ผมละงง ไม่รู้กันจริงๆเหรอว่า ที่เศรษฐกิจไม่ดีในตอนนี้มันเกิดจากอะไร
หลายๆรัฐบาลก่อน เค้าเน้นการบริโภคของปชช.เยอะ
เพราะ IMF เค้าแนะนำมาว่า ทั่วโลกต้องช่วยกัน ช่วยแก้ปัญหา sub prime นะ
IMF เลยบอกเราว่า ยูอะ(ตอนนั้นรัฐบาลพี่มาร์ค) ตอนนั้นหนี้ครัวเรือนน้อยนิ (จำได้ว่าไม่ถึง 50% มั้ง)
กระตุ้นการบริโภคดิ กระตุ้นภายในประเทศเยอะๆ GDP ยูถึงจะหักกลบกับส่งออกที่มันไม่ดีได้
เอา ก็เริ่มเลยตามหลักอเมริกัน ดรีมส์เลย  บ้านหลังแรก บัตรเครดิต เหมือนจะเริ่มผ่อน 0% กันแถวๆนั้นมั้ง
ช่วงนั้นกระตุ้นการบริโภคกันเพลินเลย วัตถุนิยมเริ่มเกิด อยากได้อยากมี
เงินออมเยอะ ไม่มีปัญหา ราคาของใช้จำเป็นเริ่มดีดขึ้นมาบ้าง

มาต่อรัฐบาลต่อไป พี่ปู รถคันแรก ซื้อ 5 ปีห้ามขายจะได้ยกเว้นภาษี เอาซื้อกันใหญ่
ยอดจองล้น ถึงขั้นขายใบจอง ซื้อปีนี้ได้รอรถกันเป็นปี ยอดจองยอดขายถล่มทลาย หนี้เพิ่มกันอีก

บรรดาวัตถุนิยมทั้งหลาย ของแบรนด์เนม มือถือ ของแพงๆ gadget ต่างๆ
จำเป็นหรือไม่ ไม่รู้ รู้แต่อยากมีตามกระแสไปก่อน
ยังไม่รวมถึงเรื่องเที่ยว กิน ดื่มอีก (เดี๋ยวนี้มันจำเป็นเพราะต้องคอยอัพเดทเอาลงโลกโซเชียลกัน ทำเป็นกระแส เดี๋ยวตกเทรนด์)

ผลที่เกิดคือ หนี้บานนนนน ออมหดดดดด
ทำใจเถอะ ทำกันเองทั้งนั้น เตือนกันบ่อยแล้ว

เศรษฐกิจพอเพียง พูดไปเถอะ ภาครัฐแต่ละยุค เอกชนแต่ละที่ แค่เอามาพูดให้มันดูดี ได้หน้าไปงั้น
ลองถามปชช.มั้ย เค้ารู้มั้ยว่า จะพอเพียงยังไง แนะนำให้ความรู้กับปชช.มั้ยว่าทำไง
ถ้าปชช.รู้จริง มันจะเป็นแบบนี้มั้ย

ตอนนี้สังคมไทย กลายเป็นสังคมที่เห็นแก่เงินเป็นใหญ่ ต่างคนต่างหาเงิน
เพราะเมื่อมีเงิน มีทอง มีฐานะ จะได้รับการนับหน้าถือตา จะหามาไงก็ไม่รู้ละ ช่างมัน