แหล่งโปรตีนแหล่งอนาคต ค่ะ ดักแด้ไหม โปรตีนสูง รสชาติอร่อยกรุบกรึบหวานมันส์

ปกติจะซื้อตามตลาดนัดที่เขาคั่วมาแล้วจานละ 20 บ. ได้มาน้อยนิดกระจิ๊ดริด เรื่องความสะอาดก็ขอให้มองผ่าน --"

คราวนี้มีโอกาศไปถึงแหหล่ง มีหรือจะพลาด ซื้อมาคั่วเองเลยจ้าาาาา

เลยอยากแนะนำว่ามันมีขายเป็นกิโลนะคะ กิโลละ 100 บ.ค่ะ วันนั้นเราซื้อมา 6 ขีดค่ะ เยอะใช้ได้เลย

ขั้นตอนและสิ่งที่ควรรู้
1. ต้องล้างให้สะอาด ล้างด้วยน้ำเกลือและน้ำสะอาด เพื่อให้ไม่มีกลิ่นค่ะ เพราะตอนที่ซื้อมาจะมีกลิ่นนิดหน่อยกลิ่นยังไงบอกไม่ถูกแต่เป็นกลิ่นดักแด้แบบเพียวๆมั้งคะ หลังล้างก็ผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ

2.ซอยตะไคร้ และใบมะกรูดบางๆ

3.ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันนิดหน่อย เพื่อเจียวตะไคร้และใบมะกรูดดดด มันหอมมากกกก

4.หลังจาากนั้นจึงใส่ดักแด้ และ ปรุงรสด้วย เกลือ พริกไทย ซีอิ๊วขาวและซอสถั่วเหลืองค่ะ คลุกให้เครื่องปรุงเคลือบดักแด้ตัวอ้วนๆให้ทั่วนะคะ ไม่งั้นบางตัวเค็มบางตัวจืด ลุ้นกันไปตอนทานค่ะ

5. คั่วไปจนดักแด้เริ่มแห้ง เป็นอันว่าเสร็จ ฟิลลลค่ะ











....เพิ่มเติม งานวิชาการนิดหน่อยค่ะ
ทราบหรือไม่ว่า “ดักแด้ไหม ” ที่ชาวอีสานเราบริโภคกันนั้นกลายเป็นอาหารที่สำคัญของยุคอวกาศกันแล้ว1
เมื่อเร็วๆนี้มีรายงานว่าดักแด้ไหมได้กลายเป็นอาหารของนักบินอวกาศไปแล้ว เนื่องจากดักแด้ไหมเองนั้นอุดมด้วยโปรตีน
ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากดักแด้ไหมจะถูกนำไปใช้เป็นอาหารที่ใช้ในการบริโภคทุกวันและอาหารสำหรับมนุษ์อวกาศแล้ว
ดักแด้ไหมยังถูกนำมาใช้เป็นอาหารสุขภาพแต่โบราณ ในประเทศจีนมีการนำดักแด้ไหมมาใช้เป็นสมุนไพรใช้บำรุงตับ ปอด
ใช้ระงับอาการชัก  ทำให้สงบ  มีฤทธิ์ระงับอาการคัน อาการปวด2 ในประเทศอินเดียเองก็มีการนำดักแด้ไหมไปเป็นส่วนผสม
ของยาสมุนไพรรักษาความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือด3 ถึงแม้จะมีการกล่าวอ้างสรรพคุณของดักแด้ไหมกันอย่างมาก
แต่ข้อจำกัดที่สำคัญอย่างหนึ่งในการนำมาใช้เพื่อประโยชน์ด้านการสร้างเสริมสุขภาพและรักษาโรค
คือการขาดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ มาสนับสนุนในเรื่องความปลอดภัยและสรรพคุณ สืบเนื่องจากการเป็นวัตถุดิบที่มีราคาไม่แพง และมากคุณค่าจึงมีการพยายามนำเอาดักแด้ไหมมาพัฒนาเป็นอาหารสุขภาพอย่างจริงจังโดยเน้นการประยุกต์ใช้ โดยอาศัยหลักฐานเชิงประจักษ์
      ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยเมื่อเร็วๆนี้พบว่าดักแด้ไหมสามารถเพิ่มการเรียนรู้และความจำและสามารถป้องกันภาวะความจำบกพร่อง
ที่พบในโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซม์เมอร์ (Alzheimer’s disease) ได้ มีรายงานว่าเมื่อนำดักแด้ไหมมาป้อนให้หนูแรทกินหนูแรท
จะมีความจำดีขึ้น และเมื่อป้อนดักแด้ไหมให้หนูแรทกิน 14 วันจากนั้นนำมาเหนี่ยวนำให้เกิดความจำบกพร่องโดยจำลองภาวะ
ที่พบในโรคสมองเสื่อมพบว่าหนูแรทที่ได้รับดักแด้ไหมจะมีความจำดีกว่าและมีการตายของเซลล์ประสาทในสมอง ส่วนฮิปโปแคมปัสซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้และความจำน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับดักแด้ไหม4 นอกจากนั้นยังพบว่าดักแด้ไหม ยังสามารถป้องกันและลดอันตรายจากการทำลายสมองเนื่องจากโรคหลอดเลือดสมองและโรคพิษสุราเรื้อรังได้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากการเก็บดักแด้ไหมไว้นานๆมักมีปัญหาเรื่องเกิดกลิ่นหืน ดังนั้นจึงมีการพัฒนาดักแด้ไหมให้อยู่ในรูปสารสกัด เพื่อพร้อมใช้ในการบริโภค
     สารสกัดดักแด้ไหมเองนั้นจะมีกรดอมิโนที่สำคัญจำนวนมาก5-7 นอกจากนั้นยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และปกป้องสมอง
มีรายงานว่าสารสกัดดักแด้ไหมสามารถปกป้องเซลล์ประสาทจากความเป็นพิษของสาร beta amyloid และ glutamate8,9
นอกจากนั้นยังมีฤทธ์เพิ่มการเรียนรู้และความจำในอาสาสมัคร8 งานวิจัยเบื้องต้นของนักวิจัยของ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการแพทย์ทางเลือกแบบบูรณาการพบว่าสารสกัดดักแด้ไหมสามารถลดความบกพร่องทางสมอง ในแบบจำลองของภาวะออติสติกได้ ยิ่งไปกว่านั้นสารสกัดดักแด้ไหมยังมีฤทธิ์ลดโคเลสเตอรอลในกระแสเลือด ตลอดจนลดการเกิดหลอดเลือดตีบ (atherosclerotic plaque) มีฤทธิ์ลดถาวะเสื่อมสมรรถนะทางเพศที่เหนี่ยวนำ
โดยแอลกอฮอล์ โดยจะมีผลเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ไนตริกออกไซด์ซินเธส (nitric oxide synthase) ที่ทำหน้าที่สร้างสารไนตริกออกไซด์ (nitric oxide) ทำให้หลอดเลือดที่องคชาติขยายตัว10
ดังนั้นจึงทำให้เพิ่มการแข็งตัวขององคชาติได้
     ดักแด้ไหมจึงไม่ใช่เพียงอาหารพื้นบ้านอีกต่อไปแต่กำลังจะกลายเป็นนวัตกรรมสุขภาพที่จะทำให้เราพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น
และยังอาจเป็นช่องทางสร้างรายได้ในเชิงพาณิชย์ในยุคที่เราจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเอเซียนอีกด้วย

Cr. http://www.icam.kku.ac.th/Newletter/bombyx.html