สวัสดีครับกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เขียนแบบยาวๆ จากประสบการณ์การลดน้ำหนักของตัวเอง โดยใช้วิธีการที่ต่างกัน 3 แบบ
แบบที่ 1. ควมคุมอาหาร วิ่ง(Cardio)
แบบที่ 2. ควบคุมอาหารอย่างบ้าคลั่ง (กินวันละ 500 cal)
แบบที่ 3. ควบคุมอาหารพอประมาณ เล่นเวท วิ่ง(Cardio)
โดยทั้ง 3 วิธีไม่มีการใช้ยาใดๆทั้งสิ้น ใจล้วนๆครับ อยากจะเปรียบเทียบให้เห็นว่าแบบไหนมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้างนะครับ แต่ผมอยากจะบอกนะครับ ทั้งสามแบบยากเหมือนกันหมดครับ
ลดน้ำหนักครั้งที่ 1 อายุ ประมาณ 16-17 จำไม่ค่อยได้แล้วนานจัด 555555
รูปนี้น้ำหนัก 74 kg.
สาเหตุ ในการลด แฟนบอกให้ลดครับ ทำไงได้ก็ต้องลดสิครับ 55555
วิธีลด ในตอนนั้นยังเด็กความรู้เรื่องลดน้ำหนักยังมีไม่เยอะเหมือนสมัยนี้ ใช้วิธีง่ายมาก งดขนม น้ำหวานทุกชนิด ลดข้าวครึ่งนึงปกติกิน เท่าไหร่ตัดออกครึ่งนึง ออกกำลังกายเน้นวิ่งครับ
ระยะเวลา 4-5 เดือน
รูปนี้น้ำหนัก 64 kg.
ข้อดี กินได้พอประมาณไม่โหย หน้าใส หน้าเล็กลง แข็งแรง สุขภาพดี น้ำหนักไม่กลับมาขึ้นหลังจากลดเสร็จ
ข้อเสีย ตัวเหลว ออกกำลังกายเหนื่อย 55555
ลดน้ำหนักครั้งที่ 2 อายุ ประมาณ 22 เริ่มลดที่น้ำหนัก 82 kg.
สาเหตุที่อ้วน หลังจากเข้ามหาลัย ชีวิตเปลี่ยนครับ กินดึกตลอด กินเยอะมากกกกกกก
สามรูปบนนี้น้ำหนักค่อยๆขึ้นมาก 75++ จนสูงสุดรูปอยู่ด้านล่างที่ 82 kg.
สาเหตุ เรียนจบแล้วอยากลดน้ำหนักถ่ายรูปรับปริญญาครับ
วิธีลด ครั้งนี้ลดโดยไม่ออกกำลังกายเลยครับ ตามรายการ goodๆๆ saveๆๆ 555555 เคยเข้ามาอ่านใน pantip มีคน anti วิธีนี้เยอะมากตอนนี้ผมเลิกอ่าน pantip ไปเลยครับ 555555 ที่ตอนนั้นผมใช้วิธีนี้เพราะว่าผมลองกินน้อยแล้วออกกำลังกาย(วิ่ง) แล้วน้ำหนักลงน้อยมากคือประมาณวันละ 1 ขีด แต่เทียบกับไม่ออกกำลังกายกลับลดเยอะกว่า(ประมาณวันละ 3 ขีด) ซึ่งตอนหลังรู้ซื้งเลยครับว่าอย่าสนใจตัวเลขในตราชั่งมาก ถ้าเรากินอย่างถูกต้องตามวิธีที่ 3 ครับ
ระยะเวลา 3 เดือน
ข้อดี น้ำหนักลงเร็วจริงๆ ไม่ต้องออกกำลังกาย
ข้อเสีย โยโย่ โหยมาก หน้าเล็กลงนิดเดียว อ่อนแอ สุขภาพแย่ ตัวเหลว
ลดน้ำหนักครั้งที่ 3 อายุ ประมาณ 26-ปัจจุบัน เริ่มลดที่น้ำหนัก 74kg.
รูปนี้น้ำหนัก 74 kg.
สาเหตุ จากการลดน้ำหนักครั้งที่แล้วโยโย่ขึ้นมากเยอะ พร้อมกับสุขภาพที่ย่ำแย่ ทำให้เริ่มการลดครั้งนี้โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวคือสุขภาพดี
วิธีลด ควบคุมอาหารพร้อมกับออกกำลังกาย มีแบบละเอียดด้านล่างต่อครับ
ระยะเวลา 6 เดือน
ข้อดี น้ำหนักลงต่อเนื่อง ไม่โยโย่ หุ่นดี กินได้อิ่มท้อง หน้าใส หน้าเล็กลงมาก แข็งแรง สุขภาพดี น้ำหนักไม่กลับมาขึ้นหลังจากลดเสร็จ
ข้อเสีย ต้องมีวินัยสูงมาก
วิธีการลดอย่างแรกเราต้องรูปก่อนครับว่าแคลอรี่ที่เรากินต่อวันได้คือเท่าไหร่จากการหาค่า TDEE (ลองหาวิธีคำนวนได้จาก google) พอได้ค่า TDEE แล้ว-500cal จะได้ค่าประมาณที่ควรกินครับ ตอนนั้นผมกินประมาณ 1700 kcal พร้อมกับออกกำลังกายคาดิโอ(วิ่งกับว่ายน้ำ) เล่นเวท ผมทำแค่นี้เองนะแต่ทำแบบนี้ทุกๆวันๆ มี cheat meal ทุกอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เห็นความเปลี่ยนแปลงทางด้านหุ่นเยอะมากๆ ทั้งๆที่น้ำหนักไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง สุขภาพแข็งแรงแบบสุดๆ
การกิน แรกๆผมกินคลีนสุดๆเลยครับ พอกินได้ 2 เดือนเริ่มไม่ไหว คือมันไม่ยั่งยืนแน่นอนผมเลยเปลี่ยนใหม่เลยครับ กับมากินอาหารแบบทั่วไป เลือกกินมากขึ้น ผัดกับข้าวไม่ใช้น้ำมัน ปรุงรสปกติ และหัดคิดแคลอรี่จากอาหาร มีความสุขขึ้นเยอะครับ กลายเป็นว่าเรากินอะไรก็ได้เลย ที่สำคัญ
การวางแผนการกินสำคัญสุดๆ เช่น ถ้าเรารู้ว่ามีกินข้าวนอกบ้านที่ปฏิเสธไม่ได้ ให้เราเผื่อแคลอรี่เอาไว้มื้อนั้นเยอะๆ อีกอย่างที่สำคัญมากคือกินสารอาหารให้ครบถ้วนตามร่างกายต้องการ เช่น ถ้าเล่นเวทควรกินโปรตีนให้ได้ประมาณ 2 กรัมต่อน้ำหนักตัว เวลาผมกินมื้อนึงก็จะคำนวณคร่าวๆนะว่ามื้อนี้ได้พลังงานกี่แคลอรี่ ได้โปรตีนกี่กรัม แล้วก็รวมๆไปจนครบวันเป็นอันว่าโอเค
"เทคนิคการกินเวลาอยากขนม ควรมีการจัดการเรื่องความเครียดของตัวเราเองด้วยอย่าไปกินแบบเครียดเกินไปแต่ต้องกินให้อยู่ในเป้าหมายนะครับ ยกตัวอย่างเช่น วันนี้ผมอยากกินช๊อกโกแลตมาก ผมจะใช้วิธีนี้ครับ ผมจะกันแคลอรี่ของช๊อกโกแลตเอาไว้ก่อนเลยครับ(แนะนำให้เอาไว้มื้อเย็นนะครับเป็นการให้รางวัลกับตัวเอง ที่ช่วงกลางวันเราสามารถลดอาหารจากแคลอรี่ลงมาได้เพื่อให้ได้กินช๊อคโกแลต) มันเหมือนต้องยอมแลกกันนะครับ คือวันนั้นเราอาจจะกินได้น้อยลงอีก แต่เราอิ่มใจครับ เรียกว่าทรมานกายหน่อย แต่สบายใจว่างั้นนะครับ แต่ข้อแม้ก็คือว่าต้องไม่เกินแคลอรี่เป้าหมายนะครับ รวมทั้งโปรตีนก็ต้องตามเป้าด้วย"
การ cardio ผมจะแนะนำให้ทำในสิ่งที่ชอบมากที่สุด ผมชอบว่ายน้ำ ผมชอบวิ่งมากที่สุด เริ่มแรกรุ้สึกอ่อนแอมากๆคือวิ่งได้ 5 นาทีรู้สึกเหมือนจะตาย 555555 ผมเกือบจะถอดใจไปแล้ว แต่ก็จากประสบการณ์รู้แล้วว่าไม่ออกกำลังกายมันไม่ได้ทำให้ผอมอย่างสุขภาพดีได้ ก็เริ่มสู้ใหม่วิ่ง 5 นาที เดินต่อจนครบ 30 นาที ทำไปเรื่อยๆ จนวิ่งได้ 20 นาที เดินต่อไป จนครบ 30 นาที
ที่ผมอยากจะบอกคือถ้าเราไม่หยุดพยายามเราต้องทำได้ ไม่มีใครมาห้ามไม่ให้เราทำนอกจากตัวเราเอง แนะนำให้ศึกษาวิธีวิ่งด้วยครบ คือการวิ่งลงกลางเท้าหรือปลายเท้า ไม่แนะนำให้ลงส้นเท้าเพราะจะปวดเข่าและไม่ส่งผลดีระยะยาว
การ weight training ผมหาโปรแกรมจากในเน็ตนี่แหละครับ แล้วลองทำเลย ศึกษาจาก youtube ไปด้วย
แนะนำให้เริ่มด้วยน้ำหนักที่เบาๆก่อนเลยครับ เน้นท่ายกให้ถูกต้องก่อน เพราะว่าถ้าเรายกหนักแต่ผิดท่านอกจากจะไม่ทำให้โตแล้วยังทำให้บาดเจ็บอีกด้วย ไม่ต้องไปอายใครครับทุกคนต้องเคยยกเบาๆมาแล้วทั้งนั้น แนะนำให้ยกได้ในจำนวนครั้ง 8-12 ครั้ง แล้วหมดแรง
สรุป การลดน้ำหนักทั้ง 3 แบบมีข้อดีข้อเสียต่างกันครับ แต่ทุกวิธีมันยากหมดครับ 55555555 ถ้าให้ผมแนะนำคือเลือกวิธีที่เราสบายใจดีที่สุด เริ่มยกเวทคนที่กลัวใหญ่เกินไปผมบอกเลยไม่มีทางงงงงงงงงงงง ผมไม่เคยขาดเล่นเวทใน 5 เดือนนี้เลยได้เท่านั้นแหละครับ อีกอย่างนะครับการที่จะทำให้เราลดน้ำหนักได้สำเร็จคือการทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าคุณหักโหม 1 อาทิตย์แล้วกลับไปทำแบบเดิมไม่มีทางครับ ในทางกลับกัน คุณทำแค่วันละนิดเดียว แต่คุณทำมันไม่หยุด มันจะมีวันนึงล่ะครับที่คุณถึงเป้าหมาย
รายการแนะนำให้ดู What the fat, Fitjunction
ถ้ามีข้อสงสัยมาถามได้ที่
https://www.facebook.com/J.Ongart ครับ
แก้ไข เพิ่มเนื้อหาและทำให้รูปดูง่ายขึ้น
[REVIEW] ลดน้ำหนักฉบับไตรภาค การลดน้ำหนักที่ผมลองกับตัวเอง
สวัสดีครับกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เขียนแบบยาวๆ จากประสบการณ์การลดน้ำหนักของตัวเอง โดยใช้วิธีการที่ต่างกัน 3 แบบ
แบบที่ 1. ควมคุมอาหาร วิ่ง(Cardio)
แบบที่ 2. ควบคุมอาหารอย่างบ้าคลั่ง (กินวันละ 500 cal)
แบบที่ 3. ควบคุมอาหารพอประมาณ เล่นเวท วิ่ง(Cardio)
โดยทั้ง 3 วิธีไม่มีการใช้ยาใดๆทั้งสิ้น ใจล้วนๆครับ อยากจะเปรียบเทียบให้เห็นว่าแบบไหนมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้างนะครับ แต่ผมอยากจะบอกนะครับ ทั้งสามแบบยากเหมือนกันหมดครับ
สาเหตุ ในการลด แฟนบอกให้ลดครับ ทำไงได้ก็ต้องลดสิครับ 55555
วิธีลด ในตอนนั้นยังเด็กความรู้เรื่องลดน้ำหนักยังมีไม่เยอะเหมือนสมัยนี้ ใช้วิธีง่ายมาก งดขนม น้ำหวานทุกชนิด ลดข้าวครึ่งนึงปกติกิน เท่าไหร่ตัดออกครึ่งนึง ออกกำลังกายเน้นวิ่งครับ
ระยะเวลา 4-5 เดือน
ข้อดี กินได้พอประมาณไม่โหย หน้าใส หน้าเล็กลง แข็งแรง สุขภาพดี น้ำหนักไม่กลับมาขึ้นหลังจากลดเสร็จ
ข้อเสีย ตัวเหลว ออกกำลังกายเหนื่อย 55555
สาเหตุที่อ้วน หลังจากเข้ามหาลัย ชีวิตเปลี่ยนครับ กินดึกตลอด กินเยอะมากกกกกกก
สาเหตุ เรียนจบแล้วอยากลดน้ำหนักถ่ายรูปรับปริญญาครับ
วิธีลด ครั้งนี้ลดโดยไม่ออกกำลังกายเลยครับ ตามรายการ goodๆๆ saveๆๆ 555555 เคยเข้ามาอ่านใน pantip มีคน anti วิธีนี้เยอะมากตอนนี้ผมเลิกอ่าน pantip ไปเลยครับ 555555 ที่ตอนนั้นผมใช้วิธีนี้เพราะว่าผมลองกินน้อยแล้วออกกำลังกาย(วิ่ง) แล้วน้ำหนักลงน้อยมากคือประมาณวันละ 1 ขีด แต่เทียบกับไม่ออกกำลังกายกลับลดเยอะกว่า(ประมาณวันละ 3 ขีด) ซึ่งตอนหลังรู้ซื้งเลยครับว่าอย่าสนใจตัวเลขในตราชั่งมาก ถ้าเรากินอย่างถูกต้องตามวิธีที่ 3 ครับ
ระยะเวลา 3 เดือน
ข้อดี น้ำหนักลงเร็วจริงๆ ไม่ต้องออกกำลังกาย
ข้อเสีย โยโย่ โหยมาก หน้าเล็กลงนิดเดียว อ่อนแอ สุขภาพแย่ ตัวเหลว
สาเหตุ จากการลดน้ำหนักครั้งที่แล้วโยโย่ขึ้นมากเยอะ พร้อมกับสุขภาพที่ย่ำแย่ ทำให้เริ่มการลดครั้งนี้โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวคือสุขภาพดี
วิธีลด ควบคุมอาหารพร้อมกับออกกำลังกาย มีแบบละเอียดด้านล่างต่อครับ
ระยะเวลา 6 เดือน
ข้อดี น้ำหนักลงต่อเนื่อง ไม่โยโย่ หุ่นดี กินได้อิ่มท้อง หน้าใส หน้าเล็กลงมาก แข็งแรง สุขภาพดี น้ำหนักไม่กลับมาขึ้นหลังจากลดเสร็จ
ข้อเสีย ต้องมีวินัยสูงมาก
วิธีการลดอย่างแรกเราต้องรูปก่อนครับว่าแคลอรี่ที่เรากินต่อวันได้คือเท่าไหร่จากการหาค่า TDEE (ลองหาวิธีคำนวนได้จาก google) พอได้ค่า TDEE แล้ว-500cal จะได้ค่าประมาณที่ควรกินครับ ตอนนั้นผมกินประมาณ 1700 kcal พร้อมกับออกกำลังกายคาดิโอ(วิ่งกับว่ายน้ำ) เล่นเวท ผมทำแค่นี้เองนะแต่ทำแบบนี้ทุกๆวันๆ มี cheat meal ทุกอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เห็นความเปลี่ยนแปลงทางด้านหุ่นเยอะมากๆ ทั้งๆที่น้ำหนักไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง สุขภาพแข็งแรงแบบสุดๆ
การกิน แรกๆผมกินคลีนสุดๆเลยครับ พอกินได้ 2 เดือนเริ่มไม่ไหว คือมันไม่ยั่งยืนแน่นอนผมเลยเปลี่ยนใหม่เลยครับ กับมากินอาหารแบบทั่วไป เลือกกินมากขึ้น ผัดกับข้าวไม่ใช้น้ำมัน ปรุงรสปกติ และหัดคิดแคลอรี่จากอาหาร มีความสุขขึ้นเยอะครับ กลายเป็นว่าเรากินอะไรก็ได้เลย ที่สำคัญการวางแผนการกินสำคัญสุดๆ เช่น ถ้าเรารู้ว่ามีกินข้าวนอกบ้านที่ปฏิเสธไม่ได้ ให้เราเผื่อแคลอรี่เอาไว้มื้อนั้นเยอะๆ อีกอย่างที่สำคัญมากคือกินสารอาหารให้ครบถ้วนตามร่างกายต้องการ เช่น ถ้าเล่นเวทควรกินโปรตีนให้ได้ประมาณ 2 กรัมต่อน้ำหนักตัว เวลาผมกินมื้อนึงก็จะคำนวณคร่าวๆนะว่ามื้อนี้ได้พลังงานกี่แคลอรี่ ได้โปรตีนกี่กรัม แล้วก็รวมๆไปจนครบวันเป็นอันว่าโอเค
"เทคนิคการกินเวลาอยากขนม ควรมีการจัดการเรื่องความเครียดของตัวเราเองด้วยอย่าไปกินแบบเครียดเกินไปแต่ต้องกินให้อยู่ในเป้าหมายนะครับ ยกตัวอย่างเช่น วันนี้ผมอยากกินช๊อกโกแลตมาก ผมจะใช้วิธีนี้ครับ ผมจะกันแคลอรี่ของช๊อกโกแลตเอาไว้ก่อนเลยครับ(แนะนำให้เอาไว้มื้อเย็นนะครับเป็นการให้รางวัลกับตัวเอง ที่ช่วงกลางวันเราสามารถลดอาหารจากแคลอรี่ลงมาได้เพื่อให้ได้กินช๊อคโกแลต) มันเหมือนต้องยอมแลกกันนะครับ คือวันนั้นเราอาจจะกินได้น้อยลงอีก แต่เราอิ่มใจครับ เรียกว่าทรมานกายหน่อย แต่สบายใจว่างั้นนะครับ แต่ข้อแม้ก็คือว่าต้องไม่เกินแคลอรี่เป้าหมายนะครับ รวมทั้งโปรตีนก็ต้องตามเป้าด้วย"
การ cardio ผมจะแนะนำให้ทำในสิ่งที่ชอบมากที่สุด ผมชอบว่ายน้ำ ผมชอบวิ่งมากที่สุด เริ่มแรกรุ้สึกอ่อนแอมากๆคือวิ่งได้ 5 นาทีรู้สึกเหมือนจะตาย 555555 ผมเกือบจะถอดใจไปแล้ว แต่ก็จากประสบการณ์รู้แล้วว่าไม่ออกกำลังกายมันไม่ได้ทำให้ผอมอย่างสุขภาพดีได้ ก็เริ่มสู้ใหม่วิ่ง 5 นาที เดินต่อจนครบ 30 นาที ทำไปเรื่อยๆ จนวิ่งได้ 20 นาที เดินต่อไป จนครบ 30 นาที ที่ผมอยากจะบอกคือถ้าเราไม่หยุดพยายามเราต้องทำได้ ไม่มีใครมาห้ามไม่ให้เราทำนอกจากตัวเราเอง แนะนำให้ศึกษาวิธีวิ่งด้วยครบ คือการวิ่งลงกลางเท้าหรือปลายเท้า ไม่แนะนำให้ลงส้นเท้าเพราะจะปวดเข่าและไม่ส่งผลดีระยะยาว
การ weight training ผมหาโปรแกรมจากในเน็ตนี่แหละครับ แล้วลองทำเลย ศึกษาจาก youtube ไปด้วย แนะนำให้เริ่มด้วยน้ำหนักที่เบาๆก่อนเลยครับ เน้นท่ายกให้ถูกต้องก่อน เพราะว่าถ้าเรายกหนักแต่ผิดท่านอกจากจะไม่ทำให้โตแล้วยังทำให้บาดเจ็บอีกด้วย ไม่ต้องไปอายใครครับทุกคนต้องเคยยกเบาๆมาแล้วทั้งนั้น แนะนำให้ยกได้ในจำนวนครั้ง 8-12 ครั้ง แล้วหมดแรง
สรุป การลดน้ำหนักทั้ง 3 แบบมีข้อดีข้อเสียต่างกันครับ แต่ทุกวิธีมันยากหมดครับ 55555555 ถ้าให้ผมแนะนำคือเลือกวิธีที่เราสบายใจดีที่สุด เริ่มยกเวทคนที่กลัวใหญ่เกินไปผมบอกเลยไม่มีทางงงงงงงงงงงง ผมไม่เคยขาดเล่นเวทใน 5 เดือนนี้เลยได้เท่านั้นแหละครับ อีกอย่างนะครับการที่จะทำให้เราลดน้ำหนักได้สำเร็จคือการทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าคุณหักโหม 1 อาทิตย์แล้วกลับไปทำแบบเดิมไม่มีทางครับ ในทางกลับกัน คุณทำแค่วันละนิดเดียว แต่คุณทำมันไม่หยุด มันจะมีวันนึงล่ะครับที่คุณถึงเป้าหมาย
รายการแนะนำให้ดู What the fat, Fitjunction
ถ้ามีข้อสงสัยมาถามได้ที่ https://www.facebook.com/J.Ongart ครับ
แก้ไข เพิ่มเนื้อหาและทำให้รูปดูง่ายขึ้น