เห็นชูธงเรื่องทักแม้วเป็นผู้นำประเทศที่สามารถปลดหนี้ IMF ได้ แถมปลดได้ก่อนกำหนดซะด้วยเจ๋งจุงเบยสาวกตีปีกกันพรึบพรับ แต่สาวกไม่เคยรู้เลยว่าการปลดหนี้ IMF ต่อให้ใครเป็นรัฐบาลช่วงนั้นก็ปลดได้ แต่การโชว์เหนือว่าข้านิ่ปลดหนี้ได้ก่อนกำหนดมันมีผลเสียอะไรบ้าง สาวกไม่เคยมอง ยอมเสียค่าปรับเกือบ 3 พันล้านบาทเพื่อเอาหน้าว่าข้าเก่งเรียกคะแนนนิยมบนความเสียหายของบ้านเมือง ทั้งๆที่ไม่จำเป็นจะต้องรีบชำระหนี้ก่อนกำหนดด้วยซ้ำแต่ก็ทำเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้ตนเอง
ปลดหนี้ IMF ไทยเสียค่าปรับ 2,952 ล้านบาท
ทักษิณ ได้หน้าบนความเสียหายของชาติบ้านเมือง
“ทักษิณ คือ ผู้ปลดแอกไทยจากการเป็นทาส IMF” ด้วยการใช้หนี้ก่อนกำหนด เป็นกลยุทธทางการตลาดที่ประสบผลสำเร็จอย่างยิ่ง โดยการประกาศผ่านทีวีพูลของ ทักษิณ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น พร้อมกับการรณรงค์ให้คนไทยติด “ธงชาติไทย” ไว้หน้าบ้าน ยิ่งทำให้ ทักษิณ เปรียบประดุจเทพเจ้าที่ลงมาโปรดประเทศไทยให้รอดพ้นจากหายนะ จนประกาศอิสรภาพจาก IMF ได้ ทั้งที่ความจริงรัฐบาลชวน 2 ได้ปลดแอกไทยออกจากการควบคุมของ IMF ตั้งแต่การไม่เบิกเงินงวดที่ 9 แล้ว และหากรัฐบาลชวน 2 มีโอกาสได้บริหารต่อก็คงใช้หนี้ IMF ตามกำหนด ไม่ใช้ก่อนกำหนดอย่างที่ ทักษิณ ทำเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อให้ตัวเอง เพราะทำให้ชาติเสียหายในขณะที่ตนเองได้ผลประโยชน์ทางการเมือง
การชำระเงินตามข้อตกลงของ IMF มีขั้นตอนดังนี้
ช่วงปี 41-44 ปลอดการชำระเงินต้นใน 3 ปี ดังนั้นในช่วงที่รัฐบาลชวน 2 บริหารจึงเพิ่งครบกำหนดชำระคืนงวดแรกช่วง ต.ค.43 ส่วนเงินกู้ที่มาจากประเทศต่าง ๆ กำหนดชำระคืนงวดแรกต้นปี 44 โดยในสองส่วนนี้จ่ายในรัฐบาลชวน 2 ซึ่งในขณะนั้นเศรษฐกิจเริ่มมีเสถียรภาพ โดยได้ผลพวงจากการลอยตัวค่าเงินบาททำให้ส่งผลดีส่งออกที่จนงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ
เมื่อรัฐบาลทักษิณเข้ามาบริหารประเทศก็มีการทยอยใช้หนี้ตามลำดับ จนกระทั่งในปี 46 มีการประกาศใช้หนี้จำนวน 4,800 ล้านเหรียญ มีกำหนด 3 งวด ๆ ละ 1,600 ล้าน ก่อนกำหนด ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีแต่เป็นผลเสียมากกว่า เนื่องจากในปี 46 IMF คิดดอกเบี้ยจากไทยเพียงแค่ 0.25 % ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากภายในประเทศเฉลี่ยปีละ 1.5%
ดังนั้นหากเรานำเงิน 4,800 ล้านเหรียญแปลงเป็นเงินไทยในอัตราแลกเปลี่ยนที่ 41 บาทในขณะนั้นจะคิดเป็นไทยได้ 196,800 ล้านบาท หากนำไปฝากธนาคารไว้ 2 ปีโดยไม่ไปชำระหนี้ก่อนกำหนด หักภาษีแล้วประเทศจะมีรายได้จากดอกเบี้ยส่วนนี้ประมาณ 2,460 ล้าน และเสียดอกเบี้ยให้ IMF ตามกำหนด 984 ล้านบาท ยังเหลือกำไร 1,476 ล้านบาท
การปลดไทยจากการเป็นทาส IMF ตามแผนโฆษณาชวนเชื่อทำให้ไทยสูญเสียเงินประเทศชาติให้กับค่าการตลาดทางการเมืองของ ทักษิณ ถึง 2,952 ล้านบาท โดยเป็นผลจากค่าปรับ 2% จำนวน 3,936 ล้านบาท ลดดอกเบี้ยสองปีจาก IMF 984 ล้านบาท หักกับค่าปรับเท่ากับประเทศไทยเสียค่าโง่ในการเชิดชูทักษิณถึง 2,952 ล้านบาท
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือในขณะนั้นไทยไม่ได้มีเงินมากพอที่จะใช้หนี้ IMF ได้ก่อนกำหนด แต่รัฐบาลทักษิณ กลับใช้วิธีการไปกู้เงินบางส่วนจาก ADB ซึ่งดอกเบี้ยสูงกว่า IMF มาจ่ายหนี้ให้ IMF โดยหวังผลทางการเมืองล้วน ๆ ไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของชาติแม้แต่น้อย และยังส่งผลให้หนี้สาธารณะของรัฐบาลทักษิณเพิ่มสูงกว่ารัฐบาลชวน 2 ถึงกว่า 4 พันล้านบาทด้วย
ประเทศไทยสูญเงิน 2,952 ล้านบาทโดยไม่จำเป็น เพื่อให้ ทักษิณ กลายเป็นฮีโร่จากการปลดหนี้ IMF บนความเสียหายของชาติบ้านเมือง และหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นเป็นดินพอกหางหมู รวมทั้งหนี้ของประชาชนก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวจากนโยบายประชานิยมของ ทักษิณ ซึ่งจะได้กล่าวถึงในตอนต่อไป
คนที่คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง ย่อมไม่มีวันคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ
กินปลาแล้วจะฉลาด
แหกทักษิณ!มั่วหลอกสมุนลูกจ๊อกมวลชนกองหนุนตอนใช้หนี้ IMF
ปลดหนี้ IMF ไทยเสียค่าปรับ 2,952 ล้านบาท
ทักษิณ ได้หน้าบนความเสียหายของชาติบ้านเมือง
“ทักษิณ คือ ผู้ปลดแอกไทยจากการเป็นทาส IMF” ด้วยการใช้หนี้ก่อนกำหนด เป็นกลยุทธทางการตลาดที่ประสบผลสำเร็จอย่างยิ่ง โดยการประกาศผ่านทีวีพูลของ ทักษิณ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น พร้อมกับการรณรงค์ให้คนไทยติด “ธงชาติไทย” ไว้หน้าบ้าน ยิ่งทำให้ ทักษิณ เปรียบประดุจเทพเจ้าที่ลงมาโปรดประเทศไทยให้รอดพ้นจากหายนะ จนประกาศอิสรภาพจาก IMF ได้ ทั้งที่ความจริงรัฐบาลชวน 2 ได้ปลดแอกไทยออกจากการควบคุมของ IMF ตั้งแต่การไม่เบิกเงินงวดที่ 9 แล้ว และหากรัฐบาลชวน 2 มีโอกาสได้บริหารต่อก็คงใช้หนี้ IMF ตามกำหนด ไม่ใช้ก่อนกำหนดอย่างที่ ทักษิณ ทำเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อให้ตัวเอง เพราะทำให้ชาติเสียหายในขณะที่ตนเองได้ผลประโยชน์ทางการเมือง
การชำระเงินตามข้อตกลงของ IMF มีขั้นตอนดังนี้
ช่วงปี 41-44 ปลอดการชำระเงินต้นใน 3 ปี ดังนั้นในช่วงที่รัฐบาลชวน 2 บริหารจึงเพิ่งครบกำหนดชำระคืนงวดแรกช่วง ต.ค.43 ส่วนเงินกู้ที่มาจากประเทศต่าง ๆ กำหนดชำระคืนงวดแรกต้นปี 44 โดยในสองส่วนนี้จ่ายในรัฐบาลชวน 2 ซึ่งในขณะนั้นเศรษฐกิจเริ่มมีเสถียรภาพ โดยได้ผลพวงจากการลอยตัวค่าเงินบาททำให้ส่งผลดีส่งออกที่จนงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ
เมื่อรัฐบาลทักษิณเข้ามาบริหารประเทศก็มีการทยอยใช้หนี้ตามลำดับ จนกระทั่งในปี 46 มีการประกาศใช้หนี้จำนวน 4,800 ล้านเหรียญ มีกำหนด 3 งวด ๆ ละ 1,600 ล้าน ก่อนกำหนด ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีแต่เป็นผลเสียมากกว่า เนื่องจากในปี 46 IMF คิดดอกเบี้ยจากไทยเพียงแค่ 0.25 % ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากภายในประเทศเฉลี่ยปีละ 1.5%
ดังนั้นหากเรานำเงิน 4,800 ล้านเหรียญแปลงเป็นเงินไทยในอัตราแลกเปลี่ยนที่ 41 บาทในขณะนั้นจะคิดเป็นไทยได้ 196,800 ล้านบาท หากนำไปฝากธนาคารไว้ 2 ปีโดยไม่ไปชำระหนี้ก่อนกำหนด หักภาษีแล้วประเทศจะมีรายได้จากดอกเบี้ยส่วนนี้ประมาณ 2,460 ล้าน และเสียดอกเบี้ยให้ IMF ตามกำหนด 984 ล้านบาท ยังเหลือกำไร 1,476 ล้านบาท
การปลดไทยจากการเป็นทาส IMF ตามแผนโฆษณาชวนเชื่อทำให้ไทยสูญเสียเงินประเทศชาติให้กับค่าการตลาดทางการเมืองของ ทักษิณ ถึง 2,952 ล้านบาท โดยเป็นผลจากค่าปรับ 2% จำนวน 3,936 ล้านบาท ลดดอกเบี้ยสองปีจาก IMF 984 ล้านบาท หักกับค่าปรับเท่ากับประเทศไทยเสียค่าโง่ในการเชิดชูทักษิณถึง 2,952 ล้านบาท
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือในขณะนั้นไทยไม่ได้มีเงินมากพอที่จะใช้หนี้ IMF ได้ก่อนกำหนด แต่รัฐบาลทักษิณ กลับใช้วิธีการไปกู้เงินบางส่วนจาก ADB ซึ่งดอกเบี้ยสูงกว่า IMF มาจ่ายหนี้ให้ IMF โดยหวังผลทางการเมืองล้วน ๆ ไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของชาติแม้แต่น้อย และยังส่งผลให้หนี้สาธารณะของรัฐบาลทักษิณเพิ่มสูงกว่ารัฐบาลชวน 2 ถึงกว่า 4 พันล้านบาทด้วย
ประเทศไทยสูญเงิน 2,952 ล้านบาทโดยไม่จำเป็น เพื่อให้ ทักษิณ กลายเป็นฮีโร่จากการปลดหนี้ IMF บนความเสียหายของชาติบ้านเมือง และหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นเป็นดินพอกหางหมู รวมทั้งหนี้ของประชาชนก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวจากนโยบายประชานิยมของ ทักษิณ ซึ่งจะได้กล่าวถึงในตอนต่อไป
คนที่คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง ย่อมไม่มีวันคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ
กินปลาแล้วจะฉลาด