สวรรค์บาป (ตัวเดินเรื่องเป็นสาวประเภทสอง) ตอนที่2

สวรรค์บาป (ตัวเดินเรื่องเป็นสาวประเภทสอง) ตอนที่ 1 > http://ppantip.com/topic/33351101

สวรรค์บาป ตอนที่ 2

สุทธิ์นันท์อึ้งไปครู่หนึ่ง แต่ด้วยวิสัยของคนที่ไม่ชอบคิดการณ์ไกลนักอย่างเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องของผู้อื่นทำให้เขากล่าวตัดบทในที่สุดว่า

"นั่นเป็นเรื่องที่เราคอยคิดแก้ไขทีหลังฮะพี่นนท์ ข้อสำคัญมันอยู่ที่ว่า พี่นนท์จะต้องรีบไปบ้านเกียรติยานนท์โดยเร็วที่สุดต่างหาก คุณตรีรัตน์โทรมาหาทนายให้ผมไปพบเธอให้เร็วที่สุด"

"ถ้าไม่ไปจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ" ชานนท์กล่าวครึ่งเล่นครึ่งจริงเป็นเชิงผ่อนคลายบรรยากาศที่เคร่งเครียด แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งเฮือกในใจเมื่อได้ยินสุทธิ์นันท์ตอบโดยเร็ว

"คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกเสียจากคุณตรีรัตน์จะชี้หน้าด่าประณามคุณแม่และผมได้ว่า ไม่รู้จักรักษาสัญญาของคุณพ่อ และในพินัยกรรมท่านระบุอย่างชัดเจนว่าผมจะต้องแต่งงานกับชลิตา พ่อเคยเล่าให้ฟังแล้วไม่ใช่หรือครับว่าที่เรามีวันนี้ได้เพราะคุณตรีรัตน์อดีตภรรยาของคุณพ่อ ท่านเลิกรากันด้วยเงื่อนไขบ้าบอนี่มาผูกมัดด้วยการช่วยเหลือคุณพ่อ และให้คุณพ่อตอบแทนเธอด้วยการให้ทายาทแต่งงานกับลูกของเธอ!"

คราวนี้ชานนท์เป็นฝ่ายนิ่งอึ้งบ้างเมื่อได้ฟังเหตุผลของบุตรชายของผู้มีพระคุณของเขา

ถ้าหากเขาไปในนามของ สุทธิ์นันท์ ชญากร ไม่ช้านักเขาจะต้องแต่งงานกับสาวประเภทสองที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน และเขาก็จะได้แต่งงานกับหล่อน โดยที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่เขาก็อาจจะมีสิทธิ์ในทรัพย์สินของคุณนายตรีรัตน์เมื่อเธอเสียชีวิต เพราะเขาคิดว่าคุณนายตรีรัตน์อาจจะต้องทำพินัยกรรมให้กับเขาเพื่ออยู่ดูแลชลิตาผู้เป็นบุตรของคุณนายตรีรัตน์...โอ นี่มันจะเป็นทางลัดไปสักหน่อย....ชานนท์ส่ายศีรษะไปมาอย่างรังเกียจความคิดเช่นนี้ของเขาเหลือเกิน แน่ล่ะ! ถึงเขาจะมีตำแหน่งเป็นแค่นายแพทย์แผนกศัลยกรรมตกแต่งในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งก็จริง แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะสร้างฐานะของตนเองด้วยวิธีลัดอย่างนั้นเลยสักนิด

แต่นั่นแหละเขาก็ไม่เห็นหนทางที่จะปฎิเสธคำขอร้องของสุทธิ์นันท์ได้

"ตกลงนะครับพี่นนท์ ผมรับรองได้ว่าคุณตรีรัตน์จะไม่มีทางรู้หรอกว่าพี่น่ะไม่ใช่ผมตัวจริง คุณตรีรัตน์ไม่เคยเห็นผมเลยสักครั้ง รับปากซีฮะพี่นนท์ว่ายินดีจะทำตามคำขอของผม"

ชานนท์ถอนใจเฮิอกใหญ่ ครั้นแล้วในที่สุดเขาก็พยักหน้ารับถ้อยคำรบเร้าของสุทธิ์นันท์อย่างมึนงงคล้ายคนที่ถูกสะกดจิต สุทธิ์นันท์หัวเราะออกมาอย่างดีใจ เขาลุกขึ้นตรงไปกราบแขนของพี่ชายต่างสายเลือดด้วยความปิติยินดี

"พี่นนท์ โอ...พี่นนท์ช่างดีกับผมเหลือเกิน ผมจะไม่มีวันลืมบุญคุณเลยครับพี่นนท์!"

ถูกแล้วสุทธิ์นันท์ พี่ย่อมจะต้องดีกับน้องเสมอ ในเมื่อเธอคือสายเลือดของคุณพ่อ ศักดิ์ชัย ชญากร ผู้ที่มีพระคุณอย่างยิ่งของพี่...ชานนท์รำพึงอยู่ในใจที่แสนจะอัดอั้นของเขา ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี เพราะฉะนั้นถึงแม้พี่อาจจะถูกประณามว่าเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ทรัพย์สมบัติของผู้อื่น พี่ก็ยอมที่จะเดินไปบนทางที่เธอลิขิตให้

**********************************

ชานนท์ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวโปรดนั่นเอง ถึงแม้ว่าสุทธิ์นันท์จะเดินออกไปจากห้องของเขาแล้วนานแสนนาน...ความคิดคำนึงของเขาย้อนหลังไปโดยเร็วเมื่อสี่ปีที่ผ่านมาแล้วนี่เอง เขาเกือบจะได้แต่งงานกับสตรีคนรักของเขา ถ้าหากว่าหล่อนไม่ด่วนจากเขาไปเสียก่อนด้วยอุบัติเหตุรถคว่ำในคราวเดินทางไปเยี่ยมพ่อและแม่ของเธอที่จังหวัดระยอง

และมันก็เป็นความจริงที่จะบอกได้ว่า ชานนท์ไม่เคยมองใครอีกเลยภายหลังที่ราณีผู้เป็นแฟนสาวของเขา ราณีคือหญิงคนแรกและคนเดียวของเขา! เขามีชีวิตอยู่เพื่องานและงาน ในช่วงระยะเวลาต่อๆมา การที่เขาสูญเสียราณีทำให้จิตใจของเขาเย็นชาตายด้านกับความรัก ไม่มีเพศตรงข้ามคนใดอีกเลย ที่จะสามารถทำให้หัวใจของเขาชุ่มชื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยพลังแห่งความรัก

เขาฝังหัวใจไว้กับความรักในอดีต พร้อมกับตั้งปณิธานไว้ว่าจะขออยู่เป็นโสดไปอย่างนี้ตลอดไป! แต่ว่าขณะนี้ความหมุนเวียนแห่งชีวิตกำลังจะนำพาเขาให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเพศเดียวกัน กับสาวประเภทสองที่สุทธิ์นันท์น้องชายของเขาตั้งท่ารังเกียจและไม่ยินยอมจะเดินทางไปพบ...เขาควรจะไปดีหรือไม่...เขาจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง

ชานนท์คำนึงถึงหล่อนอย่างไม่ค่อยจะพอใจนัก แต่ครั้นเมื่อระลึกได้ว่าชลิตาอาจจะน่าสงสารและต้องการใครสักคนในชีวิตที่เหมือนเป็นเพื่อนแท้และอยู่กับเธอไปจนแก่ตาย หล่อนคงจะเศร้าเสียใจที่ต้องเกิดมาผิดเพศแบบนี้ก็เป็นได้ ทำให้หัวใจของชานนท์อ่อนลงมานิดหนึ่ง

ชานนท์หนุ่มผู้มีจิตใจอ่อนโยนสุขุมเยือกเย็น ได้คิดถึงคำพูดของน้องชายต่างสายเลือดที่ว่า "คุณตรีรัตน์คงต้องการให้ลูกตัวเองแต่งงานเร็วๆ เพราะว่าในชีวิตนี้นางคงไม่มีโอกาสได้แต่งงานแล้ว คุณตรีรัตน์คงกลัวว่าลูกสาวตัวเองจะร้างผู้ชาย!"

เขาได้ทำความตกลงกับสุทธิ์นันท์เรียบร้อยแล้วว่าจะเดินทางไปจังหวัดชุมพรในอีกห้าวันข้างหน้า มันออกจะเร็วกะทันหันจนเขาแทบจะเตรียมตัวไม่ทันทีเดียว แต่ถึงอย่างไรในเมื่อ คุณตรีรัตน์ เกียรติยานนท์ ต้องการให้สุทธิ์นันท์เดินทางไปพบโดยเร็ว เพราะหล่อนโทรมาตามกับทนายประจำตระกูลหลายครั้งแล้ว มันอาจจะน่าเกลียดอย่างมาก ถ้าหากฝ่ายเราจะเลื่อนออกไปอีกเรื่อยๆ

***********

"สุทธิ์คะ แหม มาหากาญน์แต่เช้าเชียวนะคะที่รัก"

หญิงสาวร่างบอบบางผิวผ่องในเสื้อคลุมสีชมพู ซึ่งสวมทับเสื้อนอนยาวรุ่มร่ามเนื้อบางเบานั้นถลาลงบันไดมาด้วยเสียงทักทายอันร่าเริงเมื่อแลเห็นชายหนุ่มเจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มมียี่ห้อชื่อดังของเมืองไทย ผู้ซึ่งผลักประตูก้าวเข้ามาในเขตบ้านของหล่อน

"อรุณสวัสดิ์จ้ะ ที่รักของพี่"

สุทธิ์นันท์แสร้งโค้งคำนับหล่อนอย่างงดงามทีหนึ่ง สีหน้าของเขาดูสดชื่นแจ่มใสไม่แพ้ กาญน์กนก คชเสน ที่เดินตรงไปเกาะแขนของชายหนุ่ม พลางเงยหน้าขึ้นตั้งคำถามกับเขาอย่างร้อนรน

"สำเร็จไหมคะ พี่สุทธิ์?"

ผู้ถูกถามหัวเราะ "เออ...กาญน์นี่ใจร้อนจริง ใจคอจะไม่ให้ผมนั่งพักก่อนหรือไง"

"ฮื๊อ...แหม...ทำเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่างไปได้ค่ะสุทธิ์" หล่อนเหลือบมองเขาแต่พองาม "ไม่รู้หรือคะว่ากาญน์น่ะนอนไม่หลับทั้งคืนเลยนะคะ กลัวคุณชานนท์จะไม่ยอมรับคำขอร้องจากคุณ"

"โอ๋...หรือจ๊ะ" ชายหนุ่มทำเสียงปลอบพลางก็เดินคู่กันไปช้าๆกับหล่อน เขาสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆอย่างชื่นอกชื่นใจในกลิ่นผมอันหอมเย้ายวนของแฟนสาว "นั่งเล่นแถวนี่ก็ได้นะ...กาญน์ เพราะผมต้องเข้าที่ทำงานก่อนสิบโมงเช้า พี่อยู่กับกาญน์นานๆไม่ได้นะ"

สุทธิ์นันท์จับมือของหญิงสาวพาเดินข้ามสนามเล็กๆไปสู่ม้าหินอ่อนใกล้ซุ้มไม้เลื้อยริมรั้วด้านโน้น  "พี่พิมพ์ยังไม่ตื่นอีกหรือจ้ะกาญน์?" เขาหมายถึงพิมพ์มาดา สตรีหม้ายสาววัยสามสิบเศษผู้เป็นพี่สาวคนเดียวของกาญน์กนก

"ค่ะ" หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างไม่สนใจเท่าไหร่ พลางทรุดนั่งเบียดเขาบนม้าหินอ่อน พร้อมกับสบตาเขาด้วยแววตาที่หวานซึ้งเปี่ยมไปด้วยความรัก "คราวนี้ตอบกาญน์ได้หรือยังล่ะคะ ว่าคุณนนท์เขาว่าอย่างไร?"

"เขาจะว่าอย่างไง้" สุทธิ์นันท์ว่าเสียงสูงพลางยักไหล่คล้ายดูหมิ่นบุคคลที่กำลังกล่าวถึงนิดๆ "น้ำหน้าอย่างพี่นนท์น่ะหรือจะมากล้าขัดใจผม ผมอ้างความกตัญญูเข้าสักคำสองคำก็ขี้คร้านจะรับปากผมเสียอีกสิ ผมรู้จุดอ่อนตรงนี้ของพี่นนท์ดี"

"โอ...นี่ก็หมายความว่าพี่นนท์เขายอมที่จะไปหากะเทยคนนั้นแล้วน่ะซีคะ...แหม...กาญน์ดีใจเหลือเกินค่ะ" กาญน์กนกพูดอย่างดีใจและหัวเราะแจ่มใส

"ผมโกหกพี่นนท์อย่างที่กาญน์แนะนำผมน่ะแหละ ผมบอกพี่นนท์ว่ากาญน์กำลังท้องกับผม และถ้าผมไม่ยอมรับผิดชอบกาญน์มีหวังเป็นข่าวซุบซิบนินทาใหญ่โตแน่ แล้วพี่นนท์มันเชื่อผมซะสนิทเลย...ฮาฮา...พี่นนท์น่ะมันโง่"

สุทธิ์นันท์พูดอย่างรื่นเริงบันเทิงใจ "แต่งงานกับอีกะเทยนั่นน่ะเหรอ พี่ขอกลั้นใจตายยังจะดีเสียกว่า"

"แต่...สุทธิ์คะ กาญน์ก็ตกเป็นของคุณจริงๆแล้วนะคะ ยังแต่ไม่มีลูกด้วยกันแค่นั้น สุทธิ์จะเปลี่ยนใจไปจากกาญน์ไม่ได้นะคะ ฮึถ้าลองนอกใจกาญน์ล่ะน่าดู!"

"กาญน์จะทำไมผมจ๊ะ? ปล่อยให้ผมไปมีคนอื่นแต่โดยดีใช่มะ?....ใช่ซีน่า...ผมรู้ว่ากาญน์น่ะใจกว้าง" ชายหนุ่มแกล้งยั่ว

"อุ๊ย ใจกว้างน่ะมีแต่เรื่องอื่นนะคะ แต่ไอ้เรื่องให้ไปมีเล็กมีน้อยน่ะกาญน์ไม่ยอมง่ายหรอกค่ะพี่สุทธิ์...อ้อ...กาญน์ยังสงสัยอยู่เลยว่าคุณนนท์นี่เป็นอะไรกับพี่กันแน่ ญาติหรือเพื่อนสนิทคะ?"

"เขาเป็นลูกของเพื่อนรักของคุณพ่อ แต่พ่อและแม่เขาตายคุณพ่อเลยรับอุปการะเรื่อยมา โดยที่ให้ความเป็นอยู่และการศึกษาเท่าเทียมกับผม ด้วยเหตุผลนี่แหละจ้ะกาญน์ พี่นนท์ถึงใด้เกรงใจคุณแม่กับผมนักหนา และอาจจะพูดได้ว่าพี่นนท์เป็นทั้งพี่ชายและเป็นคนใช้ที่ดีที่สุดสำหรับผมทีเดียว เพราะตั้งแต่เล็กจนโต ผมยังจำได้ว่าพี่นนท์ไม่เคยขัดใจอะไรผมเลยสักครั้ง"

"โอ...หรือคะ พี่นนท์ของคุณนี่ช่างวิเศษจริง!" กาญน์กนกอุทานอย่างทึ่ง "คุณนนท์นี่หล่อได้ครึ่งคุณไหมคะ?"

"ทำไมกาญน์ถึงคิดว่าเขาจะไม่หล่อเท่าผมล่ะ?"

"พี่พิมพ์เคยบอกว่า ถ้าผู้ชายใจดีละก็มักจะไม่ค่อยหล่อ แต่ถ้าหล่อก็มักจะใจไม่ดี จริงไหมคะพี่สุทธิ์?"

"อ้อ...มีปรัชญากับเขาเหมือนกันหรือกาญน์" สุทธิ์นันท์ว่าพลางหัวเราะ "แล้วอย่างผมนี่กาญน์จะจัดให้อยู่ในประเภทไหนครับ"

"แหม...กาญน์ยังตอบไม่ได้หรอกค่ะ ต้องขอเวลาพิสูจน์ก่อน อ้อ! คุณยังไม่ได้ตอบกาญน์เลยนะคะว่าคุณนนท์หล่อไหม?"

"หล่อกว่าผมเสียอีก" สุทธิ์นันท์ตอบเสียงหนักแน่นและสัพยอกว่า "กาญน์อย่าไปสนใจพี่นนท์เข้าล่ะ เดี๋ยวจะเกิดคดีฆาตกรรมอำพรางได้ง่ายๆ ผมขี้หึงนะรู้ไหม"

"จริงๆน่ะหรือคะ...พี่สุทธิ์?"

"จริงสิ...แต่เอ...เดี๋ยวก่อนนี่กาญน์บอกว่าจริงหรือกับข้อไหนไม่ทราบ ข้อที่พี่นนท์หล่อกว่าผม หรือข้อที่จะเกิดคดีฆาตกรรมอำพราง?"

"ฮื้อ!...พูดกับพี่สุทธิ์แล้วกาญน์ปวดหัวทุกทีเลยค่ะ" หญิงสาวหยิกแขนเขาแรงๆอย่างหมั่นใส้ "ข้อแรกซีคะ พี่สุทธิ์ก็..."

"ถ้าข้อแรกล่ะก็ จริงร้อยเปอร์เซ็นต์เลยจ้ะกาญน์ พี่นนท์หล่อมากนิสัยก็ดี แต่เสียอย่างเดียวพี่นนท์ไม่มีหัวใจให้ใครอีกแล้ว"

"แปลว่ายังไงไม่ทราบคะ?"

หญิงสาวซักต่อไปอย่างสนใจ พลางท้าวศอกลงบนเข่าและวางคางลงบนฝ่ามือ สุทธิ์นันท์พิศดูใบหน้าด้านข้างที่แลเห็นหน้าผากโค้งมน และผิวแก้มสีชมพูเรื่อๆของกาญน์กนกอย่างหลงไหล

อย่างนี้ต่อให้ยายเศรษฐีนีตรีรัตน์เอาเงินมากองเป็นพันล้านเราก็ไม่มีวันแต่งงานกับกะเทยชลิตาเด็ดขาด! ความสวย ความมีเสน่ห์อย่างร้อนแรงของกาญน์กนก ดาราสาวสวยต่างหากที่เราต้องการ

สุทธิ์นันท์คำนึง พลางตอบคำถามหญิงสาวคนรักว่า

"แปลว่าหัวใจของพี่นนท์ได้ตายด้านไปพร้อมกับการจากไปของคู่หมั้นของเขาไงจ้ะกาญน์....เธอคงไม่เข้าใจ...ผมหมายความว่าภายหลัง ราณีได้ตายไปเมื่อสี่ปีที่แล้วด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์....แต่นั้นมา...พี่นนท์ก็ไม่เคยรักใครอีกเลย"

"แหม!...ฟังแล้วไม่อยากจะเชื่อเลยนะคะว่าคุณนนท์จะใจแข็งได้ถึงขนาดนี้"

"เขาเรียกว่าใจเดียวจ้ะ ไม่ใช่ใจแข็ง...เออ! ผมคุยกับกาญน์เพลินไปแล้ว นี่จะสิบโมงเช้าแล้วนี่" สุทธิ์นันท์ยกนาฬิกาขึ้นดู พลางเปลี่ยนอาริยาบทเป็นยกขึ้นยืน

"ผมเห็นจะต้องไปก่อนล่ะนะ...ที่รัก"

"ตามใจค่ะ วันนี้บ่ายโมงกาญน์ก็มีถ่ายละครเรื่อง ดาวพระเสาร์ด้วยกว่าจะเสร็จคงจะดึกๆเพราะวันนี้มีคิวถ่ายรอบดึกเยอะเลยล่ะค่ะ" หญิงสาวตอบ พร้อมกับลุกขึ้นเคลียคลอเดินไปส่งแฟนหนุ่มถึงหน้าประตูรั้วบ้าน

*************************************
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่