The Book Of Darkness
VII
ทางด้านคฤหาสน์โรมานอฟ ชายแก่กำลังเดินไปเดินมาด้วยอารมณ์โมโห อยู่ภายในห้องโถง แล้วมาหยุดยืนมองแท่นหินที่ว่างเปล่า “พวกหนูโสโครกมันต้องชดใช้ ที่บังอาจมาขโมยของของข้า” ด้วยน้ำเสียงที่อาฆาตแค้น บุรุษชุดดำเดินเข้ามาหาชายแก่
“อย่ากังวนไปเลยนายท่าน” ชายแก่หันมองบุรุษหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆตนเอง
“หนังสือเล่มนั้น ไม่มีใครเหมาะสมที่จะครอบครองมัน เท่านายท่านอีกแล้ว” เมื่อชายแก่ได้ยินที่บุรุษหนุ่มบอกก็หัวเราะขึ้นมา
“นั้นสินะ หนังสือเล่มนั้นมัน คู่ควรจะอยู่กับข้าไม่ใช้ พวกหนูโสโครกพวกนั้น”เมื่อพูดจบก็หัวเราะต่อ บุรุษหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ๆชายแกยิ่งกว่าเดิม
“นายท่าน” ชายแก่หยุดหัวเราะแล้วหันกลับมามองคนที่เรียกตนเอง
“ผม ยังไม่ได้สิ่งตอบแทน ที่นำข่าวมาแจ้งนายท่านเลย” ชายแก่ได้ยินสิ่งที่บุรุษหนุ่มพูดขึ้นก็หัวเราะออกมาพร้อมๆกับจ้องมองบุรุษ หนุ่ม “นึกว่าเรื่องอะไร” แล้วหันไปสั่งคนรับใช้ให้นำของมีค่ามา บุรุษหนุ่มมองชายแก่แล้วยิ้มขึ้น พร้อมๆกับดึงดาบออกมาจากกำไลข้อมือของตนเอง แล้วแทงเข้าที่ชายแก่ โดยที่ชายแก่ไม่ทันได้ตั้งตัว แล้วกระซิบขึ้นที่ข้างๆหูของชายแก่
“สิ่งตอบแทน ขอเป็นวิญญาณของนายท่านก็แล้วกันนะครับ” แล้วดึงดาบออกจากตัวชายแก่ ชายแก่เอามือกุมท้องแล้วทรุดลงกับพื้นทันทีพร้อมกับจ้องมองบุรุษหนุ่มที่ยืน อยู่เบื้องหน้าตนเองด้วยแววตาเครียดแค้น รายกายของชายแก่ค่อยๆสลายกลายเป็นขี้เถ้าไป เหลือไว้แต่เพียง ลูกแก้วสีดำตรงกลางลูกแก้วมีก้อนผลึกสีส้มอยู่ ลอยอยู่ในระดับสายตาของบุรุษหนุ่ม บุรุษหนุ่มยื่นมือไปหยิบลูกแก้วสีดำ พร้อมๆกับบ่นพึมพำขึ้น “แค่ ความละโมบ เองหรอกหรอ” แล้วถอนหายใจ พร้อมๆกับหยิบลูกแก้วสีดำที่ลอบอยู่กินเข้าไป พวกยามที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ต่างตกตะลึงทำอะไรไม่ถูกจึงรีบวิ่งหนีกันไปคนละทิศ ละทาง บุรุษหนุ่มยืนมองพวกยามที่กำลังวิ่งหนีเอาตัวลอดด้วยสายตาสมเพช แล้วหยิบการ์ดสีดำออกมาจากกำไลข้อมือแล้วโยนไปด้านหน้า การ์ดสีดำลอยอยู่กลางอากาศแล้วแตกออกกลายเป็น อุโมงค์ สีดำลอยอยู่กลางอากาศ ชั่วครู่หนึ่งก็มีสิ่งมีชีวิตใส่ผ้าคุมขาดๆสีดำ มือมีแต่กระดูกถือเคียว ไม่มีเท้าลอยอยู่กลางอากาศ ดวงตาสีแดงฉานอยู่ภายใต้ผ้าคลุม ทยอยกันออกมาจากอุโมงค์สีดำ เป็นจำนวนมาก บุรุษหนุ่มเดินไปที่หน้าต่าง แล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แล้วหันกลับมามองพวกตัวที่ใส่ผ้าคลุมสีดำ
“จัดการ เมือง นี้ซะ” ด้วยน้ำเสียงที่สนุกสนาน เหล่าตัวที่ใส่ผ้าสีดำ ต่างทยอยกันออกจากบริเวณคฤหาสน์ มุ่งหน้าไปทางตัวเมือง บุรุษหนุ่มเดินออกมาด้านนอกตัวคฤหาสน์ แล้วลอยขึ้นมากลางอากาศ จ้องมองดูเหล่าตัวที่สวมผ้าคลุม ที่กำลังมุ่งหน้าไปทางตัวเมืองก็ขยับยิ้มขึ้น สายลมพัดพาหมู่เมฆยามราตรีที่ บดบังดวงจันทร์ออก เผยให้เห็นดวงจันทร์กลมมนสีแดงฉาน และทางฟ้าสีแดงราวกลับเลือด ในยามราตรีนี้ พร้อมกับสายลมแห่งความตาย ที่กำลังพัดเข้าสู่เมือง ราเทียน่า อย่างเงียบงัน......
พวกรีฟอสเมื่อวิ่งมาถึงตัวเมืองก็ได้ยินเสียงงานเทศการดังมาจากบริเวณทาง ด้านจัตุรัส รีฟอสจึงบอกทั้งสองคนให้แยกกันหนี แล้วคืนพรุ่งนี้เจอกันที่ ราเบอรี่บาร์ ราทารี่ และ เจราส ต่างพยักหน้ารับแล้ววิ่งไปคนละทาง รีฟอสวิ่งไปทางจัตุรัสเพื่อนำของไปส่งที่ บาร์ในตัวเมือง เมื่อเริ่มเข้าใกล้บริเวณจัตุรัส ผู้คนก็เริ่มมากขึ้น รีฟอสเดินผ่านผู้คนมากมายมาจนถึง จัตุรัสใจกลางเมือง ขณะที่กำลังจะดินต่อไป กลับมีเสียงเรียกชื่อตนเองดังขึ้น
“รีฟอส รีฟอส” รีฟอสหันมองต้นเสียงที่เรียกตนเองทันที เมื่อหันมาก็พบว่าคนที่เรียกตนเองคือ เทียน่า
เทียน่าเมื่อเห็นรีฟอสหยุดเดินก็รีบเดินเข้ามาหารีฟอส พร้อมกับถามรีฟอสขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สงสัย
“เธอ จะรีบไปไหน” รีฟอสจ้องมองเทียน่าที่ยืนอยู่แล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ทำไม เธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ” เทียน่ามีสีหน้างงๆเมื่อรีฟอสถาม
“ฉันก็ มาเดินเที่ยวงานกับคุณแม่ น่ะสิ” แล้วหันไปมองมาสเตอร์ที่กำลังเดินเข้ามา มาสเตอร์เห็นรีฟอสที่มีท่าทางระวังตัวก็ถามขึ้น
“ทำไมเธอ มาอยู่ที่นี่ล่ะจ๊ะ” พร้อมๆกับจ้องมองรีฟอสเพื่อรอฟังคำตอบ แต่ไม่ทันที่รีฟอสจะได้ตอบคำถามของมาสเตอร์
ก็ มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาแต่ไกล ผู้คนต่างวิ่งหนีกันอลหม่าน เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาเป็นระยะๆขณะที่เทียน่ากำลังตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้น ก็มีคนวิ่งเข้ามาชนเทียน่าจนล้มลง เมื่อรีฟอสเห็นเทียน่าล้มลงก็ทิ้งห่อผ้าที่ถือยู่ แล้วรีบไปพยุงเทียน่าลุกขึ้น ขณะที่กำลังพยุงเทียน่าลุกขึ้นยืนรอบๆบริเวณที่มาสเตอร์และเทียน่ายืนอยู่ก็ ปราศจากผู้คน รีฟอสหันมองรอบๆบริเวณที่ยืนอยู่ที่บัดนี้กลับไร้ผู้คน แต่ยังคงได้ยินเสียงกรีดร้องลอยมาตามสายลม เป็นระยะๆ
“ไม่เป็นอะไร นะ” รีฟอสถามเทียน่าที่ยืนอยู่ข่างๆด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง แล้วหันมองมาทางมาสเตอร์ที่กำลังหันมองรอบๆบริเวณอยู่
“รีบ ไปจากที่ นี่กันเถอะ ครับ” มาสเตอร์ก็พยักหน้า เห็นด้วย รีฟอสคว้ามือเทียน่าแล้วกำลังจะเดินออกจากบริเวณจัตุรัส แต่กลับมีบุรุษหนุ่มปรากฏตัวขึ้นมายืนขวางทางเอาไว้
“จะรีบไป ไหนกัน” รีฟอสมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็จำได้ทันที่ว่าเขาเคยเจอที่คฤหาสน์ของ โรมานอฟ รีฟอสเอ่ยถามชายหนุ่มชุดดำขึ้นทันที
“นายต้องการ อะไร” บุรุษหนุ่มก็หัวเราะขึ้น แล้วชี้ไปที่ห่อผ้าที่ตกอยู่ใกล้ๆกับรีฟอส รีฟอสก้มลงเก็บห่อผ้าขึ้นมาถือไว้ในเมื่อ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ พวกตัวสวมผ้าคลุมขาดๆสีดำ ดวงตาแดงฉาน ในมือถือเคียว กำลังล้อมพวกรีฟอสอยู่ เทียน่าขยับเข้ามาใกล้รีฟอส มือของเทียน่าที่จับรีฟอสอยู่นั้นกำลังสั่น จนรีฟอสรู้สึกได้ รีฟอสจึงหันมากระซิบบอกเทียน่าเบาๆ
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะปกป้องเธอ เองไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” เทียน่ามองสบตารีฟอส ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก บุรุษหนุ่มจ้องมองรีฟอสด้วยท่าทางสนใจ
“เจ้าหนุ่ม” รีฟอสหันมองต้นเสียงที่เอ่ยเรียกตนเอง
“ทำไม ข้าถึงสัมผัสความกลัวไม่ได้จากตัวเจ้าเลย” พร้อมๆกับมอง รีฟอสด้วยสายตาสนอกสนใจ
“ปกติ พวกมนุษย์ จะเป็นสิ่งโสโครก ถ้าเจอสิ่งที่อ่อนแอกว่าก็จะอวดเบ่ง” “แต่ถ้าเจอสิ่งที่ตัวเองหวาดกลัว ก็จะหลีกหนี” พร้อมๆกับเดินเข้ามาใกล้ๆรีฟอส
“แต่เจ้าหนุ่ม นายไม่เหมือนมนุษย์ทั่วๆไป ทั้งๆที่รู้ว่ายังไงก็ ไม่มีทางลอด แต่นายก็ยังไม่หลีกหนี” เมื่อพูดจบก็ยื่นมือมาตรงหน้ารีฟอส
“ส่งหนังสือเล่มนั้นมาซะ แล้วมากับข้า” ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง รีฟอสหันมองรอบๆบริเวณก็รู้ว่าไม่มีทางเลือกจึงส่งห่อผ้าให้ แต่ก่อนที่บุรุษหนุ่มจะทันได้จับห่อผ้า กลับมีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ตกลงมา ตรงบริเวณที่บุรุษหนุ่มยืนอยู่ แต่เขากลับหลบพ้น รีฟอสเห็นเช่นนั้นจึง ไม่รอช้า ขว้างมีดออกไปหวังจะจบชีวิตบุรุษหนุ่มในทันที มีดของเขาเข้าเป้าทั้งหมด บุรุษชุดดำล้มลงกับพื้นทันที รีฟอสหยิบมีดขึ้นมาเตรียมไว้ในมือ แล้วจ้องมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่กลับมีคนกระโดดลงมายืนข้างๆรีฟอสแทน ด้วยสันชาติญาณ รีฟอสจึงเหวี่ยงมีดไปด้านข้างทันที แต่ปลายมีดกลับถูกหยุดด้วยสิ่งที่คล้ายกับไม้เท้า
“ใจเย็นๆรีฟอส” รีฟอสดึงมีดออกจากไม้เท้าแล้วหันมอง ชายหนุ่มที่กระโดดลงมายืนข้างๆตนเอง
“เจราส” ขณะที่รีฟอสกำลังตกตะลึงกับการปรากฏตัวของเจราส กลับมีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากชายชุดดำที่นอนอยู่ พร้อมๆกับกำลังพยุงตัวเองลุกขึ้นยืน แล้วยกมือขึ้นดึงมีดออกจากใบหน้าของตัวเอง พร้อมๆกับจ้องมองมาทางรีฟอสด้วยสายตาที่ถูกใจยิ่งกว่าเดิม
“ชักถูกใจเข้าไป อีกล่ะชิ นอกจากจะไม่เกรงกลัวพวกเราแล้ว ยังใจเย็นจนสามารถเล่นงานข้าคนนี้ได้ด้วย” เมื่อพูดจบก็ขว้างมีดเข้าใส่เทียน่าทันที เมื่อรีฟอสเห็นเช่นนั้นก็เอาตัวเองเข้ามาขวางทางมีด ปลายมีดจึงปักเข้าที่หน้าอกของรีฟอสทันที ชายชุดดำมองการกระทำของรีฟอสด้วยสายตาสมเพช
“มนุษย์ ก็ยังคงเป็น มนุษย์ อยู่วันยังค่ำ” รีฟอสล้มลงกับพื้นทันที เทียน่าเมื่อเห็นรีฟอสล้มลงก็รีบเข้ามาประคองรีฟอสทันที แล้วมองรีฟอสที่กำลังเจ็บปวดอยู่ น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง หยดลงบนใบหน้าของรีฟอส ชายชุดดำหันมองมาทางเจราส
“นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอ กับ พวกยมทูตที่เมืองนี้” เจราสจ้องมองชายชุดดำที่พูดขึ้น
“ฉันเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจะได้เจอกับ พวก ผู้บงการ (Dictator) ที่นี่” ชายชุดดำยิ้มรับแล้วพูดต่อ
“ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่แน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ เหมือนที่พวกนายชอบพูดไง” ด้วยน้ำเสียงที่สนุกสนาน
“นั้น สิ นะ” เจราสหยิบการ์ดสีดำออกมาจากกำไลข้อมือ แล้วโยนออกมาด้านหน้า เมื่อชายชุดดำเห็นสิ่งที่
ปีกนางฟ้า (Angel Wing) The Book Of Darkness VII
The Book Of Darkness
VII
ทางด้านคฤหาสน์โรมานอฟ ชายแก่กำลังเดินไปเดินมาด้วยอารมณ์โมโห อยู่ภายในห้องโถง แล้วมาหยุดยืนมองแท่นหินที่ว่างเปล่า “พวกหนูโสโครกมันต้องชดใช้ ที่บังอาจมาขโมยของของข้า” ด้วยน้ำเสียงที่อาฆาตแค้น บุรุษชุดดำเดินเข้ามาหาชายแก่
“อย่ากังวนไปเลยนายท่าน” ชายแก่หันมองบุรุษหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆตนเอง
“หนังสือเล่มนั้น ไม่มีใครเหมาะสมที่จะครอบครองมัน เท่านายท่านอีกแล้ว” เมื่อชายแก่ได้ยินที่บุรุษหนุ่มบอกก็หัวเราะขึ้นมา
“นั้นสินะ หนังสือเล่มนั้นมัน คู่ควรจะอยู่กับข้าไม่ใช้ พวกหนูโสโครกพวกนั้น”เมื่อพูดจบก็หัวเราะต่อ บุรุษหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ๆชายแกยิ่งกว่าเดิม
“นายท่าน” ชายแก่หยุดหัวเราะแล้วหันกลับมามองคนที่เรียกตนเอง
“ผม ยังไม่ได้สิ่งตอบแทน ที่นำข่าวมาแจ้งนายท่านเลย” ชายแก่ได้ยินสิ่งที่บุรุษหนุ่มพูดขึ้นก็หัวเราะออกมาพร้อมๆกับจ้องมองบุรุษ หนุ่ม “นึกว่าเรื่องอะไร” แล้วหันไปสั่งคนรับใช้ให้นำของมีค่ามา บุรุษหนุ่มมองชายแก่แล้วยิ้มขึ้น พร้อมๆกับดึงดาบออกมาจากกำไลข้อมือของตนเอง แล้วแทงเข้าที่ชายแก่ โดยที่ชายแก่ไม่ทันได้ตั้งตัว แล้วกระซิบขึ้นที่ข้างๆหูของชายแก่
“สิ่งตอบแทน ขอเป็นวิญญาณของนายท่านก็แล้วกันนะครับ” แล้วดึงดาบออกจากตัวชายแก่ ชายแก่เอามือกุมท้องแล้วทรุดลงกับพื้นทันทีพร้อมกับจ้องมองบุรุษหนุ่มที่ยืน อยู่เบื้องหน้าตนเองด้วยแววตาเครียดแค้น รายกายของชายแก่ค่อยๆสลายกลายเป็นขี้เถ้าไป เหลือไว้แต่เพียง ลูกแก้วสีดำตรงกลางลูกแก้วมีก้อนผลึกสีส้มอยู่ ลอยอยู่ในระดับสายตาของบุรุษหนุ่ม บุรุษหนุ่มยื่นมือไปหยิบลูกแก้วสีดำ พร้อมๆกับบ่นพึมพำขึ้น “แค่ ความละโมบ เองหรอกหรอ” แล้วถอนหายใจ พร้อมๆกับหยิบลูกแก้วสีดำที่ลอบอยู่กินเข้าไป พวกยามที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ต่างตกตะลึงทำอะไรไม่ถูกจึงรีบวิ่งหนีกันไปคนละทิศ ละทาง บุรุษหนุ่มยืนมองพวกยามที่กำลังวิ่งหนีเอาตัวลอดด้วยสายตาสมเพช แล้วหยิบการ์ดสีดำออกมาจากกำไลข้อมือแล้วโยนไปด้านหน้า การ์ดสีดำลอยอยู่กลางอากาศแล้วแตกออกกลายเป็น อุโมงค์ สีดำลอยอยู่กลางอากาศ ชั่วครู่หนึ่งก็มีสิ่งมีชีวิตใส่ผ้าคุมขาดๆสีดำ มือมีแต่กระดูกถือเคียว ไม่มีเท้าลอยอยู่กลางอากาศ ดวงตาสีแดงฉานอยู่ภายใต้ผ้าคลุม ทยอยกันออกมาจากอุโมงค์สีดำ เป็นจำนวนมาก บุรุษหนุ่มเดินไปที่หน้าต่าง แล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แล้วหันกลับมามองพวกตัวที่ใส่ผ้าคลุมสีดำ
“จัดการ เมือง นี้ซะ” ด้วยน้ำเสียงที่สนุกสนาน เหล่าตัวที่ใส่ผ้าสีดำ ต่างทยอยกันออกจากบริเวณคฤหาสน์ มุ่งหน้าไปทางตัวเมือง บุรุษหนุ่มเดินออกมาด้านนอกตัวคฤหาสน์ แล้วลอยขึ้นมากลางอากาศ จ้องมองดูเหล่าตัวที่สวมผ้าคลุม ที่กำลังมุ่งหน้าไปทางตัวเมืองก็ขยับยิ้มขึ้น สายลมพัดพาหมู่เมฆยามราตรีที่ บดบังดวงจันทร์ออก เผยให้เห็นดวงจันทร์กลมมนสีแดงฉาน และทางฟ้าสีแดงราวกลับเลือด ในยามราตรีนี้ พร้อมกับสายลมแห่งความตาย ที่กำลังพัดเข้าสู่เมือง ราเทียน่า อย่างเงียบงัน......
พวกรีฟอสเมื่อวิ่งมาถึงตัวเมืองก็ได้ยินเสียงงานเทศการดังมาจากบริเวณทาง ด้านจัตุรัส รีฟอสจึงบอกทั้งสองคนให้แยกกันหนี แล้วคืนพรุ่งนี้เจอกันที่ ราเบอรี่บาร์ ราทารี่ และ เจราส ต่างพยักหน้ารับแล้ววิ่งไปคนละทาง รีฟอสวิ่งไปทางจัตุรัสเพื่อนำของไปส่งที่ บาร์ในตัวเมือง เมื่อเริ่มเข้าใกล้บริเวณจัตุรัส ผู้คนก็เริ่มมากขึ้น รีฟอสเดินผ่านผู้คนมากมายมาจนถึง จัตุรัสใจกลางเมือง ขณะที่กำลังจะดินต่อไป กลับมีเสียงเรียกชื่อตนเองดังขึ้น
“รีฟอส รีฟอส” รีฟอสหันมองต้นเสียงที่เรียกตนเองทันที เมื่อหันมาก็พบว่าคนที่เรียกตนเองคือ เทียน่า
เทียน่าเมื่อเห็นรีฟอสหยุดเดินก็รีบเดินเข้ามาหารีฟอส พร้อมกับถามรีฟอสขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สงสัย
“เธอ จะรีบไปไหน” รีฟอสจ้องมองเทียน่าที่ยืนอยู่แล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ทำไม เธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ” เทียน่ามีสีหน้างงๆเมื่อรีฟอสถาม
“ฉันก็ มาเดินเที่ยวงานกับคุณแม่ น่ะสิ” แล้วหันไปมองมาสเตอร์ที่กำลังเดินเข้ามา มาสเตอร์เห็นรีฟอสที่มีท่าทางระวังตัวก็ถามขึ้น
“ทำไมเธอ มาอยู่ที่นี่ล่ะจ๊ะ” พร้อมๆกับจ้องมองรีฟอสเพื่อรอฟังคำตอบ แต่ไม่ทันที่รีฟอสจะได้ตอบคำถามของมาสเตอร์
ก็ มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาแต่ไกล ผู้คนต่างวิ่งหนีกันอลหม่าน เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาเป็นระยะๆขณะที่เทียน่ากำลังตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้น ก็มีคนวิ่งเข้ามาชนเทียน่าจนล้มลง เมื่อรีฟอสเห็นเทียน่าล้มลงก็ทิ้งห่อผ้าที่ถือยู่ แล้วรีบไปพยุงเทียน่าลุกขึ้น ขณะที่กำลังพยุงเทียน่าลุกขึ้นยืนรอบๆบริเวณที่มาสเตอร์และเทียน่ายืนอยู่ก็ ปราศจากผู้คน รีฟอสหันมองรอบๆบริเวณที่ยืนอยู่ที่บัดนี้กลับไร้ผู้คน แต่ยังคงได้ยินเสียงกรีดร้องลอยมาตามสายลม เป็นระยะๆ
“ไม่เป็นอะไร นะ” รีฟอสถามเทียน่าที่ยืนอยู่ข่างๆด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง แล้วหันมองมาทางมาสเตอร์ที่กำลังหันมองรอบๆบริเวณอยู่
“รีบ ไปจากที่ นี่กันเถอะ ครับ” มาสเตอร์ก็พยักหน้า เห็นด้วย รีฟอสคว้ามือเทียน่าแล้วกำลังจะเดินออกจากบริเวณจัตุรัส แต่กลับมีบุรุษหนุ่มปรากฏตัวขึ้นมายืนขวางทางเอาไว้
“จะรีบไป ไหนกัน” รีฟอสมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็จำได้ทันที่ว่าเขาเคยเจอที่คฤหาสน์ของ โรมานอฟ รีฟอสเอ่ยถามชายหนุ่มชุดดำขึ้นทันที
“นายต้องการ อะไร” บุรุษหนุ่มก็หัวเราะขึ้น แล้วชี้ไปที่ห่อผ้าที่ตกอยู่ใกล้ๆกับรีฟอส รีฟอสก้มลงเก็บห่อผ้าขึ้นมาถือไว้ในเมื่อ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ พวกตัวสวมผ้าคลุมขาดๆสีดำ ดวงตาแดงฉาน ในมือถือเคียว กำลังล้อมพวกรีฟอสอยู่ เทียน่าขยับเข้ามาใกล้รีฟอส มือของเทียน่าที่จับรีฟอสอยู่นั้นกำลังสั่น จนรีฟอสรู้สึกได้ รีฟอสจึงหันมากระซิบบอกเทียน่าเบาๆ
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะปกป้องเธอ เองไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” เทียน่ามองสบตารีฟอส ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก บุรุษหนุ่มจ้องมองรีฟอสด้วยท่าทางสนใจ
“เจ้าหนุ่ม” รีฟอสหันมองต้นเสียงที่เอ่ยเรียกตนเอง
“ทำไม ข้าถึงสัมผัสความกลัวไม่ได้จากตัวเจ้าเลย” พร้อมๆกับมอง รีฟอสด้วยสายตาสนอกสนใจ
“ปกติ พวกมนุษย์ จะเป็นสิ่งโสโครก ถ้าเจอสิ่งที่อ่อนแอกว่าก็จะอวดเบ่ง” “แต่ถ้าเจอสิ่งที่ตัวเองหวาดกลัว ก็จะหลีกหนี” พร้อมๆกับเดินเข้ามาใกล้ๆรีฟอส
“แต่เจ้าหนุ่ม นายไม่เหมือนมนุษย์ทั่วๆไป ทั้งๆที่รู้ว่ายังไงก็ ไม่มีทางลอด แต่นายก็ยังไม่หลีกหนี” เมื่อพูดจบก็ยื่นมือมาตรงหน้ารีฟอส
“ส่งหนังสือเล่มนั้นมาซะ แล้วมากับข้า” ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง รีฟอสหันมองรอบๆบริเวณก็รู้ว่าไม่มีทางเลือกจึงส่งห่อผ้าให้ แต่ก่อนที่บุรุษหนุ่มจะทันได้จับห่อผ้า กลับมีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ตกลงมา ตรงบริเวณที่บุรุษหนุ่มยืนอยู่ แต่เขากลับหลบพ้น รีฟอสเห็นเช่นนั้นจึง ไม่รอช้า ขว้างมีดออกไปหวังจะจบชีวิตบุรุษหนุ่มในทันที มีดของเขาเข้าเป้าทั้งหมด บุรุษชุดดำล้มลงกับพื้นทันที รีฟอสหยิบมีดขึ้นมาเตรียมไว้ในมือ แล้วจ้องมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่กลับมีคนกระโดดลงมายืนข้างๆรีฟอสแทน ด้วยสันชาติญาณ รีฟอสจึงเหวี่ยงมีดไปด้านข้างทันที แต่ปลายมีดกลับถูกหยุดด้วยสิ่งที่คล้ายกับไม้เท้า
“ใจเย็นๆรีฟอส” รีฟอสดึงมีดออกจากไม้เท้าแล้วหันมอง ชายหนุ่มที่กระโดดลงมายืนข้างๆตนเอง
“เจราส” ขณะที่รีฟอสกำลังตกตะลึงกับการปรากฏตัวของเจราส กลับมีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากชายชุดดำที่นอนอยู่ พร้อมๆกับกำลังพยุงตัวเองลุกขึ้นยืน แล้วยกมือขึ้นดึงมีดออกจากใบหน้าของตัวเอง พร้อมๆกับจ้องมองมาทางรีฟอสด้วยสายตาที่ถูกใจยิ่งกว่าเดิม
“ชักถูกใจเข้าไป อีกล่ะชิ นอกจากจะไม่เกรงกลัวพวกเราแล้ว ยังใจเย็นจนสามารถเล่นงานข้าคนนี้ได้ด้วย” เมื่อพูดจบก็ขว้างมีดเข้าใส่เทียน่าทันที เมื่อรีฟอสเห็นเช่นนั้นก็เอาตัวเองเข้ามาขวางทางมีด ปลายมีดจึงปักเข้าที่หน้าอกของรีฟอสทันที ชายชุดดำมองการกระทำของรีฟอสด้วยสายตาสมเพช
“มนุษย์ ก็ยังคงเป็น มนุษย์ อยู่วันยังค่ำ” รีฟอสล้มลงกับพื้นทันที เทียน่าเมื่อเห็นรีฟอสล้มลงก็รีบเข้ามาประคองรีฟอสทันที แล้วมองรีฟอสที่กำลังเจ็บปวดอยู่ น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง หยดลงบนใบหน้าของรีฟอส ชายชุดดำหันมองมาทางเจราส
“นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอ กับ พวกยมทูตที่เมืองนี้” เจราสจ้องมองชายชุดดำที่พูดขึ้น
“ฉันเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจะได้เจอกับ พวก ผู้บงการ (Dictator) ที่นี่” ชายชุดดำยิ้มรับแล้วพูดต่อ
“ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่แน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ เหมือนที่พวกนายชอบพูดไง” ด้วยน้ำเสียงที่สนุกสนาน
“นั้น สิ นะ” เจราสหยิบการ์ดสีดำออกมาจากกำไลข้อมือ แล้วโยนออกมาด้านหน้า เมื่อชายชุดดำเห็นสิ่งที่