สสส.-ไทยพีบีเอส กองทุน...3 ส. กับสามล้อถูกหวย!!!

กระทู้สนทนา
          เห็นสำนักข่าวอิศราฯ ออกมาตีปี๊บผลงานการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณจัดซื้อ จัดจ้าง และงบลงทุนของหน่วยงานและองค์กรต่างๆ แล้วก็ให้ชื่นชมในบทบาทการทำหน้าที่ ทำข่าวเชิงสืบสวน สอบสวน ครบถ้วนกระบวนความของสำนักข่าวอิสระแห่งนี้

          โดยนัยว่า ลำพังจะอาศัยสื่อปกติที่อยู่ใต้คมหอกคมดาบสารพัดหลักเกณฑ์ของรัฐนั้น คงยากจะฝ่าพงหนามออกมาตีแผ่ผลงานอื้อฉาวในทุกเรื่องได้ ยิ่งหากเป็นองค์กรหรือหน่วยงานที่มีทั้งงบประมาณ อิทธิพล และสายสัมพันธ์กับมือที่มองไม่เห็นด้วยแล้ว การจะขุดคุ้ยเรื่องที่ซุกใต้พรหมบางเรื่องยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นเขา

          แต่จะดีกว่านี้อีกร้อยเท่าพันเท่า หากสำนักข่าวฯ จะล้วงลูกตรวจสอบการทำงานขององค์กรและหน่วยงานที่คอยส่ง “เสบียงกรัง” คอยอุดหนุนจุนเจือให้กับองค์กรสื่ออันเป็นที่พำนักและที่ตั้งของสำนักข่าวด้วย เพราะนัยว่า หน่วยงานที่ว่านั้นมีการถลุงงบที่ได้รับจัดสรรยิ่งกว่า “สามล้อถูกหวย” โดยปราศจากการตรวจสอบ

          จนนัยว่าหน่วยงานที่ต้องจ่ายเงินอุดหนุนให้ถึงกับลุกขึ้นมาทุบโต๊ะจะขอนำส่งเงินเข้าคลัง เพื่อให้หน่วยงานที่ว่าไปยื่นขอจัดสรรงบเอาจากกระทรวงการคลังเอง

          ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ “สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ” (สสส.) หน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรีนั่นไง ผู้อำนวยการสำนักข่าวฯพอจะรู้จักหรือไม่ หน่วยงานหลักที่เคยมีข่าวอื้อฉาวประเคนงบก้อนโตไปให้สถาบันอิศราฯ และสมาคมนักข่าวฯ ในยุคหนึ่งเป็น 100 ล้าน และมีการเจือจานงบเหล่านี้ลงไปยังสื่อหรือยังโครงการที่ผู้เกี่ยวข้องไม่กี่รายที่นัยว่า ล้วนแต่ “กากี่นั้ง” กับผู้บริหารสถาบันที่ร่วมกันจัดทำโครงการถลุงกันมันส์มือ

          ทำหน้าที่กันได้ดี จนถึงขนาดสื่อใหญ่คุณภาพตบเท้าขอลาออกจากสมาชิก !

          และไม่รู้ทำหน้าที่ได้สัมฤทธิผลแค่ไหน หน่วยงานที่ต้องส่งเงินภาษีบาปให้แก่กองทุน สสส.อย่างโรงงานยาสูบ และกระทรวงการคลัง ถึงกับร้องขอไปยังรัฐบาล คสช.เพื่อขอนำส่งเงินเข้าคลังโดยตรง มากกว่าจะส่งให้กองทุน สสส.

          ก่อนหน้านี้เมื่อกลางปี 2552 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เอง ก็เคยตีแสกหน้าตีแผ่รายงานการตรวจสอบการดำเนินงานของ “กองทุน สสส.” แห่งนี้ว่า นับแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อปี 2544 จนถึงปี 2550 หน่วยงานแห่งนี้ได้รับการจัดสรรงบจากการจัดเก็บภาษีบาป “เหล้า-บุหรี่” ไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 13,000 ล้านบาท แต่กลับมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเครื่องมือวัดผลการดำเนินงาน ทำให้การให้เงินอุดหนุนโครงการต่างๆ ด้านสุขภาวะยังไม่มีสิทธิภาพเท่าที่ควร พร้อมตั้งข้อสังเกตให้ สสส.ไปดำเนินการแก้ไข

          แต่ไม่รู้แก้ไขกันยังไง นัยว่าในช่วงหลังปี 2552-2556 นั้นยอดเงินที่กองทุน สสส.แห่งนี้ได้รับจัดสรรนั้นทะลักขึ้นไปถึง 20,000 ล้านบาท เฉลี่ยปีละร่วม 3,000 ล้านบาท และยังคงมีแนวโน้มจะทะลักล้นขึ้นไปตามอัตราภาษีสรรพสามิตเหล้า-เบียร์ ที่รัฐและกระทรวงการคลังปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งงบประมาณส่วนใหญ่เหล่านี้ แม้ สสส.จะออกมาโต้แย้งว่ามีกระบวนการจัดสรรงบประมาณที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีคณะกรรมการตรวจสอบถึง 2-3 ระดับ มีผู้ทรงคุณวุฒิเข้ามาร่วมในกระบวนการตรวจสอบการใช้จ่ายงบ

          แต่ไม่รู้เป็นอะไรถึงกลัวการจะต้องไปขอจัดสรรงบประมาณโดยตรงจากกระทรวงการคลัง หรือกลัวการถูกตรวจสอบอันเข้มข้นจาก สตง.

          ที่สังคมตั้งข้อกังขากับบทบาทการทำหน้าที่ของกองทุน สสส.นั้น ก็เพราะบทบาทการทำหน้าที่ขององค์กรที่มีความซ้ำซ้อน และมักแย่งบทบาทหน้าที่กับกระทรวงสาธารณสุขในการดูแลสุขภาพของคนไทย จนไม่รู้ว่าบทบาทที่แท้จริงของ สสส.อยู่ตรงไหน? เช่น การโหมโฆษณาทางทีวีที่ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล และการเปิดรับพันธมิตรเพื่อศึกษาและวิจัยงานด้านสุขภาพ การมอบทุน รวมถึงการจัดงานโปรโมทการเปิดตัวโครงการต่างๆ ที่มีการใช้จ่ายเงินอย่างไม่ระมัดระวังหรือไม่

          จนถึงกับมีการสัพยอกว่าถลุงงบยิ่งกว่า “สามล้อถูกหวย”

          เป็นสามล้อถูกหวยอย่างไรนั้น เขามีเกณฑ์วัดที่ชัดเจนว่า แต่ละแคมเปญที่กองทุนอนุมัติงบออกไปนั้น ล้วนมีเครื่องชี้วัดผลสำเร็จอยู่ ทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่อย่างไร ล้วนมีเครื่องวัดความสำเร็จอยู่ด้วยทั้งสิ้น ไอ้ประเภทที่จนวันนี้ทั้งยอดการถองเหล้า-เบียร์ และการบริโภคยาสูบของเยาวชนยังคงพุ่งทะลักนั้น

          น่าจะเป็นคำตอบที่ดีว่าหน่วยงานนี้ผลาญงบไปสมกับงบประมาณที่ได้รับหรือไม่

          แต่เรื่องเหล่านี้ จะกระจ่างให้ผู้คนหายสงสัยได้หรือไม่ ก็ต้องผู้อำนวยการสำนักข่าวอิศราฯอย่าง “ประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์” นั่นแหล่ะ จะช่วยล้วงลูกแคะออกมาให้เห็น!!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่