The Book Of Darkness
III
มาสเตอร์ จ้องมองรูปถ่ายที่ตนเองถืออยู่ในมือสักพักหนึ่ง ก็เดินออกมาจากที่เก็บของหลังร้าน เดินออกมาด้านนอกบริเวณด้านหลังร้าน ที่มีเพียงโรงเก็บของหลังเล็กๆถูกสร้างขึ้นใกล้ๆกับด้านหลังของบาร์ ถัดจากโรงเก็บของก็ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ที่ถูกย้อมด้วยความมืดของยามราตรี มาสเตอร์เดินนำ
รี ฟอสไปยังโรงเก็บของที่อยู่งจากด้านหลังบาร์ไม่มากนัก รีฟอสก้าวเดินตามหลังมาสเตอร์ไป ปลายเท้าของเขาสัมผัสกับยอดของต้นไม้ใบหญ้าที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างยามราตรี ขณะที่เขาเดินตามหลังมาสเตอร์เขาก็พลางนึกใจ ว่า “ ปกติเวลามาขอข่าวมาสเตอร์มาสเตอร์ก็จะบอกในร้านเลยไม่เคยพาออกมาข้างนอกแบบ นี้ ” ขณะที่รีฟอสกำลังคิดอยู่ในใจ เขาและมาสเตอร์ก็เดินมาถึงหน้าประตูของโรงเก็บของ มาสเตอร์ดันประตูให้เปิดออกแล้วเดินนำรีฟอสเข้าไปด้านใน ภายในโรงเก็บของมีเพียงแต่ลังไม้วางอยู่ทั่วบริเวณ และมีเพียงแต่แสงสว่างจากตะเกียงที่แขวนอยู่ด้านบนให้แสงสว่างแก่บริเวณโดย รอบ ขณะที่รีฟอสกำลังมองสำรวจบริเวณรอบๆอยู่ มาสเตอร์ก็เดินลึกเข้าไปด้านในของโรง เก็บของ เมื่อเดินมาด้านในพอสมควรมาสเตอร์ก็ดันกล่องบางกล่องหลบออก เผยให้เห็นประตูลับที่อยู่ใต้กล่องเหล่านั้น เมื่อมาสเตอร์ดึงประตูขึ้นก็เผยให้เห็นขั้นบันไดที่ถูกสร้างขึ้นจากหินทอด ยาวลงไปด้านล่าง
มาสเตอร์หันกลับมามองรี ฟอสที่ยืนอยู่ด้านหลังก่อนจะก้าวเท้านำลงไปด้านล่าง รีฟอสเดินตามหลังมาสเตอร์ลงไปเมื่อเข้าก้าวตามลงมาเขาก็ต้องแปลกใจทั้งๆที่ ด้านล่างควรจะมืดมิด แต่กลับมีแสงสว่างมาจากกำแพงทั้งสองด้านเป็นแสงสีเขียนอ่อน ทำให้สามารถมองเห็นขั้นบันไดที่ทอดยาวลงไปด้านล่าง ขณะที่รีฟอสกำลังเดินตามมาสเตอร์ลงไปก็เกิดความคิดต่างๆนาๆขึ้นมา แต่ความคิดของรีฟอสก็ต้องหยุดลงเมื่อเท้าของเขาสัมผัสกับบันไดขั้นสุดท้าย มาสเตอร์เดินนำไปที่ประตูบานหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นอย่างแข็งแรง เมื่อมาสเตอร์ดันประตูให้เปิดออกแสงสว่างจากด้านในของบานประตูก็กระทบกับ ความมืดด้านนอก รีฟอสเดินตามมาสเตอร์เข้าไปในห้องที่อยู่ด้านหลังบานประตู เมื่อเดินเข้ามา สภาพภายในห้องที่เขา เห็นคือ ห้อง
สี เหลี่ยมขนาดใหญ่ มีชั้นวางหนังสืออยู่หลายชั้น และที่พื้นของห้องก็ยังมีกองหนังสือถูกวางอยู่อีกหลายกอง มาสเตอร์เดินผ่านกองหนังสือเหล่านั้น ไปนั่งที่โต๊ะสีดำตัวใหญ่ที่ตั้งเด่นสง่าอยู่กลางห้อง รีฟอสเงยหน้าขึ้นมองเพดานของห้อง ที่มีแสงสว่างไม่ต่างอะไรไปจากยามกลางวัน พร้อมๆกับเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่ตั้งอยู่หน้าโต๊ะสีดำ แล้วจ้องมองมาสเตอร์ที่กำลังค้นหาอะไรบางอย่างที่อยู่ใกล้ๆกับโต๊ะ สักพักหนึ่งมาสเตอร์ก็หยิบหนังสือสีขาวเล่มใหญ่เล่มหนึ่งขึ้นมาวางบนโต๊ะ รีฟอสจ้องมองหนังสือเล่นนั้น แล้วสังเกต ว่าหน้าปกของหนังสือเป็นสีขาวบนหน้าปกสีขาวมีตัวอีกษรสีทองเขียนอยู่ว่า “ธอธ(Thoth)” มาสเตอร์เปิดหนังสือออกแล้วพลิกหาหน้าที่ต้องการอยู่พักหนึ่ง แล้วอ่านประโยคประโยคหนึ่งให้รีฟอสฟัง
“หนังสือปกสีดำ อันมืดมิด ประดุจไร้แสงสว่าง ผู้ครอบครองจะกำหนดซะตาของทุกสรรพสิ่ง” เมื่อมาสเตอร์อ่านจบก็ส่งรูปคืนให้กับรีฟอส พร้อมๆกับถามขึ้น
“รีฟอส เธอรับงานนี้มาจากใคร จ๊ะ”ด้วยน้ำเสียงที่สงสัย
“รับมาจาก คนชื่อ คาราส ครับ” “แต่คาราสน่าจะถูกสั่งมาอีกที จากคนที่อยู่ในคฤหาสน์กลางป่าครับ” มาสเตอร์พยักหน้ารับ
“รีฟอส อย่างรับงานนี้เลยนะจ๊ะ” รีฟอสจ้องมองหน้าคนพูดด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ทำไมล่ะครับ” มาสเตอร์นิ่งไปชั่วครู่หนึ่งแล้วอธิบายขึ้น
“หนังสือ เล่มสีขาวเล่มนี้”รีฟอสจ้องมองหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ถูก ตั้งชื่อตามเทพผู้สร้าง” “ซึ่งเล่มนี้เป็นฉบับคัดลอก ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่เล่น” มาสเตอร์เว้นช่วงแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวนจนรีฟอสรู้สึกได้
“เนื้อหา ในหนังสือจะกล่าวถึงรายละเอียดต่างๆของสิ่งของที่ เทพผู้สร้าง สร้างขึ้น” มาสเตอร์ก้มลงมองหนังสือแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ถ้าหากหนังสือ ที่อยู่ในรูปถ่าย เป็นเล่มเดียวกันกับถูกกล่าวในหนังสือเล่มนี้” มาสเตอร์เอามือวางบนหนังสือพร้อมๆกับพูดต่อด้วยน้ำเสียงเชิงขอร้อง
“รีฟอส อย่ารับงานนี้ เลยนะจ๊ะ” พร้อมๆ กับจ้องมองรีฟอส รีฟอสมองสบตามาสเตอร์ก็เห็นแววตาที่ห่วงใยอยู่ภายใน ก็คิดในใจว่า งานนี้ต้องมีอะไรสักอย่างแน่ไม่อย่างนั้นมาสเตอร์คงไม่ห้ามหรอก
“มาสเตอร์ ครับ ผมต้องการงานนี้” “เพราะถ้างานนี้สำเร็จความฝันของผมจะเป็นจริง” มาสเตอร์มองสบตา
รีฟอสแล้วเห็นสายตาที่มุ่งมั่นก็ถอนหายใจ
“ไม่ว่ายังไงก็จะรับงานนี้ให้ได้ ใช่มั้ย จ๊ะ” รีฟอสยิ้มรับ
“กำหนดเวลาส่งของ ล่ะจ๊ะ”
“ 1 อาทิตย์หลังจากนี้ครับ” มาสเตอร์ทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง
“ฉัน เองก็รู้เพียงแค่ว่า หนังสือเล่มที่ว่ามานี้อยู่ในเมือง เท่านั้นเองจ๊ะ” “ส่วนรายละเอียดอื่นๆไม่ทรายเลยจ๊ะ” เมื่อ รีฟอสได้ยินสิ่งที่มาสเตอร์บอกก็มีสีหน้าผิดหวังทันที เพราะถ้าคนที่หาข่าวเก่งที่สุดในเมืองแล้วไม่รู้ใครจะรู้ เมื่อมาสเตอร์เห็นสีหน้าของรีฟอสก็ยิ้มขึ้นแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ
“ขอเวลา หาข่าว สัก 2-3 วันนะจ๊ะ” “ต้องได้อะไรบ้างล่ะจ๊ะ” เมื่อมาสเตอร์พูดจบรีฟอสก็ยิ้มรับอย่างมีความหวัง
เมื่อคุยธุระกับมาสเตอร์เสร็จแล้ว มาสเตอร์และรีฟอสก็เดินกลับเข้ามาในบาร์ พอมาถึงด้านในร้าน
เทีย น่าก็รีบเดินมาบอกว่า มีคนมาคอยอยู่ รีฟอสหันมองรอบๆร้านพบว่าไม่มีแขกอยู่เลยมีเพียง กลุ่มชายหญิงกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางร้าน มาสเตอร์เดินนำรีฟอสเข้าไปทักทายกลุ่มชายหญิงที่นั่งอยู่ รีฟอสเดินตามมาสเตอร์ไปแล้วมองที่โต๊ะ ว่ามี ชายสองคน และหญิง หนึ่งคนนั่ง อยู่ เมื่อมาสเตอร์เดินมาถึงโต๊ะ ก็เอ่ยทักทายทุกคน “สวัสดี จ๊ะ” ทุกคนในโต๊ะต่างหันมองที่มาของต้นเสียงที่ทักทายพวกตนเอง ราทารี่ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มทักทายกลับเป็นคนแรก
“สวัสดีค่ะ มาสเตอร์” พร้อมๆ กับยิ้มให้มาสเตอร์ด้วยท่าทางน่ารัก รีฟอสจ้องมองผู้หญิงที่ทักทายมาสเตอร์ เธอมีผมสั้นสีดำ ดวงตาสีดำกลมโต ผิวสีขาวแต่ไม่ขาวมาก ตัวไม่สูงมาก ใส่เสื้อแขนสั้นสีดำ จัดว่าน่ารักแบบเด็กวัยรุ่น ขณะที่ชายหนุ่มที่เหลืออีกสองคนกำลังจะเอ่ยทักทายมาสเตอร์ มาสเตอร์ก็หันมาทางรีฟอส
“คนที่นั่งข้างๆราทารี่ เขาชื่อ มาคราส จ๊ะ” รี ฟอสหันมองชายหนุ่มที่มาสเตอร์แนะนำ เป็นชายหนุ่ม ผมสั้นสีแดง ตาสีฟ้า ผิวคล้ำ รูปร่างกำยำ ออกแนวคล้ายๆกับพวกทหาร รีฟอสหันมองชายหนุ่มอีกคนที่เหลือ เขาใส่เสื้อคลุมสีดำจนถึงศีรษะ ใส่แว่น หน้าตาสะอาดสะอ้าน แต่ดวงตาสีดำที่อยู่หลังแว่นดูเหม่อลอย ดูเป็นพวกนักวิชาการมากกว่าจะมาทำงานผิดกฎหมาย อายุไม่น่าจะเกิน 30 มาสเตอร์แนะนำว่าเขา ชื่อ “เจราส” หลัง จากที่มาสเตอร์แนะนำทุกคนให้รีฟอสรู้จักแล้วก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ปล่อย ให้รีฟอสได้ทักทายกับเพื่อนร่วมทีม รีฟอสลากเก้าอี้ออก แล้วนั่งลง พร้อมๆกับแนะนำตัวเอง
“สวัสดีครับ ผมชื่อ รีฟอส” ทั้ง สามคนต่างจ้องมองเด็กหนุ่มที่แนะนำตัวเอง เพราะว่า รีฟอสนั้นดูเด็กเกินกว่าที่จะมารับทำงานอันตราบแบบนี้ รีฟอสหันมองหน้าผู้สนทนาทั้ง สามคนแล้วพูดต่อ
“ผมมีงานมาเสนอพวกคุณ” มาครอสจ้องมองหน้าผู้พูด
“นายนี้นะจะเอางานมาเสนอพวกฉัน” เมื่อพูดจบก็หัวเราะขึ้นทันที
“หวังว่าคงไม่ใช่ งานตามหาตุ๊กตา นะ”พร้อมๆกับจ้องมองรีฟอสด้วยสายตาดูถูก รีฟอสยิ้มรับแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบายๆ
“ถ้านายถนัดงานตามหาตุ๊กตา ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก”
เมื่อ ราทารี่ได้ยินสิ่งที่รีฟอสพูดขึ้นมา ก็หัวเราะออกมา ส่วนเจราสก็ขยับยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างพอใจ มาครอสจ้องมองรีฟอสด้วยสายตาไม่พอใจเพราะรีฟอสทำให้เขากลายเป็นตัวตลก มาครอสลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมๆกับปล่อยหมัดเข้าใส่ใบหน้ารีฟอส แต่ก่อนที่หมัดของมาครอสจะทันได้สัมผัสถูกใบหน้าของรีฟอส กลับถูกหยุดโดยเจราส เจราสจับข้อมือของมาครอสก่อนที่หมัดของมาครอสจะถึงใบหน้าของรีฟอสอีกเพียง นิดเดียว มาครอสหันมองเจราสด้วยสีหน้าที่แปลกใจ เพราะหมัดของตนเองถูกหยุดโดยคนที่ทางทางไม่น่าจะแข็งแรงมากขนาดนั้น มาครอสสะบัดมือให้หลุดจากการจับของเจราส ราทารี่นั่งมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ ขยับยิ้มขึ้นที่มุมปาก มาครอสจ้องมองเจราสด้วยสายตาไม่พอใจ พร้อมๆกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่โมโห
“นายเข้ามายุ่งทำไม ไอ้เด็กนี้มันปากเสีย” แล้ว จ้องมองไปทางรีฟอสที่นั่งอยู่ด้วยท่าทางสบายใจเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิด ขึ้น เจราสมองสบตากับมาครอสแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“นายคิดว่า จะทำให้เด็กคนนี้เจ็บตัวได้หรอ” แล้วยิ้มให้มาครอส มาครอสจ้องมองหน้าคนพูด
“นั้นสินะ ไม่ลองก็ไม่รู้” พร้อมๆกับปล่อยหมัดเข้าใส่รีฟอสอีกครั้ง
แต่ คราวนี้ เจราสกลับยืนมองดูเฉยๆพร้อมทั้งขยับยิ้มขึ้นที่มุมปากเล็กน้อย รีฟอสลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมๆกับถอยไปด้านหลังเพื่อให้พ้นรัศมีของหมัด แล้วปัดหมัดของมาครอสลงบนโต๊ะ ดัง “ตึ้ง” มา ครอสรู้สึกเจ็บที่มือทันที แต่เมื่อมาครอสรู้สึกตัวอีกทีรีฟอสก็มายืนด้านหลังตนเองแล้ว มาครอสยืนนิ่งแต่มือกับค่อยๆยื่นไปจับปืนที่อยู่ข้างๆเอว ราทารี่สังเกตเห็นว่า รีฟอสกำลังเอามีดเล็กจ่อที่ท้ายทอยมาครอสอยู่ จึงยื่นมือไปทาบลงบนมือของมาครอสก่อนที่เขาจะทันได้สัมผัสถูกด้ามของปืน แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ถ้านายใช้ปืน เรื่องมันจะไม่จบแค่นี้นะ” มาครอสหันมองหน้าคนพูด แล้วสังเกตุ้ห็นสีหน้าของเธอบอกเป็นในๆว่า “ถ้านายไม่หยุด ฉันจะร่วมด้วย” มาครอสมองสบตาราทารี่ก็รู้ว่าเธอเอาจริง จึงยิ้มรับแล้วนั่งลงตามเดิม
“ก็ ได้ ฉันเห็นแก่เธอหรอกนะ” ราทารี่ก็ยิ้มรับ รีฟอสจ้องมองมาทางราทารี่ แล้วคิดในใจว่า “ผู้หญิงคนนี้มีอะไรมาก กว่าที่ตาเห็น” แล้ว เดินกลับไปนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม มาสเตอร์ที่อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์เฝ้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็ ขยับยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ
ปีกนางฟ้า (Angel Wing) The Book Of Darkness III
The Book Of Darkness
III
มาสเตอร์ จ้องมองรูปถ่ายที่ตนเองถืออยู่ในมือสักพักหนึ่ง ก็เดินออกมาจากที่เก็บของหลังร้าน เดินออกมาด้านนอกบริเวณด้านหลังร้าน ที่มีเพียงโรงเก็บของหลังเล็กๆถูกสร้างขึ้นใกล้ๆกับด้านหลังของบาร์ ถัดจากโรงเก็บของก็ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ที่ถูกย้อมด้วยความมืดของยามราตรี มาสเตอร์เดินนำ
รี ฟอสไปยังโรงเก็บของที่อยู่งจากด้านหลังบาร์ไม่มากนัก รีฟอสก้าวเดินตามหลังมาสเตอร์ไป ปลายเท้าของเขาสัมผัสกับยอดของต้นไม้ใบหญ้าที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างยามราตรี ขณะที่เขาเดินตามหลังมาสเตอร์เขาก็พลางนึกใจ ว่า “ ปกติเวลามาขอข่าวมาสเตอร์มาสเตอร์ก็จะบอกในร้านเลยไม่เคยพาออกมาข้างนอกแบบ นี้ ” ขณะที่รีฟอสกำลังคิดอยู่ในใจ เขาและมาสเตอร์ก็เดินมาถึงหน้าประตูของโรงเก็บของ มาสเตอร์ดันประตูให้เปิดออกแล้วเดินนำรีฟอสเข้าไปด้านใน ภายในโรงเก็บของมีเพียงแต่ลังไม้วางอยู่ทั่วบริเวณ และมีเพียงแต่แสงสว่างจากตะเกียงที่แขวนอยู่ด้านบนให้แสงสว่างแก่บริเวณโดย รอบ ขณะที่รีฟอสกำลังมองสำรวจบริเวณรอบๆอยู่ มาสเตอร์ก็เดินลึกเข้าไปด้านในของโรง เก็บของ เมื่อเดินมาด้านในพอสมควรมาสเตอร์ก็ดันกล่องบางกล่องหลบออก เผยให้เห็นประตูลับที่อยู่ใต้กล่องเหล่านั้น เมื่อมาสเตอร์ดึงประตูขึ้นก็เผยให้เห็นขั้นบันไดที่ถูกสร้างขึ้นจากหินทอด ยาวลงไปด้านล่าง
มาสเตอร์หันกลับมามองรี ฟอสที่ยืนอยู่ด้านหลังก่อนจะก้าวเท้านำลงไปด้านล่าง รีฟอสเดินตามหลังมาสเตอร์ลงไปเมื่อเข้าก้าวตามลงมาเขาก็ต้องแปลกใจทั้งๆที่ ด้านล่างควรจะมืดมิด แต่กลับมีแสงสว่างมาจากกำแพงทั้งสองด้านเป็นแสงสีเขียนอ่อน ทำให้สามารถมองเห็นขั้นบันไดที่ทอดยาวลงไปด้านล่าง ขณะที่รีฟอสกำลังเดินตามมาสเตอร์ลงไปก็เกิดความคิดต่างๆนาๆขึ้นมา แต่ความคิดของรีฟอสก็ต้องหยุดลงเมื่อเท้าของเขาสัมผัสกับบันไดขั้นสุดท้าย มาสเตอร์เดินนำไปที่ประตูบานหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นอย่างแข็งแรง เมื่อมาสเตอร์ดันประตูให้เปิดออกแสงสว่างจากด้านในของบานประตูก็กระทบกับ ความมืดด้านนอก รีฟอสเดินตามมาสเตอร์เข้าไปในห้องที่อยู่ด้านหลังบานประตู เมื่อเดินเข้ามา สภาพภายในห้องที่เขา เห็นคือ ห้อง
สี เหลี่ยมขนาดใหญ่ มีชั้นวางหนังสืออยู่หลายชั้น และที่พื้นของห้องก็ยังมีกองหนังสือถูกวางอยู่อีกหลายกอง มาสเตอร์เดินผ่านกองหนังสือเหล่านั้น ไปนั่งที่โต๊ะสีดำตัวใหญ่ที่ตั้งเด่นสง่าอยู่กลางห้อง รีฟอสเงยหน้าขึ้นมองเพดานของห้อง ที่มีแสงสว่างไม่ต่างอะไรไปจากยามกลางวัน พร้อมๆกับเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่ตั้งอยู่หน้าโต๊ะสีดำ แล้วจ้องมองมาสเตอร์ที่กำลังค้นหาอะไรบางอย่างที่อยู่ใกล้ๆกับโต๊ะ สักพักหนึ่งมาสเตอร์ก็หยิบหนังสือสีขาวเล่มใหญ่เล่มหนึ่งขึ้นมาวางบนโต๊ะ รีฟอสจ้องมองหนังสือเล่นนั้น แล้วสังเกต ว่าหน้าปกของหนังสือเป็นสีขาวบนหน้าปกสีขาวมีตัวอีกษรสีทองเขียนอยู่ว่า “ธอธ(Thoth)” มาสเตอร์เปิดหนังสือออกแล้วพลิกหาหน้าที่ต้องการอยู่พักหนึ่ง แล้วอ่านประโยคประโยคหนึ่งให้รีฟอสฟัง
“หนังสือปกสีดำ อันมืดมิด ประดุจไร้แสงสว่าง ผู้ครอบครองจะกำหนดซะตาของทุกสรรพสิ่ง” เมื่อมาสเตอร์อ่านจบก็ส่งรูปคืนให้กับรีฟอส พร้อมๆกับถามขึ้น
“รีฟอส เธอรับงานนี้มาจากใคร จ๊ะ”ด้วยน้ำเสียงที่สงสัย
“รับมาจาก คนชื่อ คาราส ครับ” “แต่คาราสน่าจะถูกสั่งมาอีกที จากคนที่อยู่ในคฤหาสน์กลางป่าครับ” มาสเตอร์พยักหน้ารับ
“รีฟอส อย่างรับงานนี้เลยนะจ๊ะ” รีฟอสจ้องมองหน้าคนพูดด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ทำไมล่ะครับ” มาสเตอร์นิ่งไปชั่วครู่หนึ่งแล้วอธิบายขึ้น
“หนังสือ เล่มสีขาวเล่มนี้”รีฟอสจ้องมองหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ถูก ตั้งชื่อตามเทพผู้สร้าง” “ซึ่งเล่มนี้เป็นฉบับคัดลอก ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่เล่น” มาสเตอร์เว้นช่วงแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวนจนรีฟอสรู้สึกได้
“เนื้อหา ในหนังสือจะกล่าวถึงรายละเอียดต่างๆของสิ่งของที่ เทพผู้สร้าง สร้างขึ้น” มาสเตอร์ก้มลงมองหนังสือแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ถ้าหากหนังสือ ที่อยู่ในรูปถ่าย เป็นเล่มเดียวกันกับถูกกล่าวในหนังสือเล่มนี้” มาสเตอร์เอามือวางบนหนังสือพร้อมๆกับพูดต่อด้วยน้ำเสียงเชิงขอร้อง
“รีฟอส อย่ารับงานนี้ เลยนะจ๊ะ” พร้อมๆ กับจ้องมองรีฟอส รีฟอสมองสบตามาสเตอร์ก็เห็นแววตาที่ห่วงใยอยู่ภายใน ก็คิดในใจว่า งานนี้ต้องมีอะไรสักอย่างแน่ไม่อย่างนั้นมาสเตอร์คงไม่ห้ามหรอก
“มาสเตอร์ ครับ ผมต้องการงานนี้” “เพราะถ้างานนี้สำเร็จความฝันของผมจะเป็นจริง” มาสเตอร์มองสบตา
รีฟอสแล้วเห็นสายตาที่มุ่งมั่นก็ถอนหายใจ
“ไม่ว่ายังไงก็จะรับงานนี้ให้ได้ ใช่มั้ย จ๊ะ” รีฟอสยิ้มรับ
“กำหนดเวลาส่งของ ล่ะจ๊ะ”
“ 1 อาทิตย์หลังจากนี้ครับ” มาสเตอร์ทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง
“ฉัน เองก็รู้เพียงแค่ว่า หนังสือเล่มที่ว่ามานี้อยู่ในเมือง เท่านั้นเองจ๊ะ” “ส่วนรายละเอียดอื่นๆไม่ทรายเลยจ๊ะ” เมื่อ รีฟอสได้ยินสิ่งที่มาสเตอร์บอกก็มีสีหน้าผิดหวังทันที เพราะถ้าคนที่หาข่าวเก่งที่สุดในเมืองแล้วไม่รู้ใครจะรู้ เมื่อมาสเตอร์เห็นสีหน้าของรีฟอสก็ยิ้มขึ้นแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ
“ขอเวลา หาข่าว สัก 2-3 วันนะจ๊ะ” “ต้องได้อะไรบ้างล่ะจ๊ะ” เมื่อมาสเตอร์พูดจบรีฟอสก็ยิ้มรับอย่างมีความหวัง
เมื่อคุยธุระกับมาสเตอร์เสร็จแล้ว มาสเตอร์และรีฟอสก็เดินกลับเข้ามาในบาร์ พอมาถึงด้านในร้าน
เทีย น่าก็รีบเดินมาบอกว่า มีคนมาคอยอยู่ รีฟอสหันมองรอบๆร้านพบว่าไม่มีแขกอยู่เลยมีเพียง กลุ่มชายหญิงกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางร้าน มาสเตอร์เดินนำรีฟอสเข้าไปทักทายกลุ่มชายหญิงที่นั่งอยู่ รีฟอสเดินตามมาสเตอร์ไปแล้วมองที่โต๊ะ ว่ามี ชายสองคน และหญิง หนึ่งคนนั่ง อยู่ เมื่อมาสเตอร์เดินมาถึงโต๊ะ ก็เอ่ยทักทายทุกคน “สวัสดี จ๊ะ” ทุกคนในโต๊ะต่างหันมองที่มาของต้นเสียงที่ทักทายพวกตนเอง ราทารี่ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มทักทายกลับเป็นคนแรก
“สวัสดีค่ะ มาสเตอร์” พร้อมๆ กับยิ้มให้มาสเตอร์ด้วยท่าทางน่ารัก รีฟอสจ้องมองผู้หญิงที่ทักทายมาสเตอร์ เธอมีผมสั้นสีดำ ดวงตาสีดำกลมโต ผิวสีขาวแต่ไม่ขาวมาก ตัวไม่สูงมาก ใส่เสื้อแขนสั้นสีดำ จัดว่าน่ารักแบบเด็กวัยรุ่น ขณะที่ชายหนุ่มที่เหลืออีกสองคนกำลังจะเอ่ยทักทายมาสเตอร์ มาสเตอร์ก็หันมาทางรีฟอส
“คนที่นั่งข้างๆราทารี่ เขาชื่อ มาคราส จ๊ะ” รี ฟอสหันมองชายหนุ่มที่มาสเตอร์แนะนำ เป็นชายหนุ่ม ผมสั้นสีแดง ตาสีฟ้า ผิวคล้ำ รูปร่างกำยำ ออกแนวคล้ายๆกับพวกทหาร รีฟอสหันมองชายหนุ่มอีกคนที่เหลือ เขาใส่เสื้อคลุมสีดำจนถึงศีรษะ ใส่แว่น หน้าตาสะอาดสะอ้าน แต่ดวงตาสีดำที่อยู่หลังแว่นดูเหม่อลอย ดูเป็นพวกนักวิชาการมากกว่าจะมาทำงานผิดกฎหมาย อายุไม่น่าจะเกิน 30 มาสเตอร์แนะนำว่าเขา ชื่อ “เจราส” หลัง จากที่มาสเตอร์แนะนำทุกคนให้รีฟอสรู้จักแล้วก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ปล่อย ให้รีฟอสได้ทักทายกับเพื่อนร่วมทีม รีฟอสลากเก้าอี้ออก แล้วนั่งลง พร้อมๆกับแนะนำตัวเอง
“สวัสดีครับ ผมชื่อ รีฟอส” ทั้ง สามคนต่างจ้องมองเด็กหนุ่มที่แนะนำตัวเอง เพราะว่า รีฟอสนั้นดูเด็กเกินกว่าที่จะมารับทำงานอันตราบแบบนี้ รีฟอสหันมองหน้าผู้สนทนาทั้ง สามคนแล้วพูดต่อ
“ผมมีงานมาเสนอพวกคุณ” มาครอสจ้องมองหน้าผู้พูด
“นายนี้นะจะเอางานมาเสนอพวกฉัน” เมื่อพูดจบก็หัวเราะขึ้นทันที
“หวังว่าคงไม่ใช่ งานตามหาตุ๊กตา นะ”พร้อมๆกับจ้องมองรีฟอสด้วยสายตาดูถูก รีฟอสยิ้มรับแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบายๆ
“ถ้านายถนัดงานตามหาตุ๊กตา ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก”
เมื่อ ราทารี่ได้ยินสิ่งที่รีฟอสพูดขึ้นมา ก็หัวเราะออกมา ส่วนเจราสก็ขยับยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างพอใจ มาครอสจ้องมองรีฟอสด้วยสายตาไม่พอใจเพราะรีฟอสทำให้เขากลายเป็นตัวตลก มาครอสลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมๆกับปล่อยหมัดเข้าใส่ใบหน้ารีฟอส แต่ก่อนที่หมัดของมาครอสจะทันได้สัมผัสถูกใบหน้าของรีฟอส กลับถูกหยุดโดยเจราส เจราสจับข้อมือของมาครอสก่อนที่หมัดของมาครอสจะถึงใบหน้าของรีฟอสอีกเพียง นิดเดียว มาครอสหันมองเจราสด้วยสีหน้าที่แปลกใจ เพราะหมัดของตนเองถูกหยุดโดยคนที่ทางทางไม่น่าจะแข็งแรงมากขนาดนั้น มาครอสสะบัดมือให้หลุดจากการจับของเจราส ราทารี่นั่งมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ ขยับยิ้มขึ้นที่มุมปาก มาครอสจ้องมองเจราสด้วยสายตาไม่พอใจ พร้อมๆกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่โมโห
“นายเข้ามายุ่งทำไม ไอ้เด็กนี้มันปากเสีย” แล้ว จ้องมองไปทางรีฟอสที่นั่งอยู่ด้วยท่าทางสบายใจเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิด ขึ้น เจราสมองสบตากับมาครอสแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“นายคิดว่า จะทำให้เด็กคนนี้เจ็บตัวได้หรอ” แล้วยิ้มให้มาครอส มาครอสจ้องมองหน้าคนพูด
“นั้นสินะ ไม่ลองก็ไม่รู้” พร้อมๆกับปล่อยหมัดเข้าใส่รีฟอสอีกครั้ง
แต่ คราวนี้ เจราสกลับยืนมองดูเฉยๆพร้อมทั้งขยับยิ้มขึ้นที่มุมปากเล็กน้อย รีฟอสลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมๆกับถอยไปด้านหลังเพื่อให้พ้นรัศมีของหมัด แล้วปัดหมัดของมาครอสลงบนโต๊ะ ดัง “ตึ้ง” มา ครอสรู้สึกเจ็บที่มือทันที แต่เมื่อมาครอสรู้สึกตัวอีกทีรีฟอสก็มายืนด้านหลังตนเองแล้ว มาครอสยืนนิ่งแต่มือกับค่อยๆยื่นไปจับปืนที่อยู่ข้างๆเอว ราทารี่สังเกตเห็นว่า รีฟอสกำลังเอามีดเล็กจ่อที่ท้ายทอยมาครอสอยู่ จึงยื่นมือไปทาบลงบนมือของมาครอสก่อนที่เขาจะทันได้สัมผัสถูกด้ามของปืน แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ถ้านายใช้ปืน เรื่องมันจะไม่จบแค่นี้นะ” มาครอสหันมองหน้าคนพูด แล้วสังเกตุ้ห็นสีหน้าของเธอบอกเป็นในๆว่า “ถ้านายไม่หยุด ฉันจะร่วมด้วย” มาครอสมองสบตาราทารี่ก็รู้ว่าเธอเอาจริง จึงยิ้มรับแล้วนั่งลงตามเดิม
“ก็ ได้ ฉันเห็นแก่เธอหรอกนะ” ราทารี่ก็ยิ้มรับ รีฟอสจ้องมองมาทางราทารี่ แล้วคิดในใจว่า “ผู้หญิงคนนี้มีอะไรมาก กว่าที่ตาเห็น” แล้ว เดินกลับไปนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม มาสเตอร์ที่อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์เฝ้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็ ขยับยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ