หากโครงการจัดสรรที่ดิน และอาคารพาณิชย์
มีถนนที่เป็นภาระจำยอมประเภทสาธารณูปโภค
โครงการนี้ไม่ได้จดจัดสรรไว้ ตั้งแต่ปี 2521
ในโครงการมีการทำตลาดสด 1 อาคาร
โดยที่ชาวบ้านใช้ถนนสัญจรมามากกว่า 30 ปี
มีหนังสือรับรองจากเทศบาล 2 ฉบับ
แจ้งว่าได้ดูแลถนนในโครงการเกิน 10 ปี
แต่เจ้าของได้แอบนำที่ดินไปขาย
เมื่อปี 2555 ก่อนขายที่ดิน
มีการนำโฉนดถนนกับโฉนดที่ดินส่วนกลาง
และที่ดินตลาดสดไปรวมกัน เพื่อออกโฉนดใหม่
ให้เป็นพื้นที่เดียวกัน
โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดให้เหตุผลว่า
โครงการไม่ได้จดจัดสรรจึงรวมโฉนดได้
มีการสร้างอาคารเพิ่มเติมคล่อมถนนโครงการ
โดยอาคารหลังนี้ ไม่พบการขออนุญาตก่อสร้าง
ถนนสัญจรไม่ได้เหมือนเดิม กลายเป็นตลาดสด
ชาวบ้านร้องเรียนกับเทศบาลแต่ไม่ได้รับการแก้ไข
ตลอดระยะเวลา 8 ปี
ร้องเรียนไปกับหน่วยงานในจังหวัดแต่ไม่เป็นผล
ต้องร้องเรียนกับกรมที่ดินและกระทรวงมหาดไทย
พอร้องเรียน มีการรื้อถอนอาคารที่คล่อมถนนออก
แต่เทศบาลปรับเจ้าของอาคารแค่ 1 หมื่นบาท
โดยอ้างว่าความผิดอื่นๆ หมดอายุความ
และทางก็ยังสัญจรไม่ได้ตามเดิม เทศบาลบอกเป็นที่ดินเอกชนทำอะไรไม่ได้ ทั้งที่สถานธนานุบาลของเทศบาลก็ตั้งอยู่ในโครงการนี้
กรมที่ดินมีคำสั่งให้จัดสรรที่ดินจังหวัดดำเนินการ
และตัดสินให้โครงการดังกล่าวเแ็นโครงการจัดสรรที่หลีกเลี่ยงการจดจัดสรร ให้ตรวจสอบแยกถนนโครงการออกมาให้ชัดเจน ตามประกาศคณะปฏิวัติ 286
แต่ผู้ว่ากับ ปัดเรื่องให้ยุติ บอกชาวบ้านเดือดร้อนไม่จริง
และอ้างไม่ได้จดจัดสรร บังคับไม่ได้ เป็นที่ดินเอกชน
เป็นสิทธิ์เจ้าของที่ดิน
ชาวบ้านรวมกลุ่มฟ้องศาล ศาลชั้นต้นตัดสินให้เจ่าของที่ดินต้องไปจดบันทึกแยกถนนภาระจำยอม
ให้ชัดเจนตามแผนที่ แต่สำนักงานที่ดิน
ยังไม่ดำเนินการใดๆ อ้างรอคดีสิ้นสุดก่อน
ทั้งที่เคยมีคำสั่งกระทรวง หน้าที่ผู้ว่าฯ
ให้จัดการได้ตามประกาศของคณะปฏวัติ 286
มีการฟ้องบุกรุกทั้งแพ่งและอาญา
กับเจ้าของอาคารพาณิย์ ในการใช้ถนน
เฉพาะผู้ที่ไม่จ่ายค่าผ่านทาง ค่าใช้พื้นที่หน้าบ้าน
แต่ศาลชั้นต้น ตัดสินว่า ไม่มีความผิดฐานบุกรุก
เพราะเป็นโครงการจัดสรร ไม่มีสิทธิ์เก็บ
ให้เปิดทางภาระจำยอม ให้สัญจรได้
ปัจจุบันคำพิพากษา ให้ทางเป็นภาระจำยอม 2 คดี
เจ้าของที่ดินคนปัจจุบันไม่มีสิทธิ์เรียกร้องใดๆ
แต่ยังมีการเก็บผลประโยชน์อยู่ ปิดทางสัญจรอยู่
และอยู่ในชั้นอัยการ รอโดนส่งฟ้องบุกรุกอีก
(ชาวบ้านโดนแจ้งความบุกรุกหลายคน)
ปัจจุบัน อยู่ในระหว่าง รอยื่นอุธรณ์ (ส่วนถนน)
จึงมาขอคำแนะนำทุกท่าน ชาวบ้านจะสู้อย่างไร
เพราะหน่วยงานในจังหวัดไม่อาจพึ่งพาได้เลย
ไปร้องเรียนการทำงานของหน่วยงานรัฐที่ใดได้อีก
ภาระจำยอมประเภทสาธารณูปโภค (ถนน) ของที่ดินจัดสรร สามารถเสื่อมได้หรือไม่
มีถนนที่เป็นภาระจำยอมประเภทสาธารณูปโภค
โครงการนี้ไม่ได้จดจัดสรรไว้ ตั้งแต่ปี 2521
ในโครงการมีการทำตลาดสด 1 อาคาร
โดยที่ชาวบ้านใช้ถนนสัญจรมามากกว่า 30 ปี
มีหนังสือรับรองจากเทศบาล 2 ฉบับ
แจ้งว่าได้ดูแลถนนในโครงการเกิน 10 ปี
แต่เจ้าของได้แอบนำที่ดินไปขาย
เมื่อปี 2555 ก่อนขายที่ดิน
มีการนำโฉนดถนนกับโฉนดที่ดินส่วนกลาง
และที่ดินตลาดสดไปรวมกัน เพื่อออกโฉนดใหม่
ให้เป็นพื้นที่เดียวกัน
โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดให้เหตุผลว่า
โครงการไม่ได้จดจัดสรรจึงรวมโฉนดได้
มีการสร้างอาคารเพิ่มเติมคล่อมถนนโครงการ
โดยอาคารหลังนี้ ไม่พบการขออนุญาตก่อสร้าง
ถนนสัญจรไม่ได้เหมือนเดิม กลายเป็นตลาดสด
ชาวบ้านร้องเรียนกับเทศบาลแต่ไม่ได้รับการแก้ไข
ตลอดระยะเวลา 8 ปี
ร้องเรียนไปกับหน่วยงานในจังหวัดแต่ไม่เป็นผล
ต้องร้องเรียนกับกรมที่ดินและกระทรวงมหาดไทย
พอร้องเรียน มีการรื้อถอนอาคารที่คล่อมถนนออก
แต่เทศบาลปรับเจ้าของอาคารแค่ 1 หมื่นบาท
โดยอ้างว่าความผิดอื่นๆ หมดอายุความ
และทางก็ยังสัญจรไม่ได้ตามเดิม เทศบาลบอกเป็นที่ดินเอกชนทำอะไรไม่ได้ ทั้งที่สถานธนานุบาลของเทศบาลก็ตั้งอยู่ในโครงการนี้
กรมที่ดินมีคำสั่งให้จัดสรรที่ดินจังหวัดดำเนินการ
และตัดสินให้โครงการดังกล่าวเแ็นโครงการจัดสรรที่หลีกเลี่ยงการจดจัดสรร ให้ตรวจสอบแยกถนนโครงการออกมาให้ชัดเจน ตามประกาศคณะปฏิวัติ 286
แต่ผู้ว่ากับ ปัดเรื่องให้ยุติ บอกชาวบ้านเดือดร้อนไม่จริง
และอ้างไม่ได้จดจัดสรร บังคับไม่ได้ เป็นที่ดินเอกชน
เป็นสิทธิ์เจ้าของที่ดิน
ชาวบ้านรวมกลุ่มฟ้องศาล ศาลชั้นต้นตัดสินให้เจ่าของที่ดินต้องไปจดบันทึกแยกถนนภาระจำยอม
ให้ชัดเจนตามแผนที่ แต่สำนักงานที่ดิน
ยังไม่ดำเนินการใดๆ อ้างรอคดีสิ้นสุดก่อน
ทั้งที่เคยมีคำสั่งกระทรวง หน้าที่ผู้ว่าฯ
ให้จัดการได้ตามประกาศของคณะปฏวัติ 286
มีการฟ้องบุกรุกทั้งแพ่งและอาญา
กับเจ้าของอาคารพาณิย์ ในการใช้ถนน
เฉพาะผู้ที่ไม่จ่ายค่าผ่านทาง ค่าใช้พื้นที่หน้าบ้าน
แต่ศาลชั้นต้น ตัดสินว่า ไม่มีความผิดฐานบุกรุก
เพราะเป็นโครงการจัดสรร ไม่มีสิทธิ์เก็บ
ให้เปิดทางภาระจำยอม ให้สัญจรได้
ปัจจุบันคำพิพากษา ให้ทางเป็นภาระจำยอม 2 คดี
เจ้าของที่ดินคนปัจจุบันไม่มีสิทธิ์เรียกร้องใดๆ
แต่ยังมีการเก็บผลประโยชน์อยู่ ปิดทางสัญจรอยู่
และอยู่ในชั้นอัยการ รอโดนส่งฟ้องบุกรุกอีก
(ชาวบ้านโดนแจ้งความบุกรุกหลายคน)
ปัจจุบัน อยู่ในระหว่าง รอยื่นอุธรณ์ (ส่วนถนน)
จึงมาขอคำแนะนำทุกท่าน ชาวบ้านจะสู้อย่างไร
เพราะหน่วยงานในจังหวัดไม่อาจพึ่งพาได้เลย
ไปร้องเรียนการทำงานของหน่วยงานรัฐที่ใดได้อีก