คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
รัฐโลกวิสัยโดยแท้จะไม่สนใจศาสนาเลย ถือเอาว่าศาสนาเป็นรสนิยมส่วนตัว กฎหมายในทุกระดับไปจนถึงรัฐธรรมนูญไม่ให้ความสำคัญกับศาสนาใดศาสนาหนึ่งเลย และในสังคมชีวิตจริงๆรัฐก็ไม่ใส่ใจว่าปัจเจกบุคคลจะมีศาสนาใดในทุกๆมิติ รัฐที่มีความเป็นโลกวิสัยมากๆคงหนีไม่พ้นรัฐคอมมิวนิสต์ ประเทศเสรีนิยมที่พัฒนาแล้วในตะวันตกก็ค่อนไปทางโลกวิสัย ประเทศพวกนี้แม้ไม่ได้รังเกียจศาสนาแต่ก็ถือว่า เก็บศาสนาไว้ในบ้านแล้วถือกฎหมายออกมาเดินถนน ความคิดโลกวิสัยมาจากความคิดเสรีนิยมอันมีพื้นฐานมาจากความคิดมนุษยนิยมซึ่งปฏิเสธสิ่งที่เหนือการพิสูจน์ได้ด้วยมนุษย์
ตรงข้ามกับรัฐโลกวิสัยก็คือรัฐศาสนา รัฐส่วนใหญ่ที่ประกาศตัวชัดเจนมั่นคงว่าเป็นรัฐศาสนาคงไม่พ้นศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นศาสนาที่เข้ามาพัวพันกับวิถีชีวิตมนุษย์และสังคมมนุษย์ในแทบทุกมิติการดำเนินชีวิต
ในเรื่องนี้ผมว่าประเทศไทยเราเป็นประเทศก่ำกึ่ง แต่ค่อนไปทางโลกวิสัย ในบางโอกาสก็ประกาศตัวว่าเป็นกลางทางศาสนา ในขณะที่อีกบางโอกาสก็พยายามเอาศาสนาที่ตนเองนิยมเข้ามาเจือปนในระเบียบสังคม
- อย่างเช่น ในรธน.ก็เขียนว่า กษัตริย์ต้องเป็นพุทธมามกะแต่ก็เขียนต่อว่าต้องสนับสนุนศาสนาอื่นด้วย หรือการที่ฝ่ายอนุรักษนิยมสายศาสนาพุทธพยายามผลักดันให้เขียนในรธน.ว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ รวมไปถึงกฎหมายหรือรัฐบัญญัติไปจนถึงรัฐนโยบายสาธารณะ อีกมากมาย เช่น การห้ามขายเหล้าในวันสำคัญของศาสนาพุทธ การประกาศให้วันสำคัญทางศาสนาพุทธเป็นวันหยุดราชการ การมีกฎหมายของรัฐเพื่อการจัดตั้งและจัดการองค์กรทางศาสนาใดๆเช่นพรบ.สงฆ์ แม้แต่งบประมาณแผ่นดินเพื่อการส่งเสริมพระพุทธศาสนา รวมไปถึง จนท.รัฐจะถือเป็นภารกิจเข้าไปจัดการความผิดทางพระธรรมวินัย เช่นจับสึกพระดื่มเหล้า
- ขณะที่อีกแง่นึง ไทยก็มีการกีดกันสถานะและบทบาทขององค์กรทางศาสนาไว้ให้ห่างจากการเมืองได้ดีพอสมควร เช่น การห้ามพระสงฆ์เลือกตั้ง หรือไม่มีพรรคการเมืองทางศาสนา เป็นต้น
ตรงข้ามกับรัฐโลกวิสัยก็คือรัฐศาสนา รัฐส่วนใหญ่ที่ประกาศตัวชัดเจนมั่นคงว่าเป็นรัฐศาสนาคงไม่พ้นศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นศาสนาที่เข้ามาพัวพันกับวิถีชีวิตมนุษย์และสังคมมนุษย์ในแทบทุกมิติการดำเนินชีวิต
ในเรื่องนี้ผมว่าประเทศไทยเราเป็นประเทศก่ำกึ่ง แต่ค่อนไปทางโลกวิสัย ในบางโอกาสก็ประกาศตัวว่าเป็นกลางทางศาสนา ในขณะที่อีกบางโอกาสก็พยายามเอาศาสนาที่ตนเองนิยมเข้ามาเจือปนในระเบียบสังคม
- อย่างเช่น ในรธน.ก็เขียนว่า กษัตริย์ต้องเป็นพุทธมามกะแต่ก็เขียนต่อว่าต้องสนับสนุนศาสนาอื่นด้วย หรือการที่ฝ่ายอนุรักษนิยมสายศาสนาพุทธพยายามผลักดันให้เขียนในรธน.ว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ รวมไปถึงกฎหมายหรือรัฐบัญญัติไปจนถึงรัฐนโยบายสาธารณะ อีกมากมาย เช่น การห้ามขายเหล้าในวันสำคัญของศาสนาพุทธ การประกาศให้วันสำคัญทางศาสนาพุทธเป็นวันหยุดราชการ การมีกฎหมายของรัฐเพื่อการจัดตั้งและจัดการองค์กรทางศาสนาใดๆเช่นพรบ.สงฆ์ แม้แต่งบประมาณแผ่นดินเพื่อการส่งเสริมพระพุทธศาสนา รวมไปถึง จนท.รัฐจะถือเป็นภารกิจเข้าไปจัดการความผิดทางพระธรรมวินัย เช่นจับสึกพระดื่มเหล้า
- ขณะที่อีกแง่นึง ไทยก็มีการกีดกันสถานะและบทบาทขององค์กรทางศาสนาไว้ให้ห่างจากการเมืองได้ดีพอสมควร เช่น การห้ามพระสงฆ์เลือกตั้ง หรือไม่มีพรรคการเมืองทางศาสนา เป็นต้น
แสดงความคิดเห็น
ไทยถือเป็น รัฐโลกวิสัย(Secular state) หรือเปล่าครับ