* มีการวิจัยชี้ชัดมากขึ้นว่าน้ำตาลฟรุกโตส อันตรายกว่ากลูโคส ทั้งทำให้เกิดการสะสมไขมัน , ไขมันพอกตับ , โรคหัวใจ , เบาหวานชนิดที่ 2 , มะเร็ง ฯลฯ
* น้ำตาลทรายมีส่วนผสมของฟรุกโตสและกลูโคส 50:50 , น้ำผึ้งมีกลูโคส 30 % ฟรุกโตส 40 % ซูโครส 10 % (ซูโครสคือกลูโคสรวมอยู่กับฟรุกโตส) ที่เหลือเป็นน้ำ 20 % , เมเปิ้ลไซรัป มีซูโครส 60 % น้ำ 33 % ที่เหลือคือสารอาหารอีกเล็กน้อย , น้ำตาลมะพร้าว มีซูโครส 71 % กลูโคส 3 % ฟรุกโตส 3 % ที่เหลือเป็นใยอาหารและสารอาหารนิดหน่อย
* ที่อันตรายสุดคือ High Fructose Corn Syrup ซึ่งมีฟรุกโตสอยู่ 55 % กลูโคส 42 % ที่เหลือคือน้ำ (ส่วนใหญ่ใช้แบบ HFCS 55 แต่มีแบบเข้มข้นกว่านี้ สูงสุดที่ 95 % HFCS 95)
* ที่ต้องดูอีกตัวในการเลือกน้ำตาลคือ GI (Glycemic Index) ยิ่งสูงยิ่งแย่ โดยกลูโคส GI อยู่ที่ 100 , น้ำตาลทราย 65 , HFCS-55 อยู่ที่ 58 , เมเปิ้ลไซรัป 54, น้ำผึ้ง 50, น้ำตาลมะพร้าว 35, ฟรุกโตส 25
* แต่ต้องดูที่ GL (Glycemic Load) ด้วย คำนวณโดยเอา GI คูณจำนวนคาร์โบไฮเดรตและหารด้วย 100 คือต่อให้กินน้ำตาล GI ต่ำ แต่กินเยอะก็ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งปรี๊ดได้ไม่ต่างกัน
* แต่มีการยืนยันว่าเลือกน้ำตาล ให้ดูที่ฟรุกโตสสำคัญสุด จะเห็นว่าฟรุกโตส GI ต่ำ เพราะไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูงมาก และดูดซึมเข้าเซลล์ของร่างกายโดยไม่ต้องผ่านการควบคุมของอินซูลิน แต่นั่นกลับส่งผลเสียที่หนักกว่า
* ผลไม้มีฟรุกโตสก็จริง แต่ไม่ได้เยอะมากเกิน แล้วยังมีสารอาหารและใยอาหาร จึงเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การทานน้ำผลไม้ที่เอากากใยออกไปแล้ว ในปริมาณมาก จึงไม่ดีต่อสุขภาพมากนัก
* ดังนั้นหากถามว่าเลือกน้ำตาลอะไรดีสุด ? ถ้าดูจากปริมาณฟรุกโตส เรียงจากน้อยไปมาก ได้ดังนี้ เมเปิ้ลไซรัป >> น้ำตาลมะพร้าว >> น้ำผึ้ง หากดูจาก GI น้อยไปมาก ได้ดังนี้ น้ำตาลมะพร้าว >> น้ำผึ้ง >> เมเปิ้ลไซรัป
อ้างอิงข้อมูลจากลิงค์นี้ >>
https://www.facebook.com/IAmIEat/posts/825686720788031
จริงๆแล้วในเพจก็ไม่ได้ว่าน้ำผลไม้อะไรมากนะ แต่เรามาคิดเองว่าน้ำผลไม้ที่เป็นกล่องๆ มันทำมาจาก "น้ำผลไม้เข้มข้น" นั่นก็หมายถึงฟรุกโตสเข้มข้นใช่ปะ น่ากลัวอะ !!! แล้วพวกน้ำขวดๆที่ขายตามเซเว่นด้วย ส่วนใหญ่ก็ผสมฟรุกโตสมา เพราะมันเป็นน้ำตาลที่ดูดซึมไว ทำให้สดชื่น อย่างงี้จากเดิมว่าน้ำตาลน่ากลัวแล้ว หนักเข้าไปอีกเพราะน้ำตาลที่ใส่มากับน้ำพวกนี้มันคือ ฟรุกโตสสสสส
น้ำตาลฟรุกโตสมันแย่ !!! เลิกกินน้ำผลไม้กันเถอะ
* น้ำตาลทรายมีส่วนผสมของฟรุกโตสและกลูโคส 50:50 , น้ำผึ้งมีกลูโคส 30 % ฟรุกโตส 40 % ซูโครส 10 % (ซูโครสคือกลูโคสรวมอยู่กับฟรุกโตส) ที่เหลือเป็นน้ำ 20 % , เมเปิ้ลไซรัป มีซูโครส 60 % น้ำ 33 % ที่เหลือคือสารอาหารอีกเล็กน้อย , น้ำตาลมะพร้าว มีซูโครส 71 % กลูโคส 3 % ฟรุกโตส 3 % ที่เหลือเป็นใยอาหารและสารอาหารนิดหน่อย
* ที่อันตรายสุดคือ High Fructose Corn Syrup ซึ่งมีฟรุกโตสอยู่ 55 % กลูโคส 42 % ที่เหลือคือน้ำ (ส่วนใหญ่ใช้แบบ HFCS 55 แต่มีแบบเข้มข้นกว่านี้ สูงสุดที่ 95 % HFCS 95)
* ที่ต้องดูอีกตัวในการเลือกน้ำตาลคือ GI (Glycemic Index) ยิ่งสูงยิ่งแย่ โดยกลูโคส GI อยู่ที่ 100 , น้ำตาลทราย 65 , HFCS-55 อยู่ที่ 58 , เมเปิ้ลไซรัป 54, น้ำผึ้ง 50, น้ำตาลมะพร้าว 35, ฟรุกโตส 25
* แต่ต้องดูที่ GL (Glycemic Load) ด้วย คำนวณโดยเอา GI คูณจำนวนคาร์โบไฮเดรตและหารด้วย 100 คือต่อให้กินน้ำตาล GI ต่ำ แต่กินเยอะก็ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งปรี๊ดได้ไม่ต่างกัน
* แต่มีการยืนยันว่าเลือกน้ำตาล ให้ดูที่ฟรุกโตสสำคัญสุด จะเห็นว่าฟรุกโตส GI ต่ำ เพราะไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูงมาก และดูดซึมเข้าเซลล์ของร่างกายโดยไม่ต้องผ่านการควบคุมของอินซูลิน แต่นั่นกลับส่งผลเสียที่หนักกว่า
* ผลไม้มีฟรุกโตสก็จริง แต่ไม่ได้เยอะมากเกิน แล้วยังมีสารอาหารและใยอาหาร จึงเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การทานน้ำผลไม้ที่เอากากใยออกไปแล้ว ในปริมาณมาก จึงไม่ดีต่อสุขภาพมากนัก
* ดังนั้นหากถามว่าเลือกน้ำตาลอะไรดีสุด ? ถ้าดูจากปริมาณฟรุกโตส เรียงจากน้อยไปมาก ได้ดังนี้ เมเปิ้ลไซรัป >> น้ำตาลมะพร้าว >> น้ำผึ้ง หากดูจาก GI น้อยไปมาก ได้ดังนี้ น้ำตาลมะพร้าว >> น้ำผึ้ง >> เมเปิ้ลไซรัป
อ้างอิงข้อมูลจากลิงค์นี้ >> https://www.facebook.com/IAmIEat/posts/825686720788031
จริงๆแล้วในเพจก็ไม่ได้ว่าน้ำผลไม้อะไรมากนะ แต่เรามาคิดเองว่าน้ำผลไม้ที่เป็นกล่องๆ มันทำมาจาก "น้ำผลไม้เข้มข้น" นั่นก็หมายถึงฟรุกโตสเข้มข้นใช่ปะ น่ากลัวอะ !!! แล้วพวกน้ำขวดๆที่ขายตามเซเว่นด้วย ส่วนใหญ่ก็ผสมฟรุกโตสมา เพราะมันเป็นน้ำตาลที่ดูดซึมไว ทำให้สดชื่น อย่างงี้จากเดิมว่าน้ำตาลน่ากลัวแล้ว หนักเข้าไปอีกเพราะน้ำตาลที่ใส่มากับน้ำพวกนี้มันคือ ฟรุกโตสสสสส