ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า พระพุทธเจ้าสอนอะไร? เราจึงจะรู้ว่าใครสอนถูกต้องตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอน
แต่ถ้าเรายังไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร? เราก็ย่อมจะไม่รู้ว่าใครสอนถูก และใครสอนผิดจากที่พระพุทธเจ้าสอน
แล้วพระพุทธเจ้าสอนอะไร? (นี่คือปัญหาที่เราจะต้องค้นหาคำตอบให้เจอ)
บางคนก็บอกว่าพระพุทธเจ้าสอนว่าให้ทำดีเพื่อจะได้ขึ้นสวรรค์บนฟ้า ไม่ทำชั่วจะได้ไม่ต้องตกนรกที่อยู่ใต้ดิน และเจริญสมาธิวิปัสสนาจะได้ไม่ต้องมาเวียนว่ายตาย-เกิดอีกให้เป็นทุกข์ (ตายแล้วจึงค่อยนิพพาน)
บางคนก็บอกว่าพระพุทธเจ้าสอนให้ทำดีเพื่อจะได้มีความสุขใจ อิ่มเอมใจ ไม่ทำชั่วเพื่อจะได้มีชีวิตที่ปกติไม่เดือดร้อน และเจริญสมาธิวิปัสสนาเพื่อที่จิตใจในปัจจุบันจะได้สงบเย็นไม่เป็นทุกข์ (นิพพานก่อนตาย)
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระพุทธเจ้าสอนเรื่องตายแล้วจึงค่อยนิพพาน? หรือนิพพานก่อนตาย?
-คนที่เชื่อเรื่องชาติหน้าส่วนใหญ่ จะเชื่อว่าพระพุทธเจ้าสอนทั้งสองอย่าง คือสอนให้ปฏิบัติเพื่อนิพพานก่อนตาย แต่ถ้ายังนิพพานก่อนตายไม่ได้ ก็ให้ปฏิบัติเพียงแค่สั่งสมเป็นบารมีเอาไว้ไปนิพพานเอาในชาติต่อๆไป
-ส่วนคนที่ไม่เชื่อเรื่องชาติหน้า ก็มั่นในว่าพระพุทธเจ้าสอนเรื่องนิพพานก่อนตายหรือนิพพานในปัจจุบันเท่านั้น
ถ้าสมมติพระพุทธเจ้าสอนเรื่องนิพพานทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ก็แสดงให้เห็นว่าคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นอาจไม่สามารถนำมาใช้แก้ปัญหา (คือความทุกข์) ที่กำลังเกิดอยู่ในปัจจุบันได้ ดังนั้นจึงได้สอนให้เชื่อว่าแม้ในปัจจุบันจะทำไม่ได้ แต่การปฏิบัติในปัจจุบันจะไม่สูญเปล่า เพราะเท่ากับเป็นการปฏิบัติเพื่อสะสมเป็นบารมีเอาไว้ไปนิพพานในชาติหน้าหรือในอีกหมื่นชาติแสนชาติ
ถ้าสมมติว่าพระพุทธเจ้าสอนเฉพาะเรื่องนิพพานในชาตินี้เท่านั้น ก็แสดงว่าพระพุทธเจ้าสอนวิธีการแก้ปัญหา (คือความทุกข์) ที่กำลังเกิดอยู่ในปัจจุบัน (ชาตินี้) ที่เป็นปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดสำหรับมนุษย์ทุกคน เมื่อแก้ปัญหาในชาตินี้ได้แล้ว เรื่องปัญหาในชาติหน้าก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป (ถ้ามันมี)
เราลองพิจารณาดูให้ดีระหว่าง คำสอนที่ให้เชื่อและมีความหวังในเรื่องชาติหน้า กับ คำสอนที่เน้นเรื่องในชาตินี้เท่านั้น ว่า คำสอนใดน่าจะมีเหตุมีผลและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริงๆ และคำสอนใดไม่มีเหตุผลและสอนให้มีแค่ความหวังลมๆแล้งๆตามความเชื่อเท่านั่น
ที่นี้ก็ชึ้นอยู่กับสติปัญญาของเราเองแล้วที่จะวิเคราะห์ว่า พระพุทธเจ้าสอนเรื่องการแก้ปัญหาชีวิตตามความเป็นจริงในปัจจุบัน หรือ สอนเรื่องการแก้ปัญหาในอนาคต (ชาติหน้า) ที่เป็นแค่ความเชื่อ? (ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะมีจริงหรือไม่) และปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดนั้นคือปัญหาในปัจจุบันหรือปัญหาในอนาคต?
เราจะรู้ได้อย่างไรว่า พระท่านใดสอนหลักธรรม ถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
แต่ถ้าเรายังไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร? เราก็ย่อมจะไม่รู้ว่าใครสอนถูก และใครสอนผิดจากที่พระพุทธเจ้าสอน
แล้วพระพุทธเจ้าสอนอะไร? (นี่คือปัญหาที่เราจะต้องค้นหาคำตอบให้เจอ)
บางคนก็บอกว่าพระพุทธเจ้าสอนว่าให้ทำดีเพื่อจะได้ขึ้นสวรรค์บนฟ้า ไม่ทำชั่วจะได้ไม่ต้องตกนรกที่อยู่ใต้ดิน และเจริญสมาธิวิปัสสนาจะได้ไม่ต้องมาเวียนว่ายตาย-เกิดอีกให้เป็นทุกข์ (ตายแล้วจึงค่อยนิพพาน)
บางคนก็บอกว่าพระพุทธเจ้าสอนให้ทำดีเพื่อจะได้มีความสุขใจ อิ่มเอมใจ ไม่ทำชั่วเพื่อจะได้มีชีวิตที่ปกติไม่เดือดร้อน และเจริญสมาธิวิปัสสนาเพื่อที่จิตใจในปัจจุบันจะได้สงบเย็นไม่เป็นทุกข์ (นิพพานก่อนตาย)
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระพุทธเจ้าสอนเรื่องตายแล้วจึงค่อยนิพพาน? หรือนิพพานก่อนตาย?
-คนที่เชื่อเรื่องชาติหน้าส่วนใหญ่ จะเชื่อว่าพระพุทธเจ้าสอนทั้งสองอย่าง คือสอนให้ปฏิบัติเพื่อนิพพานก่อนตาย แต่ถ้ายังนิพพานก่อนตายไม่ได้ ก็ให้ปฏิบัติเพียงแค่สั่งสมเป็นบารมีเอาไว้ไปนิพพานเอาในชาติต่อๆไป
-ส่วนคนที่ไม่เชื่อเรื่องชาติหน้า ก็มั่นในว่าพระพุทธเจ้าสอนเรื่องนิพพานก่อนตายหรือนิพพานในปัจจุบันเท่านั้น
ถ้าสมมติพระพุทธเจ้าสอนเรื่องนิพพานทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ก็แสดงให้เห็นว่าคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นอาจไม่สามารถนำมาใช้แก้ปัญหา (คือความทุกข์) ที่กำลังเกิดอยู่ในปัจจุบันได้ ดังนั้นจึงได้สอนให้เชื่อว่าแม้ในปัจจุบันจะทำไม่ได้ แต่การปฏิบัติในปัจจุบันจะไม่สูญเปล่า เพราะเท่ากับเป็นการปฏิบัติเพื่อสะสมเป็นบารมีเอาไว้ไปนิพพานในชาติหน้าหรือในอีกหมื่นชาติแสนชาติ
ถ้าสมมติว่าพระพุทธเจ้าสอนเฉพาะเรื่องนิพพานในชาตินี้เท่านั้น ก็แสดงว่าพระพุทธเจ้าสอนวิธีการแก้ปัญหา (คือความทุกข์) ที่กำลังเกิดอยู่ในปัจจุบัน (ชาตินี้) ที่เป็นปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดสำหรับมนุษย์ทุกคน เมื่อแก้ปัญหาในชาตินี้ได้แล้ว เรื่องปัญหาในชาติหน้าก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป (ถ้ามันมี)
เราลองพิจารณาดูให้ดีระหว่าง คำสอนที่ให้เชื่อและมีความหวังในเรื่องชาติหน้า กับ คำสอนที่เน้นเรื่องในชาตินี้เท่านั้น ว่า คำสอนใดน่าจะมีเหตุมีผลและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริงๆ และคำสอนใดไม่มีเหตุผลและสอนให้มีแค่ความหวังลมๆแล้งๆตามความเชื่อเท่านั่น
ที่นี้ก็ชึ้นอยู่กับสติปัญญาของเราเองแล้วที่จะวิเคราะห์ว่า พระพุทธเจ้าสอนเรื่องการแก้ปัญหาชีวิตตามความเป็นจริงในปัจจุบัน หรือ สอนเรื่องการแก้ปัญหาในอนาคต (ชาติหน้า) ที่เป็นแค่ความเชื่อ? (ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะมีจริงหรือไม่) และปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดนั้นคือปัญหาในปัจจุบันหรือปัญหาในอนาคต?