The Vampire Powers. [บทที่4]

โครม!!!!

เเววตาที่เเสดงถึงความโกรธจากการหิวกระหายสามารถฆ่าใครได้โดยทันทีเพื่อให้อำนาจบางอย่างครอบงำจิตใจเขา ไรอันพยายามจะผลักไสมันออกไปมันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ มันกำลังจะทำให้เขากลายเป็นฆาตกรฆ่าทุกคนที่ขวางหน้า หวังที่จะสูบเลือดมาเลี้ยงตนเมื่อเขาปล่อยเพื่อนรักกระเเทกพื้น ยกมือขึ้นกุมขมับร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เขาพยายามต่อสู้กับมันเมื่อมันสั่งการให้เขาฆ่าอย่างเดียวโดยเขาเองไม่อยากจะฆ่าคนที่ไม่รู้เอี่ยวอะไรด้วย มือของเขานั้นสั่นเทิ้มสภาพของเขาตอนนี้เหมือนปีศาจอยู่กลายๆ เขาคำรามออกมาเพราะมันเจ็บปวดเหลือเกินและเขาจะหยุดไม่ได้เเล้ว

"ไปตรึงเขาไว้!!!" เบียงก้าสั่ง ทั้งสองพยักหน้าถลาเข้าไปพุ่งเข้าไปจับตัวผู้ที่กำลังกลายร่างเป็นปีศาจโดยไม่รู้ตัวอย่างทันท่วงที พลางตรึงเขาเข้ากับกำเเพงอิฐ หากอีกฝ่ายนั้นมีพละกำลังมากมายมหาศาลเเข็งเเรงดุจบุรุษเหล็ก

ตุบ โครม!!!!

"ให้ตายสิหมอนี้เเรงเยอะเป็นบ้าเลยเเฮะ" เอ็ดสบถเมื่อโดนผลักออกมากระเเทกกับกำเเพงอีกด้าน เขาจัดเสื้อผ้าให้เข้าทีปัดฝุ่นออก ส่วนเเอลนั้นกำลังกดตรึงร่างอีกฝ่ายภายใต้ดวงตาอันเเสนน่ากลัวที่ตอนนี้มันได้เปล่งรังสีใส่ฝ่ายตรงข้ามที่กำลังทุรนทุรายกับอำนาจที่ทรมานเหนือกว่าสิ่งอื่นใด!!!!!

เสียงคำรามนั้นดังขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่วินาที เมื่อแอลพยายามจะสะกดตรึงร่างเพื่อร่วมค่ายที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนด้วยดวงตาที่เปล่งรังสีน่ากลัว หากไรอันพยายามฝ่าฝืน โดยใช้มือมาบีบลำคอของเขาพลางมีเสียงกึกๆเหมือนกระดูกคอเขาจะหัก เอ็ดได้แต่ยืนดิ้นรนอย่างช่วยเพื่อนรักไม่ได้หากเขาเข้าไปเมื่อไหร่ก็อาจจะโดนกระแทกออกมาเช่นเคย เอ็ดคิดที่จะรอโอกาสของฝ่ายไรอันมีช่องโหว่เมื่อไหร่เขาจะรีบเข้าช่วยเหลือทันที

แอลปัดมือของไรอันออกกระชากเขาขึ้นทุ่มลงกับพื้นอย่างนับไม่ถ้วน ก่อนจะขึ้นคร่อมอีกฝ่ายพลางยื่นมือออกมาปลดปล่อยหมอกสีดำเข้าไปภายในตัวของอีกฝ่ายที่ตอนนี้กำลังสำลักกับสิ่งที่เขาประทานพรให้

หวืดดดด ร่างของชายหนุ่มที่ก่อนหน้านั้นได้อาละวาดทำลายทุกสิ่งทุกอย่างตอนนี้ได้ไปลอยอยู่กลางอากาศ ประมาณ 5 ฟุตและถูกรัดด้วยดำของแอล ซึ่งเขากำลังยืนจ้องเขม็งกับอีกฝ่ายที่ลอยเด่นอยุ่กลางอากาศ คนถูกจับลอยฟ้าได้แต่คำรามเหมือนสัตว์ที่อ่อนแรงหมดทางสู้

“วิคตอเรีย เธอมาทำอะไรที่นี่” เบียงก้าพูด สายตามองตรงไป ณ ที่ที่ไกลแสนไกลตามหุบเขา เธอแทบไม่เชื่อเลยว่าทำไมวิคตอเรียอดีตเพื่อนเมื่อร้อยๆปีก่อนที่ถูกแวมไพร์ตระกูลคาไลน์จับไปให้เป็นพรรคพวก เบียงมองดูไรอันที่ลอยอยู่บนอากาศรับรู้ได้ถึงพลังทำลายล้างที่มิอาจจะจินตนาการได้เลยว่ามันจะเป็นเช่นไร ถ้าหากแวมไพร์ตนนี้ได้ไปอยู่กับพรรคพวกคู่อริของท่านลูคัสเมื่อใดภายในสายโลหิตที่เย็นยะเยือกมีพิษอันร้ายแรงที่ถูกฝังไว้ตลอดกาลนั้น จะมีการทำลายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างโหดร้ายละทารุนซึ่งเธอเชื่อได้เลยว่าไรอัน ก็เปรียบเสมือน จีพีเอส ชั้นดีที่เป็นตัวนำทางให้กับวิคตอเรียได้ล้างแค้นเธอ

“ใครคือวิคตอเรีย” แอลถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าที่แสดงถึงความหวาดหวั่น ซึ่งเขาไม่เคยเห็นเธอกังวลอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้มาก่อน จากการพบกันครั้งแรกทำให้เขายิ่งมั่นใจมากยิ่งขึ้นกับชื่อบุคคลปริศนาคงต้องมีเรื่องสะสมอยู่ภายในใจเธอมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานและยิ่งนัยน์ตาเหม่อลอยคู่นั้นทำให้เขายิ่งสงสัยหนักขึ้นไปอีกแต่เขาก็ทำได้เพียงเก็บความอยากรู้พับไว้ในห้วงความทรงจำให้ลึกที่สุดในใจไว้ก่อนดีกว่า ตอนนี้เขาหันเหความสนใจมายังร่างของไรอันที่ยังคงลอยอยู่อย่างนั้นและพยายามต่อสู้กับพลังของเขาแต่หากไม่เป็นผลเขาจึงทำได้เพียงคำรามออกมาอย่างทรมาน

“ฉันยอมแล้ว” เมื่อเสียงแหบแห้งดังออกมาอย่างแผ่วเบาออกมาจากปากผู้ที่ก่อความวุ่นวายในวันนี้หลังจากที่เขาเงียบมานาน

“แอล!! ปล่อยเขาลง” เบียงก้าเอ่ยพร้อมกับตวัดสายตามองไปยังบุคคลก่อเรื่องที่หล่นตุ้บลงมา เธอปรี่เข้าไปประครองหนุ่มหล่อ ไรอันหอบหายใจเข้าปอดดวงตาของเขาหม่นแสงลงและหลับซบอกเธอไป เบียงก้าเงยหน้ามองกลุ่มชายหนุ่มที่มามุงเธอรอบๆ สายตาตำหนิให้ถอยห่างออกไปพลางมองมายังเขาทั้งสองคนที่ยืนกออดอกมองดูอยู่ไกลๆแต่เอ็ดพอรู้งานจึงเดินแหวกฝ่าดงคนมุงออกไป พลางจับไรอันพาดบ่าเข้าไปยังในห้องปฐมพยาบาล

“เจ้ามีพลังอำนาจพิเศษที่ดีมาก สามารถควบคุมในสิ่งที่ต้องการให้เคลื่อนไหวและสามารถดูดลืนพลังของศัตรู ข้าคิดว่าเจ้าเป็นแวมไพร์เชื้อสายพลังที่หายากมาก การที่จะมีพลังแบบนี้มันก็ต้องอยู่กับคนคุมด้วยเช่นกัน ข้าจะดูแลเขาเอง พวกเจ้าไปพักผ่อนก่อนเถิด” ทั้งสองพยักหน้าให้ก่อนจะเปิดประตูออกไป นัยน์ตาสีทองฉายแววกังวลใจ ขณะที่มองร่างโตนอนแผ่หราอยู่บนเตียง เรื่องในอดีตจะตามมาล้างผลาญเพื่อเอาคืนเธอใช่ไหม เธอนั่งกุมขมับครุ่นคิดในปัญหาที่เพิ่งจะเกิดเมื่อไม่นานนี้เธอควรจะทำอย่างไรดี เมื่อนั่งเฉยๆมันคงจะไม่ได้ผล วิคตอเรียต้องการแก้แค้นเธอ เธอจะต้องปกป้องพวกเขา บุคคลที่ถูกเลือก!!!!!!!

หลังจากที่เขาสองคนได้มายังห้องพักของเขาทั้งสองที่อยู่มานาน จนเขาคุ้นชินกับที่นี่ไปเสียแล้วมันทำให้ความสุขนิดๆที่ได้มาอยู่ร่วมกันกับคนอื่นๆ แอลเดินมายังกระจกริมหน้าต่างที่ตอนนี้สิ่งแวดล้อมภายนอกเริ่มมืดครึ้มเต็มที นัยน์ตาสีนิลเข้มกวาดมองสิ่งที่อยู่กับเขามาเกือบจะ10ปี และเขาเรียกมันว่าบ้าน มันเป็นบ้านที่น่าอยู่มากในความคิดของเขา เมื่อเขานึกถึงอดีตที่ผ่านมายามกระเห่เร่ร่อน สายตาแสดงถึงความรังเกียจต่อเขา ตอนนั้นเขายังเด็กมาก ที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร บางครั้งเขาเกิดความน้อยใจต่อบุพการีที่แท้จริงของเขา ความอดอยาก ความหิวโหย มันทรมาน ทรมานยิ่งกว่าการตายของคนธรรมดาที่ไม่สามารถยื้อกฎของธรรมชาติ จนมาพบกับท่านลูคัสที่เปรียบเสมือนพ่อไปในที ทำให้เขาเคารพลูคัสเป็นอย่างมากเมื่อได้เลี้ยงดูเขามาจนมอบพลังให้แก่เขา หากท่านขอให้เขาช่วยเหลือสิ่งใดเขาจะก้มหัวรับใช้อย่างทาสผู้รักดีมีหรือที่เขาจะปฎิเสธ

แอลขมวดคิ้วเมื่อนึกถึงอดีตอันบอบช้าที่ผ่านมาพลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เอ็ดเดินเข้ามาภายในห้องนอนเห็นเพื่อนรักยืนทอดสายตามองออกไปยังวิวภายนอกหน้าต่างนั่นที่มีแต่ความมืดมิดแต่เขาเชื่อได้เลยว่าเพื่อนรักนั้นไม่ได้สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเลย เขาเข้าใจดีว่าเกิดอะไรมามากมายที่ผ่านพ้นชีวิตเด็กมีปัญหาอย่างพวกเขามา ที่นี่เปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้องไม่มีคำว่าแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ไม่มีคำว่าตัวอิจฉาที่เอาชนะกันไปตามคนเอาแต่ได้ อยู่ที่นี่พวกเขาเข้าใจซึ่งกันละกันเพราะทุกคนต่างผ่านอดีตอันแสนเลวร้ายและขมขื่นกันมาจึงย่อมรู้ใจกันดีและเต็มใจที่จะช่วยนายท่านตราบเท่าที่พวกเขาจะทำได้เพื่อตอบแทนบุญคุณที่ทำให้พวกเขามีมิตรภาพต่อกันรวมถึงทุกสิ่งที่พวกเขามีต่อด้วยกัน ท่านลูคัส!!

“คิดมากไป มันจะได้อะไรกัน” เจ้าตัวปิดประตูหลังจากที่ยืนมองเพื่อนรักถอนหายใจอยู่นานสองนาน แอลหันกลับมามองเขาที่หยิบตำราแวมไพร์มาอ่าน

“ก็แค่คิด……ฉันไม่ได้ถือสาหาความกับอดีตนั่น” แอลพูดขณะที่เดินมาทรุดตัวลงนอนบนเตียง

“แต่เรื่องที่เราต้องคิดหนักเลยก็คือ การไปผจญกับโลกภายนอกอันแสนโหดร้าย” เอ็ดพูดกึ่งตลก แอลยิ้มออกมาบางๆเรือนผมสีน้ำตาล สะท้อนแสงไฟบวกกับเรือนร่างได้รูปไม่ผอมจนเกินไปขับให้มันเป็นภาพที่ดูน่าหลงใหล ถ้าหากมีหญิงอื่นใดมาพบเห็นเข้าคงเป็นอันอยู่กินกันไม่ได้ เพราะแวมไพร์มีเสน่ห์ดึงดูดต่อเพศตรงข้ามเป็นอย่างมาก ใช่แวมไพร์ทุกตนมีอำนาจวิเศษเช่นนี้ทุกตนสามารถทำให้เหยื่อเคลิบเคลิ้มต่อสิ่งที่พวกเขาปรนเปรอให้แต่ต้องขึ้นอยู่กับตนนั้นด้วยว่ามีอำนาจมากน้อยเพียงใดที่จะสามารถจัดการต่อเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า

“รู้สึกอยู่ใช่ไหมว่าท่านโลแกนและท่านลูน่ายังมีชีวิตอยู่ แปลกมากที่พลังของฉันยังไม่ผุดขึ้นมาเหมือนนาย …..ฉันหวังว่ามันจะมีประโยชน์ต่อการต่อสู้นะ” เอ็ดพูดเสียงเหนือยๆ ขณะเปิดอ่านหน้าถัดไป

แอลคลี่ยิ้มบางๆเมื่อได้นึกถึงในวันพรุ่งนี้เช้า ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลือร้ายของเขาที่มีนัยน์ตาสีน้ำทะเลมาแทนที่ที่กำลังมีแววประกายอย่างขี้เล่น คงมีเพื่อนเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคนซะแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่