9
คืนนี้ฉันก็โทร. ไปหาเขาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังซ้อมอยู่รึเปล่านะ? เพราะนี่ก็แค่สองทุ่มกว่าเอง มาเร็วกว่าทุกครั้ง = =”
(ตืดดด...ตืดดด...ตืดดด...)
“สงสัยกำลังซ้อมอยู่มั้ง” ฉันจำใจกดวางสายทิ้ง และวางมันไว้บนหัวเตียง จากนั้นก็ทิ้งตัวนอนเพราะไม่รู้จะทำอะไรดี อืม...นับๆ ดูแล้วฉันก็รู้จักเขา (อย่างสนิทชิดใกล้สุดๆ) มาตั้งหลายวันแล้วนะ ยิ่งใกล้ชิด ยิ่งรู้จัก ฉันก็ยิ่งหวั่นไหว รู้สึกกลัวใจตัวเองยังไงไม่รู้สิ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้เตือนตัวเองนะว่าทุกครั้งที่มาหาเขามันก็ไม่ต่างอะไรกับฝันทั่วไป ฉันกับเขาอยู่คนละห้วงเวลากัน
คนละห้วงเวลากัน...งั้นเหรอ?
จริงสิ เรื่องของฉันมันก็ไม่ต่างอะไรกับนิยายย้อนยุคหลายๆ เรื่อง ที่พระเอกหรือนางเอกย้อนเวลาไปหากัน ฉันหลับตาเมื่อนึกถึงตรงนี้...
ตัวละครพวกนั้นจะไปหากันได้ก็ต่อเมื่อห้วงเวลามันเรียก หรือมีใครกำลังคิดถึงและโหยหา แล้วฉันล่ะ? ฉันจะไปหาเขาได้ก็ต่อเมื่อฝันเท่านั้น และถ้าเกิดว่าหลังจากนี้ต่อไปฉันไม่ฝันถึงเขาอีกล่ะ เราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่?! นึกแล้วก็เครียด พอๆๆ ลืมๆ ไปซะนิกิม แค่เธออย่ารักเขาก็พอ ง่ายนิดเดียว...
“เหอะ! ง่าย?” ฉันคิดเองพูดเองเสร็จจบ! เฮ้อ ว่างไม่ได้เลยนะฉันเนี่ย พอไม่มีอะไรทำก็ชอบคิดฟุ้งซ่านอยู่เรื่อย แล้วจะหาอะไรทำดีล่ะ? เออใช่...ว่าจะจัดโต๊ะหนังสือให้พี่บริงค์ซะหน่อย ลืมสนิทเลยนะเนี่ย เห็นทีไรรู้สึกขัดตาทุกที
"อึ้บ" ฉันเกร็งตัวให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงเดินไปยังโต๊ะเขียนหนังสือของเขา ไม่มีอะไรให้ทำก็ขอจัดโต๊ะจัดหนังสือให้เรียบร้อยละกันนะ หวังว่าคงไม่ว่ากันนะพี่บริงค์ ^^*
“ดูสิ โต๊ะอะไรเนี่ยรกชะมัดเลย” ฉันบ่นพลางเก็บดินสอ ยางลบ และเครื่องเขียนอะไรต่อมิอะไรไม่รู้ของเขาใส่กระป๋อง เก็บเรียงกระดาษที่วาดรูปบ้านหรืออะไรสักอย่างแปลกๆ เข้าด้วยกันแล้วหาตัวหนีบกระดาษมาหนีบไว้ไม่ให้ปลิว เสียบปึกกระดาษนั้นไปในกล่อง ต่อมาก็ตอกหนังสือเล่มเล็กๆ ไว้ด้วยกันแล้วดันไปกองจนสุดมุมโต๊ะเพื่อความเป็นระเบียบ อีกประเภทก็หนังสือเล่มใหญ่หน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นพวกหนังสือการสร้างโมเดล หนังสือเกี่ยวกับสถาปัตย์อะไรทำนองนี้ อ๊ะ! มีหนังสือจัดสวนด้วย
ฉันวางกองหนังสือนับสิบเล่มลงก่อนแล้วเลื่อนเก้าอี้นั่งเปิดอ่านหนังสือการจัดสวนแบบหลากหลายสไตล์ ชอบจัง > < ชอบดูหนังสือพวกนี้อ่ะ อยากมีบ้างอะไรบ้าง ฮ่าๆๆ แสดงว่าพี่บริงค์คงอยากเรียนด้านนี้มาก ถึงได้มีแต่หนังสือเกี่ยวกับบ้านและการจัดบ้านตั้งหลายเล่ม
ฉันเปิดอ่านอย่างเพลิดเพลิน จนถึงหน้าสุดท้ายแล้วฉันก็เอาไปรวมกับหนังสือที่กองไว้ แต่เดี๋ยว...เล่มนี้น่ารักจัง >///< ขออ่านต่ออีกแป๊บนะ
ฉันเพิ่งเห็นว่าหนังสือบางๆ เล่มบนสุดมันน่าอ่านมาก เหมือนหนังสือวัยรุ่นทั่วไปที่มีหลายเรื่องรวมกันอยู่ในนี้ แค่หน้าปกมันก็ดึงดูดใจพอแล้ว เหมือนนักร้องญี่ปุ่นที่วัยใสๆ น่ารักๆ ฉันเปิดอ่านทีละหน้าก่อนจะเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้
“กี่ทุ่มแล้วเนี่ย?” ฉันเงยหน้าดูนาฬิกาแล้วก็ก้มลงอ่านต่ออย่างสุขใจ “อิอิ แค่สามทุ่มครึ่งเอง ^^”
ฉันเปิดหน้าแฟชั่นดู... เปิดหน้าเล่าเรื่องผีดู... เปิดหน้าพวกดูดวงแล้วคิดคำนวณอยู่คนเดียวพลางหัวเราะคิกๆ
“ไม่ตรงเลยว่ะ” ฮ่าๆ ถ้าตรงก็บ้าแล่ว นี่มันปีอะไรเองคะเจ๊ >.< ฉันเปิดหน้าสุดท้ายดูก่อนจะเก็บเข้ารวมไว้ด้วยกัน ตอกให้มันเท่าๆ กันแล้วเอื้อมวางไว้บนช่องว่างข้างบนของโต๊ะ
“ >_<” ฮ้า ^O^ เสร็จซะที ในที่สุดรังหนู เอ้ย! โต๊ะหนังสือของพี่บริงค์ก็เรียบร้อยเป็นระเบียบกะเขาบ้าง อิอิ ฝีมือช้านนน ^O^
ฉันปัดมือไปมายิ้มกับผลงานตัวเองอย่างชื่นชม ^^ ก่อนจะหันหลังเพื่อกลับไปนอนต่อ แต่ทว่าสายตาอันเฉียบคมของฉันก็เหลือบไปเห็นหนังสืออีกเล่ม ที่โผล่ออกมาจากซอกหลืบหลังโต๊ะ หนอย~ มีแอบๆ แกไม่รอดพ้นจากสายตาฉันหรอก ฮึ่ม! ฉันเข้าไปดึงมันออกมา สงสัยจะหล่นตอนที่ฉันเก็บเข้าที่ละสินะ
“แล้วนี่มันหนังสืออะไรกันล่ะเนี่ย?” หน้าปกเป็นมัน เงาวับ ลายดอกกุหลาบสีแดงสดเต็มหน้า ออกแนวโรแมนติก เหมือนพวกหนังสือเกี่ยวกับดอกไม้เลยอ่ะ ชื่อหนังสือมันเขียนไว้ว่า ‘Sr’ ไม่รู้ว่าย่อมาจากอะไร แต่หน้าปกมันสวยดีอ่ะ ลองเปิดดูซิ ^^
เปิด ^^
หนังสืออะไรน้า? (^^)
เอ๋ อะไรเนี่ย? ( _ _?)
เหวอออออ! (O[]O)
แกร็ก
เฮือก! O_O
ฉันหันขวับไปที่ประตู และก็ต้องหน้าร้อนวูบเมื่อคนที่กำลังก้าวเข้ามาในห้องคือ...
“อ้าว มาแล้วเหรอ ^^” ฉันหน้าแดงแปร๊ด รีบซ่อนหนังสือบ้านั่นไว้ข้างหลังทันที พี่บริงค์หันไปปิดประตูก่อนจะเดินเข้ามาหา
“ทำไมคืนนี้มาเร็วอ่ะ?” เขาเลิกคิ้ว
“ก็นอนเร็วไง เลยมาเร็ว แหะๆ ^^;;”
พี่บริงค์ก้าวเข้ามาใกล้ฉันก็ผวาถอยหลังไปอย่างอัตโนมัติ
“ถอยทำไม?” พี่บริงค์พูดกลั้วหัวเราะแล้วก้าวเข้ามาใกล้อีก ฉันก็ยิ่งตื่นตระหนกถอยกรูดไปอีกหลายก้าวจนชิดขอบเตียง
“นี่ เป็นอะไร?” ถามเสียงกลั้วหัวเราะ แล้วก้าวทีเดียวถึงตัว
“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ!!! >///<” ฉันหลับตาปี๋ ยกมือขึ้นมาห้ามไว้พร้อมกับเท้าที่ยกขึ้นสูงเตรียมยันเต็มที่
“หือ? แล้วนี่หนังสืออะไรเนี่ย ‘Sr’ ? อ๋อ~ อยู่นี่เอง ^_^”
ชื้บ
ฉันลืมตาทันทีที่รู้สึกว่าอะไรในมือถูกดึงเอาไป หนัง...หนังสือโป๊ O///o
ฉันมองหน้าเขาอย่างทึ่งๆ นี่ไม่รู้สึกเขินหรืออายอะไรบ้างเลยเหรอเนี่ย?
พี่บริงค์บ่นงึมงำอะไรคนเดียวกับหนังสือก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา ซึ่งฉันที่กำลังจ้องเขาอย่างจับผิดก็เป็นอันต้องสะดุ้งเฮือก
“นิกิม = = พี่ว่าพี่เห็นเราหน้าแดงตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ” เขาขมวดคิ้ว เลิกสนใจหนังสือรัญจวนใจนั่นแล้วหันมาทางฉันอย่างต้องการคำตอบ ฉันได้แต่กระตุกมุมปากเพราะพูดอะไรไม่ออก พี่บริงค์ส่ายหน้าแล้วตัดสินใจเดินกลับมาที่ฉันอีกครั้ง
“อย่าเข้ามานะ!” ฉันยกเท้าขึ้นเตรียมยัน พี่บริงค์ชะงักไปทันที เขายอมหยุดอยู่แค่นั้น
“เฮ้ยยย =O=” เขาครางอย่างระอาใจ คืนนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันอยากให้เขาไปเร็วๆ เพราะค้นพบสิ่งเร้นลับหลังโต๊ะเขียนหนังสือ -_-*
“รีบๆ กลับไปซะทีเถอะ เราจะได้นอน” ฉันไล่
“=o=;;;” พี่บริงค์เผยอปากค้าง เหมือนไม่เข้าใจอะไรบางอย่างในตัวฉัน เพราะที่ผ่านมาฉันเอาแต่คอยคิดถึงเขา อ้อนเขา อยากอยู่ข้างๆ เขา แต่พอมาคืนนี้...ฉันกลับไล่เขาเหมือนกับตัวเองเป็นเจ้าของห้องซะงั้น
“อ่าๆๆ กลับก็ได้ ฝันดีนะ” เขาบอกเสียงปกติแอบจะติดอาการมึนตึ้บอยู่ด้วยนิดหน่อย
แกร็ก แอ๊ดดดด ปัง
ทันทีที่ประตูปิดลงไม่ถึงอึดใจ ฉันก็รีบถลาเข้าไปกดล็อกที่ลูกบิดทันที
“โฮ่ย -0-lll” ฉันเอาหลังพิงประตูไว้อย่างโล่งใจ ไปซะทีนะไอ้พี่บริงค์ลามก! หัวใจจะวาย! =[]=//
(Brink)***
ผมก้าวขึ้นรถตัวเอง แล้วเอื้อมมือไปปิดประตู วางหนังสือที่ถือมาด้วยบนเบาะข้างคนขับก่อนจะสตาร์ทรถ
‘หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ!!! >///<’
‘อย่าเข้ามานะ!’
ทั้งการกระทำและคำพูดที่เปลี่ยนไปของนิกิมทำให้ผมขมวดคิ้ว ก่อนหน้าที่ผมจะถูกไล่ให้กลับ นิกิมมีท่าทางแปลกๆ ทั้งหน้าแดง...ระแวงในตัวผม และตัวสั่น สายตาที่มองมานี่ไม่มีดีเลย เหมือนเห็นผมเป็นพวกโจรบ้าห้าร้อยหรือพวกบ้ากามที่จะเข้าไปข่มขืนเธออย่างไรอย่างนั้น
“( - -)” พลันสมองก็สั่งการให้เหลือบมองไปที่เบาะนั่งข้างคนขับ ผมหยิบหนังสือที่มีปกลายดอกกุหลาบสีแดงสดขึ้นมาดู ชื่อหนังสือก็คือเอสอาร์...ถูกต้องอย่างที่แชลกำชับไว้
ก่อนหน้านี้...
‘เอ้อ พี่บริงค์ ผมเพิ่งนึกได้อ่ะว่าลืมหนังสือไว้ที่ห้องนอนพี่’
‘อ้าว ตั้งแต่เมื่อไหร่?’
‘นานแล้ว แต่ผมเพิ่งนึกได้ แหะๆ ^^’
‘อือๆๆ ไม่เป็นไร แล้วชื่อหนังสือว่าอะไรล่ะ เดี๋ยวพี่ได้กลับไปเอามาให้ สำคัญมากมั้ย?’
‘เอ่อ ชื่อหนังสือ Sr อ่ะพี่ สำคัญมากเลยตอนนี้’
‘หนังสืออะไรฟะ =o= หนังสือแฟชั่นเหรอ?’
‘ช่างมันเถอะน่า >_< พี่รีบไปเอามาให้ผมดีกว่า แล้วอย่าเปิดอ่านล่ะ มันเป็นความลับที่จะบอกให้ใครรู้ไม่ได้’ แชลยื่นหน้ามากระซิบใกล้ๆ สีหน้าเคร่งเครียดมากเหมือนกับว่า...ความลับที่แชลกำลังพูดถึงนี้ อาจจะทำให้ตัวเองดับสูญก็เป็นได้ เวอร์ซะ -0-
‘ขนาดนั้นเลย?’ ผมถามเสียงสูง แชลพยักหน้าแรงๆ
กลับมา ณ ตอนนี้...
ผมกำลังมองชื่อหนังสือบนปกอย่างไม่เข้าใจ ตัวอักษร Sr ที่ครองเข้าไปกว่าหนึ่งในสามของหน้า มันก็ดูปกติดีเหมือนหนังสือทั่วไปนั่นแหละ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันย่อมาจากอะไร
แต่เอ๊ะ...มีชื่อเต็มตัวเล็กๆ อยู่ใต้ตัวเอสอาร์ด้วยนี่นา อะไรเนี่ย? นึกว่าเอสอาร์เฉยๆ ซะอีก
ผมเพ่งมองชื่อเต็มตัวเล็กๆ อย่างยากเย็น
“อะไรเนี่ยมองไม่เห็น -*-” โอย ปวดตา ช่างมันเหอะ แอบเปิดดูข้างในเลยดีกว่า ดูซิ...ว่าความลับสุดยอดของแชลคืออะไรกันว้า อิอิ ^^
เปิด ^^
(^__^)
เฮือก! O///O
พรึ่บ!
ผมปิดมันลงอย่างรวดเร็ว เลือดทั่วทั้งร่างกายสูบฉีดอย่างแรง หัวใจเต้นตุบๆ ไม่เป็นจังหวะ นี่เหรอวะ...ความลับของไอ้คุณแชล!?
แฮ่กๆๆ =[]=lll เอาซะเกือบเลือดกำเดาพุ่ง! =.,=
‘หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ!!! >///<’
‘อย่าเข้ามานะ!’
กึก! O_O
ผมชะงัก เมื่อภาพของนิกิมที่จ้องจะยันผมตลอดเวลาลอยเข้ามาในสมองอีกครั้ง รึว่า...
“อ้ากกกก! >O< ยัยหมูป่าต้องเข้าใจฉันผิดแน่ๆ เลยง่ะ ไอ้แช้ลลล!!! />[]<\” ผมกุมหัวแน่นพร้อมกับแหกปากลั่นรถ
(end : คนทะลึ่ง)
นับตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ [ตอนที่ 9]
คืนนี้ฉันก็โทร. ไปหาเขาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังซ้อมอยู่รึเปล่านะ? เพราะนี่ก็แค่สองทุ่มกว่าเอง มาเร็วกว่าทุกครั้ง = =”
(ตืดดด...ตืดดด...ตืดดด...)
“สงสัยกำลังซ้อมอยู่มั้ง” ฉันจำใจกดวางสายทิ้ง และวางมันไว้บนหัวเตียง จากนั้นก็ทิ้งตัวนอนเพราะไม่รู้จะทำอะไรดี อืม...นับๆ ดูแล้วฉันก็รู้จักเขา (อย่างสนิทชิดใกล้สุดๆ) มาตั้งหลายวันแล้วนะ ยิ่งใกล้ชิด ยิ่งรู้จัก ฉันก็ยิ่งหวั่นไหว รู้สึกกลัวใจตัวเองยังไงไม่รู้สิ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้เตือนตัวเองนะว่าทุกครั้งที่มาหาเขามันก็ไม่ต่างอะไรกับฝันทั่วไป ฉันกับเขาอยู่คนละห้วงเวลากัน
คนละห้วงเวลากัน...งั้นเหรอ?
จริงสิ เรื่องของฉันมันก็ไม่ต่างอะไรกับนิยายย้อนยุคหลายๆ เรื่อง ที่พระเอกหรือนางเอกย้อนเวลาไปหากัน ฉันหลับตาเมื่อนึกถึงตรงนี้...
ตัวละครพวกนั้นจะไปหากันได้ก็ต่อเมื่อห้วงเวลามันเรียก หรือมีใครกำลังคิดถึงและโหยหา แล้วฉันล่ะ? ฉันจะไปหาเขาได้ก็ต่อเมื่อฝันเท่านั้น และถ้าเกิดว่าหลังจากนี้ต่อไปฉันไม่ฝันถึงเขาอีกล่ะ เราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่?! นึกแล้วก็เครียด พอๆๆ ลืมๆ ไปซะนิกิม แค่เธออย่ารักเขาก็พอ ง่ายนิดเดียว...
“เหอะ! ง่าย?” ฉันคิดเองพูดเองเสร็จจบ! เฮ้อ ว่างไม่ได้เลยนะฉันเนี่ย พอไม่มีอะไรทำก็ชอบคิดฟุ้งซ่านอยู่เรื่อย แล้วจะหาอะไรทำดีล่ะ? เออใช่...ว่าจะจัดโต๊ะหนังสือให้พี่บริงค์ซะหน่อย ลืมสนิทเลยนะเนี่ย เห็นทีไรรู้สึกขัดตาทุกที
"อึ้บ" ฉันเกร็งตัวให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงเดินไปยังโต๊ะเขียนหนังสือของเขา ไม่มีอะไรให้ทำก็ขอจัดโต๊ะจัดหนังสือให้เรียบร้อยละกันนะ หวังว่าคงไม่ว่ากันนะพี่บริงค์ ^^*
“ดูสิ โต๊ะอะไรเนี่ยรกชะมัดเลย” ฉันบ่นพลางเก็บดินสอ ยางลบ และเครื่องเขียนอะไรต่อมิอะไรไม่รู้ของเขาใส่กระป๋อง เก็บเรียงกระดาษที่วาดรูปบ้านหรืออะไรสักอย่างแปลกๆ เข้าด้วยกันแล้วหาตัวหนีบกระดาษมาหนีบไว้ไม่ให้ปลิว เสียบปึกกระดาษนั้นไปในกล่อง ต่อมาก็ตอกหนังสือเล่มเล็กๆ ไว้ด้วยกันแล้วดันไปกองจนสุดมุมโต๊ะเพื่อความเป็นระเบียบ อีกประเภทก็หนังสือเล่มใหญ่หน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นพวกหนังสือการสร้างโมเดล หนังสือเกี่ยวกับสถาปัตย์อะไรทำนองนี้ อ๊ะ! มีหนังสือจัดสวนด้วย
ฉันวางกองหนังสือนับสิบเล่มลงก่อนแล้วเลื่อนเก้าอี้นั่งเปิดอ่านหนังสือการจัดสวนแบบหลากหลายสไตล์ ชอบจัง > < ชอบดูหนังสือพวกนี้อ่ะ อยากมีบ้างอะไรบ้าง ฮ่าๆๆ แสดงว่าพี่บริงค์คงอยากเรียนด้านนี้มาก ถึงได้มีแต่หนังสือเกี่ยวกับบ้านและการจัดบ้านตั้งหลายเล่ม
ฉันเปิดอ่านอย่างเพลิดเพลิน จนถึงหน้าสุดท้ายแล้วฉันก็เอาไปรวมกับหนังสือที่กองไว้ แต่เดี๋ยว...เล่มนี้น่ารักจัง >///< ขออ่านต่ออีกแป๊บนะ
ฉันเพิ่งเห็นว่าหนังสือบางๆ เล่มบนสุดมันน่าอ่านมาก เหมือนหนังสือวัยรุ่นทั่วไปที่มีหลายเรื่องรวมกันอยู่ในนี้ แค่หน้าปกมันก็ดึงดูดใจพอแล้ว เหมือนนักร้องญี่ปุ่นที่วัยใสๆ น่ารักๆ ฉันเปิดอ่านทีละหน้าก่อนจะเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้
“กี่ทุ่มแล้วเนี่ย?” ฉันเงยหน้าดูนาฬิกาแล้วก็ก้มลงอ่านต่ออย่างสุขใจ “อิอิ แค่สามทุ่มครึ่งเอง ^^”
ฉันเปิดหน้าแฟชั่นดู... เปิดหน้าเล่าเรื่องผีดู... เปิดหน้าพวกดูดวงแล้วคิดคำนวณอยู่คนเดียวพลางหัวเราะคิกๆ
“ไม่ตรงเลยว่ะ” ฮ่าๆ ถ้าตรงก็บ้าแล่ว นี่มันปีอะไรเองคะเจ๊ >.< ฉันเปิดหน้าสุดท้ายดูก่อนจะเก็บเข้ารวมไว้ด้วยกัน ตอกให้มันเท่าๆ กันแล้วเอื้อมวางไว้บนช่องว่างข้างบนของโต๊ะ
“ >_<” ฮ้า ^O^ เสร็จซะที ในที่สุดรังหนู เอ้ย! โต๊ะหนังสือของพี่บริงค์ก็เรียบร้อยเป็นระเบียบกะเขาบ้าง อิอิ ฝีมือช้านนน ^O^
ฉันปัดมือไปมายิ้มกับผลงานตัวเองอย่างชื่นชม ^^ ก่อนจะหันหลังเพื่อกลับไปนอนต่อ แต่ทว่าสายตาอันเฉียบคมของฉันก็เหลือบไปเห็นหนังสืออีกเล่ม ที่โผล่ออกมาจากซอกหลืบหลังโต๊ะ หนอย~ มีแอบๆ แกไม่รอดพ้นจากสายตาฉันหรอก ฮึ่ม! ฉันเข้าไปดึงมันออกมา สงสัยจะหล่นตอนที่ฉันเก็บเข้าที่ละสินะ
“แล้วนี่มันหนังสืออะไรกันล่ะเนี่ย?” หน้าปกเป็นมัน เงาวับ ลายดอกกุหลาบสีแดงสดเต็มหน้า ออกแนวโรแมนติก เหมือนพวกหนังสือเกี่ยวกับดอกไม้เลยอ่ะ ชื่อหนังสือมันเขียนไว้ว่า ‘Sr’ ไม่รู้ว่าย่อมาจากอะไร แต่หน้าปกมันสวยดีอ่ะ ลองเปิดดูซิ ^^
เปิด ^^
หนังสืออะไรน้า? (^^)
เอ๋ อะไรเนี่ย? ( _ _?)
เหวอออออ! (O[]O)
แกร็ก
เฮือก! O_O
ฉันหันขวับไปที่ประตู และก็ต้องหน้าร้อนวูบเมื่อคนที่กำลังก้าวเข้ามาในห้องคือ...
“อ้าว มาแล้วเหรอ ^^” ฉันหน้าแดงแปร๊ด รีบซ่อนหนังสือบ้านั่นไว้ข้างหลังทันที พี่บริงค์หันไปปิดประตูก่อนจะเดินเข้ามาหา
“ทำไมคืนนี้มาเร็วอ่ะ?” เขาเลิกคิ้ว
“ก็นอนเร็วไง เลยมาเร็ว แหะๆ ^^;;”
พี่บริงค์ก้าวเข้ามาใกล้ฉันก็ผวาถอยหลังไปอย่างอัตโนมัติ
“ถอยทำไม?” พี่บริงค์พูดกลั้วหัวเราะแล้วก้าวเข้ามาใกล้อีก ฉันก็ยิ่งตื่นตระหนกถอยกรูดไปอีกหลายก้าวจนชิดขอบเตียง
“นี่ เป็นอะไร?” ถามเสียงกลั้วหัวเราะ แล้วก้าวทีเดียวถึงตัว
“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ!!! >///<” ฉันหลับตาปี๋ ยกมือขึ้นมาห้ามไว้พร้อมกับเท้าที่ยกขึ้นสูงเตรียมยันเต็มที่
“หือ? แล้วนี่หนังสืออะไรเนี่ย ‘Sr’ ? อ๋อ~ อยู่นี่เอง ^_^”
ชื้บ
ฉันลืมตาทันทีที่รู้สึกว่าอะไรในมือถูกดึงเอาไป หนัง...หนังสือโป๊ O///o
ฉันมองหน้าเขาอย่างทึ่งๆ นี่ไม่รู้สึกเขินหรืออายอะไรบ้างเลยเหรอเนี่ย?
พี่บริงค์บ่นงึมงำอะไรคนเดียวกับหนังสือก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา ซึ่งฉันที่กำลังจ้องเขาอย่างจับผิดก็เป็นอันต้องสะดุ้งเฮือก
“นิกิม = = พี่ว่าพี่เห็นเราหน้าแดงตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ” เขาขมวดคิ้ว เลิกสนใจหนังสือรัญจวนใจนั่นแล้วหันมาทางฉันอย่างต้องการคำตอบ ฉันได้แต่กระตุกมุมปากเพราะพูดอะไรไม่ออก พี่บริงค์ส่ายหน้าแล้วตัดสินใจเดินกลับมาที่ฉันอีกครั้ง
“อย่าเข้ามานะ!” ฉันยกเท้าขึ้นเตรียมยัน พี่บริงค์ชะงักไปทันที เขายอมหยุดอยู่แค่นั้น
“เฮ้ยยย =O=” เขาครางอย่างระอาใจ คืนนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันอยากให้เขาไปเร็วๆ เพราะค้นพบสิ่งเร้นลับหลังโต๊ะเขียนหนังสือ -_-*
“รีบๆ กลับไปซะทีเถอะ เราจะได้นอน” ฉันไล่
“=o=;;;” พี่บริงค์เผยอปากค้าง เหมือนไม่เข้าใจอะไรบางอย่างในตัวฉัน เพราะที่ผ่านมาฉันเอาแต่คอยคิดถึงเขา อ้อนเขา อยากอยู่ข้างๆ เขา แต่พอมาคืนนี้...ฉันกลับไล่เขาเหมือนกับตัวเองเป็นเจ้าของห้องซะงั้น
“อ่าๆๆ กลับก็ได้ ฝันดีนะ” เขาบอกเสียงปกติแอบจะติดอาการมึนตึ้บอยู่ด้วยนิดหน่อย
แกร็ก แอ๊ดดดด ปัง
ทันทีที่ประตูปิดลงไม่ถึงอึดใจ ฉันก็รีบถลาเข้าไปกดล็อกที่ลูกบิดทันที
“โฮ่ย -0-lll” ฉันเอาหลังพิงประตูไว้อย่างโล่งใจ ไปซะทีนะไอ้พี่บริงค์ลามก! หัวใจจะวาย! =[]=//
(Brink)***
ผมก้าวขึ้นรถตัวเอง แล้วเอื้อมมือไปปิดประตู วางหนังสือที่ถือมาด้วยบนเบาะข้างคนขับก่อนจะสตาร์ทรถ
‘หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ!!! >///<’
‘อย่าเข้ามานะ!’
ทั้งการกระทำและคำพูดที่เปลี่ยนไปของนิกิมทำให้ผมขมวดคิ้ว ก่อนหน้าที่ผมจะถูกไล่ให้กลับ นิกิมมีท่าทางแปลกๆ ทั้งหน้าแดง...ระแวงในตัวผม และตัวสั่น สายตาที่มองมานี่ไม่มีดีเลย เหมือนเห็นผมเป็นพวกโจรบ้าห้าร้อยหรือพวกบ้ากามที่จะเข้าไปข่มขืนเธออย่างไรอย่างนั้น
“( - -)” พลันสมองก็สั่งการให้เหลือบมองไปที่เบาะนั่งข้างคนขับ ผมหยิบหนังสือที่มีปกลายดอกกุหลาบสีแดงสดขึ้นมาดู ชื่อหนังสือก็คือเอสอาร์...ถูกต้องอย่างที่แชลกำชับไว้
ก่อนหน้านี้...
‘เอ้อ พี่บริงค์ ผมเพิ่งนึกได้อ่ะว่าลืมหนังสือไว้ที่ห้องนอนพี่’
‘อ้าว ตั้งแต่เมื่อไหร่?’
‘นานแล้ว แต่ผมเพิ่งนึกได้ แหะๆ ^^’
‘อือๆๆ ไม่เป็นไร แล้วชื่อหนังสือว่าอะไรล่ะ เดี๋ยวพี่ได้กลับไปเอามาให้ สำคัญมากมั้ย?’
‘เอ่อ ชื่อหนังสือ Sr อ่ะพี่ สำคัญมากเลยตอนนี้’
‘หนังสืออะไรฟะ =o= หนังสือแฟชั่นเหรอ?’
‘ช่างมันเถอะน่า >_< พี่รีบไปเอามาให้ผมดีกว่า แล้วอย่าเปิดอ่านล่ะ มันเป็นความลับที่จะบอกให้ใครรู้ไม่ได้’ แชลยื่นหน้ามากระซิบใกล้ๆ สีหน้าเคร่งเครียดมากเหมือนกับว่า...ความลับที่แชลกำลังพูดถึงนี้ อาจจะทำให้ตัวเองดับสูญก็เป็นได้ เวอร์ซะ -0-
‘ขนาดนั้นเลย?’ ผมถามเสียงสูง แชลพยักหน้าแรงๆ
กลับมา ณ ตอนนี้...
ผมกำลังมองชื่อหนังสือบนปกอย่างไม่เข้าใจ ตัวอักษร Sr ที่ครองเข้าไปกว่าหนึ่งในสามของหน้า มันก็ดูปกติดีเหมือนหนังสือทั่วไปนั่นแหละ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันย่อมาจากอะไร
แต่เอ๊ะ...มีชื่อเต็มตัวเล็กๆ อยู่ใต้ตัวเอสอาร์ด้วยนี่นา อะไรเนี่ย? นึกว่าเอสอาร์เฉยๆ ซะอีก
ผมเพ่งมองชื่อเต็มตัวเล็กๆ อย่างยากเย็น
“อะไรเนี่ยมองไม่เห็น -*-” โอย ปวดตา ช่างมันเหอะ แอบเปิดดูข้างในเลยดีกว่า ดูซิ...ว่าความลับสุดยอดของแชลคืออะไรกันว้า อิอิ ^^
เปิด ^^
(^__^)
เฮือก! O///O
พรึ่บ!
ผมปิดมันลงอย่างรวดเร็ว เลือดทั่วทั้งร่างกายสูบฉีดอย่างแรง หัวใจเต้นตุบๆ ไม่เป็นจังหวะ นี่เหรอวะ...ความลับของไอ้คุณแชล!?
แฮ่กๆๆ =[]=lll เอาซะเกือบเลือดกำเดาพุ่ง! =.,=
‘หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ!!! >///<’
‘อย่าเข้ามานะ!’
กึก! O_O
ผมชะงัก เมื่อภาพของนิกิมที่จ้องจะยันผมตลอดเวลาลอยเข้ามาในสมองอีกครั้ง รึว่า...
“อ้ากกกก! >O< ยัยหมูป่าต้องเข้าใจฉันผิดแน่ๆ เลยง่ะ ไอ้แช้ลลล!!! />[]<\” ผมกุมหัวแน่นพร้อมกับแหกปากลั่นรถ
(end : คนทะลึ่ง)