องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 1
http://ppantip.com/topic/33145515
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/33149824
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 3
http://ppantip.com/topic/33154416
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 4
http://ppantip.com/topic/33158811
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 5
http://ppantip.com/topic/33168197
กระท่อมน้อยนั้นเป็นของชายชราผู้หนึ่ง ชรานั้นชรายิ่ง ราวกับว่าใช้ชีวิตผ่านมาได้ร้อยกว่าปีแล้ว "ท่านตา ข้าพเจ้าขอเพียงน้ำข้าว พอประทังให้ทารกได้รอดชีวิต มันเพิ่งเกิดได้เพียงหนึ่งวัน" สตรีรับใช้นั้นสมเป็นศิษย์สำนักสตรี แม้ไม่งามผุดผาด นับว่ามีรูปลักษณ์ชวนสบายตา ไม่รู้สึกขัดข้องเคอะเขินแต่อย่างใด ฝากฝังให้ดูแลแล้ว จึงหามุมสงบเร่งขจัดพิษในตัว เนื่องจากนางเป็นศิษย์สำนักใช้พิษ ย่อมมีภูมิต้านทานพิษเหนือคนธรรมดา หากแต่วิชาพิษนั้นสูงส่งเกินไป และพลังฝึกปรือของอาจารย์ก็มากเกินไป "หากไม่สามารถขจัดพิษได้หมดใน 3 วัน 3 คืน ย่อมหมดโอกาสขจัดล้างพิษนี้" ด้วยพลังฝีมือของนาง ย่อมไม่สามารถทำอย่างไรได้ มีแต่ต้องงอมือรอความตามประการเดียว
กำหนดนัดอีกเพียงหนึ่งเดือน เมิ่งหยุนจึงเรียกลูกศิษย์ที่บุคลิกเซื่องซืมหากแต่มีแววความเป็นอัจริยะทางการต่อสู้มาพบ "สรรพสิ่งก่อนกำเนิด คือว่างเปล่า จากความคงอยู่ ก็เป็นล่มสลาย มีลดย่อมมีเพิ่ม เช่นเดียวกับพลังภายในย่อมมีร้อนมีเย็น" ซุนเมิ่งหยุน เป็นศิษย์สำนักเน้นกลยุทธ์พิชัยสงครามและการคิดค้นวิชาบู๊ ศิษย์ที่โดดเด่นจึงมีทั้งยอดกุนซือ และ ปรมาจารย์วิชาบู๊ กล่าวได้ว่าเจ้าสำนักซุนนี้เป็นผู้มีความโลภในวิชาความรู้อย่างยิ่ง ด้วยมีความสนใจใฝ่รู้ในเรื่องราวต่างๆ มากเกินไป แม้จะทำได้ดี แต่ในชั่วชีวิตคนธรรมดา ไม่อาจเรียนรู้ได้ทั้งหมด กระนั้นก็ยังตัดสินใจมิได้ว่าต้องการเป็นสุดยอดในด้านใดกันแน่ แท้จริงแล้วความปรารถนาสูงสุดในชีวิตเจ้าสำนักเมฆวายุคือสิ่งใด ก็สุดที่จะมีผู้ใดคาดเดาได้
"รายงานท่านแม่ทัพ เราจับผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นสายลับชนเผ่าได้ แต่มันอ้างว่ารู้จักกับท่านแม่ทัพ" แม่ทัพนั้นโบกมือให้นำตัวผู้ต้องสงสัยเข้ามา ผู้มาเป็นชายหนุ่มเพิ่งพ้นวัยยี่สิบมาไม่นาน สายตาคมกล้า จมูกเป็นสัน รับกับคิ้วดกหนา "นำมันไปประหาร เสียบหัวประจานไว้ที่ด่านชายแดน" บุรุษหนุ่มนั้นเริ่มแสดงอาการกลัวตายขึ้นมา ละล่ำละลักพูด "ไม่ใช่ ข้าพเจ้าไม่รู้จักแล้ว แม่ทัพใหญ่อันใด" เมื่อเป็นคำสั่งสิทธิขาด ผู้ต้องโทษนั้นจึงถูกนำไปประหารตัดศีรษะเสียบประจาน
วันนี้อากาศแจ่มใสเป็นพิเศษ ธิดาสำนักเมฆวายุทั้งคู่ จึงชวนไปเดินเล่นตลาด แม้เป็นบุตรสาวเจ้าสำนักเล็กๆ แต่ยังมีผู้ติดตามถึงสี่คน หนึ่งในนั้นย่อมมีไป่หยุนร่วมขบวนอยู่ด้วย เวลานั้นเป็นเวลาใกล้เที่ยงทั้งหมดจึงชักชวนกันไปยังเหลาเพื่อรับประทานอาหาร ทันใดนั้นก็มีสตรีใส่หมวกมีผ้าแพรคลุมหน้าเดินตรงเข้ามานั่งเพียงผู้เดียว สตรีนั้นงามยิ่ง แม้ผ้าแพรบางจะปกปิดไว้เสียห้าส่วน แต่บุคลิกลักษณะก็บ่งบอก มิต้องถามถึงผิวเนียนราวกับสลักขึ้นจากหยก ดวงตาเจิดจรัสเหมือนเช่นดาวตกจากฟากฟ้า หากจะมีสตรีในเมืองนี้พอทัดเทียมย่อมเป็นหยุนเซียง แต่ทว่านางยังเยาว์เกินไป สัดส่วนรูปร่างจึงเป็นเพียงเด็กหญิงเท่านั้นเอง "ในเมืองน้อยนี้ มิน่าเชื่อว่าจะมีปีศาจราคะ แฝงตัวอยู่มากมาย แม่นางจงระวังตัวไว้" ผู้กล่าวเป็นคุณชายหน้าขาวถือพัดโบก ใบหน้าหล่อเหลาก็จริง หากแต่ซีดเซียว ราวกับมิเคยว่างเว้นการร่ำสุรานารี "ฮาฮา น่าขันยิ่งนัก น่าขันยิ่ง คำเตือนเช่นนี้ เปรียบเสมือนหมาป่ากล่าวเตือนลูกแกะ เจตนานั้นย่อมต้องไม่มีดี" ผู้พูดเป็นชายร่างใหญ่ หยาบกร้าน รอบๆ โต๊ะ นั่งไว้ด้วย ชนชั้นนักเลงกลางตลาด คุณชายที่น่าสงสัยนั้นหุบพัดโดยแรง แล้วจ่อจี้พัดกระดาษแต่โครงเป็นโลหะนั้นไปทางหัวหน้านักเลง
ข้างฝ่ายหยวนจิน แม้อาจารย์จะลากตัวออกมาฝึกปรือได้ทุกวัน แต่ก็หาได้มีใจคร่ำเคร่งฝึกวิชาจนมืดค่ำเช่นแต่ก่อน ส่วนหนึ่งเพราะกำลังกายแทบไม่เหลือ ถึงแม้จะเป็นบุรุษหนุ่มในวัยที่มีพลังล้นเหลือ แต่การฝึกปรือกับชู้รักสูงวัยเป็นประจำย่อมจะทำให้สูญเสียแรงไปไม่ใช่น้อย "อาจารย์ ท่านพอมีวิธีลัดหรือไม่ ข้าพเจ้าไม่มั่นใจในการเอาชัยเลย ศิษย์สำนักเมฆวายุผู้นั้นมีกำลังมหาศาลเหลือเกิน" หวงถู่ซาน ครุ่นคิด หากต้องการเอาชัยเด็ดขาด ไม่ให้ผู้ใดกล้าลบหลู่ตระกูลหยวน อีกทั้งเพื่อขจัดข้อสงสัยในความสามารถของตัวเอง หากต้องสละวิชาก้นหีบสัก หนึ่งถึงสองวิชา ก็จะเป็นไรไป คราครั้งนี้ชัยชนะย่อมเป็นของบุตรคนโตแห่งสกุลหยวน เมื่อคิดดูแล้วไม่ว่ามองมุมใดก็คุ้มค่า
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 6
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/33149824
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/33154416
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/33158811
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 5 http://ppantip.com/topic/33168197
กระท่อมน้อยนั้นเป็นของชายชราผู้หนึ่ง ชรานั้นชรายิ่ง ราวกับว่าใช้ชีวิตผ่านมาได้ร้อยกว่าปีแล้ว "ท่านตา ข้าพเจ้าขอเพียงน้ำข้าว พอประทังให้ทารกได้รอดชีวิต มันเพิ่งเกิดได้เพียงหนึ่งวัน" สตรีรับใช้นั้นสมเป็นศิษย์สำนักสตรี แม้ไม่งามผุดผาด นับว่ามีรูปลักษณ์ชวนสบายตา ไม่รู้สึกขัดข้องเคอะเขินแต่อย่างใด ฝากฝังให้ดูแลแล้ว จึงหามุมสงบเร่งขจัดพิษในตัว เนื่องจากนางเป็นศิษย์สำนักใช้พิษ ย่อมมีภูมิต้านทานพิษเหนือคนธรรมดา หากแต่วิชาพิษนั้นสูงส่งเกินไป และพลังฝึกปรือของอาจารย์ก็มากเกินไป "หากไม่สามารถขจัดพิษได้หมดใน 3 วัน 3 คืน ย่อมหมดโอกาสขจัดล้างพิษนี้" ด้วยพลังฝีมือของนาง ย่อมไม่สามารถทำอย่างไรได้ มีแต่ต้องงอมือรอความตามประการเดียว
กำหนดนัดอีกเพียงหนึ่งเดือน เมิ่งหยุนจึงเรียกลูกศิษย์ที่บุคลิกเซื่องซืมหากแต่มีแววความเป็นอัจริยะทางการต่อสู้มาพบ "สรรพสิ่งก่อนกำเนิด คือว่างเปล่า จากความคงอยู่ ก็เป็นล่มสลาย มีลดย่อมมีเพิ่ม เช่นเดียวกับพลังภายในย่อมมีร้อนมีเย็น" ซุนเมิ่งหยุน เป็นศิษย์สำนักเน้นกลยุทธ์พิชัยสงครามและการคิดค้นวิชาบู๊ ศิษย์ที่โดดเด่นจึงมีทั้งยอดกุนซือ และ ปรมาจารย์วิชาบู๊ กล่าวได้ว่าเจ้าสำนักซุนนี้เป็นผู้มีความโลภในวิชาความรู้อย่างยิ่ง ด้วยมีความสนใจใฝ่รู้ในเรื่องราวต่างๆ มากเกินไป แม้จะทำได้ดี แต่ในชั่วชีวิตคนธรรมดา ไม่อาจเรียนรู้ได้ทั้งหมด กระนั้นก็ยังตัดสินใจมิได้ว่าต้องการเป็นสุดยอดในด้านใดกันแน่ แท้จริงแล้วความปรารถนาสูงสุดในชีวิตเจ้าสำนักเมฆวายุคือสิ่งใด ก็สุดที่จะมีผู้ใดคาดเดาได้
"รายงานท่านแม่ทัพ เราจับผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นสายลับชนเผ่าได้ แต่มันอ้างว่ารู้จักกับท่านแม่ทัพ" แม่ทัพนั้นโบกมือให้นำตัวผู้ต้องสงสัยเข้ามา ผู้มาเป็นชายหนุ่มเพิ่งพ้นวัยยี่สิบมาไม่นาน สายตาคมกล้า จมูกเป็นสัน รับกับคิ้วดกหนา "นำมันไปประหาร เสียบหัวประจานไว้ที่ด่านชายแดน" บุรุษหนุ่มนั้นเริ่มแสดงอาการกลัวตายขึ้นมา ละล่ำละลักพูด "ไม่ใช่ ข้าพเจ้าไม่รู้จักแล้ว แม่ทัพใหญ่อันใด" เมื่อเป็นคำสั่งสิทธิขาด ผู้ต้องโทษนั้นจึงถูกนำไปประหารตัดศีรษะเสียบประจาน
วันนี้อากาศแจ่มใสเป็นพิเศษ ธิดาสำนักเมฆวายุทั้งคู่ จึงชวนไปเดินเล่นตลาด แม้เป็นบุตรสาวเจ้าสำนักเล็กๆ แต่ยังมีผู้ติดตามถึงสี่คน หนึ่งในนั้นย่อมมีไป่หยุนร่วมขบวนอยู่ด้วย เวลานั้นเป็นเวลาใกล้เที่ยงทั้งหมดจึงชักชวนกันไปยังเหลาเพื่อรับประทานอาหาร ทันใดนั้นก็มีสตรีใส่หมวกมีผ้าแพรคลุมหน้าเดินตรงเข้ามานั่งเพียงผู้เดียว สตรีนั้นงามยิ่ง แม้ผ้าแพรบางจะปกปิดไว้เสียห้าส่วน แต่บุคลิกลักษณะก็บ่งบอก มิต้องถามถึงผิวเนียนราวกับสลักขึ้นจากหยก ดวงตาเจิดจรัสเหมือนเช่นดาวตกจากฟากฟ้า หากจะมีสตรีในเมืองนี้พอทัดเทียมย่อมเป็นหยุนเซียง แต่ทว่านางยังเยาว์เกินไป สัดส่วนรูปร่างจึงเป็นเพียงเด็กหญิงเท่านั้นเอง "ในเมืองน้อยนี้ มิน่าเชื่อว่าจะมีปีศาจราคะ แฝงตัวอยู่มากมาย แม่นางจงระวังตัวไว้" ผู้กล่าวเป็นคุณชายหน้าขาวถือพัดโบก ใบหน้าหล่อเหลาก็จริง หากแต่ซีดเซียว ราวกับมิเคยว่างเว้นการร่ำสุรานารี "ฮาฮา น่าขันยิ่งนัก น่าขันยิ่ง คำเตือนเช่นนี้ เปรียบเสมือนหมาป่ากล่าวเตือนลูกแกะ เจตนานั้นย่อมต้องไม่มีดี" ผู้พูดเป็นชายร่างใหญ่ หยาบกร้าน รอบๆ โต๊ะ นั่งไว้ด้วย ชนชั้นนักเลงกลางตลาด คุณชายที่น่าสงสัยนั้นหุบพัดโดยแรง แล้วจ่อจี้พัดกระดาษแต่โครงเป็นโลหะนั้นไปทางหัวหน้านักเลง
ข้างฝ่ายหยวนจิน แม้อาจารย์จะลากตัวออกมาฝึกปรือได้ทุกวัน แต่ก็หาได้มีใจคร่ำเคร่งฝึกวิชาจนมืดค่ำเช่นแต่ก่อน ส่วนหนึ่งเพราะกำลังกายแทบไม่เหลือ ถึงแม้จะเป็นบุรุษหนุ่มในวัยที่มีพลังล้นเหลือ แต่การฝึกปรือกับชู้รักสูงวัยเป็นประจำย่อมจะทำให้สูญเสียแรงไปไม่ใช่น้อย "อาจารย์ ท่านพอมีวิธีลัดหรือไม่ ข้าพเจ้าไม่มั่นใจในการเอาชัยเลย ศิษย์สำนักเมฆวายุผู้นั้นมีกำลังมหาศาลเหลือเกิน" หวงถู่ซาน ครุ่นคิด หากต้องการเอาชัยเด็ดขาด ไม่ให้ผู้ใดกล้าลบหลู่ตระกูลหยวน อีกทั้งเพื่อขจัดข้อสงสัยในความสามารถของตัวเอง หากต้องสละวิชาก้นหีบสัก หนึ่งถึงสองวิชา ก็จะเป็นไรไป คราครั้งนี้ชัยชนะย่อมเป็นของบุตรคนโตแห่งสกุลหยวน เมื่อคิดดูแล้วไม่ว่ามองมุมใดก็คุ้มค่า