สิ้นแสงสุริยา ตอนที่ 15

กระทู้สนทนา
“  เอ๊ะตะวัน จามทำขนาดนี้แล้วคุณยังจะเอายังไง  ”
“  แล้วสักวันคุณก็จะมาลำเลิกกับผมใช่ไหมว่าที่ได้ดิบได้ดีน่ะก็เพราะคุณ  ”
“  ตะวัน ถ้าคุณเป็นสามีของจาม จามจะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร ที่จามทำนี่ก็เพื่อเราสองคนนะคะคุณอย่ารั้นอย่าตะแบงจะได้ไหม  ”
“  ได้ ผมจะฟังคุณ แต่คุณต้องเข้าใจนะว่าหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของคุณน่ะมันสามารถชี้ชะตาบริษัทของคุณได้ถ้าผมเกิดทรยศกับคุณ  ”
“  คุณจะไปทำอะไรได้อย่างมากคุณก็แค่ขาย แล้วจะขายให้ใครคนที่ถือหุ้นอยู่ในบริษัทส่วนใหญ่เป็นสุรียาบดีทั้งนั้น คณะกรรมการอื่นๆก็มีหุ้นรวมกันแค่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ สิทธิและเสียงส่วนใหญ่คุณพ่อของจามกุมเอาไว้หมดย่ะ  ”
“  จริงหรือ คุณพ่อคุณมีหุ้นอยู่เท่าไหร่  ”
“  คุณพ่อกับคุณป้าถือหุ้นคนละเท่าๆกันคือคนละสิบห้าเปอร์เซ็นต์ส่วนจามกับคุณแม่ถือคนละสิบเปอร์เซ็นต์  ”
“   ก็ห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วคณะกรรมการอื่นๆอีกสิบห้าเปอร์เซ็นต์   มันก็ยังขาดไปอีกสามสิบห้าเปอร์เซ็นต์  ”
“  ไอ้ส่วนนั้นน่ะ มันก็เป็นของสุรียาบดีเหมือนกันเพียงแต่คนถือหุ้นอยู่ไม่มีตัวตนคุณลุงอุเทนเป็นคนดูแลอยู่แต่อีกไม่กี่ปีมันก็ต้องตกมาเป็นของคุณพ่อของจาม  ”
“  ใครเป็นเจ้าของหุ้นนั้น  ”
“  สุรียา เขาเป็นลูกชายของคุณลุงของจามที่ตายไปแล้ว เขาเองก็คงตายไปแล้ว แต่พินัยกรรมระบุเอาไว้ว่าถ้าภายในสามสิบปีสุรียาไม่มาปรากฏตัวและรับเอาส่วนของเขาไป ให้หุ้นทั้งหมดตกไปสู่ทายาทของเขาที่เหลือ ก็คือคุณพ่อของจามไง  ”
“  แล้วทำไมหุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ถึงได้ไปเป็นของคนนอกที่ไม่ใช่สุรียาบดีล่ะ  ”
“  พวกนั้นน่ะ ข้าเก่าเต่าเลี้ยงของคุณลุงธารเทพท่านยกให้กันไว้ คุณพ่อเห็นว่าเล็กน้อยก็เลยไม่ได้สนใจอะไร ผลกำไรที่แบ่งปันให้ก็ส่วนน้อยเท่านั้น อีกอย่างเขาก็ยังช่วยงานให้บริษัทได้มาก อาอนุชาก็เป็นผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศ อาเนตรก็เป็นผู้จัดการอาวุโสของบริษัทที่ดูแลด้านวัตถุดิบ คุณนิทัตก็เป็นผู้จัดการโรงงาน  ”

ตะวันได้ความกระจ่างเขาลอบมองจามจุรีอย่างหมายมาด จามจุรีเอามือลูบแผงอกของเขาเล่นและเล่าไปเรื่อยๆ

“  เห็นหรือยังคะว่าแค่สิบเปอร์เซ็นต์ที่จามจะยกให้คุณไม่มีผลอะไรเลยมันก็แค่จะทำให้คุณได้มีสิทธิดำรงตำแหน่งที่สำคัญในบริษัทนี่เท่านั้น  ”

ตะวันเลื่อนตัวลงนอนโอบกอดร่างบางที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเล้าโลมยั่วยุอารมณ์ของหล่อนอีก เขาต้องทำให้หงส์อย่างหล่อนขนหลุดจากกายให้หมดเป็นหงส์ต้มให้เขาเคี้ยวได้อย่างสบายปาก จามจุรีสั่นระริกกับอารมณ์ที่เร่าร้อนรุนแรงของเขาตะวันทำให้หล่อนลุ่มหลงจนคิดว่าชาตินี้หาใครเทียบกับเขาไม่ได้อีกแล้ว

“  น้าเอี้ยงพักนี้ตะวันไม่ค่อยมาหาเราเลย ฉันเป็นห่วงเขาเหลือเกิน  ”  
“   คุณนี  ตะวันเขาฉลาด เขาเอาตัวรอดได้คุณนีไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอก  ”
“  แต่ลูกกำลังเล่นกับไฟ พวกนั้นไม่ต่างอะไรกับไฟ ฉันกลัวว่าเขาจะพลาดแล้วเป็นแบบคุณพ่อของเขา  ”
“  ทำไมถึงคิดอย่างนั้น ตะวันรู้เขารู้เราไม่เหมือนคุณธารเทพที่ไม่รู้อะไรเลย มีแต่ความไว้ใจ  ”
“  แต่ตะวันคนเดียวจะสู้พวกนั้นได้หรือคะ  ”
“  ตะวันไม่ได้ใช้กำลัง เขาใช้สมองและสมองอย่างเขารับรองว่าเขาเอาสุรียาบดีคืนได้แน่นอน คุณคอยรอฟังไอ้พวกนั้นมันพบกับความหายนะดีกว่า น้าว่าคงอีกไม่นานหรอก  ”
“  แล้วถ้าตะวันทำไม่สำเร็จล่ะน้าเอี้ยง  ”
“  เขาก็ต้องสังเวยชีวิต อย่างที่คุณธารเทพเคยสังเวยมาแล้ว แต่ผมเชื่อว่าไม่มีวันนั้นเด็ดขาด ผมมั่นใจในตัวของเขา  ”
“  ตะวันเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน ฉันกลัวเขาจะเสียท่าเพราะเรื่องนี้  ”
“  ฮึ  เขาอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ  ตะวันแยกแยะเป็นว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ คุณยังไม่เคยเห็นความเด็ดเดี่ยวอดทนของเขา เขาไม่เคยทำอะไรผลีผลาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่  ”

สุทธินีกังวนใจเธอห่วงลูกชายเหลือเกิน กลัวว่าเขาจะพลาดท่าเสียทีแก่พวกของทุติยะ ทุติยะและทาทองฉลาดและเหี้ยมโหดถ้าพวกเขารู้ว่าตะวันคือใครพวกเขาต้องไม่ไว้ชีวิตตะวันแน่  
ตะวันกับจามจุรีไปจดทะเบียนสมรสกันที่เขตหลังจามที่จามจุรีทำใบโอนหุ้น ส่วนของเธอให้กับตะวันเรียบร้อยแล้ว

“  ตะวันคะ เย็นนี้คุณไปทานข้าวที่บ้านของจามนะคะ จามจะให้คุณพ่อคุณแม่และคุณป้าได้รู้จักกับคุณในฐานะเจ้าบ่าวของจาม  ”
“  ได้ แต่คุณต้องรับรองนะว่า ผมจะมีชีวิตรอดกลับออกมาได้ ไม่ใช่กลับออกมาโดยมีพระนำออกมา  ”
“  บ้าแล้ว ตะวันนี่พูดอะไรไม่เป็นมงคลเลย คุณพ่อจะฆ่าลูกเขยของท่านก็เอาสิคะ จามจะช่วยรับลูกกระสุนปืนด้วย  ”
“  นี่คุณจะบอกคุณพ่อคุณแม่ของคุณเลยหรือว่า เราไปถึงไหนกันแล้ว  ”
“  ยังหรอกค่ะ บอกแค่ว่าเรารักกัน และจะแต่งงานกัน  ”
“  โอเค ผมจะได้วางตัวถูก  ”

จามจุรีโทรศัพท์ไปบอกบิดาว่าวันนี้เธอจะพาคนพิเศษของเธอเข้าไปให้บิดามารดารู้จัก

“  นี่ลูกจะพาแฟนมาให้พ่อดูตัวหรือ  ”
“ ค่ะ   ”
“  ใคร พ่อเคยรู้จักมาก่อนหรือเปล่า  ”
“  คุณพ่อน่าจะเคยเห็นเขาแล้วนะคะ   ”
“  บอกพ่อหน่อยได้ไหม ว่าลูกหลานของใครใหญ่โตแค่ไหน เป็นนักธุรกิจหรือนักการเมือง  ”
“  คุณพ่อขา แฟนของจามเขาไม่ได้เป็นลูกของคนใหญ่คนโตหรอกค่ะ แต่เขาเป็นคนดีนะคะจามรับรอง  ”
“  เอา พามาให้พ่อดูหน้าก่อน ตกลงเย็นนี้พ่อจะยกเลิกนัดกินข้าวกับท่าน ส.ส.  จะกลับไปดูหน้าว่าที่ลูกเขยสักหน่อยขนาดลูกสาวของพ่อยอมรับเขาเป็นคนพิเศษเขาต้องมีอะไรที่น่าสนใจมากแน่  ”
“  รับรองเลยค่ะ ว่าเขาเป็นคนดีที่สุดค่ะ  ”

ห้าโมงเย็นจามจุรีก็พาตะวันมาที่บ้านสุรียาบดี เธอหันมองเขาเมื่อขับรถมาจอดหน้าตึกสุรียาบดี

“  คุณพ่อกับคุณแม่คงยังไม่กลับ ท่านคงมาถึงประมานหกโมงเย็น คุณกลัวไหมคะตะวัน  ”
“  ไม่กลัวก็บ้าแล้วน่ะสิ ข่าวว่าคุณพ่อของคุณหวงลูกสาวยังกับจงอางหวงไข่ แล้วผมดันจะไปกินไข่จงอางไม่รู้วันนี้จะถึงตายเสียก็ไม่รู้  ”
“  มาค่ะ ไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่คุณคิดหรอก น่า  ”

ตะวันเปิดประตูรถลงมายืนมองรอบๆบริเวณ จามจุรียิ้มอย่างมีความสุขเธอเดินมาคล้องแขนของเขาพาเข้าไปในบ้าน
ก้าวแรกที่ได้เข้ามาเหยียบบ้านสุรียาบดีตะวันขนลุกซ่านอย่างปิติเขามองห้องโถงรับแขกที่กว้างขวางโอ่อ่า สุรียาบดีงดงามทั้งภายนอกและภายใน

“  ตะวันนั่งเล่นที่นี่ก่อนนะคะ จามขอตัวขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน  ”
“   ครับ  ”

จามจุรีสั่งให้แม่บ้านคอยดูแลเขา ถ้าตะวันต้องการอะไรแล้วเธอก็ขึ้นข้างบนไปอาบน้ำ  ตะวันมองไปรอบๆอย่างตื่นตา แม่บ้านจัดอาหารว่างเอามาให้เขา

“  เชิญคุณทานของว่างก่อนนะคะ  ”
“  ครับ ขอบคุณครับ  ”

ตะวันมองภาพถ่ายครอบครัวนายทุติยะขนาดใหญ่ที่ติดโชว์เอาไว้ที่ผนังห้อง จันทรานั่งพับเพียบอยู่กับพื้นด้านหน้าของสวาท นายทุติยะอยู่ในชุดตำแหน่งรัฐมนตรีมีจามจุรีกับคุณหญิงทาทองยืนขนาบด้านข้างทั้งสอง ตะวันนั่งมองภาพนั้นพลันเขาก็ได้ยินเสียงซอดังแว่วมาจากข้างบนด้านใดด้านหนึ่งของตัวตึก ชายหนุ่มเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ

“  ใครสีซอครับ  ”

เขาหันไปถามแม่บ้านที่ยืนคอยดูแลเขาอยู่

“  อ๋อ  คุณจันทร์ค่ะ   ”

จันทราหรือตะวันนึกในใจ เสียงซอของเธอยังดังแว่วหวานตะวันนั่งฟังอย่างตั้งใจ สาวน้อยผู้ไร้เดียงสามีจิตใจรักงานศิลป์ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเมื่อนึกถึงจันทราเขาจะรู้สึกว่าโลกเป็นศิลป์ขึ้นมาตั้งเยอะ
จามจุรีแต่งตัวสะสวยเดินลงมา

“  เบื่อไหมคะที่ต้องนั่งคนเดียว  ”
“  ไม่เบื่อ ผมนั่งฟังเสียงซอ  ”
“  อ๋อ ยายจันทร์น่ะค่ะ เขาชอบสีซอเย็นๆอย่างนี้เขาก็จะสีเป็นประจำ รายนั้นถ้าไม่สีซอก็ดีดจระเข้ ตีขิม เขานิยมไทยชอบอะไรที่โบราณคร่ำครึ  ”
“  ผมว่าน่ารักดีออก ผู้หญิงสมัยนี้เขาก็หันมาเล่นดนตรีไทยกันตั้งเยอะ ทำไมคุณไม่ชอบ หรือเห่อของนอกหลงวัฒนธรรมต่างชาติ  ”
“  แหม ดนตรีไทยฟังแล้ววังเวงน่ากลัวออกจามฟังยังไงก็ไม่น่าฟังไม่ชอบ แน่ะคุณพ่อกับคุณแม่กลับมาแล้ว  ”

ตะวันลุกขึ้นยืนจามจุรีเข้าไปกอดแขนบิดาที่เดินนำ  หน้าภรรยาเข้ามา

“  คุณพ่อขาเหนื่อยไหมคะ  ”
“  ลูกกลับมานานแล้วหรือ  ”
“  คุณพ่อขาคุณแม่ขานี่ไงคะคนพิเศษของจาม  ”

จามจุรีบอกพ่อกับแม่ตะวันยกมือไหว้คนทั้งสองทุติยะจ้องมองเขาเขม็ง

“  เอ๊ะ ฉันเคยเห็นหน้าเธอที่ไหน  ”
“  ผมชื่อตะวัน ครับ เป็นพนักงานฝ่ายบัญชีอยู่ที่บริษัทของท่าน  ”

สวาทตาโต ส่วนนายทุติยะเริ่มวางท่าไม่พอใจ จามจุรีเข้ามากอดแขนตะวัน

“  คุณพ่ออย่าทำหน้าอย่างนั้นสิคะ เดี๋ยวตะวันก็ตกใจแย่  ”
“  นี่ยายจามพ่อเพิ่งมาถึงเหนื่อยๆให้คุณพ่อได้พักผ่อนก่อนเถอะนะ แล้วค่อยเจอกันที่โต๊ะอาหารก็แล้วกัน  ”

สวาทบอกลูกสาวแล้วเดินตามสามีขึ้นไปด้วย จามจุรีหันมามองตะวัน

“  ตะวันคุณอย่ากลัวนะคะไม่มีอะไรหรอกค่ะ จามขอขึ้นไปคุยกับคุณพ่อเดี๋ยวนะคะ ตะวันจะเดินเล่นรอบๆบ้านก่อนก็ได้นะ  ”
“  ครับ  ”

จามจุรีตามขึ้นมาที่ห้องของบิดา สวาทว๊ากทันทีเมื่อจามจุรีก้าวเข้ามาในห้อง

“  นี่ยายจาม เราคิดยังไงถึงได้พาไอ้กระจอกนั่นมาที่นี่  ”
“  คุณแม่คะ ตะวันเขาเป็นแฟนของจามนะคะ  ”
“  แฟน  แม่จะเป็นลม ทำไมลูกถึงไปคบกับคนระดับนี้ ลูกเป็นใครรู้ตัวหรือเปล่า  ”
“  ใช่ พ่อผิดหวังมากเลยนะจาม  ”
“  คุณพ่อขา จามบอกคุณพ่อแล้วไม่ใช่หรือคะว่าแฟนของจามไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่เขาเป็นคนดี  ”
“  คนดี  มันจะมาเกาะลูกน่ะสิ นี่แม่ไม่เห็นด้วยนะที่ลูกจะคบกับไอ้หมอนี่  ”
“  คุณแม่ เคารพการตัดสินใจของจามบ้างสิคะ จามชอบเขานะคะทำไมคุณแม่ต้องห้าม  ”
“  ยายจาม คนในสังคมระดับเราตั้งเยอะแยะทำไมลูกไม่เลือก จะมาเลือกไอ้คนที่เป็นแค่พนักงานต๊อกต๋อยในบริษัทเรา เห็นแก่หน้าของคุณพ่อบ้างสิลูก  ”
“  คุณพ่อคะ คุณพ่อจะห้ามไม่ให้จามรักกับตะวันหรือคะ  ”
“  ยายจาม พ่อทำใจรับมันไม่ได้  ”
“  ไหนคุณพ่อบอกว่าขอแค่ให้เขาเป็นคนดีคุณพ่อก็โอเคแล้วไงคะ  ”
“  แต่พ่อไม่คิดว่ามันจะเป็นแค่พนักงานระดับล่างในบริษัทของเรา ยายจามเรื่องนี้พ่อต้องขอละ พ่อทำใจรับมันไม่ได้  ”
“  แต่จามรักเขา รักมากด้วย  ”
“  ยายจาม  ”
“  คุณพ่อห้ามจามไม่ได้หรอก จามไม่ยอม จามจะแต่งงานกับเขาได้ยินไหมคะ จามจะแต่งงานกับตะวัน  ”
“  ยายจามนี่แกจะบ้าไปใหญ่ มีหัวคิดหน่อยสิจะแต่งงานกับไอ้คนกระจอกพ่อแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน คนเขารู้จักพ่อกับแม่ทั่วบ้านทั่วเมืองรัฐมนตรีทุติยะมีลูกเขยเป็นแค่พนักงานในบริษัท มันไม่ทุเรศไปหน่อยหรือ  ลูกออกไปบอกมันว่าเลิกมายุ่งเกี่ยวกับลูกซะ แล้วออกไปจากบริษัทของพ่อได้แล้ว พ่อไม่อยากเห็นหน้ามัน  ”
“  ไม่มีทางค่ะคุณพ่อ คุณพ่อไล่ตะวันออกจากบริษัทไม่ได้หรอก  ”
“  นี่ยายจาม แกจะขัดใจพ่อหรือไง กะแค่ไอ้ผู้ชายสวะนั่นคนเดียวแกยอมขัดใจพ่ออย่างนั้นหรือ  ”

ทุติยะเสียงดังลั่นสวาทรีบเข้ามากันให้ลูกสาวกลับออกไปก่อน

“  จามเชื่อคุณพ่อนะ ไปบอกนายนั่นให้กลับไปซะ แล้วพรุ่งนี้ก็ไล่มันออกไปจากบริษัทของเรา แม่เองก็ทนเห็นมันอีกไม่ได้  ”
“  สายไปแล้วค่ะคุณแม่ ตะวันถือหุ้นส่วนหนึ่งของบริษัทของเราไว้ เขาจะไม่ไปไหนทั้งนั้น  ”
“  ยายจาม  ”

ทุติยะและสวาทตาเหลือก

“  นี่แกว่าอะไรนะยายจาม มันจะมามีหุ้นในบริษัทของเราได้อย่างไร  ”
“  จามโอนหุ้นส่วนของจามให้กับตะวันไปแล้วเพราะรู้ว่าคุณพ่อกับคุณแม่จะต้องใช้วิธีนี้กับเขา  ”
“  นังจาม  ”

ทุติยะร้องเสียงหลงชี้หน้าลูกสาวคนโตมือไม้สั่น

“  นี่แก แกบ้าไปหรือเปล่า เอาหุ้นไปให้คนอื่นได้ยังไง นังจาม  ”
“  คุณพ่อคะ ตะวันไม่ใช่คนอื่นเขาเป็นแฟนจามเราจะแต่งงานกัน  ”
“  ไม่ได้ ฉันไม่ให้แกทำอย่างนั้นเด็ดขาด แกมันวิปริตไปแล้ว เอาหุ้นของบริษัทไปให้ไอ้ยาจกนั่น ฉันจะฆ่าแก  ”

ทุติยะปรี่เข้าหาลูกสาวสวาทรีบเข้ามาขวางและไล่จามจุรีให้ออกไปก่อน

“  ไป  ไปซะก่อนยายจามคุณพ่อกำลังโมโหมาก ออกไป  ”

จามจุรีวิ่งลงมาจากข้างบนตะวันนั่งคอยอยู่ข้างล่าง เขาเห็นใบหน้าที่ซีดตระหนกของจามจุรีก็นึกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ข้างบน

“  คุณจาม  ”
“  เราออกไปหาอะไรทานกันข้างนอกเถอะค่ะ ไปค่ะ  ”

จามจุรีนั่งน้ำตารื้อเต็มตา ตะวันขับรถไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายจนนานจามจุรีจึงหันมาพูดกับเขา




...พิมพ์พิลาสฒ์...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่