ผู้ใดใคร่อยากทราบเหตุการณ์ยามคุณพี่เหมไปเมืองวิลาศ แนะนำให้อ่าน 'นิราศลอนดอน' นะเจ้าคะ

ดูข้าบดินทร์จบพร้อมใจหาย (ไม่มีคุณพี่เหมแล้ว ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์หน้าฉันจะทำเยี่ยงไรดีเจ้าคะ T-T)

เห็นเพื่อนๆ ในแท็กข้าบดินทร์กรีดร้องอยากตามคุณพี่เหมไปเมืองวิลาศกัน แต่คงจนใจด้วยละครแลนวนิยายได้จบลงเพียงเท่านี้

ขณะที่ฉันกำลังไล่อ่านกระทู้หลังละครจบ ก็ได้พบเห็นรายนามคณะทูตไทยที่ออกเดินทางจากประเทศไทย ไปถวายเครื่องราชบรรณาการต่อสมเด็จพระนางเจ้าวิคตอเรีย  เมื่อพุทธศักราช ๒๔๐๐  ในกระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/33849917

ไล่ลงมาจนถึงรายชื่อที่สี่ ก็ให้คุ้นหูอย่างประหลาด
๔. ล่ามหลวง หม่อมราโชทัย ชื่อหม่อมราชวงศ์กระต่าย ( อิศรางกูร ณ กรุงเทพ)

พลันนึกขึ้นมาได้ว่า ท่านคือผู้แต่งนิราศลอนดอน ซึ่งเราเคยเล่าเรียนมาแต่ครั้งยังเยาว์อย่างไรเล่า


.
.

ขอยกข้อมูลจากเวบ http://www.siamrath.co.th มาสักเล็กน้อย



พ.ศ. 2400 หม่อมราโชทัยได้ทำหน้าที่ล่ามร่วมคณะทูตที่พระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชุ่ม บุนนาค) เป็นหัวหน้า เดินทางไปเจริญทางพระไมตรีกับประเทศอังกฤษ เมื่อกลับมาได้รับพระราชทานทองเล็กเป็นบำเหน็จความชอบในราชการ

นอกจากได้เขียนจดหมายเหตุเป็นรายงานไว้แล้ว ได้นำเนื้อความมาแต่งขยายเป็นกลอน เรียกชื่อว่า “นิราศลอนดอน” ขายกรรมสิทธิ์การพิมพ์ครั้งแรกให้หมอบรัดเลย์เป็นเงิน 400 บาท เมื่อ พ.ศ. 2404 ภายหลังเมื่อ พ.ศ. 2408 มีประกาศขายหนังสือในบางกอกรีคอเดอร์โดยระบุว่า “เจ้าของหนังสือนิราศลอนดอนนั้นอยู่ที่แพริมปากคลองขุดตพานหัน ชื่อนายจ่ารง”

.
.
.
กระนั้นแล้ว บรรดามิตรสหายผู้ใคร่อยากติดตามพ่อเหม หมอนวด ไปเมืองวิลาศ จงไปหานิราศลอนดอน ของหม่อมราโชทัยมาอ่านกันแล้วจิ้นตามกันให้สำราญเถิดเจ้าค่ะ จักได้ทั้งความรู้ทางประวัติศาสตร์แลความฟินไปพร้อมกัน
.
.

ปล. จขกท.อ่านบทเริ่มต้นที่หม่อมราโชทัยท่านร่ำลาคนรักของท่าน แล้วก็ให้นึกภาพพ่อเหมตอนลาแม่ลำดวนก่อนเรือออกจากท่าทีเดียวเชียว


นิราศเรื่องเมืองลอนดอนอาวรณ์ถวิล
จำจากมิตรขนิษฐายุพาพิน        เพียงจะสิ้นชีวาด้วยอาลัย
ถ้าแม้ผิดมิใช่กิจนรินทร์ราช        ไม่คลาคลาศคลายชิดพิสมัย
โดยภักดีมีประสงค์จำนงใน        อาสาไทจอมจักรหลักนคร

มะเสงศุกรเดือนเก้าขึ้นสามค่ำ        แสนระกำด้วยจะไปไกลสมร
เข้าชิดโฉมโลมลาพงางอน        กล่าวสุนทรปลอบน้องอย่าหมองนวล
ค่อยอยู่เถิดนงเยาว์ลำเพาพักตร์        จะร้างรักแรมชมภิรมย์สงวน
ใช่แกล้งหน่ายแหนงขวัญให้รัญจวน        อย่าคร่ำครวญโศกสร้อยน้อยฤทัย

ครั้นเสร็จสั่งยอดมิ่งทุกสิ่งสรรพ์        ก็ผายผันมายังท่าชลาไหล
ลงเรือเร่งรีบร้อนจรครรไล        ล่องลงไปจอดนาวาท่าขุนนาง
เข้าประตูศรีสุนทรสท้อนจิตต์        ให้หวนคิดหวังสวาทไม่ขาดหมาง
เดินเข้าในราชฐานพระลานกลาง        ดูสล้างเกณฑ์แห่แลวิไล

ใส่เสื้อหมวกแดงดีสีสอาด        เดียรดาษธงทิวปลิวไสว
พระที่นั่งตั้งประทับกับเกยไชย        จะคอยใส่ราชสาส์นพานสุวรรณ ฯ


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่