ปี 2547
ประเทศไทยน้ำมันลิตรละ 22 บาท
อาหารตามสั่งจานละ 25 ในห้างราคา 30
ทองคำบาทละ 8000
ถือว่าแพงมากในตอนนั้น
จีดีพีปี 47 ขยายตัว 6 % (ลดลงจากปี 46 ที่จีดีพี 6.8 %)
มีการเร่งรัดโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ
(ไม่นับพวกโครงการต่าง ๆ ที่กระตุ้นการบริโภคภายใน การสร้างความเชื่อมั่น การส่งเสริมการส่งออกด้วยนโยบายค่าเงินบาทอ่อน)
ปี 2558
จีดีพี จากปีที่แล้วที่รูดมหาราช ปีนี้คาดว่าไม่น่าถึง 3 % (สามเปอร์เซนต์นี่ หมายถึงโตขึ้นจาการเทียบกับปีที่แล้วที่รูดมหาราชนะครับ)
ปี 47 ถือว่าของแพง แต่เศรษฐกิจก็ขยายตัว
ปี 58 ของแพง เศรษฐกิจฟุบ ตามมาด้วยเรื่องภาษีเพื่อตอกย้ำสถานการณ์
ส่งออกแย่ ด้วยปัญหาทางการเมือง และค่าเงินบาท (เพิ่งจะอ่อนลง หลังจากลดดอกเบี้ย ทั้งที่ร้องขอให้ทำมาเป็นปีแล้ว)
ตามมาด้วยเมกะโปรเจค
คมนาคมจากสองล้านล้าน เป็นสามล้านล้าน
บริหารจัดการน้ำ จาก 3.5 แสนล้าน เป็น 9.8 แสนล้าน
ไม่นับโครงการอย่างเรือดำน้ำ 3.6 หมื่นล้าน และโครงการอื่น
ไม่นับพวกออร์เดิฟ อย่างไมค์ทองคำ ฯลฯ
แล้วเราจะเดินไปได้ไงครับ เหมือนคนป่วยที่กำลังแบกกระสอบข้าวสาร
กลับหัวหลับหางไปหมด
พวกขี้แมวขี้หมู อย่างเรื่องบุกรุกป่า เรื่องล็อตเตอรี เรื่องนั่นเรื่องนี่ ที่กลไกปกติก็สามารถจัดการได้อยู่แล้ว
กลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องออกหน้า
แต่เรื่องที่สำคัญจริง ๆ จำเป็นต้องจัดการให้ได้จริง ๆ กลับหาปมไม่เจอ คลายปมไม่ได้ มะงุมมะงาหรา เมาหมัด
คลังไปทาง พาณิชน์ไปทาง อุตสาหกรรมไปทาง แบงค์ชาติไปทาง เกษตรไปทาง ศึกษาไปทาง ที่ปรึกษา คสช. ไปอีกทาง
อยากเป่านกหวีดว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยย...
กลับหัวกลับหาง กินกลางตลอดตัว
ประเทศไทยน้ำมันลิตรละ 22 บาท
อาหารตามสั่งจานละ 25 ในห้างราคา 30
ทองคำบาทละ 8000
ถือว่าแพงมากในตอนนั้น
จีดีพีปี 47 ขยายตัว 6 % (ลดลงจากปี 46 ที่จีดีพี 6.8 %)
มีการเร่งรัดโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ
(ไม่นับพวกโครงการต่าง ๆ ที่กระตุ้นการบริโภคภายใน การสร้างความเชื่อมั่น การส่งเสริมการส่งออกด้วยนโยบายค่าเงินบาทอ่อน)
ปี 2558
จีดีพี จากปีที่แล้วที่รูดมหาราช ปีนี้คาดว่าไม่น่าถึง 3 % (สามเปอร์เซนต์นี่ หมายถึงโตขึ้นจาการเทียบกับปีที่แล้วที่รูดมหาราชนะครับ)
ปี 47 ถือว่าของแพง แต่เศรษฐกิจก็ขยายตัว
ปี 58 ของแพง เศรษฐกิจฟุบ ตามมาด้วยเรื่องภาษีเพื่อตอกย้ำสถานการณ์
ส่งออกแย่ ด้วยปัญหาทางการเมือง และค่าเงินบาท (เพิ่งจะอ่อนลง หลังจากลดดอกเบี้ย ทั้งที่ร้องขอให้ทำมาเป็นปีแล้ว)
ตามมาด้วยเมกะโปรเจค
คมนาคมจากสองล้านล้าน เป็นสามล้านล้าน
บริหารจัดการน้ำ จาก 3.5 แสนล้าน เป็น 9.8 แสนล้าน
ไม่นับโครงการอย่างเรือดำน้ำ 3.6 หมื่นล้าน และโครงการอื่น
ไม่นับพวกออร์เดิฟ อย่างไมค์ทองคำ ฯลฯ
แล้วเราจะเดินไปได้ไงครับ เหมือนคนป่วยที่กำลังแบกกระสอบข้าวสาร
กลับหัวหลับหางไปหมด
พวกขี้แมวขี้หมู อย่างเรื่องบุกรุกป่า เรื่องล็อตเตอรี เรื่องนั่นเรื่องนี่ ที่กลไกปกติก็สามารถจัดการได้อยู่แล้ว
กลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องออกหน้า
แต่เรื่องที่สำคัญจริง ๆ จำเป็นต้องจัดการให้ได้จริง ๆ กลับหาปมไม่เจอ คลายปมไม่ได้ มะงุมมะงาหรา เมาหมัด
คลังไปทาง พาณิชน์ไปทาง อุตสาหกรรมไปทาง แบงค์ชาติไปทาง เกษตรไปทาง ศึกษาไปทาง ที่ปรึกษา คสช. ไปอีกทาง
อยากเป่านกหวีดว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยย...