ไม่ง่ายที่จะเห็น..ไม่ยากที่จะเข้าใจ

กระทู้สนทนา
ต้นไม้มีผืนดินเป็นแม่ หรือผู้ให้กำเนิด และเคลื่อนไหวแค่โอนเอนไปตามกระแสลม

สัตว์ยกระดับชีวิต  และเคลื่อนไหวโดยร่างกายของมันเอง

มนุษย์ใช้ระบบเคลื่อนไหว และการกินหรือเผาผลาญพลังงานเช่นเดียวกันกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ทั้งหลาย

โดยพื้นฐานแล้ว   ต้นไม้มีรากคอยดูสารอาหารจากผืนดิน
ส่วนสัตว์และมนุษย์   ระบบร่างกายได้ย่อระบบโลกเข้าไว้ภายในร่างกายตน
แล้วมีรากฝอยเล็กๆในลำไส้เล็ก คอยดูดสารอาหารจากโลกภายนอก  ผ่านกระบวนการกินหรือการย่อยอาหาร

การกินจึงเป็นด่านแรก ของการสร้างผืนดินภายในตัวมนุษย์  เพื่อเสรีภาพในการเคลื่อนไหวในโลกกว้าง
ไปสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อโลกกายภาพ หรือสิ่งแวดล้อม ในอัตราเร่ง นอกเหนือจากกระบวนการปกติของธรรมชาติ

ดังนั้น สิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะมนุษย์  จึงเป็นตัวแปรสำคัญในการเร่งการเปลี่ยนแปลงของโลกธรรมชาติ  ครอบคลุมไปทั่วทั้งโลก
สติปัญญาของมนุษย์  จึงสะท้อนถึงพลังอาหารที่พวกเขาบริโภคเข้าไป
และมันได้ย่อนกลับจากผลของพิษภัยของ การบริโภคล้นเกิน และแปลกแยกต่อธรรมชาติของระบบร่างกายไปพร้อมกัน
เพราะ มิใช่เคมีประดิษฐ์ที่จักเป็นอาหาร  หรือทางลัดของสุขภาวะ
แต่เคมีจากอาหารธรรมชาติต่างหากที่ ธรรมชาติของร่างกายหรือระบบสุขภาวะที่เขาต้องการจริงๆ

อายุที่สั้นลง และสุขภาพที่เสื่อมทรุด จึงเป็นรางวัลของการใช้ชีวิตที่ล้อมกรอบตนเอง
ไม่ว่าจะในนามธุรกิจอาหาร   ยา และการแสวงหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่ล้นเกิน ด้วยมาตรการแข่งขันอย่างหน้ามืด ตามัว

พื้นที่สีเขียวถูกเบียดขับออกไปจากปริมณฑลอยู่อาศัย
ลำไส้ดูดสารอาหารที่แปลกปลอมแต่แรก จากการตัดสินในรสอร่อยที่บิดเบือน
ชีวิตมนุษย์จึงเต็มไปด้วยจิตสำนึกที่ห่างไกลจากความเป็นปกติวิสัย  ว้าวุ่น  ซึมเศร้า และภูมิต้นทานต่ำ
มีแต่  ทวนกระแสอย่างใจเย็น   ที่จักผ่านยุคสมัยอันอึมครึม....นี่นั่นโน่นไปได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่