ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งท้ายปี 2567 ได้เห็นชอบมาตรการโครงการที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งถือเป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ให้กับคนไทย นอกจากโครงการไร่ละ 1,000 บาท กรอบวงเงิน 35,000 ล้านบาทที่ได้ดำเนินการมาแล้วผ่านกลุ่มชาวนา ยังมีอีก 2 มาตรการที่จะมอบให้แก่คนไทยครับ
ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2
วงเงินงบประมาณ 40,000 ล้านบาท
กระตุ้นผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ลงทะเบียนผ่านแอป #ทางรัฐ สำเร็จ
ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-ผู้พิการ
จ่ายเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ไม่เกินวันที่ 29 ม.ค. 2568 (ก่อนตรุษจีน)
สำหรับเฟสถัดไปที่จะเป็นในรูปแบบระบบดิจิทัลวอลเล็ตจะมีความพร้อมในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2568 ซึ่งจะมีการหารือในส่วนของกระทรวงการคลังและคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปครับ
โครงการ Easy E-Reciept 2.0
สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับบุคคลทั่วไป สามารถหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท จากการซื้อสินค้าและบริการในช่วงวันที่ 16 ม.ค. - 28 ก.พ. 2568
ลดหย่อน 30,000 บาท
ผ่านการซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียน VAT และออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice/e-Reciept) ยกเว้น สุรา ยาสูบ น้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย และค่าที่พักท่องเที่ยว เป็นต้น
ลดหย่อนเพิ่ม 20,000 บาท
ผ่านการซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนที่ลงทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรและสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม รวมถึงสินค้า OTOP ที่ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน
ผมในฐานะ รมช.คลัง มีความมั่นใจว่าเม็ดเงินจากโครงการต่างๆ จะสามารรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจให้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น สร้างพายุหมุนทำให้ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจทะยานไปสู่ 3% หรือมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ครับ
กระทรวงการคลัง #ทางรัฐ #ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส2 #e-Receipt2.0
ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2
วงเงินงบประมาณ 40,000 ล้านบาท
กระตุ้นผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ลงทะเบียนผ่านแอป #ทางรัฐ สำเร็จ
ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-ผู้พิการ
จ่ายเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ไม่เกินวันที่ 29 ม.ค. 2568 (ก่อนตรุษจีน)
สำหรับเฟสถัดไปที่จะเป็นในรูปแบบระบบดิจิทัลวอลเล็ตจะมีความพร้อมในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2568 ซึ่งจะมีการหารือในส่วนของกระทรวงการคลังและคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปครับ
โครงการ Easy E-Reciept 2.0
สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับบุคคลทั่วไป สามารถหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท จากการซื้อสินค้าและบริการในช่วงวันที่ 16 ม.ค. - 28 ก.พ. 2568
ลดหย่อน 30,000 บาท
ผ่านการซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียน VAT และออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice/e-Reciept) ยกเว้น สุรา ยาสูบ น้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย และค่าที่พักท่องเที่ยว เป็นต้น
ลดหย่อนเพิ่ม 20,000 บาท
ผ่านการซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนที่ลงทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรและสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม รวมถึงสินค้า OTOP ที่ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน
ผมในฐานะ รมช.คลัง มีความมั่นใจว่าเม็ดเงินจากโครงการต่างๆ จะสามารรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจให้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น สร้างพายุหมุนทำให้ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจทะยานไปสู่ 3% หรือมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ครับ