ดันน์ฮัมบี้เขย่าอินสโตร์มีเดีย รับเละบริหาร "เทสโก้" ทั่วปท.

"ดันน์ฮัมบี้" กินรวบบริหารสื่อโฆษณาในเทสโก้ โลตัส 1,800 สาขาทั่วประเทศ ทุ่ม 200 ล้าน พร้อมเข้าบริหารพื้นที่ทุกจุด ดีเดย์ 1 ม.ค. 58 นี้ แย้มมีแบรนด์สนใจซื้อโฆษณาแล้วกว่า 60 ราย ตั้งเป้าอีก 2 ปีรุกเข้าบริหารสื่อโฆษณาในค้าปลีกรายอื่น

นายธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรมและในฐานะหัวหน้างานคอนเน็ตมีเดีย บริษัท ดันน์ฮัมบี้ (ประเทศไทย) ผู้ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาในเครือเทสโก้ โลตัส กล่าวว่า บริษัทได้รับสิทธิ์ในการเข้าบริหารสื่อ ณ จุดขาย ภายในเทสโก้ โลตัสครบทั้ง 1,800 สาขาทั่วประเทศ ประกอบด้วย ไฮเปอร์มาร์เก็ต 116 สาขา เอ็กซ์ตร้า 14 สาขา เทสโก้ โลตัส ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ 36 สาขา ซูเปอร์มาร์เก็ต 187 สาขา และเอ็กซ์เพรส 1,437 สาขา โดยจะเข้าบริหารพื้นที่โฆษณาดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป จากก่อนหน้านี้ที่บริษัทได้สิทธิ์การบริหารสื่อโฆษณาในเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส รวมถึงบริหารความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคผ่าน "บัตรคลับการ์ด" ในรูปแบบของการส่งไดเร็กต์เมล์ เอสเอ็มเอสถึงสมาชิกซึ่งปัจจุบันมี ประมาณ 13 ล้านใบทั่วประเทศ

จากจุดแข็งของดันน์ฮัมบี้ ที่มีข้อมูลเชิงลึก เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค ประกอบกับสื่อโฆษณา ณ จุดขาย (In Store Media) เป็นสื่อที่สามารถเข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มบริโภคได้ และจากผลการศึกษาพฤติกรรมซื้อสินค้าของผู้บริโภคพบว่า 76% ของผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้า ณ จุดขาย ขณะที่ป้ายโฆษณาหรือสื่อในห้างจะทำให้ลูกค้า 80% เปลี่ยนการตัดสินใจซื้อสินค้าได้ เท่ากับว่า สื่อ ณ จุดขาย มีอิทธิพลต่อยอดขายของสินค้านั้น ๆ

"ดันน์ฮัมบี้มีข้อมูลเชิงลึกเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค เนื่องจากศึกษาพฤติกรรมการซื้อสินค้าและวิเคราะห์ข้อมูลของผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง จากเดิมเราได้สิทธิ์บริหารสื่อโฆษณาในเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรสอยู่แล้ว รวมถึงบริหารฐานข้อมูล "บัตรคลับการ์ด" ที่มีสมาชิก 13 ล้านใบทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 65% หรือกว่า 22.9 ล้านครัวเรือนไทยที่มีบัตรคลับการ์ด ซึ่งปัจจุบันมีผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการเทสโก้ฯ 12 ล้านคนต่อสัปดาห์"

ผู้บริหารดันน์ฮัมบี้ ฉายภาพต่อเนื่องว่าด้วยจำนวนสาขาที่มีมาก บริษัทได้เตรียมความพร้อมทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะบุคลากรและทีมงาน เพื่อดูแล-ตรวจสอบ สื่อ ณ จุดขายตามสาขา และจุดต่าง ๆ พร้อมกับงบฯการลงทุนเบื้องต้นสำหรับปีหน้า 200 ล้านบาท และจะเพิ่มความเข้มข้นกับกลยุทธ์ คอนเน็กต์มีเดีย (Connect Media) เพื่อลดช่องว่างของการโฆษณาระหว่างบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์ ด้วยการขยายแคมเปญไปยังสื่อที่หลากหลายทั้งที่เป็นดิจิทัล และน็อนดิจิทัล ซึ่งแบรนด์สินค้าสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมาย จำนวนผู้บริโภค ผ่านสื่อต่าง ๆ ได้ เช่น จอแสดงผลแบบปฏิสัมพันธ์ ดิจิทัลไพรซ์แท็ก (Digital Price Tag) เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) หรือการทำให้ภาพที่เห็นเป็น 3 มิติ เป็นต้น

ทั้งนี้ คอนเน็กต์มีเดียจะช่วยสร้างการรับรู้ให้แก่แบรนด์สินค้า รวมถึงการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค ทำให้เกิดการทดลองใช้สินค้าและการซื้อซ้ำ โดยลูกค้าที่ต้องการซื้อโฆษณากับบริษัท จะต้องกำหนดวัตถุประสงค์ และกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน

จากนั้นก็เลือกสาขาเทสโก้ โลตัสเพื่อให้สอดรับกับวัตถุประสงค์และเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร ซึ่งสามารถวัดผลได้ว่า สื่อ ณ จุดขายตรงนั้น ๆ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากน้อยเพียงใด สร้างยอดขายได้หรือไม่ และผู้ที่ซื้อมาจากไหน

ส่วนอัตราค่าโฆษณาหรือราคาของแพ็กเกจโฆษณา จะขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีของสื่อที่แบรนด์จะเลือกใช้ ปัจจุบันมีลูกค้าสนใจวางแผนซื้อโฆษณาแล้ว ประมาณ 60 ราย ถึงสิ้นปี 2558 คาดว่าบริษัทมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 6-10 เท่าจากปีนี้ และตั้งเป้าว่าภายใน 2 ปีจะสามารถเข้าไปบริหารสื่อโฆษณาในธุรกิจค้าปลีกรายอื่น ๆ นอกเหนือจากเทสโก้ได้ด้วยเช่นกัน