-  สวัสดีครับ พ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา ชาวก้นครัว และชาวพันทิพ ที่ผ่านเข้ามาดูทุกท่านครับ เนื่องจากว่าผมได้เคยลง รีวิวทำบะหมี่หมูแดง http://ppantip.com/topic/30860341 และในนั้นมีเมนู "หมี่กะทิอุบล" ที่ขุ่นแม่ผมท่านทำให้ทานกันในวันนั้นด้วย และไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีล็อคอินท่านนึงหลังไมค์เข้ามาถามถึงสูตรการทำหมี่กะทิในกระทู้นั้น ขั้นต้นผมได้ตอบหลังไมค์ไปแล้วโดยการโทรไปถามสูตรกับขุ่นแม่ให้เดี๋ยวนั้นเลย แต่ว่าเนื่องจากไม่ได้ให้ขุ่นแม่ของผมทำให้ทานนานแล้ว ระหว่างถามไปก็กลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกไปด้วย ไม่ได้การหล่ะ วันอาทิตย์นี้ (1 ก.พ.58) ก็เลยถือโอกาสขอให้ขุ่นแม่ทำให้ทานอีกครั้ง และครั้งนี้ผมก็ไม่พลาดที่จะขอถ่ายรูปวิธีการทำเพื่อเอามาแชร์ให้ทุกท่านได้ดูเผื่อท่านใดจะสนใจไปทำทานกันเองบ้าง ลองมาดูกันครับ ไม่ยากเลย ถ้าทำแกงต่างๆ ได้ก็น่าจะง่ายสำหรับทุกท่านนะครับ

เครื่องปรุง  ไม่มีอะไรมากครับ (ปริมาณกะเอาเองนะครับ เพราะว่าขุ่นแม่ผมใช้ Sense ล้วนๆเลยครับ อิอิอิ)
- หมูบด วันนี้ใช้ประมาณเกือบ 1 กิโล (จะใช้ไก่บด หรือจะ 2 อย่างผสมกันก็ได้ครับ เคยเห็นบางท่านใส่หมู 3 ชิ้นหั่นชิ้นเพิ่มไปด้วย)
- ถั่วลิสงคั่วบด ตามชอบ
- น้ำตาลทราย และ/หรือ น้ำตาลปี๊ป
- กะทิ รอบนี้ใช้ 1 กิโลครับ
- เส้นเล็กแบบลวก (รอบนี้มี 2 ยี่ห้อ ห่อละครึ่งกิโล ไม่แน่ใจว่าอันไหนอร่อยสุด เลยเอามาทั้ง 2 ยี่ห้อครับเพราะว่าร้านดันบอกว่าอร่อยทั้งคู่)
- เครื่องแกง ก็จะมี พริกแดง, หอมแดง, กระเทียม โขลกให้ละเอียด ความเผ็ดตามชอบครับ (แม่ผมท่านบอกว่าที่จริงก็คือพริกแกงเผ็ดที่ขายตามตลาดเนี่ยแหล่ะ แต่ส่วนตัวที่ท่านตำเองเพราะว่าไม่ค่อยชอบผิวมะกรูดเลยเลือกที่จะตำเองครับ)
- ไข่ไก่ (ตามชอบครับ แต่รอบนี้แม่ผมใช้ไข่เป็ดเพราะว่าซื้อมานานแล้วเหลือเยอะ ปริมาณตามชอบครับใช้มากน้ำแกงก็จะข้นมาก)
- ผักสำหรับทานแกล้ม รอบนี้มีถั่วฝักยาว (หั่นแฉลบบางๆ), กะหล่ำปลีหั่นฝอย และ หัวปลี ครับ



วิธีทำ
1.  เอากะทิตั้งไฟจนเริ่มแตกมันจึงตักแบ่งเอาส่วนที่เป็นหัวกะทิ (ลอยด้านบน)แยกไว้ แล้วเหลือส่วนหางเอาไว้สักเกือบครึ่งหม้อ (ขออภัยที่ไม่มีภาพช่วงนี้ ผมลงมาไม่ทัน ขุ่นแม่เริ่มไปแล้ว)
2.  หลังจากแยกกะทิเป็น 2 ส่วนแล้ว เอาเครื่องแกงลงไปในส่วนของหางกะทิที่อยู่ในหม้อ ตั้งไฟจนเริ่มเดือดและส่งกลิ่นหอม


3.  พอเริ่มเดือดก็ใส่หมูบดลงไป (คนเพื่อไม่ให้มันจับตัวเป็นก้อนด้วยนะครับ)


4.  หลังจากหมูเริ่มสุกและเดือดทั่วแล้วก็เอากะทิอีกส่วนที่เหลือมาใส่ลงไปครับ (ถามแม่ว่าทำไมต้องแยกเป็น 2 ส่วน ท่านบอกว่าแกงทั่วไปไม่ว่าจะเป็นแกงเขียว แกงแดง เขาก็แยกกันทั้งนั้น อันนี้ไม่ทราบว่าจริงมั้ยครับ 555)


5.  พอเริ่มเดือดดีแล้วก็จะเริ่มปรุงรสกันครับ ปรุงรสด้วย เกลือ, น้ำตาล, น้ำปลา รอบนี้แม่ผมใส่น้ำตาลปี๊ป ลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความหอมและหวานนวล ไม่หวานแหลมเกินไป (ไม่ใส่ก็ได้ครับ) ปรุงให้ได้ หวานนำและเค็มตามครับ





6.  หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ ซูเชฟ อย่างผม คือโขลกถั่วลิสงคั่ว ครับ ถ้าโขลกละเอียดมากน้ำก็จะข้นมาก แต่ผมชอบให้เป็นเม็ดถั่วบ้างก็เลยไม่เอาละเอียดมากครับ



7.  ตำเสร็จก็ใส่ถั่วลงไป


8.  “ไข่มั้ยครับไข่ ซื้อมั้ยค้าบบ จะกลับแล้วไข่”  ตีไข่ให้เข้ากัน ไม่ต้องถึงกับฟูครับ เราไม่ได้ทำไข่เจียว อิอิอิ



9.  หลังจากใส่ถั่วไปและมันเริ่มเดือดแล้ว เราก็เทไข่ที่ตีไว้ใส่ลงไป โดยที่ระหว่างใส่นั้นให้คนด้วยนะครับเพื่อไม่ให้ไข่จับตัวกันเป็นก้อน เพราะว่าเราต้องการให้น้ำแกงข้น ไม่ได้ต้องการทานไข่เป็นชิ้นใหญ่ๆ เหมือนไข่หวาน บัวลอย




8.  ตั้งไฟต่ออีกหน่อยรอจนไข่สุกและเดือดอีกครั้ง ก็ปิดไฟ รอเททิ้ง เอ้ย รอเสิร์ฟความร่อยสไตล์ชาวอีสานบ้านเฮาได้เลยครับ
-  ดูความข้นของน้ำแกงกะทิ ไข่และหมูทั้งน้านนนน


-  ลืมไปครับ เอาน้ำตั้งไฟจนเดือด แล้วเอาเส้นเล็กลงไปลวกจนสุก ใส่ชาม (ไม่ได้ถ่ายตอนลวกเส้น หวังว่าคงทำกันได้นะครับ มันยากมว้าก 555) จากนั้นก็เอาผักที่เราเตรียมไว้ใส่ลงไป แล้วตักน้ำกะทิราด (ขุ่นแม่ผมชอบแบบแห้งๆ แต่ผม พี่สาว ภรรยา และขุ่นพ่อ ชอบแบบน้ำนองเต็มตลิ่ง ผลที่ได้คือน้ำกะทิหมดก่อน เส้นเหลือเป็นห่อเลยครับ ดีนะที่ตักแบ่งสำหรับเอาไปทานที่ทำงานได้ 2 มื้อ ไม่งั้นอด) ในรูปที่เห็นเป็นกะละมัง เอ้ย ชาม ของผมเอง แบบว่าใส่จานมันไม่พอครับ นานๆทานที เลยเอาหม้อชาบูมาใส่แทน ขอบอกว่าชามคนทานนะครับไม่ใช่ชามข้าวหมา 555


-  เชิญชิมได้เลยครับ “Bon appétit” [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แปลว่า เซิญแซบเด้อพี่น้อง

หมี่กระแทกตา กันเลยทีเดียว

-  ครับ ก็จบแล้วครับกับเมนูอาหารพื้นเมืองอีสานบ้านเฮา “หมี่กะทิเมืองอุบล” ที่คนทำ (ขุ่นแม่) และขุ่นพ่อของผม พื้นเพมาจาก จว.อำนาจเจริญ (แต่ก่อนก็คืออุบล นั่นเอง) แต่ว่ามาอยู่ กทม. โดนเติบ (นานแล้ว) ประมาณเกือบ 50 ปี ก็หวังว่าท่านที่เข้ามาดูอาจจะได้นำเอาเมนูนี้ไปลองทำทานกันดูนะครับ เชื่อได้ว่าใน กทม. คงหาทานกันได้ยากพอสมควร ลองทำแล้วอร่อยไม่อร่อยยังไงหรือท่านใดมีเคล็ดลับการทำอย่างไรก็เข้ามาแนะนำเพิ่มเติมกันได้ครับ ต้องขออภัยที่ไม่ได้กำหนดสัดส่วนปริมาณเครื่องปรุงมาให้เพราะว่าขุ่นแม่ท่านใช้กำลังภายใน เอ้ย ม่ายช่ายยยย ใช้ความเคยชินล้วนๆ ครับ ซึ่งรีวิวการทำเมนูอาหารในครั้งนี้ สิ่งใดที่เป็นข้อผิดพลาดก็ให้ไปโทษขุ่นแม่ข้าพเจ้า ส่วนสิ่งใดที่ดีข้าพเจ้า จขกท. ขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียว นะครับ..................................

....................!!!!!!!!!!!! เอ้ย ม่ายช่ายยยย อีกและ (มุกฮากริบ) ......... เอาใหม่ สิ่งใดที่ดีขอยกความดีให้กับขุ่นแม่ของข้าพเจ้า ส่วนสิ่งใดที่เป็นข้อผิดพลาด ข้าพเจ้า จขกท. ขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ ครั้งหน้าจะเป็นรีวิวร้านอาหารไหน หรือจะเป็นเมนูใด ขอเชิญติดตามต่อได้ครับ อ้อ ลืมบอกไปว่ารอบนี้รสชาติไม่เผ็ดมาก ถ้าท่านใดที่ชอบเผ็ดกว่านี้ก้เพิ่มเครื่องแกง หรือว่าเติมพริกป่นเพิ่มได้ครับ แต่ว่ารสชาติขอบอกว่า อร่อยมว้ากครับ

ปล.  ขออภัยหากใช้คำที่เป็นภาษาวิบัติ เนื่องจาก จขกท. จงใจเพื่อให้ดูไม่เป็นทางการ ไม่เครียดจนเกินไป และเป็นการเล่นกับท่านผู้อ่านเท่านั้นจึงขออภัยอาจารย์ภาษาไทยในเว็บนี้ด้วย (ปกติ จขกท. จะไม่ใช้) และหากมีการพิมพ์ผิดถ้า จขกท.ตรวจเจอจะแก้ในภายหลัง ถ้าตรวจไม่เจอแล้วไม่ทำให้ความหมายเปลี่ยนก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ โดยความต้องการของ จขกท. นั้นเพราะว่าอยากจะแชร์เมนูอาหารแสนอร่อย ที่นานๆ จขกท. จะมาแชร์สักที (รอบนี้มีคนขอมาครับ อิอิอิ)
ปลล. อาหารจานนี้น่าจะเป็นอาหารสัญชาติทางญวน หรืออาหารเวียดนาม หรือเปล่าผมก็ไม่ทราบได้ แต่เดาเอา ท่านใดพอจะทราบประวัติช่วยเอามาเล่าให้ฟังเป็นวิทยาทานด้วยนะครับ
ปลลล. ที่จริงยังมีรีวิวในสต๊อคอยู่อีก 1 รีวิวที่ยังไม่ได้เริ่มเลยครับ เป็นรีวิวที่ไปเที่ยวตอนปีใหม่ แต่ผมยังไม่ได้รวบรวมรูปจากกล้องต่างๆ เลย จะพยายามทำรีวิวมาให้ทุกท่านได้ติดตามกันต่อไปนะครับ รับรองว่าไม่เกินปีนี้แน่นอน ขอขึ้นหัวข้อไว้ก่อนเป็นการกันลืมกับรีวิว “ทริปฉลองปีใหม่ 5 วัน ณ เกาะพงัน ที่ Long bay Resort กับ Full moon party ในตำนาน” จะเป็นอย่างไรขอเชิญติดตามกันต่อไปนะครับ (จะพยายามนึกให้ออกแล้วเอามารีวิวให้ดูนะครับ)