เชิญชวนให้มาหัดทำ "ข้าวต้มมัด" ให้คุณพี่เหมค่ะ

ขอเกริ่นก่อนว่าช่วงนี้กำลังเป็นติ่งเบาๆของพ่อเหม หรือน้องเจมส์ มาร์ จากเรื่องข้าบดินทร์อยู่นะคะ (จริงๆชอบมาตั้งแต่รณพีร์ แต่เรื่องคุณชายไม่อินขนาดเน้ๆๆ บอกเลย !!!!)  ถึงแม้จะดูในยูทูปตอนที่ทางทีวีจบไปแล้วก็ตาม แต่ดูรวดเดียวจบเลย ไม่มีกดเร่ง สกิป ข้ามหรือใดใดทั้งสิ้น เป็นละครที่ดูทุกวินาทีจริงๆ จะเดินไปไหน คุยกับใคร กดพอสไว้ตลอด ฟังไม่ชัดมีย้อนกลับไปฟังใหม่ด้วยนะ แต่ถึงละครจะจบ จขกท ยังคงนั่งฟังเพลง หมดหัวใจ ที่เบนชลาทิศร้อง ซ้ำไปซ้ำมาอยู่เพลงเดียว เนื้อเพลงนี่เพราะจับใจมากๆ ฟังไปมโนไป อยากจะเป็นแม่ลำดวน แล้วให้พ่อเหมร้องเพลงนี้ให้ฟังในวันแต่งงานซะเหลือเกิน คงจะกินใจ ซาบซึ้ง และรักคุณพี่เหมยันวันต้องตายจากกันจริงๆ

ร่ายมาซะยาว แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าวต้มมัด ?????? อย่าเพิ่งรำคาญเลยจ้าา เข้าเรื่องแล้ว

สาเหตุที่อยู่ดีดีลุกขึ้นมาทำข้าวตัมมัดทั้งๆที่ไม่เคยทำมาก่อน เพราะว่า ดูคุณชายรัชชานนท์ที่ตอนนี้มารีรันอยู่ตอนบ่ายช่องสาม (ตอนฉายกลางคืนเมื่อปีก่อนนู้นก็ดู) แล้วเป็นฉากที่สร้อยฟ้าต้องแข่งทำข้าวตัมมัดกับศินีนุชพอดี หลังจากที่การแข่งขันจบมีการโกงกันทำให้ทุกคนอดกินฝีมือสร้อยฟ้า แล้วอยู่ดีดีกรองแก้วนางสาวศรีสยามก็เดินเอาข้าวต้มมัดมาวางให้ คุณชายทั้งสี่คนชิมฝีมือสร้อยฟ้า จขกท สังเกตว่า คุณชายรณพีร์กินอย่างเอร็ดอร่อยจริงๆ (สายตามันโฟกัสเองโดยอัตโนมัติ) กินตั้งแต่ต้นฉากยันจบฉาก ไม่รู้ว่าเป็นไปตามบท หรือเป็นตัวตนของน้องเจมส์จริงๆ  ช่างน่ารักน่าเอ็นดู (มีภาพปลากรอบ)


ก็เลยอยากจะทำให้พ่อเหมกินขึ้นมาซะอย่างนั้น เพราะตอนเด็กๆ คุณยายชอบทำให้กิน แต่ท่านก็ไม่ได้ทำมานานมาแล้ว วันนี้เลยเอาสูตรข้าวต้มมัดหรือข้าวต้มผัดของคุณยายมาฝากกันจ้าาา สูตรอาจจะไม่ค่อยเป๊ะนะคะ เพราะทุกอย่างไม่มีการจด ใช้กะ แล้วชิมเอาแบบคนสมัยก่อนทำอาหารอ่ะค้าาา

เริ่มเลย ส่วนประกอบมีไม่มาก ไม่ยุ่งยาก
๑. ข้าวเหนียวเขี้ยวงูแช่น้ำข้ามคืน ๑.๕ กิโลกรัม
๒. หัวกะทิ ๑ กิโลกรัม
๓. น้ำตาล ๓๗๕ กรัม (ยายบอกว่าข้าวเหนียว ๑ โลใช้น้ำตาล ๒.๕ ขีด แต่ใส่เอาเข้าจริงก็กะๆเอาจากถุง ๑ กิโลว่าเทไปเกือบๆครึ่งถุง แล้วก็ชิมเอา)
๔. เกลือ ๑.๕ ช้อนแกง (ใช้ช้อนกลางตักพูนๆ)
๕. กล้วยน้ำว้าสุก ๒ หวี (แต่ยังไม่งอมมาก จริงๆแล้วแต่คนชอบเลยค่ะว่าอยากได้งอมมากงอมน้อย)
๖. ถั่วดำแช่น้ำข้ามคืน ปริมาณตามชอบ (ปกติไม่ใส่ แต่เห็นคุณชายกินชิ้นมีถั่วดำเลยต้องใส่ละ เอาใจซะหน่อย #มโนล้วนว่าทำให้กิน จขกทใช้ประมาณ ๒๐๐ กรัม)
๗.เทียนอบขนม หาซื้อได้ในร้านสังฆภัณฑ์ หรือร้านขายอุปกรณ์ทำขนม (อยากจะอบควันเทียนให้หอม เพราะหม่อมย่าเอียดบอกว่าข้าวต้มมัดหนูเกษราหอมกลิ่นน้ำลอยดอกมะลิ ที่บ้านไม่มีมะลิ ใช้กลิ่นดอกไม้ในเทียนไปแทนละกันเนอะ #เอาใจสุดๆ )
๘.ใบตองสำหรับห่อ หาซื้อได้ตามตลาด (จขกท ตัดหน้าบ้านยายค่ะ เพราะยายบอกว่า ใบตองเยอะเชียว เอามาทำข้าวต้มมัดก็ดี ถ้าใบตองไม่มีคงไม่ได้ทำค่ะ ๕๕๕)
๗. ตอกสำหรับมัดข้าวต้ม หาซื้อได้ตามตลาดเช่นกัน ร้านไหนมีใบตองร้านนั้นมีตอก (ตอนแรกไม่รู้ว่าไปตลาดแล้วซื้อที่ไหน แม่บอกมา แล้วก็มีจริงๆ ขีดละ ๑๕ บาท ขีดเดียวเหลือแหล่)

เริ่มทำกันเลย
๑. ขั้นตอนแรกต้องเตรียมใบตองและเอาตอกไปแช่น้ำค่ะ ยายบอกว่าตอกจะได้เหนียว (หรอ?? ใครรู้บอก จขกท ที)


ขังน้ำในอ่างล้างมือแล้วแช่ลืมไปเลย


จากนั้นก็ไปเตรียมใบตองค่ะ ใครที่ตัดมาจากต้นต้องระวังยางด้วย ถ้าหยดหรือกระเด็นใส่เสื้อนี่ซักไม่ออกเลยนะ (ยายบอก) แล้วก็ เอาไปตากแดดไว้ให้ยางแห้งก่อนค่อยมาเจียนเป็นขนาดที่จะใช้ค่ะ ใครไม่มีต้นกล้วยก็ไปซื้อเอาค่ะ จริงๆก็ง่ายเนอะ ไม่ต้อกลัวยางเลอะเสื้อ ไปซื้อตอกก็ซื้อใบตองมาด้วยเลยสะดวกดีค่ะ


๒. ในขณะที่ใบตองอาบแดดอยู่ก็อย่าเสียเวลาอยู่เลย ไปเอากะทิมาเทใส่หม้อแล้วอบควันเทียนดีกว่าค่ะ อบนานๆได้หอมๆ แต่ต้องหาภาชนะมิดชิดไม่ให้ควันเล็ดลอดออกมาเลยนะคะ ควันได้ตลบอบอวนอยู่กับกะทิ
วิธีการทำของ จขกท เรียงตามลำดับคือ
    ๑. เทกะทิใส่หม้อ
    ๒. เอาพลาสติกใส่ปิดหนึ่งรอบ
    ๓. วางใบตองลงบนพลาสติกใส (เทคนิคนี้มีพี่ในร้านอาหารที่ จขกท เคยไปฝึกงานสอนมาค่ะ ที่ร้านก็ทำแบบนี้ เพราะถ้าควันเทียนโดนพลาสติกแล้วพลาสติกจะขาดเป็นรูค่ะ)
    ๔. ปิดพลาสติกใสอีกชั้นทับใบตอง
    ๕. แง้มพลาสติดใส่ที่ปิดหม้ออยู่ออกนิดหน่อย ให้พอใส่เทียนกับถาดรองเทียนเข้าไปได้
    ๕. จุดเทียนรอซักหนึ่งนาที เป่าให้ดับ วางในถาด รีบเอาไปลอยในกะกิแล้วรีบหุ้มฟลาสติกที่แง้มไว้เมื่อกี้ทันทีให้สนิท
    ๖. เอาฝาหม้อปิดทับ แล้วทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง (นั่งเช็ดใบตองไประหว่างรอ)

มีภาพประกอบนิดหน่อย แต่ไม่มีสภาพภายในหม้อให้เห็นนะคะ พอดีตอนอบรีบใส่รีบปิดเลย พออบเสร็จก็ลืมถ่ายซะงั้น


ภาพนี้เอาเทียนใส่ถาดหม้อแกงที่ซื้อมากินแล้วล้างเก็บไว้ ถาดอันเล็กๆ



อันนี้ปิดฝาแล้วยังจะหุ้มอีกที ควันหลุดลอดก็ให้มันรูปไป !!!! แล้วคิดในใจว่า จงหอม จงหอม



อันนี้สภาพใต้ฝา ถ่ายภาพนี้หลังจากอบควันเสร็จแล้ว จะเห็นว่ามีทั้งพลาสติกใสและใบตองซ้อนกันยุ่งเหยิง มีรูโหว่จากควันด้วยนิดนึง แต่โดนใบตองสกัดไว้ เย่ !!!


๓. ระหว่างรอกะทิ เอาถั่วดำไปต้มให้นิ่มค่ะ ไม่ต้องเละนะคะ เอาแบบกินแล้วรู้สึกไม่กรุบกรับพอ นิ่มเหมือนอารมณ์กินถั่วดำน้ำกะทิ


๔. ครึ่งชั่วโมงผ่านไปเปิดฝาหม้อกะทิออกมาแล้วดมค่ะ ว่าหอมมั้ย !? ถ้ายังไม่หอมทำซ้ำอีกก็ได้ แต่ กะทิของ จขกท หอมฉุยแล้วค่ะ รอบเดียวพอ หลังจากอบกะทิเสร็จแล้วไปในครัวเลยค่ะ เอากระทะออกมา ใครมีกระทะทองใช้กระทะทองได้นะคะ แต่พอดีที่บ้านยายกระทะทองหายไปไหนไม่รู้ เลยใช้เทฟลอนเอา ก็ร้อนเหมือนกัน ไม่ติดกระทะดีด้วย ใส่น้ำตาล กะทิ เกลือ เปิดไฟอ่อนถึงปานกลาง คนๆจนทุกอย่างละลายแล้วใส่ข้าวเหนียวที่แช่ไว้ลงไปเลยค่ะ ผัดไปเรื่อยๆ ให้ข้าวดูดน้ำกะทิเข้าไป (ยายใจร้อนนิสนึงมีการเร่งไฟ) จริงๆต้องผัดจนค่อยข้างแห้ง แต่ข้าวต้องยังไม่สุกนะคะ (ยายบอกว่าถ้าข้าวสุกตอนนึ่งเสร็จข้าวเหนียวจะไม่แน่น แต่ถ้าข้าวยังไม่สุก ตอนนึ่งข้าวจะพองอีกแล้วจะแน่นค่ะ) ส่วนของ จขกท เหมือนข้าวจะสุกเกินไปแล้ว และก็ยังแฉะอยู่ ยายบอกให้ยกขึ้นแล้วไปทิ้งไว้ เดี๋ยวข้าวเหนียวดูดน้ำเข้าไปเอง เดี๋ยวก็แห้ง สภาพเป็นแบบนี้ (ข้าวต้มสมชื่อเลย ๕๕๕)


๕. ระหว่างรอข้าวดูดน้ำ ก็ไปเอาตอกออกมาจากอ่างนะคะ แล้วมาหั่นกล้วย แบ่งครึ่งกล้วยแต่ละลูกตามยาว


จขกท ใช้กล้วยแบบไม่งอม เอาแค่สุกๆ นุ่มๆ หวานนิดๆ



หั่นใส่จานเตรียมไว้รอห่อค่ะ


๕. ถึงขั้นตอนการห่อนะคะ ห่อแต่ละครั้งใช้ใบตองสองใบ ประกบกัน เอาด้านมันออก วางใบแรกแล้วเอาอีกใบวางซ้อนแบบขวางๆ แต่ไม่ขนาดทำมุมฉากกัน ขนาดใบตองยายบอกว่าจะเล็กจะใหญ่ไม่เป็นไรเอาให้ห่อให้มิดพอ ทำกินเองก็มัดใหญ่ๆ ทำขายก็เล็กๆหน่อย

วางใบตองแล้วก็ใส่ตามลำดับ
ข้าวเหนียวก่อน ตามด้วยโรยถั่วดำ จะมากน้อยตามชอบ (ใครจะเอาถั่วดำคลุกในข้าวเหนียวเลยก็ได้ แต่คุณยายไม่ให้ทำ ท่านบอกว่าไม่เอา เดี๋ยวมากไป กะไม่ได้ ๕๕๕)


จากนั้นวางกล้วยไปหนึ่งชิ้น ให้วางแบบหงาย เพราะพอห่อเสร็จด้านโค้งๆของกล้วยจะได้อยู่ด้านบน


แล้วเอาข้าวเหนียวอีกนิดหน่อยทับลงไป


แล้วก็ห่อได้เลยค่ะ ต้องห่อแน่นๆนะคะ แล้วต้องจับนมให้สวยๆด้วย
ใช่ค่ะ! ถูกแล้วค่ะ!  “นม” มันก็คือมุมที่เห็นเป็นรอยพับของข้าวตัมมัดทั้งสองด้าน ยายบอกว่าทำให้นมสวยๆ อันไหนไม่สวยกินเอง อันไหนสวยเอาไปแจกคนอื่นได้ (เพิ่งได้ยินก็วันนี้)


ทำได้สองอัน เอามาประกบกัน มัดด้วยตอกแล้วแล้วเรียงใส่ซึ้งเตรียมนึ่งได้เลย เวลาเรียงให้เรียงตั้งขึ้นนะคะ อย่านอนซ้อนๆกันเดี๋ยวสุกยาก (ยายบอกจำมาจากครัวคุณต๋อย เมื่อก่อนวางนอนเรียงซ้อนๆกันข้างๆบนๆไม่สุกซักที)

ทำได้สักครึ่งซึ้งแล้วไปต้มน้ำรอได้เลยค่ะ พอห่อวางได้เต็ม น้ำได้เดือดพร้อมนึ่งทันที

๖. นึ่งด้วยน้ำเดือดประมาณ ๑ ชม.ค่ะ เสร็จแล้วหน้าตาจะออกมาแบบนี้ค่าาา


๗. วางเรียงใส่งานให้สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย


แล้วหลังจากนั้นก็ต้องมาแกะแล้วชิมค่ะ

แกะออกมาข้าวเหนียวของ จขกท ไม่ค่อยแน่นค่ะ อาจจะเพราะตอนผัดข้าวน่าจะสุกเกินไปนิดนึง (ก่อนห่อก็แอบชิม ข้างในก็ยังกรุบๆอยู่นะคะ) และอาจจะมัดตอกไม่ค่อยแน่นค่ะ


รสชาติจัดว่าดีเลยค่ะ ข้าวเหนียวมันกะทิ และหอมกลิ่นอบควันเทียนด้วยค่ะ มีรสหวานอ่อนๆ ไม่หวานมาก กล้วยก็หวานอ่อนๆไม่หวานมาก สรุป อร่อยใช้ได้เลยค่ะ กินได้เรื่อยๆไม่หวานเลี่ยน ผ่าน !!!!!!! พร้อมเสริฟให้คุณชาย หรือคุณพี่เหมแล้วววว รวมระยะเวลาการทำทั้งสิ้นประมาณ ๓ ถึง ๔ ชั่วโมงเลยค่ะ ถือว่าคุ้มแสนคุ้ม ทำไปมโนไปว่าทำให้คุณพี่เหมกิน อิ่มท้อง สบายใจ ๕๕๕๕๕๕๕

ขอจบแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบค่ะ ย้าวยาว ม้ากมาก
ทุกคนเอาข้าวสูตรข้าวต้มมัดไปลองทำมัดใจชายหนุ่มที่มโนถึงได้นะคะ

จขกท ขอมโนถึงคุณพี่เหม น้องเจมส์ก่อน ยิ่งดูสัมภาษณ์ในรายการอื่นๆยิ่งชอบ โอ้ย #มโนแพร้บ
สุดท้ายปิดท้ายด้วยภาพคุณชายรณพีร์กินข้าวต้มมัดใส่ถั่วดำ



#ชอบคุณพี่เหม #ข้าบดินทร์ #คุณชายรณพีร์ #ไม่แยกแยะ #เรื่องไหนก็หน้าเหมือนกัน #น้องเจมส์เหมือนกัน #ตี๋น้อย #ตาตี่ #ฟันสวย #หน้าผ่อง  #ประทับใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่