากับภรรยาแก่ และคอยจับตาหล่อนอยู่ห่างๆ ทำให้หล่อนไม่มีโอกาสได้เข้าไปหาเขา

อย่างไรก็ตามนับจากคืนนั้นทำให้หล่อนเพ้อและจดจำหน้าตาคมเข้มของเขาได้ไม่มีวันลืม

จนกระทั้งเมื่อวานนี้เอง หล่อนไม่อยากจะเชื่อว่าโชคจะเข้าข้างหล่อน เพราะหล่อนได้รู้จากผู้เป็นน้องสาวว่า ชานนท์จะต้องเดินทางไปบ้านเกียรติยานนท์ ในฐานะคู่หมั้นของ "ชลิตา" กะเทยนางนั้น...เขาปลอมตัวไปแทน สุทธิ์นันท์ ผู้เป็นคนรักของกาญน์กนก

"กาญน์สงสัยจริงๆพี่พิมพ์จะไปอยู่ในบ้านนั้นในฐานะอะไร? "

พิมพ์มาดาตื่นจากอาการครุ่นคิด ยิ้มน้อยๆนัยน์ตาฉายแววเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองมาก เมื่อกล่าวตอบน้องสาวว่า

"ฐานะอะไรไม่สำคัญหรอกจ้ะกาญน์ ในเมื่อมันเป็นบทบาทชั่วคราวของพี่เท่านั้น มันสำคัญอยู่ที่ว่าผลลัพธ์ ที่ว่าในที่สุดพี่จะได้ชานนท์มาครอบครองให้เป็นของพี่ และพี่ก็เชื่อว่ามันจะสำเร็จ!"

********************************

ทุกคนในจังหวัดชุมพรรู้จักกันดีทีเดียว ว่าบ้านไม้สักโบราณสองชั้นหลังใหญ่โต ที่แลเห็นกระเบื้องสีแดงโผล่รำไรอยู่ระหว่างยอดไม้นั้น คือบ้านของคุณตรีรัตน์ เกียรติยานนท์ ผู้เป็นเศรษฐีนีผู้ร่ำรวยคนหนึ่งในภาคใต้ บ้านเกียรติยานนท์นี้มีอาณาเขตกว้างไกลกว่าหนึ่งร้อยไร่ แวดล้อมด้วยสวนผลไม้นานาชนิด ที่ปลูกแบ่งเป็นไร่ๆ เป็นต้นว่า ทุเรียน ขนุน มังคุด ละมุด พุทรา และ ชมพู่ และมีสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันอีกหลายร้อยไร่ คุณตรีรัตน์ยังมีโรงงานผลิดน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของภาคใต้อีกด้วย

และหลายคนในจังหวัดชุมพร รู้จักดีอีกเช่นกันว่าบุคคลผู้เป็นที่รักยิ่งของคุณนายตรีรัตน์ก็คือ "ชลิตา" สาวประเภทสอง ซึ่งเป็นลูกเพียงคนเดียวของคุณนายตรีรัตน์ ลูกบุญธรรมที่หล่อนรักยิ่งกว่าชีวิต

นอกจากคุณตรีรัตน์และชลิตา ในบ้านเกียรติยานนท์ก็มีบุคคลเก่าแก่ของบ้านหลายคนเป็นต้นว่า ครอบครัวของนายคงและนางสาย ที่มีหน้าที่ทำงานเป็นแม่ครัวและคนสวนประจำบ้าน นางสายและนายคงมีลูกชายหญิงด้วยกันสี่คน ซึ่งล้วนแต่อาศัยอยู่ในบ้านเกียรติยานนท์ด้วยกันทั้งสิ้น

คุณตรีรัตน์เลี้ยงดูคนในบ้านเป็นอย่างดี เมื่อคนงานมีลูกก็จะส่งเสียให้เรียนสูงๆและกลับมาช่วยงานที่โรงงานปาล์มน้ำมันหรือไร่สวนผลไม้ของคุณตรีรัตน์เอง นับได้ว่าคนงานในบ้านล้วนแล้วแต่เป็นเครือญาติของกันและกัน แทบจะเติบโตและทำงานกันภายใต้การดูแลของคุณนายตรีรัตน์

และบุคคลที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคนที่ได้ใกล้ชิดคุณตรีรัตน์และชลิตามากที่สุดคงหนีไม่พ้นคุณยายแจ้ว หญิงสูงวัยที่มีศักดิ์เป็นแม่ของนางสายคนงานในบ้าน ซึ่งคุณนายตรีรัตน์มอบหมายให้ยายแจ้วคอยเลี้ยงดูชลิตามาตั้งแต่เล็ก จนแทบจะเรียกได้ว่านางคือ "แม่นม" ของชลิตาเลยก็ว่าได้

และในวันเวลาที่กล่าวถึงนี้คุณนายตรีรัตน์ก็กำลังสนทนากับลูกสาวคนเดียวของหล่อนภายในห้องพักผ่อนชั้นล่าง ร่างบางระหงของชลิตาอยู่ในชุดอยู่บ้านแบบหลวมๆสีฟ้าสด ผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มของหญิงสาวถูกรวบเก็บเป็นหางม้ายาวลงมาเกือบถึงกลางหลัง ใบหน้าของหล่อนเรียวยาวริมฝีปากของหล่อนถูกทาด้วยลิปสติกสีแดงอ่อน ผิวพรรณของหญิงสาวไม่ถึงกับขาวแต่ดูดำเนียนและดูสุขภาพดี

ถ้าหากไม่บอกว่าว่าหญิงสาวที่นั่งคุยอยู่กับมารดาบุญธรรมนี้ในอดีตจะเคยเป็นเด็กผู้ชายมาก่อน แทบจะไม่มีใครเชื่อว่าหล่อนจะมีคำนำหน้าเป็นนาย เพราะว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นอยู่นี้คือผู้หญิงดีๆนี่เอง

"แม่มีเรื่องอะไรอยากจะบอกกับลูกน่ะยายตา...และถึงลูกจะไม่พอใจในการกระทำครั้งนี้ของแม่ แต่ขอให้ลูกเข้าใจนะว่านี่คือความหวังดีของแม่"

"คุณแม่มีเรื่องอะไรหรือคะ ตาคิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดเลยใช่ไหมคะ แล้วตาจะต้องโกรธคุณแม่ทำไมกันล่ะคะ? " น้ำเสียงของหญิงสาวร่างบางตรงหน้านั้นเหมือนน้ำเสียงของสตรีไม่มีผิด นั่นแหละที่ใครๆในจังหวัดนี้ถึงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าดูไม่ออกจริงๆว่านี่จะเป็นสาวประเภทสองไม่ใช่ผู้หญิงจริงๆ

"อีกสองสามวันบ้านเราจะมีแขกมาพักอยู่กับเราด้วยจ้ะ เขาชื่อว่า สุทธิ์นันท์ ชญากร"

"ผู้ชายใช่ไหมคะ เขาเป็นใครกันคะ สุทธิ์นันท์ ชญากร?"

"เขาเป็นลูกของสามีเก่าของแม่เองจ้ะ"

"เขาจะมาพักนานไหมคะคุณแม่ คือตาไม่อยากให้เขามาเลยค่ะ ยิ่งตารู้ว่าเป็นลูกของสามีเก่าคุณแม่แล้วทำไมจะต้องให้เขามาอยู่ที่บ้านเราด้วยล่ะคะ ตาไม่เข้าใจเลยค่ะ" น้ำเสียงของหญิงสาวเปลี่ยนไป เสียงสูงขึ้นกว่าเดิมแสดงสีหน้าไม่พอใจนิดๆ

"ตาฟังแม่นะ ตาก็รู้ว่าแม่แก่มากขึ้นทุกวัน ต่อไปตาจะต้องแต่งงานและมีครอบครัว ช่วยกันดูแลกิจการของแม่ต่อไป..." คุณตรีรัตน์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเพื่อไม่ให้บรรยากาศต้องร้อนไปมากกว่านี้

"คุณแม่หมายความว่ายังไงคะอยากให้ตาแต่งงาน คุณแม่คงไม่ได้หมายความว่าจะให้ตาสุทธิ์นง ธิ์นันท์ อะไรนั่นมาแต่งงานกับหนูหรอกนะคะ" ชลิตาทำท่าทางร้อนรนมากขึ้น หล่อนพยายามไม่อยากจะคิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง

"คุณแม่ก็รู้ว่าตาน่ะเป็นกะเทย เป็นเพศที่สาม ใครจะมารักตาจริงๆคะ ไม่มีหรอกค่ะ ใครๆเขาก็พูดกันว่าตาน่ะสวยมาก สวยที่สุด แต่มีลูกไม่ได้จะเอาทำไม เอาไว้เป็นของเล่นก็น่าจะพอแล้ว" หญิงสาวกล่าวพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากนัยน์ตาคู่สวยนั้น

คุณตรีรัตน์เห็นใจลูกสาวเป็นอย่างมาก จึงเข้าไปโอบกอดหญิงสาวอันเป็นที่รักตรงหน้า พลางกล่าวว่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่