ที่มาเขียนเผาตัวเองวันนี้ก็หวังให้เป็นส่วนหนึ่งในแรงผลักดันสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนักให้ลดด้วยการออกกำลังกายนะครับ ผมไม่เคยเขียนรีวิวเลย อาจจะเขียนรู้เรื่องหรือไม่ก็ไม่แน่ใจนะครับ แหะๆ ขอเกริ่นตั้งแต่จำความได้ละกัน ยาวนะบอกก่อน แต่ก็ไม่มากหรอก
ตั้งแต่เข้าสู่วัยที่ผมจำเรื่องราวของตัวเองได้ (น่าจะประมาณป.1) ผมก็รู้ตัวเองมาตลอดว่าผมไม่เคยผอมเลย ซึ่งระหว่างการใช้ชีวิตช่วงนั้น ก็จะมีฉายาต่างๆมากมายมาเป็นชื่อเล่นที่ 2,3,4,5,…. โดยเฉพาะเรื่องก้น ที่ใหญ่เกินหน้าเกินตาจนเป็นจุดชื่นชมของเพื่อนๆว่า ไอ้ตูดใหญ่
ช่วงมัธยมต้น (2550-52) ส่วนสูงผมจะอยู่ที่ช่วง 160 เซนติเมตร ส่วนน้ำหนักก็จะอยู่ที่ 60 – 65 กิโลกรัม ใส่กางเกงเอว 32 ครับ อยู่วงโยธวาทิตของโรงเรียนเลยได้วิ่ง เช้า กลางวัน เย็น ครับ เสียดายจังครับม.ต้นผมไม่ได้เซฟรูปไว้เลย
ช่วงมัธยมปลายผมย้ายโรงเรียนครับ (2553-55) เริ่มตัวกลมขึ้นจากการได้รู้จักกับ “แอลกอลฮอลล์” ตามช่วงวัยระเริงครับ ช่วงม.ปลายนี้ น้ำหนักผมขยับขึ้นอีกเป็น 65-68 กก. โดยที่ส่วนสูงยังคงอยู่ที่ 167 ซม. ส่วนเอวยัง 32 ยังดีครับที่ได้มีโอกาสอยู่วงขับร้องประสานเสียงของโรงเรียน ทำให้ต้องใช้กำลังท้องต่อวันค่อนข้างเยอะ
สวัสดีจ้า (ม.6)
ม.5 จ้า
ม.6 จ้า
จุดพีคของน้ำหนัก อยู่ในช่วงนี้ครับคือช่วงเข้ามหาวิทยาลัยปี 1 (2556) จากวัยระเริงกลายเป็นเรี่ยราด ยิ่งอยู่หอพักด้วย ยิ่งแล้วใหญ่เลยครับ ช่วงเปิดเรียนแรกๆก็เรียน ดื่มเบียร์บ้างเป็นบางวัน น้ำหนักเท่าเดิมเพิ่มเติมคือเหนียงครับ
ปี1 แล้วจ้า
ตั้งใจเรียนได้แค่ประมาณ 2 เดือนครับ เลิกกับแฟน…..พังเลยครับ มันเป็นอะไรที่เลวร้ายโคตรๆในชีวิตของผมตอนนั้น สุดยอดแห่งความเสียใจ เลยตั้งหน้าตั้งตาดื่มมาราธอนล่ะครับ แต่ยังดีที่มีสติลากตัวเองไปเรียนจนผ่านไปได้
ใจแตกร้าว
สวัสดีจ้า
2 เทอมผ่านไปผมลึกซึ้งอยู่กับคำว่าความอ้วน ปล่อยตัวเองจนน้ำหนักขึ้นมาอยู่ที่ 74 กก. ภายใต้ส่วนสูง 168 ซม. ขยายก้นไปที่กางเกงเอว 36 เรียบร้อยครับ
เต็มสภาพครับ
74.8 กิโลกรัม รอบเอว 36 จ้า
ปลายเดือนมกราคมวันที่ขึ้นชั่งน้ำหนักและรู้ว่าตัวเองนั้นน้ำหนัก 74.8 กก. บอกเลยครับว่า ช็อค ช็อค ช็อคแท้ๆครับ ตัวเราเองกิน อยู่กับพุง เหนียงที่เพิ่มขึ้นโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว หรือว่ารู้แต่หลอกตัวเองบ้างนั่นแหละ ระหว่างที่นอนอ้วนทึ่งกับน้ำหนักตัวเองอยู่ มีเสียงสวรรค์จากน้องสาว ว่าจะไป “เข้ายิม” คำว่ายิม มันเข้ามาเคลือบในหัวใจผม ผมเด้งตัวรีบไปด้วย
27 ม.ค. 57 วันที่เข้ายิมวันแรกครับ ผมจำวันนั้นได้ดี วิ่งลู่ไม่ถึง 10 นาที ระยะทางวิ่งไปแค่ 800 เมตร ถึงกับหอบอย่างหนักครับ เป็นอะไรที่หนักหน่วงสำหรับผมมาก การออกกำลังกายเนี่ย แต่เพราะตั้งใจว่ายังไงก็ต้องลดให้ได้ด้วยการออกกำลังกาย วันแรกก็ฝืนเดิน-วิ่งไปจนได้ 2 กิโลเมตรครับ ในระหว่างเข้ายิมไม่ไดเซลฟี่เลยครับ ไม่ชอบเซลฟี่ เขินครับ 5555555
ค้นทั้งมือถือ เจอรูปในยิมรูปเดียวครับ แฮ่
โชคดีที่ช่วงม.ปลาย ผมเคยฝึกสเก็ตบอร์ด ทำให้มีกิจกรรมออกกำลังกายเสริมด้วย ยิ่งได้เล่นกับเพื่อนยิ่งทำให้เป็นกีฬาที่ชอบและสนุกมากๆ ผมเลยออกกำลังกายวันละ 2 อย่างไปเลย ช่วงบ่ายเข้ายิม ทานข้าวเย็น แล้วออกไปเล่นสเก็ตบอร์ดต่อ แต่ก็จะเหนื่อยและล้าขึ้นครับ บางวันอาจไม่เข้ายิมเล่นสเก็ตบอร์ดแทน
ยะฮู๊ววววววววววววววว
ก่อนจะโดนไล่ไม่ให้เล่นครับ
บอกเลยครับช่วงแรกๆของการลด มันไม่ลดให้อย่างที่ใจอยากเลย เดือนแรกลงมาได้ 3 กก. แต่พอออกกำลังกายไปเรื่อยๆก็เริ่มชินครับ เริ่มเสพติดการออกกำลังกายจนลืมเรื่องลดน้ำหนักไปเลย
มันลดลงบ้างไหมฮะ?
บ้างก็มาวิ่งลู่ (ดีจริงๆ ถ่ายไว้แค่นี้)
ช่วงกลางเดือน พ.ค. ครับ ออกกำลังมาได้ 3 เดือนกว่าๆ ช่วงนี้น้ำหนักเหลืออยู่ที่ 67 กก.
เอาล่ะ
วิ่งลู่ เล่นสเก็ตบอร์ด ยกน้ำหนักเล็กน้อย เป็นเวลาเกือบ 6 เดือนเต็ม น้ำหนักลงมาเหลือ 59 กิโลกรัม ลดได้ 15 กก. กลับมาสู่เลข 5 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีแหน่ะ ตอนนี้ใส่กางเกงเอว 29 ครับ
ก.ค.57 น้ำหนัก 59.7 กก. ลดลงมา 15 กก. จ้า
วัดก่อนซิ
ใส่เสื้อบ้าง
เรื่องอาหาร ผมไม่คุมอาหาร ไม่ทานนับแคลฯ ไม่ทานคลีนอะไรทั้งนั้นครับ แต่มันค่อยๆลดปริมาณของอาหารแต่ละมื้อไปเรื่อยๆ ทานแล้วอิ่มเร็วขึ้น แต่ไม่ใช่กินวันละ 4-5 มื้อนะ ยัง 3 มื้อปกติครับ
ไม่รู้ทำเวรทำกรรมอะไรให้กันแต่ชาติปางไหน พื้นที่เล่นสเก็ตบอร์ดที่เคยเล่นเป็นประจำทุกวัน อยู่ดีๆก็โดนสั่งห้ามเล่นจากเจ้าของสถานที่ (ปั๊มน้ำมัน) เลยทำให้ผมเล่นสเก็ตบอร์ดน้อยลง
หลังจากที่วิ่งลู่ในยิมมาเป็นเวลากว่าครึ่งปี รู้สึกได้เลยครับว่า “เบื่อ” แต่ก็อยากออกกำลังกาย ซึ่งผมเล่นกีฬาประเภททีมแทบจะไม่เป็นเลย เวลาเพื่อนไปเตะฟุตบอลกันก็จะทำหน้าที่เดียวคือ ผู้รักษาประตูแสนใจดี เลยคิดอะไรไม่ออกแล้วนอกจาก “วิ่ง” นี่แหละ ออกไปวิ่งoutdoorบ้างท่าจะดีนะ ว่าตามนั้นก็หาโหลดแอพ Nike + ติดเครื่องไว้ และกำหนดวิ่งโลด
ครั้งแรกของการวิ่งตามทางนี่เป็นอะไรที่เลวร้ายแท้ๆเลยครับ ถึงจะวิ่งลู่มาครึ่งปีแล้วก็เถอะ คนละเรื่องกันเลย วันแรกหอบสังขารทำไปได้ 7 กม. ครับ
เหนื่อยโคตรๆ เหนื่อยไม่รู้จะเหนื่อยยังไง
เหมือนโชคชะตาฟ้าจะอยากให้เราวิ่งต่อ ได้ส่งเพื่อนที่รู้จักตั้งแต่ป.5 เคยอ้วนจ้ำม่ำเหมือนกัน และตอนนี้ก็ผอมด้วยการวิ่ง มาชวนผมไปวิ่ง มันเลยทำให้ผมเริ่มชอบวิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เสพติดอีกแล้วครับท่าน การวิ่งนั้นลดได้ทุกส่วนจริงๆครับ น้ำหนักผมค่อยๆลดลงมาอีก ลดมากสุดอยู่ที่ 55.5 กก. ครับ
เหนื่อยจนร้องขอชีวิต
ก่อนเหนื่อย
หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยวิ่งใช้แอพเลยครับ
ขำเฉย
ตอนนี้ผ่านมาเกือบจะ 2 ปีแล้วจากที่เริ่มลดน้ำหนัก ซึ่งก็ยังคงน้ำหนักไว้ที่ 56-58 กก.โดยตลอดครับ ผมวิ่งน้อยลงมาก แต่ก็ยังมีออกกำลังกายบ้าง ส่วนสเกตบอร์ดตอนนี้แทบจะไม่ได้แตะเลยครับ อยากเล่นเหลือเกิน ฮือ สนนการลดน้ำหนักตลอด 1 ปี 11 เดือน จาก 74.8 – 55.5 ลดได้ 19.3 กก.ครับ
26 ต.ค. 58 น้ำหนัก 57 กก. จ้าา
บุริศดิ์ไง
ด้านข้างบ้าง
ออกกำลังกายกันเยอะๆนะ บ๋ายบายยย
ขอให้กระทู้นี้ เป็นประโยชน์สำหรับผู้คนที่อยากลดน้ำหนักนะครับ ขอให้ลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายนะครับ ถึงจะเหนื่อยก็จริง แต่ถ้าแลกมาด้วยร่างกายที่แข็งแรง ถือว่าคุ้มค่ามากๆเลยนะครับ ท่านใดอยากสอบถามก็ยินดีให้คำตอบนะครับผม สุดท้ายนี้ ขอบคุณที่ให้เกียรติอ่านกระทู้นี้นะครับ บุย
ผอมมาได้จะครบรอบ 2 ปี ขอเผาความอ้วนตัวเองหน่อยนะครับ
ตั้งแต่เข้าสู่วัยที่ผมจำเรื่องราวของตัวเองได้ (น่าจะประมาณป.1) ผมก็รู้ตัวเองมาตลอดว่าผมไม่เคยผอมเลย ซึ่งระหว่างการใช้ชีวิตช่วงนั้น ก็จะมีฉายาต่างๆมากมายมาเป็นชื่อเล่นที่ 2,3,4,5,…. โดยเฉพาะเรื่องก้น ที่ใหญ่เกินหน้าเกินตาจนเป็นจุดชื่นชมของเพื่อนๆว่า ไอ้ตูดใหญ่
ช่วงมัธยมต้น (2550-52) ส่วนสูงผมจะอยู่ที่ช่วง 160 เซนติเมตร ส่วนน้ำหนักก็จะอยู่ที่ 60 – 65 กิโลกรัม ใส่กางเกงเอว 32 ครับ อยู่วงโยธวาทิตของโรงเรียนเลยได้วิ่ง เช้า กลางวัน เย็น ครับ เสียดายจังครับม.ต้นผมไม่ได้เซฟรูปไว้เลย
ช่วงมัธยมปลายผมย้ายโรงเรียนครับ (2553-55) เริ่มตัวกลมขึ้นจากการได้รู้จักกับ “แอลกอลฮอลล์” ตามช่วงวัยระเริงครับ ช่วงม.ปลายนี้ น้ำหนักผมขยับขึ้นอีกเป็น 65-68 กก. โดยที่ส่วนสูงยังคงอยู่ที่ 167 ซม. ส่วนเอวยัง 32 ยังดีครับที่ได้มีโอกาสอยู่วงขับร้องประสานเสียงของโรงเรียน ทำให้ต้องใช้กำลังท้องต่อวันค่อนข้างเยอะ
สวัสดีจ้า (ม.6)
ม.5 จ้า
ม.6 จ้า
จุดพีคของน้ำหนัก อยู่ในช่วงนี้ครับคือช่วงเข้ามหาวิทยาลัยปี 1 (2556) จากวัยระเริงกลายเป็นเรี่ยราด ยิ่งอยู่หอพักด้วย ยิ่งแล้วใหญ่เลยครับ ช่วงเปิดเรียนแรกๆก็เรียน ดื่มเบียร์บ้างเป็นบางวัน น้ำหนักเท่าเดิมเพิ่มเติมคือเหนียงครับ
ปี1 แล้วจ้า
ตั้งใจเรียนได้แค่ประมาณ 2 เดือนครับ เลิกกับแฟน…..พังเลยครับ มันเป็นอะไรที่เลวร้ายโคตรๆในชีวิตของผมตอนนั้น สุดยอดแห่งความเสียใจ เลยตั้งหน้าตั้งตาดื่มมาราธอนล่ะครับ แต่ยังดีที่มีสติลากตัวเองไปเรียนจนผ่านไปได้
ใจแตกร้าว
สวัสดีจ้า
2 เทอมผ่านไปผมลึกซึ้งอยู่กับคำว่าความอ้วน ปล่อยตัวเองจนน้ำหนักขึ้นมาอยู่ที่ 74 กก. ภายใต้ส่วนสูง 168 ซม. ขยายก้นไปที่กางเกงเอว 36 เรียบร้อยครับ
เต็มสภาพครับ
74.8 กิโลกรัม รอบเอว 36 จ้า
ปลายเดือนมกราคมวันที่ขึ้นชั่งน้ำหนักและรู้ว่าตัวเองนั้นน้ำหนัก 74.8 กก. บอกเลยครับว่า ช็อค ช็อค ช็อคแท้ๆครับ ตัวเราเองกิน อยู่กับพุง เหนียงที่เพิ่มขึ้นโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว หรือว่ารู้แต่หลอกตัวเองบ้างนั่นแหละ ระหว่างที่นอนอ้วนทึ่งกับน้ำหนักตัวเองอยู่ มีเสียงสวรรค์จากน้องสาว ว่าจะไป “เข้ายิม” คำว่ายิม มันเข้ามาเคลือบในหัวใจผม ผมเด้งตัวรีบไปด้วย
27 ม.ค. 57 วันที่เข้ายิมวันแรกครับ ผมจำวันนั้นได้ดี วิ่งลู่ไม่ถึง 10 นาที ระยะทางวิ่งไปแค่ 800 เมตร ถึงกับหอบอย่างหนักครับ เป็นอะไรที่หนักหน่วงสำหรับผมมาก การออกกำลังกายเนี่ย แต่เพราะตั้งใจว่ายังไงก็ต้องลดให้ได้ด้วยการออกกำลังกาย วันแรกก็ฝืนเดิน-วิ่งไปจนได้ 2 กิโลเมตรครับ ในระหว่างเข้ายิมไม่ไดเซลฟี่เลยครับ ไม่ชอบเซลฟี่ เขินครับ 5555555
ค้นทั้งมือถือ เจอรูปในยิมรูปเดียวครับ แฮ่
โชคดีที่ช่วงม.ปลาย ผมเคยฝึกสเก็ตบอร์ด ทำให้มีกิจกรรมออกกำลังกายเสริมด้วย ยิ่งได้เล่นกับเพื่อนยิ่งทำให้เป็นกีฬาที่ชอบและสนุกมากๆ ผมเลยออกกำลังกายวันละ 2 อย่างไปเลย ช่วงบ่ายเข้ายิม ทานข้าวเย็น แล้วออกไปเล่นสเก็ตบอร์ดต่อ แต่ก็จะเหนื่อยและล้าขึ้นครับ บางวันอาจไม่เข้ายิมเล่นสเก็ตบอร์ดแทน
ยะฮู๊ววววววววววววววว
ก่อนจะโดนไล่ไม่ให้เล่นครับ
บอกเลยครับช่วงแรกๆของการลด มันไม่ลดให้อย่างที่ใจอยากเลย เดือนแรกลงมาได้ 3 กก. แต่พอออกกำลังกายไปเรื่อยๆก็เริ่มชินครับ เริ่มเสพติดการออกกำลังกายจนลืมเรื่องลดน้ำหนักไปเลย
มันลดลงบ้างไหมฮะ?
บ้างก็มาวิ่งลู่ (ดีจริงๆ ถ่ายไว้แค่นี้)
ช่วงกลางเดือน พ.ค. ครับ ออกกำลังมาได้ 3 เดือนกว่าๆ ช่วงนี้น้ำหนักเหลืออยู่ที่ 67 กก.
เอาล่ะ
วิ่งลู่ เล่นสเก็ตบอร์ด ยกน้ำหนักเล็กน้อย เป็นเวลาเกือบ 6 เดือนเต็ม น้ำหนักลงมาเหลือ 59 กิโลกรัม ลดได้ 15 กก. กลับมาสู่เลข 5 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีแหน่ะ ตอนนี้ใส่กางเกงเอว 29 ครับ
ก.ค.57 น้ำหนัก 59.7 กก. ลดลงมา 15 กก. จ้า
วัดก่อนซิ
ใส่เสื้อบ้าง
เรื่องอาหาร ผมไม่คุมอาหาร ไม่ทานนับแคลฯ ไม่ทานคลีนอะไรทั้งนั้นครับ แต่มันค่อยๆลดปริมาณของอาหารแต่ละมื้อไปเรื่อยๆ ทานแล้วอิ่มเร็วขึ้น แต่ไม่ใช่กินวันละ 4-5 มื้อนะ ยัง 3 มื้อปกติครับ
ไม่รู้ทำเวรทำกรรมอะไรให้กันแต่ชาติปางไหน พื้นที่เล่นสเก็ตบอร์ดที่เคยเล่นเป็นประจำทุกวัน อยู่ดีๆก็โดนสั่งห้ามเล่นจากเจ้าของสถานที่ (ปั๊มน้ำมัน) เลยทำให้ผมเล่นสเก็ตบอร์ดน้อยลง
หลังจากที่วิ่งลู่ในยิมมาเป็นเวลากว่าครึ่งปี รู้สึกได้เลยครับว่า “เบื่อ” แต่ก็อยากออกกำลังกาย ซึ่งผมเล่นกีฬาประเภททีมแทบจะไม่เป็นเลย เวลาเพื่อนไปเตะฟุตบอลกันก็จะทำหน้าที่เดียวคือ ผู้รักษาประตูแสนใจดี เลยคิดอะไรไม่ออกแล้วนอกจาก “วิ่ง” นี่แหละ ออกไปวิ่งoutdoorบ้างท่าจะดีนะ ว่าตามนั้นก็หาโหลดแอพ Nike + ติดเครื่องไว้ และกำหนดวิ่งโลด
ครั้งแรกของการวิ่งตามทางนี่เป็นอะไรที่เลวร้ายแท้ๆเลยครับ ถึงจะวิ่งลู่มาครึ่งปีแล้วก็เถอะ คนละเรื่องกันเลย วันแรกหอบสังขารทำไปได้ 7 กม. ครับ
เหนื่อยโคตรๆ เหนื่อยไม่รู้จะเหนื่อยยังไง
เหมือนโชคชะตาฟ้าจะอยากให้เราวิ่งต่อ ได้ส่งเพื่อนที่รู้จักตั้งแต่ป.5 เคยอ้วนจ้ำม่ำเหมือนกัน และตอนนี้ก็ผอมด้วยการวิ่ง มาชวนผมไปวิ่ง มันเลยทำให้ผมเริ่มชอบวิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เสพติดอีกแล้วครับท่าน การวิ่งนั้นลดได้ทุกส่วนจริงๆครับ น้ำหนักผมค่อยๆลดลงมาอีก ลดมากสุดอยู่ที่ 55.5 กก. ครับ
เหนื่อยจนร้องขอชีวิต
ก่อนเหนื่อย
หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยวิ่งใช้แอพเลยครับ
ขำเฉย
ตอนนี้ผ่านมาเกือบจะ 2 ปีแล้วจากที่เริ่มลดน้ำหนัก ซึ่งก็ยังคงน้ำหนักไว้ที่ 56-58 กก.โดยตลอดครับ ผมวิ่งน้อยลงมาก แต่ก็ยังมีออกกำลังกายบ้าง ส่วนสเกตบอร์ดตอนนี้แทบจะไม่ได้แตะเลยครับ อยากเล่นเหลือเกิน ฮือ สนนการลดน้ำหนักตลอด 1 ปี 11 เดือน จาก 74.8 – 55.5 ลดได้ 19.3 กก.ครับ
26 ต.ค. 58 น้ำหนัก 57 กก. จ้าา
บุริศดิ์ไง
ด้านข้างบ้าง
ออกกำลังกายกันเยอะๆนะ บ๋ายบายยย
ขอให้กระทู้นี้ เป็นประโยชน์สำหรับผู้คนที่อยากลดน้ำหนักนะครับ ขอให้ลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายนะครับ ถึงจะเหนื่อยก็จริง แต่ถ้าแลกมาด้วยร่างกายที่แข็งแรง ถือว่าคุ้มค่ามากๆเลยนะครับ ท่านใดอยากสอบถามก็ยินดีให้คำตอบนะครับผม สุดท้ายนี้ ขอบคุณที่ให้เกียรติอ่านกระทู้นี้นะครับ บุย