สวัสดีค่ะ ชื่อน้ำหวานค่ะ วันนี้จะมารีวิววิ่งมาราธอนค่ะ
จุดเริ่มต้นหลังจากที่เรียนจบและกลับมาทำงานที่บ้าน จ.ขอนแก่นค่ะ ด้วยความที่น้ำหนักหนักขึ้นมามากในช่วง4ปีที่ผ่านมา (total ประมาณ 12 กก) เลยอยากจะออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักให้ลงมาบ้าง ถึงจะไม่เท่าเมื่อสมัยยังสาวก็เถอะ ก็เลยทุ่มทุนสร้างห้องออกกำลังกายที่บ้านค่ะ
เนื่องจากทำงานบางวันไม่ค่อยเป็นเวลา เเละเพื่อที่จะออกกำลังกาย ในวันที่ฝนตกได้ค่ะ
ตัดสินใจซื้อลู่วิ่งกับเครื่องอีลิปติคอลมาช่วงลดราคาพอดีเลยค่ะ เหมาะมากกก พอดีที่บ้านทีม้านั่งซิทอัพกับดัมเบล2 และ 3 กก และมี่ankle weight ฮูลาฮูปอยู่ ก็ติดตั้งทีวีกับเครื่องปรับอากาศเพิ่มค่ะ เรียกว่าทุ่มสร้างมากจริงๆ
ปกติจบมาต้องดาวน์รถใช่มั้ยคะแต่นี่เอาเงินเก็บมาสร้างห้องออกกำลังกายค่ะ หมดเนื้อหมดัวเลยค่ะ รถก็ใช้กับที่บ้านไปค่ะพอดีบ้านนใกล้ที่ทำงาน ก็ติดรถพ่อกับเเม่ไปค่ะ
เป็นรูปช่วงผอมกับบวมค่ะ ไม่ค่อยมีรูปค่ะ 53 kg / 62 kg อ้วนแล้วไม่ค่อยอยากถ่ายรูปเก็บบไว้
หลังจากห้องเสร็จก็วิ่งบนลู่ดูทีวีไปตามเรื่องได้ประมาณสี่สิบนาทีค่ะดูเป็นต่อจบหนึ่งตอนพอดี เหนื่อยค่ะเหนื่อย วิ่งๆ ก็เบื่อค่ะบางวันก็ออกไปวิ่งข้างนอก รอบบึงสวนสาธารณะแถวบ้านประมาณ 3.4 กม.ค่ะเหนื่อยมากกค่ะ แล้วก็เต้นแอโรบิคต่อ
ช่วงปลายปี2555 นั้น เห็นมีวิ่งขอนแก่นมาราธอน เลยสมัครมินิมาราธอน 11 กมค่ะ ตื่นเต้น ก็วิ่งเรื่อยๆ ค่ะไม่ได้ถึงกับซ้อมจริงจัง มีบางช่วงไม่ได้ใช้ลู่ ก็ไปวิ่งข้างนอกกับเต้นแอโรบิคบ้าง จนฝุ่นนี่จับเครื่องออกกำลังกายเลย จนมีวันนึงเล่นอินเตอ์เน็ตเจอภาพเปรียบเทียบที่เวลาคนซื้อเครื่องออกกลังกายเเล้วไม่ได้ใช้ เอาภาพที่เอามาตากผ้าเช็ดตัวแทน เห็นภาพนี่เจ็บจี๊ดเลยค่ะนึกถึงตัวเอง 555 รู้สึกเสียดายเงินขึ้นมาทันที เหมือนกับว่าเราใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เราอุตส่าห์ลงทุนมาไม่คุ้มค่า
หลังจากนั้นก็วิ่งได้มากขึ้นค่ะ ส่วนมากจะเป็นดึกๆ สามสี่ทุ่ม วันไหนที่ต้องทำงานขึ้นเวรก็ไม่ได้วิ่ง ห้องที่สร้างมาก็กลายเป็นห้องทำงาน
เอาโต๊ะทำงานมาไว้ เป็นห้องนอนด้ว เอาที่นอนพับได้ได้มานอน ในห้องออกกำลังกาย อาบน้ำเสร็จมาทำงานก็เอาผ้าเช็ดตัวมาตากที่เครื่อง
- -" ลูปเดิมเป๊ะ
อันนี้จากห้องที่บ้านค่ะ
อีกปีกว่า ๆ ก็มีเพื่อน ร่วมรุ่นเเนะนำให้รู้ัก app nike plus ค่ะ ตอนนั้นรู้สึกว่า แบบบ ว๊าวว มากกกเลยค่ะ น่าสนใจ เเต่จะให้ถือมือถือวิ่งตลอดก็ไม่ไหวป่าวคะ เคยเห็นคนไปวิ่งใส่อะไรรก็ไม่รู้ที่เเขนเห็นไว้โทรศัพท์ได้ คือสารภาพเลยว่าตอนเเรกนึกว่าเป็นที่เอาไว้เก็บโทรศัพท์ ไม่รู้จักกว่าคือ armband คือสนใจคิดว่าเออดีนะอยู่ตรงเเขนไง ยังไงโทรศัพท์ก็ไม่หล่นหายแน่ๆ ไม่เด้งไปมาเวลาวื่งเเล้วใสในกะเป๋า เริ่มมอยากได้บ้าง เลยหาดูตามเว็บ ก็เลยย อ๋ออมันไว้ใส่โทรศัพทท์เพื่อวัดระยะทางนี่เอง คิดในใจว่าจะสั่งทางเว็บดีมั้ย เริ่มอยากได้ เเต่ก็นะ เรามันมือสมัครเล่นไม่ได้วิ่งเยอะ ลองเอาของที่บ้านมาทำดูละกัน คิดว่าไม่น่ายาก เอายางยืดมาใส่เข็มขัดใส่เอวเวลาวิ่ง
เอิ่มม ระยะททางมันห่างอยู่ สรุปว่า ซื้อก็ได้ armband
ปี 2556 มีขอนแก่นมาราธอนอีกแล้วค่ะ คราวนี้ก็ฮึกเหิมมากไม่เจียมตัวเล้ยย ลงสมัคร 21 กม. จะไหวมั้ยนะซ้อมก็ไม่ค่อยได้ซ้อม ในใจก็คิดว่าเอาวะไหนๆก็ซื้อเครื่องวิ่งมาเเล้วก็ซ้อมลู่วิ่งที่บ้านนี่ล่ะจะได้ใช้ของให้คุ้มค่า เสียเงินทั้งที ผลก็คือก็วิ่งได้ยาวขึ้น ชม.ละประมาณ 8 กม. เรื่มเหนี่อยละบอกตัวเอง ไม่ได้ๆ ไม่คุ้มเงินลงทุน ก็วิ่งๆเดินๆต่อไปได้ถึง 1 ชม.ค่ะ จากหนึ่งชมก็เริ่มขยับมาเป็นวิ่งได้เท่ากับละคร 1 ตอน (1.48 ชม )ได้ประมาณ 14-16 กม
วิ่งไปดูละคไปค่ะไม่งั้นงจะเบื่อเอามากๆๆๆๆ ตอนนั้นในใจคิดว่า "เอาล่ะ ชั้นพร้อมละ สำหรับฮาล์ฟมาราธอน เอาวะ ลุยๆ ไม่ไหวก็เดิน 555" หลังากวันนั้นวิ่งเสร็จไปราวน์วอร์ดต่อได้ค่ะ ทำเวลาไปเกือบๆ 3 ชม.ได้ค่ะ ตอนนั้นไม่ได้สนใจเรื่องเวลาเลยรู้เเค่ เฮ้ยเาวิ่งเสร็จนะ ปวดขาอยู่หลายวันเลย
หลังจากนั้นก็ห่างการวิ่งไปอีกค่ะ วิ่งเดือนละไม่ถึง10 ครั้ง ครั้งละประมานเกือนๆ ชม บางเดือนนี่เเทบไม่ได้ออกกำลังกายอะไรเลย น้ำหนักที่เคยตั้งเป้าไว้ก็ขึ้นๆลงๆค่ะ เหมือนลืมไปเลยว่าอยากลดน้ำหนัก 555
รูปตอนไปวิ่ง half marathon ค่ะ 59 กก
ปีเดียยวกันได้อ่านกระทู้รีวีวกรุงเทพมาราธอน เห็นมีเสื้อ finisher ตอนนั้นรู้สึก "เฮ้ยยยย มันเท่ห์มากอ่ะ อยากได้ๆมากๆ" เเต่ต้องวิ่งถึงจะได้
เเล้วขอนแก่นมาราธอนปีถัดเห็นใบสมัครเริ่มฮึกเหิมอีกครั้ง ถึงั้นประกาศกร้าววว "ชั้นจะ สมัครวิ่งมาราธอน มีเสื้อ Finisher เป็นเดิมพัน จะได้ซ้อมวิ่งลดน้ำหนักด้วยนะ " half ชั้นก็วิ่งมาเเล้ว เเต่แบบว่าตอนนั้นที่สมมัครไม่นึกถึงความรู้สึกตอนวิ่งเลย เหนื่อยจะตาย 555
[CR] กระทู้พลีชีพ เมื่อมันเริ่มจากฉันวิ่งมาราธอนแบบบ้านๆ
จุดเริ่มต้นหลังจากที่เรียนจบและกลับมาทำงานที่บ้าน จ.ขอนแก่นค่ะ ด้วยความที่น้ำหนักหนักขึ้นมามากในช่วง4ปีที่ผ่านมา (total ประมาณ 12 กก) เลยอยากจะออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักให้ลงมาบ้าง ถึงจะไม่เท่าเมื่อสมัยยังสาวก็เถอะ ก็เลยทุ่มทุนสร้างห้องออกกำลังกายที่บ้านค่ะ
เนื่องจากทำงานบางวันไม่ค่อยเป็นเวลา เเละเพื่อที่จะออกกำลังกาย ในวันที่ฝนตกได้ค่ะ
ตัดสินใจซื้อลู่วิ่งกับเครื่องอีลิปติคอลมาช่วงลดราคาพอดีเลยค่ะ เหมาะมากกก พอดีที่บ้านทีม้านั่งซิทอัพกับดัมเบล2 และ 3 กก และมี่ankle weight ฮูลาฮูปอยู่ ก็ติดตั้งทีวีกับเครื่องปรับอากาศเพิ่มค่ะ เรียกว่าทุ่มสร้างมากจริงๆ
ปกติจบมาต้องดาวน์รถใช่มั้ยคะแต่นี่เอาเงินเก็บมาสร้างห้องออกกำลังกายค่ะ หมดเนื้อหมดัวเลยค่ะ รถก็ใช้กับที่บ้านไปค่ะพอดีบ้านนใกล้ที่ทำงาน ก็ติดรถพ่อกับเเม่ไปค่ะ
เป็นรูปช่วงผอมกับบวมค่ะ ไม่ค่อยมีรูปค่ะ 53 kg / 62 kg อ้วนแล้วไม่ค่อยอยากถ่ายรูปเก็บบไว้
หลังจากห้องเสร็จก็วิ่งบนลู่ดูทีวีไปตามเรื่องได้ประมาณสี่สิบนาทีค่ะดูเป็นต่อจบหนึ่งตอนพอดี เหนื่อยค่ะเหนื่อย วิ่งๆ ก็เบื่อค่ะบางวันก็ออกไปวิ่งข้างนอก รอบบึงสวนสาธารณะแถวบ้านประมาณ 3.4 กม.ค่ะเหนื่อยมากกค่ะ แล้วก็เต้นแอโรบิคต่อ
ช่วงปลายปี2555 นั้น เห็นมีวิ่งขอนแก่นมาราธอน เลยสมัครมินิมาราธอน 11 กมค่ะ ตื่นเต้น ก็วิ่งเรื่อยๆ ค่ะไม่ได้ถึงกับซ้อมจริงจัง มีบางช่วงไม่ได้ใช้ลู่ ก็ไปวิ่งข้างนอกกับเต้นแอโรบิคบ้าง จนฝุ่นนี่จับเครื่องออกกำลังกายเลย จนมีวันนึงเล่นอินเตอ์เน็ตเจอภาพเปรียบเทียบที่เวลาคนซื้อเครื่องออกกลังกายเเล้วไม่ได้ใช้ เอาภาพที่เอามาตากผ้าเช็ดตัวแทน เห็นภาพนี่เจ็บจี๊ดเลยค่ะนึกถึงตัวเอง 555 รู้สึกเสียดายเงินขึ้นมาทันที เหมือนกับว่าเราใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เราอุตส่าห์ลงทุนมาไม่คุ้มค่า
หลังจากนั้นก็วิ่งได้มากขึ้นค่ะ ส่วนมากจะเป็นดึกๆ สามสี่ทุ่ม วันไหนที่ต้องทำงานขึ้นเวรก็ไม่ได้วิ่ง ห้องที่สร้างมาก็กลายเป็นห้องทำงาน
เอาโต๊ะทำงานมาไว้ เป็นห้องนอนด้ว เอาที่นอนพับได้ได้มานอน ในห้องออกกำลังกาย อาบน้ำเสร็จมาทำงานก็เอาผ้าเช็ดตัวมาตากที่เครื่อง
- -" ลูปเดิมเป๊ะ
อันนี้จากห้องที่บ้านค่ะ
อีกปีกว่า ๆ ก็มีเพื่อน ร่วมรุ่นเเนะนำให้รู้ัก app nike plus ค่ะ ตอนนั้นรู้สึกว่า แบบบ ว๊าวว มากกกเลยค่ะ น่าสนใจ เเต่จะให้ถือมือถือวิ่งตลอดก็ไม่ไหวป่าวคะ เคยเห็นคนไปวิ่งใส่อะไรรก็ไม่รู้ที่เเขนเห็นไว้โทรศัพท์ได้ คือสารภาพเลยว่าตอนเเรกนึกว่าเป็นที่เอาไว้เก็บโทรศัพท์ ไม่รู้จักกว่าคือ armband คือสนใจคิดว่าเออดีนะอยู่ตรงเเขนไง ยังไงโทรศัพท์ก็ไม่หล่นหายแน่ๆ ไม่เด้งไปมาเวลาวื่งเเล้วใสในกะเป๋า เริ่มมอยากได้บ้าง เลยหาดูตามเว็บ ก็เลยย อ๋ออมันไว้ใส่โทรศัพทท์เพื่อวัดระยะทางนี่เอง คิดในใจว่าจะสั่งทางเว็บดีมั้ย เริ่มอยากได้ เเต่ก็นะ เรามันมือสมัครเล่นไม่ได้วิ่งเยอะ ลองเอาของที่บ้านมาทำดูละกัน คิดว่าไม่น่ายาก เอายางยืดมาใส่เข็มขัดใส่เอวเวลาวิ่ง
เอิ่มม ระยะททางมันห่างอยู่ สรุปว่า ซื้อก็ได้ armband
ปี 2556 มีขอนแก่นมาราธอนอีกแล้วค่ะ คราวนี้ก็ฮึกเหิมมากไม่เจียมตัวเล้ยย ลงสมัคร 21 กม. จะไหวมั้ยนะซ้อมก็ไม่ค่อยได้ซ้อม ในใจก็คิดว่าเอาวะไหนๆก็ซื้อเครื่องวิ่งมาเเล้วก็ซ้อมลู่วิ่งที่บ้านนี่ล่ะจะได้ใช้ของให้คุ้มค่า เสียเงินทั้งที ผลก็คือก็วิ่งได้ยาวขึ้น ชม.ละประมาณ 8 กม. เรื่มเหนี่อยละบอกตัวเอง ไม่ได้ๆ ไม่คุ้มเงินลงทุน ก็วิ่งๆเดินๆต่อไปได้ถึง 1 ชม.ค่ะ จากหนึ่งชมก็เริ่มขยับมาเป็นวิ่งได้เท่ากับละคร 1 ตอน (1.48 ชม )ได้ประมาณ 14-16 กม
วิ่งไปดูละคไปค่ะไม่งั้นงจะเบื่อเอามากๆๆๆๆ ตอนนั้นในใจคิดว่า "เอาล่ะ ชั้นพร้อมละ สำหรับฮาล์ฟมาราธอน เอาวะ ลุยๆ ไม่ไหวก็เดิน 555" หลังากวันนั้นวิ่งเสร็จไปราวน์วอร์ดต่อได้ค่ะ ทำเวลาไปเกือบๆ 3 ชม.ได้ค่ะ ตอนนั้นไม่ได้สนใจเรื่องเวลาเลยรู้เเค่ เฮ้ยเาวิ่งเสร็จนะ ปวดขาอยู่หลายวันเลย
หลังจากนั้นก็ห่างการวิ่งไปอีกค่ะ วิ่งเดือนละไม่ถึง10 ครั้ง ครั้งละประมานเกือนๆ ชม บางเดือนนี่เเทบไม่ได้ออกกำลังกายอะไรเลย น้ำหนักที่เคยตั้งเป้าไว้ก็ขึ้นๆลงๆค่ะ เหมือนลืมไปเลยว่าอยากลดน้ำหนัก 555
รูปตอนไปวิ่ง half marathon ค่ะ 59 กก
ปีเดียยวกันได้อ่านกระทู้รีวีวกรุงเทพมาราธอน เห็นมีเสื้อ finisher ตอนนั้นรู้สึก "เฮ้ยยยย มันเท่ห์มากอ่ะ อยากได้ๆมากๆ" เเต่ต้องวิ่งถึงจะได้
เเล้วขอนแก่นมาราธอนปีถัดเห็นใบสมัครเริ่มฮึกเหิมอีกครั้ง ถึงั้นประกาศกร้าววว "ชั้นจะ สมัครวิ่งมาราธอน มีเสื้อ Finisher เป็นเดิมพัน จะได้ซ้อมวิ่งลดน้ำหนักด้วยนะ " half ชั้นก็วิ่งมาเเล้ว เเต่แบบว่าตอนนั้นที่สมมัครไม่นึกถึงความรู้สึกตอนวิ่งเลย เหนื่อยจะตาย 555